ตอนที่ 1480 : จิตวิญญาณของหอคอยอนัตตา

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1480 : จิตวิญญาณของหอคอยอนัตตา

“อมตะเที่ยงแท้ ! เทพกระบี่ ! ” เจี้ยนเฉินกำหมัดแน่นพร้อมกับความคาดหวังที่ปรากฏขึ้นมาในตา พลังของปราณกระบี่ทั้งสี่ที่ถูกทิ้งไว้โดยนิพพานอมตะเที่ยงแท้นั้นทำให้เขาต้องตกใจ มันสร้างความประทับใจที่ไม่อาจลืมเลือนให้กับเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินได้แสดงอารมณ์ที่ยากจะแสดงออกมา ความปรารถนา ความต้องการความแข็งแกร่ง ความต้องการที่จะเป็นอมตะเที่ยงแท้และเทพกระบี่

“ถ้าข้ามีความแข็งแกร่งมากพอ โลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งคงไม่อาจจะเป็นภัยต่อทวีปเทียนหยวนได้ ไม่ใช่แค่ความแข็งแกร่งเพื่อการปกป้อง แต่มันยังใช้ไว้ปกป้องคนที่ใกล้ชิดกับข้ารวมถึงบ้านเกิดข้าด้วย ในโลกนี้ถ้าเจ้าไม่ได้มีความแข็งแกร่งมากพอ เจ้าก็ไม่มีค่า เจ้าไม่อาจจะกำหนดชีวิตตัวเองได้” เจี้ยนเฉินคิด เขาตัดสินใจที่จะแข็งแกร่งให้ได้อย่างนิพพานอมตะเที่ยงแท้ นี่ไม่ใช่แค่ความต้องการในฐานะนักสู้แต่ยังเป็นเพราะเขาต้องการเห็นโลกอื่นเหนือไปจากนี้

เจี้ยนเฉินเหมือนจะคิดถึงบางอย่างและถามขึ้นมา ” จือหยิง ฉิงโซว กระบี่ม่วงฟ้านั้นเหมือนกับนิพพานอมตะเที่ยงแท้ อาวุธเทพที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกอมตะ แต่ละเล่มเป็นของนิพพานอมตะเที่ยงแท้ได้หลอมรวมกับความเข้าใจของเขาซึ่งทำให้กระบี่ทั้งสี่มีความสามารถของตัวเอง เจ้าเทียบได้กับกระบี่ทั้งสี่ เจ้ามีความสามารถอะไรกัน ?”

“กระบี่จือหยิงได้ขึ้นถึงขีดจำกัดพลังหยางในจักรวาลซึ่งรู้จักกันในชื่อพลังหยางสูงสุด ข้าสามารถเผาโลกนับไม่ถ้วนและถึงกับเผากฎของโลกได้ กระบี่ฉิงโซวขึ้นถึงขีดจำกัดหยินสูงสุดซึ่งรู้จักกันในชื่อพลังหยินสูงสุด ยกตัวอย่างง่าย ๆ มันสามารถแช่แข็งโลกและทุกอย่างรวมถึงหยุดเวลาได้ ถ้ากระบี่รวมกันและหยินกับหยางสูงสุดรวมกันแล้ว การรวมกันนี้จะสร้างพลังบรรพกาลขึ้นมาซึ่งทรงพลังยิ่งกว่าเดิม มันสามารถกำจัดทุกอย่างในโกลได้แต่โชคร้ายที่ฉิงโซวกับข้าได้รับบาดเจ็บหนักในสงครามและยังไม่ได้รับการฟื้นฟู ดังนั้นเราจึงไม่อาจจะใช้หยินและหยางสูงสุดได้ เรามีแค่ความสามารถของจิตวิญญาณกระบี่เท่านั้น” จือหยิงพูดขึ้น

