“หา? ยังไม่ทันได้เปิดหม้อหลอมแต่ท่านราชครูก็จะมาเอาชีวิตข้าก่อนแล้วหรือ?” เย่หยวนกล่าวถามขึ้นมาระหว่างที่นั่งฟื้นฟูตัวเองไป
หลินหลานที่ได้ยินต้องหัวเราะขึ้นมา “ดูจากการหลอมของเจ้านั้นมันจะยังต้องเปิดหม้อหลอมอีกหรือ? มันย่อมจะไม่มีโอสถดีๆ อยู่ในหม้อหลอมนี้แน่แล้ว!”
การหลอมโอสถสวรรค์นั้นมันต้องใช้หม้อหลอมที่สุดแสนจะแข็งแกร่งทนทาน
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเปิดหม้อหลอมออกมาคนภายนอกจึงจะไม่มีทางรู้สึกได้เลยว่าภายในนั้นมันมีโอสถสวรรค์ ระดับใดอยู่กันแน่
แต่ดูจากท่าทางของเย่หยวนนี้แล้ว มันย่อมจะไม่อาจหลอมสร้างโอสถขึ้นมาได้แน่
เพราะตอนนี้มิใช่แค่หลินหลานเท่านั้นที่คิดเช่นนี้ คนทั้งหลายเองก็ต่างคิดเช่นเดียวกันสิ้น
เย่หยวนนั้นหลอมโอสถสวรรค์ได้อย่างเหนื่อยยาก ยิ่งช่วงหลังๆ เขายิ่งมีสภาพดูไม่ได้
ท่าทางของปรมาจารย์ก่อนหน้านั้นมันได้จางหายไปสิ้นเชิง!
มันเหมือนการพายเรือท่ามกลางพายุกระหน่ำ
เขานั้นแทบจะไม่อาจเอาชีวิตรอดกลับมาได้!
มีหรือที่การหลอมโอสถด้วยท่าทางเช่นนั้นมันจะสามารถทำให้เกิดโอสถสวรรค์ขึ้นมาได้จริงๆ?
ทั้งยังเป็นโอสถสวรรค์ระดับความยากสูงล้ำอย่างโอสถฟื้นฟูเทพนี้อีก
“ฮ่าๆๆ… แค่ท่าทางอ่อนล้าของเจ้านี้มันก็มากพอจะบอกแล้ว ยังต้องมาเปิดหม้อหลอมใดๆ กันอีก? ไม่ทำหม้อหลอมระเบิดได้นี่ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว!” เซี่ยหัวร้องขึ้นมาเสริม
เย่หยวนนั้นยิ้มตอบกลับไป “เปิดก่อนเถอะ ไม่เช่นนั้นข้าเองก็จะไม่ยอมรับความแพ้เช่นกัน เช่นนั้นพันธะวิญญาณดั้งเดิมของเรามันก็จะไม่สมบูรณ์มิใช่หรือ?”
หลินหลานพยักหน้ารับ “ได้ ข้าจะให้เจ้าได้แพ้อย่างเต็มใจเอง!”
เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกปัด “ข้านั้นไม่เหลือแรงแล้ว คงต้องขอรบกวนท่านราชครูนั้นเปิดหม้อหลอมให้ด้วย”
หลินหลานนั้นแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาเล็กน้อยแต่ก็ยังเดินไปหยุดลงตรงหน้าหม้อหลอมนั้น
เวลานี้จักรพรรดิที่อยู่บนชั้นสองได้ลุกขึ้นกล่าว “เอาล่ะ ผลมันชัดเจนกันแล้ว เรากลับเถอะ!”
