ตอนที่ 2967

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,967 : ประทับวายุเมฆา

 

หลังได้ยินคำพูดของเพลิงเทพโกลาหล ต้วนหลิงเทียนก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าวรยุทธ์อมตะกับเวทย์พลังระดับราชาขึ้นไปนั้น จะแตกต่างกันตรงจุดไหน

 

ปรากฏว่าเวทย์พลังระดับราชาขึ้นไป ล้วนแล้วแต่จะเป็นเวทย์พลังที่มีความลึกซึ้งของกฏที่มุ่งเน้นในเรื่องเสริมพลังภายในทั้งสิ้น

 

ปฐมเวทย์กลืนกินที่เขาเชี่ยวชาญอยู่ กล่าวไปก็คือการเสริมพลังภายในเช่นกัน!

 

‘ในอดีตผู้เฒ่าหั่วจิตวิญญาณประจำเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติเคยบอกไว้แล้ว…ว่าปฐมเวทย์กลืนกินนั้น สมควรมีต้นกำเนิดมาจากเวทย์พลังอันร้ายกาจหนึ่งของระนาบเทวโลกที่เรียกว่า มหาเวทย์กลืนกิน กล่าวได้ว่าปฐมเวทย์กลืนกินเสมือนมหาเวทย์กลืนกินที่ลดทอนอานุภาพลงมา…’

 

‘และมหาเวทย์กลืนกินนั่น ก็คือเวทย์พลังของจักรพรรดิสวรรค์ที่ร้ายกาจผู้หนึ่ง…และเวทย์พลังของตัวตนระดับจักรพรรดิสวรรค์ต้องไม่ใช่ชั่วแน่!’

 

ต้วนหลิงเทียนยจดจำได้ว่า ตอนที่เขาอยู่ในระนาบโลกียะนั้น พอเขาใช้ปฐมเวทย์กลืนกินให้ผู้เฒ่าหั่ว อีกฝ่ายก็ตกใจไม่น้อย อีกฝ่ายยังกล่าวโยงไปถึงมหาเวทย์กลืนกินที่มีพลังอานุภาพโด่งดังในระนาบเทวโลก

 

‘กล่าวได้ว่ามหาเวทย์กลืนกินสมควรเป็นเวทย์พลังที่มีระดับเหนือกว่าระดับราชาแน่นอน…ไม่แน่อาจจะเป็นเวทย์พลังระดับจอมราชันหรือไม่ก็อาจเป็นระดับจักรพรรดิ!’

 

ขณะคิดถึงจุดนี้ สองตาต้วนหลิงเทียนก็ลุกวาวขึ้นมา

 

หลังจากผ่านไปหลายปี ต้วนหลิงเทียนเองก็คิดถึงผู้เฒ่าหั่วไม่น้อย จึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวในใจอย่างทอดถอน ‘ไม่รู้ตอนนี้ผู้เฒ่าหั่วไปอยู่ที่ไหนกันแน่…’

 

ในอดีตตอนที่เห็นผู้เฒ่าหั่วพร้อมเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติคล้ายจะสาบสูญไปในความว่างเปล่าขณะโดนจ้าวลัทธิบูชาไฟลงมือ เขาก็หลงคิดว่าเป็นผู้เฒ่าหั่วเลือกสละชีวิตช่วยเขาโดยใช้วิธีการบางอย่างระเบิดเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติรวมถึงยอดสมบัติสวรรค์ประจำเจดีย์ทั้งหมด เพื่อให้มีพลังมากพอฉีกเปิดห้วงมิติส่งเขาหลบหนีไป…

 

ต่อมาก็มีสหายที่เคยร่วมทางในระยะเวลาสั้นๆผู้หนึ่งกล่าวยืนยันว่า เรื่องราวไม่มีทางเป็นอย่างนั้นแน่นอน จนตัวเขาก็เกิดความไขว้เขวอยู่บ้าง

 

จนพอมาถึงระนาบเทวโลก ต้วนหลิงเทียนจึงยืนยันได้สมบูรณ์

 

