ตอนที่ 1389 บทสรุปที่ประสบความสำเร็จ!

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

การถกเถียงกันอย่างดุเดือดเกี่ยวกับอารยธรรมนอกโลกยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

ลู่โจวจัดระเบียบบทความในช่วงสองสามวันหลังจากนี้ ในช่วงนี้เขาได้ยินนักศึกษาซุบซิบนินทาเกี่ยวกับซากอารยธรรมดาวอังคารขณะทานอาหารในโรงอาหาร แม้แต่พ่อของเขาเองก็ยังถามเขาอย่างติดตลกทางโทรศัพท์ว่ามีการค้นพบใหม่ครั้งใหม่จริงหรือ

ดูเหมือนว่าแม้แต่ชายสูงวัยของรัฐวิสาหกิจในเมืองเล็กๆ ก็เริ่มพูดถึงเรื่องอารยธรรมนอกโลกและดาวอังคาร

อันที่จริงแล้วแม้ว่าลู่โจวที่เพิ่งกลับมาจากการเก็บตัวจะรู้สึกปุบปับหลังจากที่ได้รู้เรื่องพวกนี้ แต่สำหรับคนอื่นๆ บนโลก แต่เหตุการณ์นี้มันไม่ได้ปุบปับเลย

ก่อนอื่นเลยเป็นเพราะประเทศจีนไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดในครั้งเดียว พวกเขาใช้เวลากว่าสองอาทิตย์ในการบอกล่วงหน้า โดยพวกเขาค่อยๆ ดึงความสนใจของสาธารณชนไปที่ภูเขาเดอะเกตส์ออฟเฮลล์ หลังจากนั้นก็เริ่มเปิดเผยถึงเรื่องราวของถ้ำที่พบซากปรักหักพัง มันถูกจัดให้เป็นโครงสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วซึ่งนำไปสู่บทสรุปของอารยธรรมดาวอังคาร

การค่อยๆ เผยแพร่ข่าวอย่างช้าๆ ทำให้ประชาคมระหว่างประเทศมีเวลาในการแยกแยะข้อมูลที่มากมายมหาศาล

ลู่โจวเพิ่งศึกษาเรื่องนี้ได้ไม่นาน

หลังจากที่เรียนรู้เรื่องเหล่านี้แล้ว ลู่โจวรู้สึกว่าความเร็วของการเผยแพร่ข้อมูลในสังคมสมัยใหม่เป็นเรื่องเหนือจินตนาการ เขาไม่ได้เข้าอินเทอร์เน็ตแค่สี่อาทิตย์ แต่กลับรู้สึกว่าตัวเองตามเวลาไม่ทัน

แล้วถ้าเขาหายไปนานกว่านั้นหรืออาจจะเป็นร้อยปี…

จู่ๆ ความกังวลก็ทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงเรื่องนั้น

“บทความถูกเรียบเรียงและเซ็นโดยกลุ่มวิจัย LSPM ผมอัปโหลดสำเนาลงใน arXiv และแนบเพจสื่อสารชั่วคราวที่ผมสร้างขึ้นมาเองเข้าไปด้วย โหมดการแลกเปลี่ยนความเห็นก็คล้ายๆ กับ BBS ชื่อของมันคือ LSPM ผมส่งบัญชีผู้ดูแลและพาสเวิร์ดไปให้คุณทางอีเมลแล้ว ถ้าคุณสนใจ คุณสามารถอ่านความเห็นของนักวิชาการคนอื่นในสายงานนี้ได้”

“ถ้าไม่มีใครเจอปัญหาอะไร บทความเวอร์ชันสุดท้ายจะถูกตีพิมพ์ในวารสารฟิวเจอร์ในช่วงปลายปี แน่นอนว่าถ้าคุณมีความเห็นอื่นๆ คุณสามารถส่งเข้ามาและปรึกษาร่วมกันก็ได้”

ชูลทซ์ยิ้มและพูด “ผมไม่มีความเห็นอะไรทั้งนั้น ทำตามที่คุณบอกได้เลย”

ชินอิจิ โมจิซูกิ “ผมก็เหมือนกัน”

เพเรลมานไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่พยักหน้า

สำหรับสี่คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ เกียรติยศและชื่อเสียงไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเขา อีกอย่างเมื่อเทียบกับปัญหาที่พวกเขากำลังศึกษาอยู่ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเรื่องวารสารไม่คู่ควรที่จะพูดถึงด้วยซ้ำ พวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้อิทธิพลของวารสารเพื่อให้คนรู้จักผลการวิจัยของพวกเขามากขึ้น

ทันทีที่ตัวอักษรสี่ตัว LSPM ถูกเขียนลงบนบทความ มันก็ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกทันทีที่ถูกตีพิมพ์

แม้ว่าพวกเขาจะสุ่มหาวารสารของโรงเรียนเพื่อตีพิมพ์บทความ แต่สุดท้ายแล้ววารสารของโรงเรียนนั้นจะถูกขายจนหมด..

