ในช่วงเวลากลางเดือนเมษายน
มีบทความวิจัยที่ลงนามโดยสำนักงานแผนการลงจอดบนดาวอังคารได้รับการตีพิมพ์ในฉบับล่าสุดของฟิวเจอร์
พบโครงสร้างทางธรณีวิทยาลึกลับบนดาวอังคาร!
แผ่นดินไหวแตกหายไปอย่างลึกลับในชั่วข้ามคืน!
เมื่อบทความนี้ได้รับการตีพิมพ์ทำให้เกิดความกังวลอย่างกว้างขวางในประชาคมระหว่างประเทศในทันที
ความเข้าใจของผู้คนเกี่ยวกับดาวอังคารนั้นเป็นดาวเคราะห์ที่ตายแล้วโดยไม่มีระบบนิเวศและไม่มีการเคลื่อนไหวทางธรณีวิทยาใดๆ ธรณีสัณฐานที่ขรุขระก่อตัวขึ้นในสมัยทางธรณีวิทยาโบราณที่ถูกพายุทรายกัดเซาะเป็นเวลาหลายพันล้านปี
อย่างไรก็ตามการค้นพบนี้ได้ทำลายความเข้าใจโดยธรรมชาติของผู้คนเกี่ยวกับโลกใบนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยแม้แต่น้อย
ไม่เพียงแต่จะมีการเคลื่อนไหวทางธรณีวิทยาใหม่ที่น่าสงสัยบนดาวอังคารเท่านั้น แต่อาจมีปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาพิเศษที่ไม่ได้พบเห็นบนโลกอีกด้วย!
ไม่มีใครเคยเห็นรอยร้าวของแผ่นดินไหวบนโลกที่ก่อตัวและหายไปในชั่วข้ามคืน นี่ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
ในฟอรัมผู้ที่ชื่นชอบดาราศาสตร์ระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียง
วินาทีที่กระดาษถูกตีพิมพ์มีคนแปลเป็นภาษาอังกฤษและพิมพ์ซ้ำที่นี่ มันใกล้จะได้เวลากระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นแล้ว
“อะไรวะเนี่ย? โครงสร้างทางธรณีวิทยาของดาวอังคารยังทำงานอยู่เหรอ? นั่นจะเป็นไปได้ไหมที่จะซ่อมแซมสนามแม่เหล็กของดาวอังคารและปรับเปลี่ยนบรรยากาศของดาวอังคาร?”
“ใช่ มันเป็นไปได้ แต่ความเป็นไปได้นั้นใกล้จะถึงศูนย์แล้ว อันที่จริงฉันอยากรู้มากว่ารอยแตกหายไปได้อย่างไร แม้ว่าภาพจะดูแปลกๆ แต่ก็ดูไม่เหมือนกับการโฟโต้ชอป”
“อาจจะเป็นมนุษย์ต่างดาวก็ได้?”
“ฮ่าๆ อย่ามองข้ามเรื่องนี้เชียวนะ! บางทีรอยร้าวนั้นอาจเป็นทางผ่านสู่อารยธรรมดาวอังคารจริงๆ ก็ได้ล่ะมั้ง?”
