ความสูญเสียของตระกูลอู๋มี 15 คน คนของหงห้าและเว่ยเลี่ยง เมื่อรวมกันแล้วก็สูญเสียไปแล้ว 4 คน!
โชคดีที่ไม่กี่วันก่อนเย่เฉินเตือนหงห้าและเว่ยเลี่ยงเอาไว้ ให้พวกเขาเสริมกำลังป้องกัน ทั้งสองฝ่ายจึงส่งคนเพิ่มไปยังภูเขาฉางไบหลายคน ไม่อย่างนั้น วันนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้คนนับสิบเหล่านี้จริงๆ
พ่อลูกตระกูเว่ยที่หวาดกลัว ถูกคนคว้าขึ้นมาจากบนหิมะ
คนที่จับพวกเขาขึ้นมา คือลูกน้องของท่านหงห้าและเป็นผู้รับผิดชอบภูเขาฉาง จ้าวเต๋อเปียว
จ้าวเต๋อเปียวใบหน้าสีเข้ม มองไปที่พ่อและลูกชายที่หวาดกลัว และพูดอย่างเย็นชาว่า: “พวกนายคิดจริงๆเหรอว่าจะหนีไปได้จริงๆ?”
เว่ยหย่งเจิ้งร้องไห้และพูดว่า: “เฮียเต๋อเปียว พวกเราไม่ได้หนี คนพวกนี้บอกให้เราไป”
จ้าวเต๋อเปียวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้ ในใจนายคิดยังไง ฉันไม่รู้เลยงั้นเหรอ ฟังนะ ตราบใดที่จ้าวเต๋อเปียวอย่างฉันอยู่ นายกับลูกของนายก็อย่าคิดจะจากภูเขาฉางไบไปเลย!”
เว่ยหย่งเจิ้งพยักหน้าอย่างรวดเร็วและกล่าวด้วยความเคารพ: “เฮียเต๋อเปียว เราไม่อยากออกจากภูเขาฉางไบเลยจริงๆนะ ช่วงนี้ พวกเราสองพ่อลูกรักและผูกพันกับภูเขาฉางไบมาก ฉันพร้อมใช้ชีวิตวัยชราที่นี่แหละ”
เว่ยฉางหมิงที่อยู่ข้างๆก็รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว: “ใช่ เฮียเต๋อเปียว พ่อของผมพูดถูก พวกเราทั้งสองคนรักดินแดนแห่งนี่มาก”
จ้าวเต๋อเปียวพุ่งตรงไป ต่อยตีสองพ่อลูก และด่าว่า: “โธ่เอ๋ย เป็นเพราะไอ้พวกหมาอย่างพวกนายสองคน ฉันเสียพี่น้องไป 4 คน ยังจะมาพูดจาเหลวไหลกับฉันที่นี่อีก เชื่อไหมฉันจะหักขาของพวกนายเลย ต่อไปให้พวกนายปีนขึ้นภูเขาไปเก็บโสมซะ?!”
สองพ่อลูกถูกทุบตีอย่างรุนแรง จนเกือบตาย ถึงจะถูกปล่อยกลับไป และโยนเข้าบ้านที่ทรุดโทรมและเย็นยะเยือก
……
ที่นี่ อู๋ตงไห่ยังคงรอข่าวแห่งชัยชนะจากภูเขาฉางไบ
เขาสูบซิการ์ในมือไปกินครึ่งแล้ว ในใจก็กำลังนับเวลาอยู่ตลอด ก่อนที่จะสูบซิการ์ตัวนี้ เรื่องก็น่าจะได้รับการจัดการอย่างสมบูรณ์แล้ว
ราชาบู๊ทั้งแปดไม่ฟังคำสั่งของพวกเขางั้นหรือ?