หลังจากอัปโหลดสำเนาเรียบร้อยแล้ว ลู่โจวขอให้เสี่ยวไอที่ตอนนี้รับผิดชอบในการดำเนินการและบำรุงรักษาฟอรั่ม LSPM ให้เปิดการลงทะเบียนสำหรับเว็บไซต์ นี่คือขั้นตอนสุดท้ายของโปรเจกต์ข้อคาดการณ์ ABC

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของกลุ่มวิจัย LSPM ลู่โจวจึงจองโต๊ะสำหรับสี่คนที่ร้านปลาย่างใกล้มหาวิทยาลัยจินหลิง แม้แต่คนอย่างชินอิจิ โมจิซูกิ ที่ไม่เคยจะเข้ากิจกรรมทางสังคมก็มาด้วยครั้งนี้

พูดถึงเรื่องนี้แล้วมันค่อนข้างน่าคิดถึง แม้ว่าร้านจะได้รับการปรับปรุงใหม่หลายครั้ง แต่เจ้าของร้านและรสชาติของอาหารก็ยังเหมือนเดิม ลู่โจวยังคงจำได้ว่าตอนที่เขากำลังศึกษาระดับปริญญาตรี สมาชิกหอพักห้อง 201 มักจะมาที่นี่กัน เจ้าของร้านนำเบียร์ฟรีมาให้พวกเขาอยู่เรื่อยๆ

เวลาก็ผ่านไปหลายปีแล้ว เพื่อนร่วมหอของเขาก็แยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง เขาเป็นคนเดียวที่ยังอยู่แถวๆ นี้ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอายทุกครั้งที่นึกถึงมัน

แต่วันนี้ไม่ใช่วันที่จะมานึกถึงความหลัง

ปลาย่างจานโตถูกนำมาวางบนโต๊ะ ลู่โจวยกแก้วในมือและพูดพร้อมรอยยิ้ม

“ดื่มให้กับผลสรุปของโปรเจกต์วิจัย LSPM”

“เชียร์ส! ”

เสียงแก้วกระทบเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ คนทั้งหมดทานปลาย่างขณะดื่มเบียร์

“นี่เป็นประสบการณ์ที่สนุกที่สุดที่ผมเคยมีส่วนร่วมเลยนะและคุ้มค่าที่สุดด้วย เดิมทีผมตั้งใจว่าจะอยู่นี่ครึ่งปี แต่ผมไม่คิดเลยว่าทุกอย่างจะราบรื่นขนาดนี้”

หลังจากที่ดื่มกับลู่โจวและคนอื่นๆ ชูลทซ์ยิ้มและพูดต่อ

“…แต่ก็อย่างที่เขาพูดกัน เรื่องดีๆ มักสิ้นสุดเสมอ พรุ่งนี้ผมจะกลับไปมหาวิทยาลัยบอนน์ ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์รบเร้าให้ผมกลับไปตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ไหนๆ การพิสูจน์ข้อคาดการณ์ ABC ก็สมบูรณ์แล้ว ผมควรกลับไปสอนและทำวิจัยต่อ”

ตอนที่ชินอิจิ โมจิซูกิได้ยินชื่อของศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ คิ้วของเขากระตุกด้วยความโกรธ เขาเอื้อมมือไปหยิบถ้วยของเขาและดื่มเพื่อกลบเกลื่อนความอับอายบนใบหน้า

แต่เนื่องจากท่าทางของเขาแข็งทื่อเกินไป เขาจึงถูกลู่โจวจับได้

มีข่าวลือในวงการคณิตศาสตร์ว่าชายคนนี้เป็นคนที่ร่าเริงมากๆ ก่อนจะเข้าไปยังพรินซ์ตัน เหตุผลที่เขาเก็บตัวหลังจากที่เรียนจบ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะฟาลติ้งส์

แม้ว่าศาสตราจารย์ไวล์สที่เคยพิสูจน์ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มาพูดถึงโมจิซูกิ รวมไปถึงศาสตราจารย์จางโช่วอู๋ ลูกศิษย์ผู้รอบรู้ของฟาลติ้งส์ พวกเขาบอกว่าการได้ศึกษากับตาแก่ชาวเยอรมันนับว่าเป็นการทดสอบความอดทนทางจิตใจ

บางทีอาจจะมีแค่ชูลทซ์ที่คาดหวังว่าจะเอาชนะฟาลติ้งส์สามารถสัมผัสได้ถึงความใจดีของเขา