ถึงแม้จิตวิญญาณของอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิจะระเบิดตัวเอง แต่ก็ไม่มีพลังอานุภาพมากพอทำลายอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิได้เลย…

 

ด้วยเหตุนี้ต้วนหลิงเทียนจึงตระหนักได้ทันทีว่าผู้เฒ่าหั่วยังคงมีชีวิตอยู่! สำหรับการหายตัวไปของผู้เฒ่าหั่ว และเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ เขาเชื่อว่าต้องเป็นเพราะมีมือที่มองไม่เห็นอันทรงพลังอำนาจหนึ่ง ที่คอยควบคุมจัดการเรื่องนี้อยู่เบื้องหลังเป็นแน่!!

 

‘เวทย์พลังที่ขึ้นชื่อที่สุดของจักรพรรดิสวรรค์ผู้นั้นอย่างมหาเวทย์กลืนกิน…ไม่ทราบว่ามันเป็นกฏอะไร และมีความลึกซึ้งอันใดอยู่ในนั้นบ้าง…หรือจะเป็นกฏแห่งการกลืนกิน ที่ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินกล่าวถึงเมื่อครู่กันนะ?’

 

ต้วนหลิงเทียนลอบนึกย้อนเรื่องราวในใจ

 

“นอกจากนั้นกฏแห่งธาตุดินกล่าวไปแล้วเสมือนต้นกำเนิดกฏเกณฑ์ของธาตุทั้ง 5 ก็ว่าได้…นอกจากฏพิเศษบางประการอย่าง เวลา มิติ กลืนกิน ทำลายล้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกฏแห่งธาตุลม สายฟ้า น้ำแข็ง ก็มิใช่ล้วนก่อเกิดจากธาตุธรรมชาติทั้ง 5 หรือไร?”

 

และนี่ก็คือสิ่งที่ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินพึ่งกล่าวออกไปก่อนหน้า

 

ในบรรดากฏพิเศษที่อีกฝ่ายกล่าวถึง ในนั้นมีกฏแห่งการกลืนกินรวมอยู่ด้วย

 

“ไป๋กัง เจ้าจักติดตามข้าไปรับรางวัลของเจ้าที่เผ่าพยัคฆ์เหินเราตอนนี้เลย…หรือเจ้าจะเอาไว้ก่อนแล้วค่อยไปเผ่าพยัคฆ์เหินด้วยตัวเองภายหลัง?”

 

หลังมอบยันต์อมตะเก็บความทรงจำที่บันทึกวรยุทธ์อมตะและเวทย์พลังระดับราชาให้ต้วนหลิงเทียนกับหวงเจียหลงแล้ว ไป๋เจิ้นเยว่ก็หันไปมองถามไป๋กังทันที

 

“ท่านรองหัวหน้าเผ่า ข้าน้อยจะกลับไปพร้อมกับท่านเลยขอรับ?”

 

ไป๋กังก็กล่าววตอบออกมาทันทีอย่างไร้ซึ่งความลังเลใดๆ น้ำเสียงยังฟังดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าท่าทางของรางวัลที่มันจะได้รับนั้น จะมีค่ามากกว่าต้วนหลิงเทียนและหวงเจียหลงไม่ใช่เล่นๆ

 

“เช่นนั้นก็ดี”

 

ไป๋เจิ้นเยว่พยักหน้า

 

ไป๋กังติดติดตามไป๋เจิ้นเยว่จากไปทันที โดยไม่คิดจะร่ำลาหวงเจียหลงและต้วนหลิงเทียนแต่อย่างไร เพราะมันเห็นได้ชัดว่าทั้งคู่กำลังจมจ่อมอยู่กับวรยุทธ์อมตะและเวทญ์พลังระดับราชาที่พึ่งได้รับมา

 

มันยังไม่ได้ร่ำลาผู้เฒ่าโม่และหวงเหยี่ยนเฟยเช่นกัน

 

แต่ดูจากท่าทีของหวงเหยี่ยนเฟยและผู้เฒ่าโม่แล้ว ทั้งคู่สมควรรู้เรื่องนี้กันแต่แรก

 

“ท่านพ่อ อาไป๋ไปไหนแล้วล่ะ?”

 

หลังจากนั้นสักพักหวงเจียหลงก็คืนสติ พอหันไปดูรอบๆไม่เจออาไป๋ก็เริ่มถามหาทันที

 

ไป๋เจิ้นเยว่นั้นมันเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะหลังจากได้กระบี่และมอบของรางวัลให้มันกับน้องต้วนแล้ว อีกฝ่ายก็หมดความจำเป็นที่จะรั้งอยู่ในประเทศตันจี้สืบต่อ จะจากไปทันทีก็ไม่แปลก

 

แต่อาไป๋ของมันไฉนหายไปด้วยเล่า?

 

“อาไป๋ของเจ้ากลับไปเผ่าพยัคฆ์เหินแล้ว”

 

หวงเหยี่ยนเฟยคลี่ยิ้มพลางกล่าว “เจ้าเด็กนี่นับว่าเจ้าโชคดียิ่ง ถึงกับมีเวทย์พลังระดับราชาแล้ว…เจ้ารู้หรือไม่กระทั่งบิดาชราของเจ้าคนนี้ยังไม่เคยได้วรยุทธ์อมตะหรือเวทย์พลังระดับราชาอันใด…”

 

หวงเหยี่ยนเฟยย่อมบังเกิดความสุขความยินดีจากก้นบึ้งของหัวใจ เมื่อเห็นบุตรชายได้รับเวทย์พลังระดับราชา

 

กล่าวไปในระดับหนึ่ง มันมีความสุขความยินดีมากกว่าตัวมันเองได้รับเวทย์พลังระดับราชาเสียอีก

 

“อาไป๋กลับไปเผ่าพยัคฆ์เหินแล้ว?”

 

หวงเจียหลงขมวดคิ้วหน้านิ่วกล่าวออกด้วยน้ำเสียงตกใจแฝงความสลด “แล้วอาไป๋กลับไปคราวนี้…จะกลับมาอีกหรือไม่ท่านพ่อ?”

 

ขณะกล่าวถามถึงท้ายประโยค หวงเจียหลงก็รู้สึกใจหายไม่น้อย

 

ก็เหมือนกับที่หวงเหยี่ยนเฟยเติบโตมาโดยมีผู้เฒ่าโม่คอยยดูแลมาตลอด มันเองก็เติบโตมาโดยมีอาไป๋คอยดูแลแต่เล็กแต่น้อย มันจึงสนิทสนมและผูกพันกับอาไป๋มาก

 

ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนเองก็ฟื้นสติแล้วเช่นกัน และพอเห็นว่าไป๋กังไม่อยู่แล้ว และสัมผัสได้ถึงความหดหู่ซึมเซาของหวงเจียหลง เขาก็พอจะคาดเดาอะไรได้บางอย่าง

 

“เจ้าไม่ต้องห่วงไปหรอก พออาไป๋ของเจ้าวิวัฒนาการเสร็จแล้ว เดี๋ยวก็กลับมาเป็นธรรมดา”

 

หวงเหยี่ยนเฟยยิ้มกล่าวสืบต่อ “การกลับไปยังเผ่าพยัคฆ์เหินคราวนี้ของอาไป๋เจ้า นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีกับอาไป๋เจ้าจริงๆ…กล่าวไปผลประโยชน์ที่พวกเจ้าได้รับจากกระบี่อมตะจอมราชันครั้งนี้ ยังสู้ผลประโยชน์ที่อาไป๋เจ้าได้รับไม่ได้เลย!”

 

“หือ?”

 

ได้ยินคำพูดบิดา หวงเจียหลงก็รีบถามออกด้วยความสงสัยทันที “ท่านพ่อ อาไป๋ได้รับรางวัลอะไรหรือ…แถมยังเป็นรางวัลที่ต้องกลับไปรับถึงเผ่าพยัคฆ์เหินแบบนี้ด้วย?”

 

“อาไป๋ของเจ้า ได้รับโอกาสในการเข้าสู่สระวิวัฒนาการของเผ่าพยัคฆ์เหินสาขาคฤหาสน์เฉวียนโยว ที่จะเปิดออกเพียงครั้งในรอบหมื่นปี!”

