ตอนที่ 1474 : วัตถุอมตะขั้นกลาง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1474 : วัตถุอมตะขั้นกลาง

สีหน้าของอันนาและซอร์เศร้าสร้อย อันนาพูดขึ้นด้วยความหนักใจ “จิตวิญญาณราชันย์ พวกเราทั้งหกคนถูกหยุดในอุโมงค์และทำให้ท่านผิดหวัง ไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการเข้าไปยังอีกโลก แต่เรายังสูญเสียสมบัติที่ท่านได้ให้เราไป ไม่สามารถเอากลับมาด้วยได้ กู่มู่โดนฆ่า วิญญาณของเขาถูกกำจัด ส่วนอีกสามคนถูกกวาดเข้าไปในมิติ ถ้าเราไม่ได้ท่านช่วย เราสองคนอาจจะไม่ได้มีชีวิตที่จะได้เห็นโลกนี้อีก”

“เกิดขึ้นได้ยังไง ? เราเข้าใจความแข็งแกร่งของอีกโลก นอกจากขั้นย้อนกลับแล้ว ไม่มีใครที่เป็นภัยกับพวกเจ้าทั้งหก ด้วยการที่ขั้นย้อนกลับโดนกักไว้ในสมบัติที่จิตวิญญาณราชันย์ได้มอบให้ มันก็น่าจะเป็นเรื่องง่ายที่เจ้าทั้งหกจะยึดครองโลกนั่น มันเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ได้ยังไงกัน ? ”

” เราก็ยังไม่เข้าใจความแข็งแกร่งของโลกนั่นทั้งหมดงั้นรึ ? มันมีจอมยุทธอื่นซ่อนตัวอยู่รึ ?”

…..

หลายคนในหมู่ขั้นย้อนกลับทั้ง 8 ได้แสดงความสงสัยของตนออกมา เสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความแปลกใจ มันเกินกว่าที่พวกเขาคาดเอาไว้

จิตวิญญาณราชันย์คิ้วขมวดเล็กน้อยและพูดขึ้น “บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”

ขั้นรับมอบทั้งสองได้บอกทุกอย่างที่พวกเขาได้พบในอุโมงค์ จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมคนอื่นไม่ได้แปลกใจเมื่อได้ยินว่าตั้วฟู่ได้กักขังขั้นย้อนกลับด้วยสมบัติ แต่เมื่อรู้ว่าทั้งหกโดนเจี้ยนเฉินเพียงคนเดียวขวางเอาไว้ ขั้นรับมอบและขั้นย้อนกลับทุกคนต่างก็ยากที่จะสงบจิตใจไว้ได้

“ข้าไม่คิดว่าความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกในเวลาอันสั้น ข้าคำนวณผิดไป” จิตวิญญาณราชันย์ถอนหายใจออกมาเบา ๆ เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องเจี้ยนเฉินซึ่งครั้งหนึ่งเคยสู้กันในมิติภายนอกเหนือทวีปเทียนหยุน สายตาของเขานั้นเป็นประกายขึ้นมาทันที

“ข้าไม่คิดว่าคนผู้นี้จะมีพลังที่จัดการเจ้าทั้งหกได้ด้วยตัวคนเดียวโดยที่ไม่เสียเปรียบ เขายังจัดการฆ่ากู่มู่ได้อีกด้วย เขาสมกับเป็นคนที่มีความสามารถที่จิตวิญญาณราชันย์ให้ความสนใจ” ขั้นย้อนกลับเฒ่าพูดขึ้น สายตาของเขาเต็มไปด้วยความกระหายการต่อสู้พร้อมกับความอาฆาตที่เขาไม่อาจจะยับยั้งมันได้

ครั้งนี้เจี้ยนเฉินได้ทำให้โลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งสูญเสียขั้นรับมอบ 4 คน แม้ว่าพวกเขาจะมีจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมกว่า 40 คนแต่การสูญเสีย 4 คนไปนี้ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องใหญ่

จิตวิญญาณราชันย์มองไปที่อุโมงค์สักพักก่อนจะพูดขึ้น ” อุโมงค์ถล่มลงมาแล้ว มันต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะฟื้นฟู แต่เมื่อมันฟื้นฟูขึ้นมา มันจะเป็นวันที่เจ้าทั้งแปดจะเข้าไป ไปได้แล้ว”

“ครั้งหน้าจะเป็นเวลาที่โลกของเรายึดครองอีกโลก”

ขั้นรับมอบและขั้นย้อนกลับคนอื่น ๆ ต่างก็ดีใจ พวกเขากระหายและอยากไปยังอีกโลกตอนนี้เลย เผ่าของพวกเขารอมานานเพื่อวันที่จะมาถึงนี้

………..

เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ได้ใช้เวลาหลายวันในมิติภายนอกเพื่อทำให้แผนภาพ 8 เหลี่ยมนั้นหมดพลังงานและไม่อาจทำงานได้เพื่อช่วยเสี่ยวหลิง

ทันทีที่เสี่ยวหลิงหลุดออกมา นางก็พุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินและร้องไห้ออกมา สภาพของนางน่าสงสาร เสี่ยวหลิงไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน ดังนั้นนางจึงกลัวเนื่องจากนางยังเป็นเด็กอยู่

เทพเจ้าแห่งท้องทะเล, เถี่ยต้า, หยางลี่, กุยไฮ่ยี่เต่า และ เฟิงเซียวเทียน ต่างก็มองดู เจี้ยนเฉิน เงียบๆ เขาได้อุ้มขั้นย้อนกลับที่ร้องไห้อยู่ สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายก่อนจะพากันแอบถอนหายใจ

เจี้ยนเฉินปลอบเสี่ยวหลิง พร้อมกับตรวจสอบแผ่นอาคมสีครามในมือ มันมีขนาดเท่ากับมือและทำจากวัสดุที่เขาไม่รู้จัก แผนภาพ 8 เหลี่ยมสลักบนแผ่นกลแบนรวมถึงพลังงานอันลึกลับและโบราณที่ไหลผ่านพร้อมกับส่องแสงสีครามจาง ๆ ออกมา

“แผ่นอาคมนี้เป็นสมบัติที่สามารถกักตัวขั้นย้อนกลับได้และทนการโจมตีจากเราได้หลายวันก่อนจะหมดพลังงาน อย่างน้อย ๆ ข้าก็ไม่เคยได้ยินถึงสมบัติแบบนี้ในทวีปเทียนหยุนตลอดหลายปีมานี้” เจี้ยนเฉินพึมพำ อยู่ ๆ เขาก็เหมือนกับพบบางอย่าง สายตาของเขาหรี่ลงก่อนจะถอนหายใจด้วยความแปลกใจ “จานนี้ดูดซับพลังงานของโลกได้เองเพื่อทดแทนพลังงานที่มันหมดไปเพราะเรา มัน….”

ตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายขึ้นมา เขามองไปที่แผ่นอาคมด้วยสายตาแปลก ๆ

“หากเราใช้เจ้าแผ่นนี้ได้ ครั้งหน้าที่โลกอื่นโจมตีเรา เราก็สามารกจัดการหนึ่งในขั้นย้อนกลับคนหนึ่งได้ มันจะทำให้พลังของพวกนั้นลดลง” หยางลี่ส่ายหน้าและถอนหายใจออกมา ใบหน้าของเขาแสดงความเสียดาย เขาเข้าใจมันแต่ไม่รู้วิธีการใช้งานมัน ซึ่งทำให้เขาต้องเสียดายอย่างมาก

สุดท้ายสายตาของเจี้ยนเฉินก็หม่นลง เขาเองก็เข้าใจว่าแผ่นอาคมนี้ไม่ต่างจากเศษเหล็กในมือหากเขาไม่รู้วิธีใช้งานมัน

ตอนนั้นกระบี่สีฟ้าของเจี้ยนเฉินก็สั่นไหว ในเวลาเดียวกันจิตวิญญาณกระบี่ก็พูดขึ้นมาในหัวของเขา “มันคือวัตถุอมตะขั้นกลางและแบ่งแยกด้วยหยินหยาง นายท่าน หากท่านให้เวลาเราสักพัก เราอาจจะพบวิธีการใช้งานมันได้”

เจี้ยนเฉินสนใจอย่างมาก ตาเขาเป็นประกายขึ้นมาอีกรอบ จากนั้นเขาก็พูดกับคนรอบกาย “ข้าจะเก็บแผ่นอาคมนี้ไว้ศึกษาสักพักเพื่อดูว่าข้าจะหาวิธีใช้งานมันได้หรือไม่เพื่อที่เราจะได้ใช้มันเป็นอาวุธของตัวเอง”

ข้อเสนอของเจี้ยนเฉินไม่ได้รับการคัดค้านแต่อย่างใด ดังนั้นเขาจึงเก็บแผ่นอาคมนั้นเอาไว้

หลังจากนั้น เถี่ยต้า, เทพเจ้าแห่งท้องทะเล, หยางลี่, กุยไฮ่ยี่เต่า และ เฟิงเซียวเทียน ต่างก็ได้กลับไปยังที่ของตน เจี้ยนเฉินได้ไปถึงซากเมืองทหารรับจ้างพร้อมกับเสี่ยวหลิง พร้อมกับปลอบนางหลังจากที่ผ่านเรื่องหนัก ๆ มา เขาไม่อาจจะกลับไปเมืองอัคนีได้เนื่องจากเขาต้องคุ้มกันอุโมงค์ไว้ ดังนั้นเขาจึงสร้างถ้ำในภูเขาใกล้ ๆ และทำการฟื้นคืนชีพยุทธภัณฑ์จักรพรรดิต่อ

เจี้ยนเฉิน ได้ปล่อยเรื่องแผ่นอาคมให้กับจิตวิญญาณกระบี่ศึกษาโดยหวังว่าพวกมันจะหาวิธีในการใช้การมันได้

ในพริบตาก็ผ่านไป 1 ปีครึ่งตั้งแต่ที่ขั้นรับมอบ 6 คนพยายามจะบุกโลก ทวีปเทียนหยวนยังคงสงบสุข เจี้ยนเฉิน ได้ซ่อมยุทธภัณฑ์จักรพรรดิและยุทธภัณฑ์ราชาทั้งหมด ดังนั้นหุ่นเชิดเซียนจักรพรรดิกว่า 600 ตัวและหุ่นเซียนราชากว่า 8,000 ตัวจึงพร้อมใช้งาน ถ้าเขารวมจำนวนหุ่นเชิดที่ประธานและผู้อาวุโสสูงสุดได้ซ่อมมาแล้ว จำนวนหุ่นเชิดเซียนราชาก็มีเกือบถึงหมื่นตัว

“หุ่นเชิดพวกนี้คือขุมกำลังหลักที่จะหยุดโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งในการบุกเข้ามา” เจี้ยนเฉินถอนหายใจและมองไปยังฝูงหุ่นเชิดเซียนราชาและหุ่นเชิดเซียนจักรพรรดิ น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความหวัง

“มันมีจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมไม่กี่คนในโลกอื่น ข้าใช้ได้แค่พลังของตัวเองเพื่อหยุดพวกนั้น หากข้าหาวิธีในการใช้พลังวิญญาณนักรบได้และใช้มันออกมาได้รุนแรง ข้าก็สามารถจัดการกับขั้นรับมอบและขั้นย้อนกลับทั้งหมดจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งด้วยตัวเองได้” เจี้ยนเฉินคิด เขาไม่ลังเลและเข้าเก็บตัวอีกครั้งก่อนจะเริ่มศึกษาพลังวิญญาณนักรบต่อ