คำพูดเดียวนี้มันได้บอกถึงผลที่เกิดขึ้นสองอย่างพร้อมๆ กัน
หนึ่งคือผลของการเดิมพันระหว่างราชครูและเย่หยวน มันสรุปผลกันได้แล้ว
สองคือผลของการแย่งชิงอำนาจระหว่างองค์ชายใหญ่และองค์ชายรอง มันก็รู้ผลแล้วเช่นกัน
เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่คิดสนใจจะอยู่ดูอีกต่อไป
เรื่องราวที่เหลือนั้นปล่อยให้ราชครูจัดการไปเอง
“ขอส่งเสด็จพ่อกลับ!” องค์ชายใหญ่นั้นรีบก้มหัวส่งเฉียวไคหยวนไปทันที
ส่วนองค์ชายรองนั้นไม่หันกลับมาแม้แต่น้อย สายตาของเขายังจ้องมองไปที่ด้านล่าง
แต่จู่ๆ ร่างกายของเขานั้นก็สั่นสะท้านขึ้นมาพร้อมตาที่เบิกกว้าง!
“ฮ่าๆๆๆๆ…” องค์ชายรองนั้นหัวเราะขึ้นอย่างรุนแรง ความรู้สึกที่เก็บกดของเขามันได้ระเบิดออกมาสู่โลกภายนอกทั้งหมด
องค์ชายใหญ่ที่กำลังหันหน้ากลับไปส่งเฉียวไคหยวนนั้นย่อมจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แต่ได้ยินเสียงหัวเราะขององค์ชายรองนั้นเขาก็นึกไปเสียว่าน้องชายคงคับแค้นจนเสียสติไปแล้ว
“เจ้ารอง มันก็แค่การแพ้ชั่วครั้งคราว ทำไมต้องไปสนใจขนาดนั้นด้วย? จะอย่างไรเราก็ยังเป็นพี่น้องน่า!” องค์ชายใหญ่นั้นกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางเย้ยหยัน
แต่ในเวลานั้นเองที่เขาได้ยินเสียงคนโห่ร้องกันขึ้นมาจากด้านล่างจนกลบเสียงของเขาสิ้น
“หลอมได้! หลอมได้จริง!”
“บ้าไปแล้ว! ตอนที่เขาหลอมก็มีท่าทางเช่นนั้นไปแล้วแต่กลับจะยังหลอมโอสถได้หรือ?”
“ปาฏิหาริย์! มันคือปาฏิหาริย์โดยแท้! ห้าปีนี้เขากลับสามารถหลอมโอสถฟื้นฟูเทพขึ้นมาได้จริง!”
…
องค์ชายใหญ่นั้นหน้าซีดขาวลงก่อนจะยื่นหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างและหยุดค้างอยู่ตรงนั้น
เฉียวไคหยวนเองก็ต้องหันหลังกลับมา!
ด้านล่างนั้นหลินหลานเองก็ได้แต่ยืนนิ่ง ส่วนเซี่ยหัวนั้นต้องอ้าปากค้าง
ที่ด้านข้างนั้นมันได้มีโอสถสวรรค์เม็ดหนึ่งวางอยู่บนจาน
เวลานี้ทั้งตึกรวมฟ้ามันได้เกิดเสียงโห่ร้องอย่างบ้าคลั่งขึ้น
“นี่มัน… นี่มัน… มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกัน?” ท่าทางดีใจของผู้มีชัยนั้นมันได้จางหายไปจนหมดสิ้น
องค์ชายใหญ่นั้นรู้สึกหนักหน่วงในหัวใจอย่างมากกับการปรากฏขึ้นมาของโอสถสวรรค์เม็ดนี้
องค์ชายรองนั้นหัวเราะขึ้นมา “ท่านพี่ มันก็แค่การแพ้ชั่วครั้งชั่วคราว จะสนใจอะไรมากน่า! ไม่ต้องสนใจให้มากหรอก! ฮ่าๆๆ…”
แต่สีหน้าขององค์ชายรองก็ต้องเปลี่ยนสีไปเพราะเขาได้พบว่าเฉียวไคหยวนได้มาหยุดอยู่ข้างตัวเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบได้
แต่สายตาของเขานั้นมันจับจ้องลงไปเบื้องล่างอย่างไม่กะพริบ
เวลานี้ใบหน้าของจักรพรรดิมันมีแต่ความตกตะลึง
ดูท่าแล้วตัวเขาก็คงไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เช่นกัน
โอสถฟื้นฟูเทพจริงๆ!