“ค่อนข้างสร้างสรรค์ดีนะ…”
“ฉันนึกถึงวิดีโอที่เคยดูมาก่อน ดาวอังคารถือภาพและเดินอยู่หน้ารถแลนด์โรเวอร์… บางทีทุกสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับดาวอังคารอาจถูกควบคุมโดยมนุษย์ต่างดาวที่อาศัยอยู่ที่นั่นก็ได้”
“ฉันว่าน่าจะโฟโต้ชอปมากกว่า”
การพูดคุยไม่เพียงแค่โหมกระหน่ำในฟอรั่มใหม่ๆเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบนเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์อีกด้วย เพียงแต่มีระดับที่ไม่เข้มข้นเท่า
เมื่อรวมกับรายงานอารยธรรมนอกโลกที่ท่วมสื่อในช่วงปีแรกๆ หลายคนคาดเดาว่ารอยร้าวของแผ่นดินไหวเป็นร่องรอยของมนุษย์ต่างดาวจริงๆ
แม้ว่าการคาดเดานี้จะไม่สมเหตุสมผล แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างไม่คาดคิด
เนื่องจากความกังวลของสาธารณชนในเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง นักข่าวของบีบีซีจึงไปห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์การถ่ายภาพความละเอียดสูงของนาซาอย่างรวดเร็ว
ในฐานะ ‘ผู้มีอำนาจบนดาวอังคาร’ อื่นนอกเหนือจากที่ทำการลงจอดบนดาวอังคารของจีน แม้ว่าสภาพของพวกมันจะด้อยกว่านักวิจัยบนดาวอังคารเล็กน้อยในแง่ของการวิจัยเชิงทฤษฎี แต่จุดแข็งของพวกมันก็ไม่ควรมองข้ามไป
“ตอนนี้เรากำลังสัมภาษณ์ศาสตราจารย์โคมิตันซึ่งสำเร็จการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแมซซาชูเซตส์ด้านสาขาวิชาธรณีวิทยาของดาวเคราะห์และกำลังทำงานอยู่ที่ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์การถ่ายภาพความละเอียดสูงของนาซา…”
กล้องหันไปที่ศาสตราจารย์โคมิตัน ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ขณะที่นักข่าวหนุ่มพูดอย่างสุภาพว่า “สวัสดีครับ ศาสตราจารย์โคมิตัน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาของดาวเคราะห์ ถ้าโครงสร้างแผ่นดินไหวนี้มีอยู่จริง นั่นหมายความว่าอย่างไรครับ?”
เมื่อต้องเผชิญกับคำถามจากนักข่าว ศาสตราจารย์โคมิตันก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูด
“นี่เป็นคำถามที่น่าสนใจมากๆ ”
“อันที่จริง ประมาณวันที่ 19 เมษายน เครื่องสำรวจอินไซต์ของเราเคยสังเกตสัญญาณแผ่นดินไหวที่อ่อนบนดาวอังคาร แต่สัญญาณอ่อนมากจนเราไม่สามารถคาดการณ์โครงสร้างภายในของดาวอังคารจากมันได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะระบุได้ว่าสัญญาณนั้นเชื่อถือได้หรือไม่
“หากโครงสร้างทางธรณีวิทยาพิเศษที่ค้นพบโดยสำนักงานลงจอดบนดาวอังคารก่อตัวขึ้นจริงในช่วงหลายร้อยหลายพันปีที่ผ่านมาตามที่พวกเขากล่าวไว้จริงๆ มันถือเป็นการค้นพบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอย่างไม่ต้องสงสัย และมันจะเปลี่ยนสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับดาวอังคารไป”
หลังจากสังเกตเห็นข้อมูลสำคัญที่ศาสตราจารย์โคมิตันเปิดเผย นักข่าวหนุ่มถามทันทีว่า “คุณหมายถึงการค้นพบนี้สำคัญมากเลยเหรอครับ?”
“แน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัยเลย”
นักข่าว “แต่ก็ยังมีมุมมองว่า… ภาพเหล่านั้นถูกแต่งขึ้นมา?”
“ความเป็นไปได้นั้นไม่ได้ถูกตัดออกไป แต่ความน่าจะเป็นนี้น้อยมากๆ อันที่จริงผมเคยสงสัยมาก่อน แต่ผมก็ปัดความคิดนี้ทิ้งไปทันที ท้ายที่สุด… พวกเขาก็อยู่บนดาวอังคารแล้ว พวกเขาไม่เล่นมุกตลกแบบนี้แน่” ศาสตราจารย์โคมิตันหยุดชั่วคราวและกล่าวว่า “จากมุมมองของผม การหายไปของโครงสร้างแผ่นดินไหวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
“ไม่สำคัญหรอกว่ามันจะเป็นเช่นข่าวลือที่เกิดจากมนุษย์ต่างดาวที่อาศัยอยู่บนพื้นหรือโดยแบคทีเรียพิเศษบางชนิดที่ซ่อมแซมโครงสร้างทางธรณีวิทยา…”
“ผมคิดว่าเราควรสามารถหาสาเหตุของสิ่งนี้ได้มากการหาว่ารอยร้าวของแผ่นดินไหวเกิดขึ้นได้อย่างไร!”