“นายท่าน แม้ว่าจือหยิงกับข้าจะสามารถใช้หยินหยางสูงสุดได้ แต่คุณภาพของกระบี่ทั้งสองเล่มตอนนี้ยังไม่เพียงพอที่จะรองรับพลังงานเราได้ พวกมันทนได้หลังจากที่ขึ้นเป็นอาวุธอมตะ และรวมกับความจริงที่ว่าเราสองคนสร้างจากปราณหยินและปราณหยางที่แยกตัวออกจากความโกลาหลและได้รับความฉลาดมา หยินหยางสูงสุดคือพลังงานสำคัญของเรา การใช้มันเกินตัวจะทำให้เราบาดเจ็บ สำหรับการหลอมรวมกระบี่ที่พูดถึงแล้ว มันดีที่สุดที่ท่านจะไม่ลองมัน เพื่อจะฆ่าเทพเจ้าสงครามซึ่งเป็นอัครสูงสุด เจ้าของคนก่อนได้ใช้การหลอมรวมและระเบิดพลังแห่งการทำลายออกมา แม้ว่าเขาจะทำการฆ่าอัครสูงสุดสูงสุดสำเร็จ แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บจากผลของการหลอมรวมเช่นเดียวกัน ผลกระทบนั้นน่ากลัวอย่างมากและแม้ว่าเป็นหนึ่งในห้าอมตะเที่ยงแท้ แต่เจ้าของคนเก่าก็ยังทนรับไม่ไหวก่อนจะตายไป กระบี่ม่วงฟ้านี้มีคุณภาพเท่ากับหอคอยอนัตตาและกระบี่ทั้งสี่ของนิพพานอมตะเที่ยงแท้จะถูกทำลายในท้ายที่สุด จือหยิงกับข้าได้รับบาดเจ็บจนไม่อาจจะคาดถึงเหลือทิ้งไว้แค่เพียงจิตวิญญาณ ถ้าไม่ใช่ความจริงที่เรากำเนิดขึ้นจากเส้นพลังปราณหยินและหยางซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกทำลาย เราคงระเหยไปในตอนที่กระบี่โดนทำลาย” ฉิงโซวพูดขึ้นมา นางยังคงรู้สึกกลัวตอนที่คิดย้อนกลับไปในสิ่งที่เกิดขึ้น

” อาวุธอมตะขั้นสูงสุด ” – เจี้ยนเฉิน พึมพำออกมาเบาๆและอดไม่ได้ที่จะคิ้วขมวด เขาพยายามรวบรวมวัสดุเพื่อสร้างดาบสีครามแต่ดาบที่เขาสร้างขึ้นมานี้สุดท้ายก็เป็นได้แค่อาวุธอมตะขั้นกลาง ระหว่างขั้นกลางกับขั้นสูงสุดนั้นคือขั้นสูง ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหาวัสดุคุณภาพสูงแบบนั้นว่าเขาจะหามันทั่วทั้งโลกก็ตาม

วัสดุที่ใช้ในการสร้างกระบี่อมตะคุณภาพสูงนั้นยากจะปรากฏขึ้นในโลกนี้หรืออาจจะไม่เคยปราฏขึ้นมาเลย

“หากข้าต้องการสร้างอาวุธอมตะคุณภาพสูงสุดขึ้นมา ข้าต้องไปยังโลกเซียนหรือโลกอมตะเพื่อหาวัสดุ ในเวลาเดียวกันเปลวไฟบรรพกาลก็จะต้องบริสุทธิ์เพื่อจะสร้างอาวุธอมตะขั้นสูงสุดขึ้นมา การสร้างมันขึ้นมาตอนนี้ยังคงห่างไกลจากตัวข้า แต่เมื่อข้าสร้างมันขึ้นมารวมถึงจือหยิงกับฉิงโซวฟื้นตัวขึ้นมาบ้าง พลังหยินและหยางก็จะทำให้ข้าแข็งแกร่งขึ้น” เจี้ยนเฉินคิด เขามองออกไปยังโลกด้านนอกด้วยตาที่เป็นประกาย