ไม่ต้องร้อนใจไป ฉันยังสามารถหาคนอื่นไปได้
ฉันหาราชาบู๊ทั้งแปดไม่ได้ ฉันสามารถให้คนอีก 16 คนไป ไม่มีราชาบู๊ทั้งแปดอย่างนาย ฉันก็จะไม่สามารถทำอะไรให้สำเร็จได้งั้นหรือ?”
ขณะที่คิดอยู่นั้น จู่ ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
อู๋ตงไห่รีบรับโทรศัพท์ และเอ่ยปากถามว่า: “เป็นยังไงบ้าง? ช่วยพ่อลูกออกมาได้ไหม?”
เสียงร้องไห้ดังมาจากอีกฝ่าย: “ประธานอู๋ เราถูกซุ่มโจมตี ทุกคนตายหมดแล้ว มีแต่ผมที่รอดออกมาได้!”
“อะไรนะ?!” อู๋ตงไห่ใจเต้นตึกตัก ถามอย่างเคร่งขรึมว่า: “เกิดอะไรขึ้น? พวกนายไปกัน 16 คน แย่งตัวสองคนนั้นกลับมาไม่ได้?”
คนนั้นร้องไห้และพูดว่า: “คนของอีกฝ่ายก็ไม่น้อยไปกว่าเราเลย อีกอย่างเหมือนว่าพวกเขารู้ว่าเราจะมา จึงดักซุ่มโจมตี พอเราไปรับสองพ่อลูกแล้วกำลังเตรียมจะขึ้นรถ ทันใดนั้นก็ถูกพวกมันซุ่มโจมตี……”
ขณะที่พูด อีกฝ่ายก็กล่าวต่อว่า: “ประธานอู๋ ภูเขาฉางไบเป็นเมืองเงียบ มีประชากรน้อย และอีกอย่างที่นี่ อาจจะไม่มีแขกนอกมาเยือนเป็นเวลาถึง 10 วัน 8 วัน ดังนั้นเป้าหมายอย่างพวกเราที่ใหญ่เกินไป เราอาจจะไม่ได้เข้าใกล้หมู่บ้านของพวกเขาเลยด้วยซ้ำ พวกมันก็ป้องกันพวกเราอยู่แล้ว เรื่องอย่างนี้ ต้องให้ราชาบู๊ทั้งแปดลงมือถึงจะได้ ถ้าไม่อย่างนั้น พวกเรามากันกี่คน ก็เกรงว่าจะไม่พอ เพราะเราไม่รู้เลยจริงๆว่าพวกมันมีกันกี่คนที่นี่!”
“โอเค!”
อู๋ตงไห่ขว้างซิการ์ในมือลงกับพื้นทันที ประกายไฟจึงกระจายไปทั่ว
ไป 16 คน ตาย 15 คน ต่างก็ให้เงินบำรุงขวัญคนพวกนี้ไปแล้ว อย่างน้อยก็เสียไปหลายสิบล้าน นี่คือเงินทั้งหมดที่สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้ ก็คงไม่ให้พวกเขาไปดีกว่า
ในตอนนี้ น้องชายของเขาอู๋ตงเฟิงจู่ ๆก็พุ่งเข้ามา และพูดด้วยความตื่นเต้นอย่างมากว่า : “พี่ พ่อฟื้นแล้ว!”
อู๋ตงไห่ได้ยินดังนั้น ในใจก็รู้สึกทั้งสุขและเศร้า
ที่สุขก็คือ ในที่สุดพ่อก็ฟื้นแล้ว ที่เศร้าก็คือ ถ้ารู้ว่าตอนนี้พ่อฟื้นได้ ทำไมเขาต้องส่งคน 15 คนไปตายด้วย?
เขาฟื้นแล้ว ตอนนี้เขาต้องบอกพ่อว่า ราชาบู๊ทั้งแปดอาจจะออกเดินทางไปภูเขาฉางไบในวันพรุ่งนี้
เมื่อคิดถึงตอนนี้ เขาก็ถอนหายใจยาวๆ หลังจากนั้นหันหลังมาบอกว่า: “ไป ไปดูพ่อ!”
———-