 

กล่าวถึงจุดนี้รอยยิ้มของหวงเฟยเหยี่ยนก็ยิ่งสดใสเจิดจ้าขึ้นมาทันที

 

ไป๋กังเป็นดั่งน้องชายแท้ๆของมัน ยิ่งอีกฝ่ายได้รับผลประโยชน์มากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งรู้สึกยินดีและมีความสุขกับไป๋กังมากเท่านั้น

 

“สระวิวัฒนาการ!?”

 

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังสงสัยว่าสระวิวัฒนาการของเผ่าพยัคฆ์เหินคืออะไร สีหน้าแววตาของหวงเจียหลงก็ฉายความยินดีออกมาชัดเจน สองตายังทอแสงจ้าเป็นประกายวับวาว

 

“ท่านพ่อ…นี่…เรื่องจริงหรือ!?”

 

หววงเจียหลงถึงกับแสดงความตื่นเต้นออกมาอย่างออกนอกหน้านอกตา “อาไป๋…ได้รับโอกาสเข้าสู่สระวิวัฒนาการจริงๆหรือ!?”

 

“ใช่”

 

หวงเฟยเหยี่ยนพยักหน้า

 

“ดี…ดี! ดียิ่ง!! ตั้งแต่ข้ายังเด็กก็มักจะได้ยินอาไป๋พูดถึงเสมอๆ ว่าความฝันสูงสุดในชีวิตนี้ของอาไป๋ ก็คือการได้เข้าไปในสระวิวัฒนาการสักครั้ง”

 

หวงเจียหลงกล่าวต่อด้วน้ำเสียงเปี่ยมสุข “ไม่คิดเลย ว่าวันนี้ความฝันของอาไป๋จะเป็นจริงแล้ว!”

 

“ลุงหวง พี่เจียหลง…สระวิวัฒนาการที่พวกท่านพูดถึงมันคืออะไรหรือ?”

 

ต้วนหลิงเทียนหันไปมองหวงเหยี่ยนเฟยกับหวงเจียหลงพลางถามด้วยความสงสัย เพราะพ่อลูกคู่นี้แลดูดีใจจนออกหน้าออกตาถึงขนาดนี้ เขาก็เลยอยากรู้ว่าสระวิวัฒนาการที่ว่า ที่แท้มันมีดีอะไรกันแน่

 

“น้องต้วน สระวิวัฒนาการที่ว่านั้น เป็นสระชำระวิญญาณและเลือดเนื้อที่เผ่าพยัคฆ์เหินจะเปิดทุกๆรอบหมื่นปี และมีพยัคฆ์ลายทองแดงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปใช้ได้”

 

ได้ยินต้วนหลิงเทียนเอ่ยถามด้วยความสงสัย หวงเจียหลงก็เริ่มกล่าวอธิบายให้ต้วนหลิงเทียนฟัง

 

“พยัคฆ์เหินลายทองแดง ขอเพียงเข้าสู่สระวิวัฒนาการ และใช้เวลาดูดซับพลังวิญญาณรับการชำระขัดเกลาเลือดเนื้อวิญญาณในสระแค่เพียง 10 ปี…หลังจากออกจากสระวิวัฒนาการแล้ว ก็จะสามารถยกกระดับกลายเป็นพยัคฆ์เหินลายเงิน ที่เป็นสัตว์อมตะระดับราชาขั้นกลางได้แน่นอน!”

 

“เป็นธรรมดาว่าสระวิวัฒนาการที่ข้ากล่าวถึงนั้น มีเพียงแค่พยัคฆ์เหินลายทองแดงเท่านั้นที่จะเข้าไปได้ หากพยัคฆ์เหินลายเงิน หรือลายทองและทองเข้มเข้าไป มันจะไม่เกิดประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น…”

 

“อย่างไรก็ตามข้าได้ยินข่าวลือมาอีกว่า นอกจากสระวิวัฒนนาการที่ว่าแล้ว เผ่าพยัคฆ์เหินสาขาคฤหาสน์เฉวียนโยวยังมีสระวิวัฒนาการอีกสระที่จะเปิดออกทุกๆรอบ 30,000 มี และจะช่วยส่งเสริมให้พยัคฆ์เหินลายเงินวัฒนาการกลายเป็นพยัคฆ์เหินลายทอง สัตว์อมตะระดับราชาขั้นสูงได้!”