การสัมภาษณ์สิ้นสุดลง
วิดีโอสัมภาษณ์ที่แก้ไขแล้วเผยแพร่โดยบีบีซี ในรูปแบบของสารคดีและอัปโหลดลงยูทูบและเว็บไซต์วิดีโออื่นๆ อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เกิดการถกเถียงกันในหมู่ชาวเน็ต
อันที่จริงมุมมองของศาสตราจารย์โคมิตันเป็นความคิดเห็นกระแสหลักในโลกวิชาการ
นั่นก็คือรอยแตกจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวทางธรณีวิทยาบนดาวอังคาร และเมื่อพิจารณาจากภาพถ่ายแล้วเวลาในการก่อตัวนั้นไม่ควรนานนัก
สิ่งที่ทุกคนไม่สามารถเข้าใจได้คือเหตุใดรอยแตกขนาดใหญ่ดังกล่าวจึงหายไปในชั่วข้ามคืนทันที
จากสาเหตุของปรากฏการณ์นี้ทำให้ความคิดเห็นของชุมชนวิชาการแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือ
แนวความคิดหนึ่งค่อนข้างจะค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ซึ่งอาจเป็นเพราะการขยายตัวและหดตัวจากความร้อนที่เกิดจากความแตกต่างของอุณหภูมิตอนกลางวันอย่างมากบนดาวอังคารทำให้โครงสร้างที่ร้าวแตกร้าวนำไปสู่การซ่อมแซมการหดตัวของพื้นผิวที่แตกด้านใน
เมื่อรวมกับผลกระทบจากการฝังกลบของพายุทราย รอยแตกเล็กๆ ที่ปรากฏบนพื้นผิวก็ถูกเติมเต็ม และโครงสร้างที่แตกหักก็หายไปในชั่วข้ามคืน
อีกมุมมองหนึ่งเป็นเพราะการสังเคราะห์ทางชีวภาพ พวกเขาเชื่อว่าแบคทีเรียกินธาตุเหล็กบางชนิดอยู่บนแร่เฮมาไทต์ได้กัดเซาะเส้นเลือดเฮมาไทต์ที่ด้านล่างของโครงสร้างที่ร้าว
เมื่อรวมกับการขุดเจาะและสุ่มตัวอย่างแหล่งน้ำโดยสถานีวิจัยวิทยาศาสตร์ดาวอังคารของจีน โครงสร้างดังกล่าวก็พังทลายลงในพื้นที่และเกิดการหายตัวไปของโครงสร้างที่มีข้อบกพร่อง
อย่างไรก็ตามมุมมองของทั้งสองฝ่ายก็ยังขาดพื้นฐานทางทฤษฎีที่มีประสิทธิภาพและไม่มีใครสามารถโน้มน้าวใจซึ่งกันและกันได้
นอกเหนือจากการคาดเดาเหล่านี้ที่ไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองอย่างมีเหตุผลแล้วก็ยังมีการคาดเดาบางอย่างที่ไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง
ตัวอย่างเช่น เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวบนดาวอังคารบ้าง
คนกลุ่มเล็กๆ เชื่อว่าการเคลื่อนไหวทางธรณีวิทยาธรรมดาไม่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ ‘ลึกลับ’ นี้ได้อีกต่อไปและระบุได้ว่าเป็นเพราะปัจจัยของมนุษย์เท่านั้นที่ทำได้
นี่อาจเป็นผลงานชิ้นเอกของเอเลี่ยนบนดาวอังคารเลยก็ว่าได้!
นักวิชาการที่ยึดมุมมองนี้ถึงกับขยายเพิ่มเติมไปอีก
ตัวอย่างเช่น หลังจากที่สูญเสียการปกป้องชั้นบรรยากาศ มนุษย์ต่างดาวบนดาวอังคารเคลื่อนตัวจากพื้นผิวสู่พื้นดิน ซึ่งรอยแตกไม่ได้เกิดจากแผ่นดินไหวเลย แต่จริงๆ แล้วเป็นทางเข้าสู่อาณานิคมของชาวอังคารต่างหาก
กล่าวโดยสรุปแล้วตอนนี้ความคิดเห็นสาธารณะต่างๆ ได้ถูกแบ่งออกแล้ว
เมื่อเผชิญกับปรากฏการณ์อันน่าเหลือเชื่อนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนจะสับสนมากยิ่งขึ้น
แต่จู่ๆ ก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับทุกคน…