“โอสถทอง! โอสถทองระดับเก้า!”
ในหมู่คนที่ดูเรื่องราวอยู่นั้นมีหลายคนที่อุทานขึ้นมาแทบพร้อมๆ กัน
เพราะสิ่งที่อยู่ในมือถังหยูนั้นมันคือโอสถสีทองสว่างจ้า!
ไม่ต้องวัดคุณภาพใดๆ เพราะมันคือโอสถทองระดับเก้าอย่างแน่นอน!
ที่ด้านข้างนั้นตัวถังจินหัวได้แต่ต้องอ้าปากค้างออกมา
เขานั้นคิดไปถึงขั้นว่าเย่หยวนลืมลูกชายของเขาไปจึงมีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่ในใจเป็นอย่างมาก
ใครจะไปคิดคาดว่าเย่หยวนนั้นกลับเอาโอสถทองระดับเก้ามาให้ลูกชายของเขาแทน!
“พ่อ ข้าก็บอกแล้วไม่ใช่หรือ? ท่านพี่นั้นไม่ลืมข้าหรอก! ที่เขาหลอมโอสถสวรรค์ทั้งหลายให้ผู้คนก่อนหน้ามันก็เพื่อจะฝึกฝนฝีมือเท่านั้น!” ถังหยูกล่าวขึ้นมา
หลังรู้จักกันมาหลายปี เขาก็ย่อมจะเข้าใจเย่หยวนได้ไม่น้อย
ในเมื่อเย่หยวนเริ่มหลอมโอสถฟื้นฟูเทพได้แล้ว เขาย่อมจะไม่มีทางลืมตัวถังหยู
เพราะฉะนั้นตอนที่ถังจินหัวบ่นออกมาก่อนหน้าตัวถังหยูจึงได้แต่บอกให้พ่อใจเย็น
แน่นอนว่าสิ่งที่ดีที่สุดมันก็มาตกในมือของเขาจริงๆ!
“ขอบคุณท่านพี่!” ถังหยูกล่าวขึ้นมา
“มันเป็นสิ่งที่ข้าติดค้างเจ้ามาแต่แรกอยู่แล้ว!” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป
คนอื่นๆ ที่ได้เห็นนั้นต่างจ้องมองมาด้วยความริษยา
การเป็นสหายกับอาจารย์เย่ได้นั้นมันย่อมจะเหมือนดั่งได้รับพรจากสวรรค์!
“ท่านราชครู ยอมรับหรือยังเล่า?” เย่หยวนหันไปถามหลินหลานด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก
หลินหลานนั้นไม่อาจจะตอบกลับใดๆ ได้ เขานั้นตกตะลึงกับวิชาโอสถของเย่หยวนอย่างมาก!
ยอมรับหรือไม่?
แน่นอนว่าเขานั้นยอมรับความพ่ายแพ้นี้สุดใจ!
คนที่สามารถหลอมโอสถฟื้นฟูเทพขึ้นไปได้ถึงระดับของโอสถทองระดับเก้า มีหรือที่เขาจะยังไม่ยอมรับได้?
เขานั้นเองก็เป็นคนที่มุ่งมั่นในเส้นทางแห่งการโอสถเพียงแค่ว่าการแก่งแย่งอำนาจปกครองในอาณาจักรตะวันออกมานานหลายปีมันทำให้เขาลืมเลือนเป้าหมายชีวิตแต่ก่อนไปสิ้น!
ความพ่ายแพ้นี้ของเขามันจึงไม่อาจจะปฏิเสธได้ ย่อยยับสิ้นเชิง!
เขาได้แต่ค่อยๆ เดินหันหลังไปอย่างไม่คิดพูดกล่าวอะไร
จากนั้นมันก็มีคนเห็นว่าราชครูหลินหลานเดินทางออกจากเมืองไป ไม่ทราบได้ว่ามุ่งหน้าไปไหน
ทางจักรพรรดิเองก็ไม่คิดจะรั้งตัวเขาไว้เช่นกันเพราะเขานั้นรู้ดีว่าความพ่ายแพ้ของหลินหลานนั้นมันคงทำลายความหวังใดๆ ในชีวิตของเขาลงสิ้น
“ได้เห็นอาจารย์เย่ลงมือวันนี้มันทำให้ข้าตกตะลึงนัก! พวกเราต้องการแต่งตั้งท่านอาจารย์เย่หยวนขึ้นเป็นราชครูของอาณาจักร อาจารย์เย่พอจะตอบรับมันได้หรือไม่?”
พูดจบองค์จักรพรรดิก็ถึงขั้นก้มหัวลงให้เย่หยวนต่อหน้าผู้คนทั้งหลาย!
นี่มันคือการให้เกียรติอย่างถึงที่สุด!
เฉียวไคหยวนในเวลานี้กำลังเชิญเย่หยวนขึ้นมาจากใจจริง มิใช่แค่ทำตามคำเดิมพันใดๆ!
แต่ทุกคนต่างก็ยอมรับได้สิ้น
เพราะเย่หยวนมีค่ามากพอ!
แค่วิชาการหลอมโอสถของเย่หยวนที่ได้แสดงออกมานี้ ตำแหน่งราชครูมันจะมีค่าใด?
แท้จริงหากมองดูแล้วตำแหน่งราชครูมันอาจจะไม่สมเกียรติกับฝีมืออันเหนือล้ำของเย่หยวนด้วยซ้ำไป!
เย่หยวนจึงได้ตอบกลับไป “ในเมื่อฝ่าบาทลงทุนเชิญถึงขนาดนี้ เย่ผู้นี้เองก็คงต้องตอบรับเท่านั้นแล้ว!”
…
เมื่อคนเราบรรลุเต๋า แม้แต่หมูหมาของเขาก็จะได้บรรลุสวรรค์ด้วย
การผงาดของเย่หยวนนั้นมันได้ทำให้ตระกูลถังกลายเป็นตระกูลใหญ่ที่สุดในอาณาจักรตะวันออกทันที!
อำนาจของตระกูลถังนั้นมันแทรกซึมไปในทุกส่วนของอาณาจักรตะวันออกอย่างรวดเร็ว
จักรพรรดิเองก็ได้ประกาศออกมาสู่โลกภายนอกว่าองค์ชายรองนั้นจะกลายเป็นองค์รัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรงในการสืบราชบัลลังก์และจะขึ้นมารับตำแหน่งในอีกสามปี
พวกตระกูลหยาง เจียงยู่และหลู่หยุนนั้นเองต่างก็ผงาดขึ้นมาในอาณาจักรตะวันออกเช่นกัน
แต่ขณะที่เรื่องราวทั้งหลายมันกำลังค่อยๆ สงบลงนั้นเองที่กลับมีเรื่องใหญ่อีกอย่างหนึ่งเกิดขึ้นมา
เช้ามืดวันหนึ่งหลังจากผ่านเรื่องวันนั้นไปได้ราวครึ่งเดือน วันนี้เป็นวันที่ฟ้าโปร่งอย่างมาก
“เอ๋ ทำไมมันกลับมีคนมาคุกเข่าลงหน้าคฤหาสน์ราชครูท่านเล่า?”
“ฮ่าๆ มันจะแปลกอะไร? ตั้งแต่ที่อาจารย์เย่ท่านขึ้นมาครองตำแหน่งราชครูนั้นมันก็มีคนมากมายหลั่งไหลมาขอร้องให้ท่านหลอมโอสถสวรรค์ให้ ข้าว่าคนผู้นี้เองมันก็คงแค่อยากได้โอสถใช่หรือไม่เล่า?”
“ไม่ใช่แล้ว เจ้าดูดีๆ ก่อนสิ ทำไมเขาถึงได้ดูเหมือนท่านราชครูเช่นนี้?”
“ท่านราชครู? นี่เจ้าตาบอดหรือ? ทำไมท่านราชครูจะต้องมานั่งคุกเข่าหน้าบ้านตัวเองด้วย?”
“ไอ้โง่ ข้าไม่ได้พูดถึงราชครูเย่ ข้าพูดถึงราชครูหลิน หลินหลานน่ะ!”
“หืม? จ-จริงด้วย! ม-มันคงกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่! อาจารย์หลินนั้นกลับมาถึงเมืองแล้วและยังมานั่งคุกเข่าหน้าคฤหาสน์ราชครู!”
…
เมื่อตะวันเริ่มส่องแสงสว่างขึ้นเวลานี้หน้าคฤหาสน์ราชครูมันก็แทบจะไม่มีที่ให้คนได้หายใจอีก
อดีตราชครูนั้นกลับมานั่งคุกเข่าหน้าคฤหาสน์ราชครู เรื่องราวเช่นนี้ต่อให้จะไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่มันก็คงไม่มีทางเป็นไปได้!
เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมจะไม่มีทางหลุดรอดสายตาสอดรู้ของคนทั้งหลายไปได้
แต่หลินหลานนั้นก็ไม่ได้คิดจะขยับไปไหนแม้แต่น้อย ยังคงนั่งคุกเข่าลงเช่นนั้น
ถังหยูนั้นเดินออกมาจากคฤหาสน์ราชครูและมองดูหลินหลานด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น “อาจารย์หลินมาทำอะไรหรือ?”
เวลานี้แขนที่ขาดของถังหยูมันงอกคืนกลับมาใหม่อย่างสมบูรณ์แล้ว
ที่สำคัญไปกว่านั้นหลังจากที่เขากลืนโอสถสวรรค์ปรับฐานลงไปกำลังฝีมือของเขาก็บรรลุขึ้นไปถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นปลายได้ไม่ยาก
หลังจากที่เย่หยวนย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ราชครูถังหยูก็ได้ปล่อยให้ถังจินหัวจัดการเรื่องราวของตระกูลถังไป
และตนเองมาทำงานเป็นเลขาของคฤหาสน์ราชครูแทน
เมื่อหลินหลานได้ยินเช่นนั้นเขาก็กล่าวขึ้น “ข้านั้นมากราบเขาเป็นอาจารย์!”
“กราบเป็นอาจารย์?” เมื่อถังหยูได้ยินเขาก็อดไม่ได้ที่จะต้องเลิกคิ้วสูงขึ้น
อดีตราชครูผู้ยิ่งใหญ่ นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสองนั้นกลับจะมากราบอาจารย์
คนทั้งหลายที่มุงดูอยู่รอบๆ ต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน
“ก-กราบอาจารย์ ข้าหูฝาดไปหรือ?”
“ตลกนัก! อาจารย์หลินนั้นเป็นศัตรูแค้นกับอาจารย์เย่มิใช่หรือ? เขานั้นจะทิ้งศักดิ์ศรีและกราบอาจารย์เย่เป็นอาจารย์จริง?!”
“นี่อาจารย์หลินคงไม่ได้คิดทนความอับอายเพื่อจะสร้างภัยให้อาจารย์เย่ในวันหน้าหรอกใช่ไหม?”
“เป็นไปได้!”
…
ไม่มีใครเชื่อว่าอดีตราชครูผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยปกครองวงการโอสถทั้งอาณาจักรตะวันออกคนนั้นกลับจะทิ้งศักดิ์ศรี
เพื่อกราบเย่หยวนเป็นอาจารย์จริงๆ!
ความตกตะลึงที่เกิดขึ้นในจิตใจของพวกเขานี้มันเหนือล้ำเกินบรรยาย
ต่อให้จะเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมอย่างถังหยูเองก็ยังต้องยืนนิ่งไปนาน
“ไปเสีย ไปให้พ้น! ท่านอดีตราชครู หากท่านยังมาก่อเรื่องอยู่เช่นนี้อย่าได้หาว่าข้าไม่ไว้หน้าท่าน!” ถังหยูกล่าวไล่ขึ้นเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงมาเพื่อสร้างเรื่องเป็นแน่
หลินหลานนั้นยังคงตอบกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉยและหนักแน่น “ตามสบาย! วันนี้หากข้าไม่ได้เห็นเย่หยวน เฒ่าคนนี้จะไม่ขอไปที่ไหนทั้งสิ้น!”
ถังหยูขมวดคิ้วแน่นก่อนจะตอบกลับมา “เจ้าคิดมาหาเรื่องแล้ว?”
หลินหลานไม่คิดตอบกลับใดๆ ถังหยูไป
ถังหยูจึงหัวเราะขึ้นมา “หลินหลาน เจ้าคิดหรือว่าแค่เพราะตัวเองมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่แล้วคนอื่นๆ ในเมืองจักรพรรดินี้จะไม่มีปัญญาทำอะไรเจ้า? ข้าจะบอกให้ เวลานี้อาจารย์หยุนท่านนั้นอยู่ในคฤหาสน์ราชครูเช่นกันและท่านก็บรรลุขึ้นไปถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ขั้นกลางแล้ว!”
ได้ยินเช่นนั้นดวงตาของหลินหลานก็ต้องเบิกกว้างขึ้นมา
แต่ไม่นานความตกตะลึงนั้นมันก็จางหายไป!
เมื่อถังหยูได้เห็นว่าหลินหลานไม่คิดฟังคำคนอีกเขาจึงได้กลับเข้าไปเรียกหลู่หยุนและทหารออกมาจัดการ
เมื่อมีหลู่หยุนอยู่ด้วยแล้ว เขาก็ย่อมจะมีความมั่นใจมากกว่าเก่าเป็นอย่างมาก
หลังจากที่หลู่หยุนกลืนโอสถสวรรค์ปรับฐานเข้าไปนั้นรากฐานการบ่มเพาะของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นมา
กำลังฝีมือของเขาเองก็พัฒนาขึ้นได้อย่างมากหลังจากนั้นบรรลุขึ้นไปถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ขั้นกลางในทันที!
“พวกเจ้า! ไล่มันไปเสีย!” ถังหยูหันไปสั่งทหารทั้งหลาย
เหล่าทหารทั้งหลายนั้นเดินมาดันและผลักตัวหลินหลานออกไป
แต่ตัวเขาย่อมจะไม่ขยับเคลื่อนแม้แต่น้อย
แน่นอนว่านักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยมันย่อมจะไม่มีทางลากตัวนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ได้
แต่หลินหลานเองก็ไม่คิดตอบโต้
เหล่าทหารยามทั้งหลายนั้นทั้งดึงและเตะแต่เขาก็ยังไม่คิดตอบโต้
“หยุด!” เมื่อหลู่หยุนได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะก้าวขึ้นมาสั่ง
เขาเดินมาหยุดลงหน้าหลินหลานก่อนจะกล่าวขึ้น “เจ้าคิดจะมากราบเย่หยวนเป็นอาจารย์จริงๆ?”
หลินหลานตอบกลับไป “ข้าตัดสินใจมาแล้ว!”
หลินหลานขมวดคิ้วแน่นถาม “ทำไมข้าถึงต้องเชื่อเจ้าด้วย?”
หลินหลานจึงตอบกลับไป “พูดต่อไปมันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ข้าจะใช้การกระทำพิสูจน์ให้เห็นเอง!”
หลู่หยุนนั้นได้พบว่าหลินหลานในเวลานี้มันดูแตกต่างไปจากเมื่อก่อนอย่างมาก
เขานั้นรู้สึกได้ว่าหลินหลานนั้นไม่ยึดติดกับอะไรอีกต่อไป ราวกับว่าบนบ่าของเขานั้นไม่มีน้ำหนักใดๆ อยู่
ไม่มีความเศร้าหรือดีใจ ไม่มีความโอหังหรืออับอาย!
หลินหลานผู้นี้ดูราวกับเป็นคนละคนที่กับหลินหลานที่เขาเคยรู้จัก!
ท่าทางเช่นนี้มันย่อมจะไม่มีทางแสแสร้งทำได้
“ได้ ข้าจะไปบอกท่านราชครูให้! ส่วนเรื่องที่ว่าเขาจะออกมาพบเจ้าหรือไม่นั้น มันมิใช่สิ่งที่ข้าจะไปตัดสินใจแทนได้!” หลู่หยุนบอก