ลู่โจว “ผมหวังว่าคุณจะเดินทางปลอดภัย”

“ขอบคุณ”

ชูลทซ์พยักหน้า

หลังจากดื่มเบียร์ ชินอิจิ โมจิซูกิไอแห้งๆ และพูดต่อ “ผมวางแผนว่าจะอยู่ที่นี่สักสองเดือนก่อนจะกลับ”

ชูลทซ์ยิ้มและพูด “นั่นเป็นเพราะมหาวิทยาลัยเกียวโตเหรอ ถ้าคุณอยากจะรอจนกว่าความสนใจจะซาลงแล้วค่อยกลับไป คุณก็ไปเยอรมันกับผมก็ได้นะ ที่นั่นก็น่าสนใจดีเหมือนกัน นักคณิตศาสตร์ยุโรปหลายคนคิดว่าคุณและงานวิจัยของคุณน่าสนใจ”

“ไม่ล่ะขอบคุณ ถ้าพวกเขาสนใจจริงๆ พวกเขาสามารถมาหาผมได้ที่ตะวันออก” โมจิซูกิดันแว่นขึ้นและพูดต่อ “ผมตั้งใจว่าจะอยู่ที่นี่สักพักไม่ใช่เพื่อหลบหลีกความสนใจ แต่เพียงเพราะต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับอัลกอริทึมการเข้ารหัสควอนตัม ยังมีอีกตั้งหลายอย่างที่ผมอยากจะศึกษา…ซึ่งมันมาจากความสนใจส่วนตัวล้วนๆ ”

แม้ว่าเขาจะไม่เคยยอมรับว่าเขาคือซาโตชิ นากาโมโตะ แต่ในความคิดของลู่โจวแล้วไม่ว่าเขาจะยอมรับหรือไม่ยอมรับก็ตามก็ไม่ได้แตกต่างกัน ดูเหมือนว่าชินอิจิ โมจิซูกิไม่ได้พยายามปิดบังความจริงข้อนั้นเหมือนกัน

เพเรลมานที่นั่งอยู่ใกล้เขายักไหล่และเล่าถึงแผนการของตัวเอง

“งานวิจัยของผมยังไม่เสร็จ ผมจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะทำเสร็จ”

ชูลทซ์ถามด้วยความสงสัย “ผมขอถามได้ไหมว่าโปรเจกต์วิจัยคืออะไร”

“แน่นอน ข้อคาดการณ์ของฮอดจ์ มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องเก็บเป็นความลับอยู่แล้ว” ศาสตราจารย์เพเรลมานพูดต่อ “นั่นคือสิ่งที่ผมสนใจจริงๆ ผมรู้สึกเข้าใกล้เส้นชัยแล้ว ถ้าพวกคุณมีเวลา พวกคุณมาทำงานกับผมไหม”

ชูลทซ์พูด “ฟังดูน่าสนใจดีนะ”

ชินอิจิ โมจิซูกิ “ผมไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ ผมเกรงว่าผมคงช่วยไม่ได้”

“แม้ว่าผมจะสนใจมากๆ ก็ตาม แต่ผมเกรงว่าผมคงไม่มีโอกาสได้ช่วย…หรือจะรอจนกว่าผมจะกลับมาจากดาวอังคาร” ลู่โจวพูดพร้อมรอยยิ้ม “ทีมสำรวจทางวิทยาศาสตร์ทีมที่สองสู่ดาวอังคารกำลังจะออกเดินทาง ผมเกรงว่าตอนนั้นมันยุ่งไปสำหรับผม”

เขาสังเกตเห็นว่าชินอิจิ โมจิซูกิจ้องเขม็งมาที่เขา เขานิ่งไปครู่หนึ่งและยิ้ม

“มีปัญหาอะไรเหรอ”

“เปล่าครับ” หลังจากที่เงียบไปสักพัก โมจิซูกิถอนหายใจ เขากดแว่นลงและพูด “อีกอย่างผมตั้งใจจะอยู่ที่นี่สักพัก ไว้คุยกันตอนที่คุณกลับมาแล้วก็ได้”

คนทั้งสี่ยังคงนั่งดื่มและทานกันต่อ

นอกเหนือจากการฉลองเรื่องบทความ พวกเขาก็หวังว่าชูลทซ์จะปลอดภัยในการเดินทางที่กำลังจะมาถึง

ขณะที่ทั้งสี่กำลังดื่มและทานอาหารอยู่นั้น พวกเขาไม่รู้เลยว่าพายุกำลังถาโถมเข้ามาเพราะงานวิจัยของพวกเขา

วงการคณิตศาสตร์ทั้งวงการจะต้องช็อกกับบทความของพวกเขา…