มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1408

ภายใต้สถานการณ์ทั่วไป มีเพียงผลการฝึกตนใกล้จะบรรลุถึงแดนเทพฟ้า ถึงจะเริ่มเกิดความรู้สึกร่วมกับออร่าตราประทับ แต่หลัวซิวกลับสัมผัสได้ตั้งแต่อยู่มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 ขั้นสูง ซึ่งนี่ก็หมายความว่าพรสวรรค์และศักยภาพของเขาแข็งแกร่งมาก จนก่อให้เกิดความสนใจจากเทพฟ้าโบราณที่เป็นผู้บุกเบิกโลกแสงดาวล่วงหน้า

“เริ่มต้นจากที่ใด ก็ต้องสิ้นสุด ณ ที่นั่น”

หลัวซิวมั่นใจในตัวเองมาก ๆ เขาไม่ได้ออกจากอาณาจักรเหนือ แต่เป็นการเลือกที่จะไปเขตพื้นที่ที่รกร้างว่างเปล่าที่หนึ่ง ก่อนจะทำการจัดวางค่ายกลระดับเทพไว้รอบ ๆ อย่างแน่นหนา

ใช้ค่ายกลระดับเทพปกคลุมเขตพื้นที่หนึ่งหมื่นไมล์ หลัวซิวใช้เวลาครึ่งเดือนปรับลมปราณและสภาพจิตใจของตัวเองให้อยู่ในสภาวะที่ดีเยี่ยมที่สุด

เขานั่งท่าขัดสมาธิ นำยาจำนวนมากออกมาจากแหวนเก็บของของซือถูเจิ้งเจี้ยน

ยาเซียนที่เหมาะกับการฝึกตนของผู้แข็งแกร่งราชาเทพมากที่สุดก็คือยาเซียนระดับ 7 แต่ทว่าจำนวนยาเซียนที่ระดับสูงถึงระดับ 7 นั้นมีน้อยมาก ๆ จึงส่งผลให้มูลค่าของยาเซียนระดับ 7 สูงมากเกินไป ซึ่งใช่ว่าจะเป็นยาที่ราชาเทพทุกคนจะมีปัญญาใช้ได้

ผลการฝึกตนของซือถูเจิ้งเจี้ยนคือราชาเทพขั้นปฐมภูมิ หากเขาได้รับยาเซียนระดับ 7 เขาต้องรีบใช้มันในทันทีแน่นอน ด้วยเหตุนี้ภายในแหวนเก็บของของเขาจึงไม่มียาเซียนระดับนี้เก็บสะสม

แต่ทว่าไม่มียาเซียนระดับ 7 แต่จำนวนยาเซียนระดับ 6 กลับมีไม่น้อยเลย ถึงแม้มันจะเพิ่มผลการฝึกตนให้ผู้แข็งแกร่งราชาเทพได้น้อยมาก ๆ แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่มีเลย

สำหรับผู้แข็งแกร่งเจ้านภา ยาเซียนระดับ 6 เป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก ในโลกามนุษย์ส่วนมากไม่มีนักเซียนระดับ 6 เลย หากนักเซียนระดับ 6 ปรากฏในโลกามนุษย์ ตำแหน่งของคนคนนั้นอาจจะสูงกว่าเจ้านภาเลยก็ได้

นอกจากยาเซียนระดับ 6 แล้ว ยังมีแก้วเทวชั้นสูงอยู่อีกเป็นจำนวนมาก หลัวซิววางแผนจะใช้ทรัพยากรการฝึกตนเหล่านี้มาเก็บสะสมพลัง เพื่อบรรลุสู่แดนเทพมาร

การบรรลุในแดนใหญ่ ๆ นั้น มาตรแม้นว่าผลการฝึกตนและแดนล้วนครบเงื่อนไขที่กำหนดแล้ว แต่ก็ต้องการพลังจากทรัพยากรจำนวนมากมาสนับสนุนเช่นกัน ถึงจะสามารถบรรลุได้อย่างราบรื่น