ราชครูแพ้!
แพ้พ่ายย่อยยับ!
“เสด็จพ่อ ครั้งนี้ข้าคงพิสูจน์แล้วใช่หรือไม่ว่าสายตาของข้ามันไม่พลาด? เย่หยวนนั้นสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาอีกครั้งแล้ว!” องค์ชายรองนั้นกล่าวขึ้นด้วยความมั่นใจ
ในเวลานี้เขาได้แต่ต้องคิดถึงหน้าหลู่หยุนขึ้นมา
หากมิใช่เพราะอาจารย์หยุนของเขานั้น มันคงไม่มีทางใดที่เขาจะพลิกสถานการณ์กลับมาเช่นนี้ได้แน่!
มันมิใช่ว่าสายตาของเขานั้นดี แต่เป็นสายตาของอาจารย์หยุนนั้นต่างหากที่สุดยอด!
อาจารย์หยุนนั้นบอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเย่หยวนนั้นคือมังกรในหมู่คน มีพรสวรรค์เหนือล้ำแม้จะเทียบกับเหล่าผู้บรรลุสวรรค์ด้วยกันเองก็ตามที!
และเวลานี้มังกรมันก็ได้เริ่มผงาดหัวขึ้น!
“ท่านราชครู ข้าจำได้ว่าท่านบอกว่าหากข้าหลอมโอสถฟื้นฟูเทพได้จริงๆ ท่านจะกลืนหม้อหลอมนี้ใช่หรือไม่? เอาล่ะ ทีนี้จะกลืนมันหรือไม่เล่า?”
“แล้วก็พี่เซี่ย ท่านนั้นดูท่าทางสะใจอย่างมากเลย บอกว่าไม่ต้องการซื้อโอสถฟื้นฟูเทพจากข้ามิใช่หรือ? เช่นนั้นก็โปรดอย่าได้มาซื้อเลย! ข้าไม่ขาย!”
เย่หยวนนั้นกล่าวสองคำพูดนี้ออกมาทำลายทั้งหลินหลานและเซี่ยหัวลงไปพร้อมๆ กัน
หลินหลานนั้นอับอายจนแทบอยากจะมุดดินหนีให้มันจบๆ กันไป
วินาทีที่เขาเปิดหม้อออกมานั้น เขาต้องอ้าปากค้างออกมา
โอสถฟื้นฟูเทพมันถูกหลอมขึ้นมาจริงๆ!
แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
“ไม่มีทางน่า! เจ้านั้นดูอย่างไรก็หมดแรงไปแล้วแท้ๆ วิชาการหลอมของเจ้าเองก็ดูติดขัดอย่างมาก มีหรือที่โอสถสวรรค์มันจะก่อตัวขึ้นได้?!” หลินหลานร้องลั่นอย่างไม่คิดยอม
เขานั้นคิดว่าเย่หยวนไม่อาจจะหลอมโอสถสวรรค์ได้แต่สุดท้ายเขากลับได้เห็นเย่หยวนหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐานที่เหนือกว่าตนเองขึ้นมา
เขานั้นคิดว่าเย่หยวนไม่มีทางหลอมโอสถฟื้นฟูเทพได้ แต่สุดท้ายเย่หยวนก็หลอมโอสถฟื้นฟูเทพขึ้นมาได้จริง!
เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมจะเหมือนเป็นดั่งฝันร้าย!
เย่หยวนยิ้มขึ้นตอบ “หากเทียบกันในวิชาการโอสถนั้น เจ้ายังอ่อนแออยู่มาก! หากข้าบอกว่าช่วงหลังนั้นข้าหลอมโดยใช้แค่สัญชาตญาณเจ้าจะเชื่อได้หรือไม่?”