 

กล่าวถึงจุดนี้ น้ำเสียงของหวงเจียหลงก็ฉายชัดถึงความตื่นเต้นออกมาอีกครั้ง “กล่าวได้ว่าอีก 10 ปีหลังจากนี้ ตอนที่อาไป๋กลับมา…อาไป๋จะไม่ใช่สัตว์อมตะระดับราชาขั้นต่ำอีกต่อไป แต่จะเป็นสัตว์อมตะระดับราชาขั้นกลาง พยัคฆ์เหินลายเงิน!!”

 

ต้วนหลิงเทียนได้ฟัง ก็ตกใจอยู่บ้าง

 

และมาตอนนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าไฉนหวงเจียหลงกับหวงเฟยเหยี่ยนถึงได้แลดูตื่นเต้นยินดีกันออกหน้าออกตานัก

 

ที่แท้สระวิวัฒนาการของเผ่าพยัคฆ์เหินกลับยอดเยี่ยมถึงขนาดนี้!

 

‘พยัคฆ์เหินลายทองแดงหากไม่พบพานโชควาสนาครั้งยิ่งใหญ่ สุดท้ายชั่วชีวิตก็ทำได้แค่รั้งอยู่ในขอบเขตราชาอมตะ 3 ศักดิ์…แต่หากสามารถวัฒนาการเป็นพยัคฆ์เหินลายเงินได้สำเร็จ ต่อให้ไร้โชควาสนาอะไรก็สามารถบรรลุถึงขอบเขตราชาอมตะ 6 ผสานได้ในสักวัน!’

 

ราชาอมตะ 3 ศักดิ์กับ ราชาอมตะ 6 ผสานนั้น ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย!

 

ต้วนหลิงเทียนเองก็รู้เรื่องนี้ดี

 

ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนยังรู้อีกว่า การเข้าสระวิวัฒนาการของไป๋กัง เสมือนได้รับโอกาสให้เกิดใหม่ก็ว่าได้!

 

“เสี่ยวเทียน พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันที่ตระกูลราชวงศ์ประเทศตันจี้จัดงานประมูลแล้ว…หากไร้ข้อผิดพลาดใดๆ การประมูลสมควรเริ่มต้นขึ้นตอนหัวค่ำ”

 

หวงเหยี่ยนเฟยหันไปกล่าวนัดหมายเวลากับต้วนหลิงเทียน

 

“เข้าใจแล้วลุงหวง”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าให้หวงเฟยเหยี่ยนเป็นอันรับทราบ จากนั้นก็ลาหวงเฟยเหยี่ยนกับผู้เฒ่าโม่แล้วเดินออกจากโถงราชวังเพื่อกลับที่พัก

 

หวงเจียหลงก็เดินตามออกมาติดๆ

 

“น้องต้วน วรยุทธ์อมตะระดับราชาธาตุดินที่เจ้าได้มาเรียกว่าอะไรหรือ?”

 

หลังเดินออกมาจากโถงได้สักพัก หวงเจียหลงก็หันไปถามต้วนหลิงเทียนด้วยความสงสัย

 

“คุกศิลาทมิฬน่ะ”

 

สองตาต้วนหลิงเทียนทอประกายเรืองขึ้นวาบหนึ่งขณะตอบ

 

“คุกศิลาทมิฬหรือ? ฟังจากชื่อของวรยุทธ์อมตะนี้…มันสมควรเป็นวรยุทธ์อมตะประเภทสนับสนุนใช่หรือไม่ หากข้าจำไม่ผิดเหมือนมันจะเป็นวิชาที่เอาไว้กักขังผู้คนในสนามพลังโน้มถ่วง…”

 

หวงเจียหลงเอ่ยถาม

 

“ใช่”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับ

 

ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่อาจเข้าถึงกฏแห่งดินและแตกฉานวรยุทธ์อมตะที่พึ่งได้มา แต่ตัววรยุทธ์อมตะสามารถทำอะไรได้บ้างเขาย่อมรู้

 

เมื่อใช้ออกด้วยคุกศิลาทมิฬ แรงดึงดูดภายในพื้นที่กักกันสามารถสลับสับเปลี่ยนเพิ่มลดได้ตามแต่ใจเขาต้องการ เพียงแค่พลิกฝ่ามือ ก็สามารถละเล่นกับผู้ที่ถูกคุมขังได้ไม่ต่างแมวหยอกหนู

 

นอกจากนี้แรงโน้มถ่วงที่ว่า ยังรุนแรงถึงขั้นทำร้ายผู้คนให้ตายตกได้!

 

อีกทั้งคุกศิลาทมิฬ ยังสร้างขึ้นเพื่อใช้แทนป้อมปราการที่ป้องกันตัวเองได้รอบทิศทางเช่นกัน

 

“แล้วเวทย์พลังระดับราชาธาตุลมที่ท่านได้มาเล่า เรียกว่าอะไรหรือ?”

 

ต้วนหลิงเทียนเป็นเอ่ยถามกลับไปบ้าง

 

เขาเองก็สงสัยอู่บ้างว่าเวทย์พลังระดับราชาธาตุลมที่หวงเจียหลงได้มาเป็นอย่างไร

 

และจากสิ่งที่ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดิน กับเพลิงเทพโกลาหลกล่าววอธิบายให้เขา ในเมื่อมันเป็นเวทย์พลัง เขาจึงคิดว่าความลึกซึ้งของกฏแห่งลมที่แฝงอยู่ในเวทย์พลังที่หวงงเจียหลงได้ไป สมควรออกแนวส่งเสริมพลังภายใน

 

ยังทำให้เขาเข้าใจอีกด้วย ว่าความลึกซึ้งที่แฝงในเวทย์พลังระดับราชาธาตุลมของหวงเจียหลง ไม่น่าจะมีความลึกซึ้งเรื่องการโจมตีและความเร็ว…

 

สมควรเป็นความลึกซึ้งเบื้องต้นของกฏแห่งลม ที่เน้นในแง่ของการสนับสนุนพลังภายในของหวงเจียหลงเท่านั้น

 

“เวทย์พลังระดับราชาธาตุลมที่ข้าได้มาเรียกว่า ประทับวายุเมฆา มันสามารถควบรวมธาตุลมเข้ามาหนุนเสริมพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดในร่างข้า ให้ทรงพลังมากขึ้น…”

 

“และนอกจากความลึกซึ้งเบื้องต้นอย่าง ‘ความหมายพื้นฐาน’ ของกฏแห่งลมแล้ว ยังมีความลึกซึ้งเบื้องต้น ‘รวมสายลม’ ของกฏแห่งลมอีกด้วย”

 

“และความลึกซึ้งเบื้องต้น ‘รวมสายลม’ ก็ยังเป็นวิธีการควบแน่นธาตุลม เพื่อนำมาผสานเข้ากับพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดทำให้พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดของข้าแข็งแกร่งมากขึ้น เป็นหัวใจหลักของเวทย์พลัง”

 

หวงเจียหลงกล่าว

 

และคำตอบของหวงเจียหลง ก็ได้ยืนยันข้อเท็จจริงในวาจาของปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินกับเพลิงเทพโกลาหลให้ต้วนหลิงเทียนโดยไม่ต้องสงสัยเลย

 

เวทย์พลังสนับสนุนระดับราชาขึ้นไป ความลึกซึ้งของกฏที่แฝงอยู่ ล้วนเป็นการเสริมพลังภายในทั้งสิ้น!

 

และความลึกซึ้งเบื้องต้น ‘รวมสายลม’ ของกฏแห่งลมที่แฝงเร้นมาในเวทย์พลังประทับเมฆาวายุ ก็เป็นความลึกซึ้งเบื้องต้นที่มุ่งเน้นไปในด้านหนุนเสริมพลังภายในอย่างเห็นได้ชัด!