เขายกมือแล้วบีบขวดหยดขวดหนึ่งแตก ด้านในมียาเซียนระดับ 6 อยู่สามเม็ด ซึ่งมีพลังบริสุทธิ์ที่มากมายมหาศาลอัดแน่นอยู่

แต่ทว่าหลัวซิวกลับขมวดคิ้วลงเล็กน้อย เนื่องจากยาเซียนระดับ 6 ทั้งสามเม็ดนี้ไม่ใช่ยาบริสุทธิ์ที่ไม่มีสารเจือปนและตันตู๋แต่อย่างใด

เมื่อมองจากมุมนี้แล้วทำให้เห็นว่า จากระดับของนักยาเซียนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ยาเซียนระดับสูงและยาที่บริสุทธิ์ยิ่งล้ำค่าเพิ่มอย่างเห็นได้ชัด

ณ วินาทีนี้เขาอยู่ในช่วงสำคัญของการบรรลุ จึงใช้ยาที่มีสารเจือปนและตันตู๋เช่นนี้มั่วซั่วไม่ได้อยู่แล้ว

ดังนั้นหลัวซิวจึงลบล้างความคิดที่จะกินยาเซียน แต่เปลี่ยนเป็นการใช้ตัวสำนึกห่อหุ้มยาเซียนระดับ 6 ทั้งสามเม็ดนี้ไว้ เพื่อดึงดูดพลังบริสุทธิ์ผสมเข้ามาในร่างกาย

การทำเช่นนี้จะทำให้พลังที่แฝงอยู่ในยาเซียนหายไปเยอะมาก แต่ทว่าก็สามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้สารเจือปนและตันตู๋ที่แฝงอยู่ในยาส่งผลกระทบต่อรากฐานของตัวเองได้เช่นกัน

พลังของยาเซียนระดับ 6 ทั้งสามเม็ดนี้หมดหายไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่มันจะกลายเป็นฝุ่นผงสหายหายไปกลางอากาศ

ลักษณะท่าทางของหลัวซิวไม่มีท่าทีที่จะหยุดลงเลยแม้แต่น้อย บีบขวดหยกขวดอื่น ๆ ให้แตก จากการนำพาของตัวสำนึก ทำให้ยาเซียนทั้งหมดลอยขึ้น ดึงดูดพลังที่มากมายมหาศาลออกมาจากตัวยาเซียน ประกอบเป็นระลอกคลื่นรูปกรวย และด้านล่างของกรวยรูประลอกคลื่นนี้ก็คือตัวหลัวซิว

จำนวนยาเซียนที่มากมายเช่นนี้ เพียงพอที่จะทำให้ผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าช่วงปลายใช้เพื่อบรรลุสู่แดนเจ้านภาแล้ว แต่หลัวซิวกลับใช้มันมาทลายประตูแห่งกฎเกณฑ์บรรลุสู่แดนเทพมาร ช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากจริง ๆ

“โครม……”

จากการที่ร่างกายของหลัวซิวสะสมพลังงานที่มากมายมหาศาลอย่างต่อเนื่อง ก็มีเสียงฟ้าร้องดังมาจากสุดขอบฟ้าที่ทางออกไปไกล เกิดเป็นปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาด

ทิศตะวันออกของโลกแสงดาว มีปราณม่วงปราณหนึ่งลอยขึ้นสูง จากนั้นมันก็ยิ่งอยู่ก็มากขึ้น ปราณม่วงมโหฬารพันลึกแผ่คลุมพื้นที่กว่าแปดหมื่นกว่าไมล์ ตรงทิศตะวันตกมีแสงเรืองที่กว้างใหญ่อย่างไร้ขอบเขตลอยขึ้น เหมือนมีเงาร่างเทพเจ้าลาง ๆ รวมไปถึงมีวังอัมพรลอยอยู่บนแสงเรืองนั่น