แต่ก่อนที่หลินหลานจะทันได้ตอบอะไรเย่หยวนก็กล่าวขึ้นมาต่อ “แน่นอนว่าเจ้าคงไม่เชื่อ! เหมือนอย่างที่หากข้าบอกว่าห้าปีมานี้ข้าศึกษาแค่โอสถสวรรค์พื้นฐานทั้งหลายกว่ายี่สิบชนิดจริง เจ้าก็คงไม่เชื่อ! หรือต่อให้ข้าจะบอกว่าสมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายนี้ข้าเพิ่งจะเคยได้เห็นมันเป็นครั้งแรก เจ้าก็คงไม่เชื่อ! แต่มันคือความจริงที่เจ้าไม่ยอมเชื่อ! สิ่งใดที่เจ้าดูถูกมันก็อาจจะไม่ได้ไร้ค่า! คนที่เจ้าดูถูกเองนั้นก็อาจจะไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเจ้าเลย เจ้ามันก็แค่กบในกะลาเท่านั้น!”
หลินหลานสั่นสะท้านไปทั้งกายเมื่อได้ยิน ความเชื่อต่อการโอสถของเขามันได้พังทลายลงตรงหน้า
ทุกสิ่งที่เย่หยวนกล่าวมานั้นมันมิใช่สิ่งที่เขาจะจินตนาการได้เลย!
แต่เย่หยวนทำมันได้จริงๆ!
เขานั้นหลอมโอสถฟื้นฟูเทพขึ้นมาได้จริง!
หลินหลานนั้นมีท่าทางเหมือนคนที่เพิ่งโดนกระทืบ ไม่เหลือร่องรอยความสูงส่งของราชครูใดๆ
ตุบ!
วินาทีเดียวกันนั้นเซี่ยหัวก็ก้มลงคุกเข่าต่อหน้าเย่หยวนพร้อมร้องไห้ออกมา “อาจารย์เย่ ข้า… ข้าผิดไปแล้ว! ขอร้องท่านล่ะ ช่วยขายโอสถฟื้นฟูเทพให้ข้าด้วย! ข้ายอมจะจ่ายสิบ ไม่สิ ร้อยเท่าของราคาเลย!”
เซี่ยหัวนั้นต้องการจะเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์อย่างมาก เพราะเหตุนั้นเองเขาจึงได้เกลียดชังเย่หยวนที่ปิดเส้นทางนี้ของเขาลง
เดิมทีเขานั้นไม่คิดเชื่อว่าเย่หยวนจะหลอมโอสถฟื้นฟูเทพได้จริงและยังมีข่าวที่ได้ยินจากเสี่ยวฉีอีกมันยิ่งทำให้เขามั่นใจไปกันใหญ่
แต่เวลานี้เย่หยวนกลับหลอมมันขึ้นมาได้จริง!
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เย่ผู้นี้พูดแล้วจะไม่คืนคำ! ไม่ขายก็คือไม่ขาย! อย่าว่าแต่ร้อยเท่า ต่อให้จะเป็นพันเท่าหรือหมื่นเท่าของราคาเย่ผู้นี้ก็จะไม่ขายให้เจ้า! ที่สำคัญไปกว่านั้นเจ้าคิดว่าเย่ผู้นี้ขัดสนเงินตรามากหรือ?”
พูดไปเขาก็ลุกขึ้นมาหยิบเอาโอสถฟื้นฟูเทพชูขึ้นสูงก่อนจะร้องถาม “ใครอยากได้โอสถฟื้นฟูเทพบ้าง?”
“ข้าอยากได้!”
คนแขนขาดผู้หนึ่งกระโดดขึ้นมาร้องตอบทันที
คนผู้นี้คือทหารที่บุกเข้าไปทำร้ายพ่อลูกตระกูลถังในวันนั้นจนต้องจัดแขนของตัวเองลง!
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “คิดเสียว่าเจ้าโชคดีแล้วกัน โอสถสวรรค์นี้ข้ามอบให้เจ้า!”
พูดไปเย่หยวนก็ดีดโอสถฟื้นฟูเทพออกไปให้แก่ทหารผู้นั้น!