“หอคอยอนัตตานี้ถูกทิ้งไว้โดยอัครสูงสุดอนัตตา มันต้องมีสมบัติของเขา ข้าสงสัยว่าข้าจะหาวัสดุในการสร้างอาวุธอมตะขั้นสูงสุดที่นี่ได้หรือไม่ แต่ข้าควรจะจัดการกับเรื่องตรงหน้าก่อนและครอบครองหอคอยนี้ให้เร็วสุด” ตอนที่ความคิดต่างได้ข้อสรุป กระบี่ม่วงฟ้าก็เริ่มหมุนรอบกันก่อนจะพุ่งออกไปยังท้องฟ้า พวกมันส่งเสียงดังก้องไปทั่ว

แสงส่องประกายขึ้นมาในตาของเจี้ยนเฉิน จู่ ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้น ครั้งนี้กระบี่ทั้งสองเล่มได้บินออกไปเองไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องการให้มันบินออกไป

กระบี่ทั้งสองเล่มเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วแทงทะลุเมฆในคราวเดียว แสงที่มันส่องประกายออกมาให้ความสว่างกับพื้นที่นั้นจนทำให้เมฆหนาในท้องฟ้าสลายไปและเผยให้เห็นดวงอาทิตย์อยู่เบื้องบน กระบี่ทั้งสองเล่มได้พุ่งเข้าหาดวงอาทิตย์

แต่ดวงอาทิตย์ในท้องฟ้าจู่ ๆ ก็ปลดปล่อยแสงอันเหลือเชื่อออกมา แสงนั้นทรงพลังจนเจี้ยนเฉินต้องหลับตาและใช้มือปิดตาตนเอง กระบี่ทั้งสองสั่นเพราะความเจ็บปวด

แต่ดวงอาทิตย์ก็หยุดเคลื่อนไหว มันกลับแผ่แสงออกมาต่อและขยายตัวอย่างรวดเร็วตกลงมาด้วยความเร็วอันน่ากลัวและสร้างแรงกดดดันอันน่ากลัวออกมาด้วย

มันดูเหมือนจุดจบของโลก ดวงอาทิตย์ที่ตกลงมาและท้องฟ้าที่ครอบคลุมมันเอาไว้ นี่คือฉากที่ยิ่งใหญ่ ด้านล่างมัน กระบี่ม่วงฟ้าได้พุ่งขึ้นเป็นเป็นลำแสงโจมตีเข้าใส่ดวงอาทิตย์ด้วยพลังที่ไม่อาจจะหยุดยั้งได้

ตูม !

ดวงอาทิตย์และกระบี่ได้ปะทะกันในท้องฟ้าจนเกิดระเบิดขึ้นมา ท้องฟ้าเหมือนกับผ้าที่ทอด้วยด้ายสีม่วงกับฟ้าและแสงอาทิตย์ที่เปล่งประกายซึ่งทำให้ทั้งโลกนี้มีสีสันหลากสีอาบทอ

หลังจากการโจมตีนี้ กระบี่ม่วงฟ้าก็พุ่งกลับมาข้างกายเจี้ยนเฉิน ดวงอาทิตย์ที่กำลังตกเองก็หยุดไปด้วย มันเปล่งแสงสลัวออกมาราวกับว่าพระอาทิตย์กำลังตกดินแต่ยังไม่ลดตัวลงไปไม่หมด

“จิตวิญญาณของหอคอย สุดท้ายเราก็จะพบเจ้าไม่ว่าเจ้าจะซ่อนอยู่ที่ไหนก็ตาม อย่างที่เราคาดไว้ เจ้าอ่อนแอ” ร่างของจือหยิงปรากฏขึ้นมามองไปยังดวงอาทิตย์ในท้องฟ้า เขากำลังพูดกับมัน

ฉิงโซวเองก็ปรากฏตัวขึ้นข้างกาย จือหยิง นางมองไปที่ท้องฟ้าด้วยตาอันงดงามของนางและพูดขึ้น “จิตวิญญาณของหอคอย ไม่ใช่แค่เจ้าอ่อนแอแต่เจ้ายังไม่สมบูรณ์ เจ้าจะเป็นคู่ต่อสู้ของเราได้อย่างไรในสภาพนี้ ? ทำไมเจ้าไม่ยอมจำนนให้กับเจ้านายของเราและเราจะไว้ชีวิตเจ้า”