บทที่ 1804 ฉิวฉิวก็จนหนทาง + ตอนที่ 1805 รีบพาหมอกู้กลับมา

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1804 ฉิวฉิวก็จนหนทาง

เหยียนหมิงซุ่นกำลังประชุมอยู่กับผู้ใต้บังคับบัญชา ตอหนวดสีเขียวเข้มปรากฏขึ้นตรงคาง ดวงตาแดงก่ำ ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเขาได้นอนไม่เกินสามชั่วโมง เรื่องน่าปวดหัวต่างถาโถมเข้ามาเป็นกอง

ประชุมเพิ่งจะเริ่มไปได้ครึ่งทาง เหยียนหมิงซุ่นก็ได้รับโทรศัพท์จากเสี่ยวอวิ๋น ใบหน้าคร่ำเครียดในทันที

“ทำไมถึงไม่โทรมารายงานให้เร็วกว่านี้? ตอนนี้อาการของเหมยเหมยเป็นอย่างไรบ้าง?”

เสียงของเหยียนหมิงซุ่นเย็นยะเยือกจนน้ำแข็งจะหล่นลงมาได้อยู่แล้ว เสี่ยวอวิ๋นหดตัวพลันเหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มหลัง พูดไปตามตรงว่า “คุณหนูบอกว่ามันไม่อยากให้กระทบต่องานของคุณชายเลยไม่ยอมให้ฉันโทร”

“ฉันจะรีบไปภายในหนึ่งชั่วโมง เธอรีบส่งคนไปตามหาหมอกู้ ต่อให้อยู่สุดขอบฟ้าก็ต้องหาให้เจอ”

เหยียนหมิงซุ่นไม่มีกะจิตกะใจจะต่อว่าเสี่ยวอวิ๋นอีก เขามีลางสังหรณ์ที่แย่มาก ทันใดนั้นจู่ ๆก็นึกถึงความฝันก่อนหน้านั้น

หรือว่าฝันนั้นจะเป็นลางเตือนเขาว่าเหมยเหมยจะเป็นอะไรไป?

เหยียนหมิงซุ่นใจหล่นถึงตาตุ่ม เขาปัดการคาดเดานี้ทิ้งอย่างรวดเร็ว ในฝันมีแค่ทารกอ้วนเพียงคนเดียวไม่มีเหมยเหมยสักหน่อยต้องไม่เกี่ยวข้องกับเธออย่างแน่นอน อาการปวดหัวน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ

เขารีบปิดการประชุมอย่างรวดเร็วและไม่ได้จัดการกับสารรูปของตัวเอง แต่เขารีบไปด้วยความร้อนใจเหมือนไฟที่แผดเผา

ทั้ง ๆที่ตอนไปยังดี ๆอยู่เลยยังไม่ถึงครึ่งเดือนอาการป่วยก็หนักขนาดนี้แล้ว เป็นเพราะต้องไม่ได้กินข้าวดี ๆและไม่ได้นอนตรงเวลาแน่นอน รอหายดีจะลงโทษยัยเด็กน้อยตัวแสบนี่ให้ดู

เวลานี้เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้คิดอะไรมาก เขาคิดว่าเหมยเหมยเขียนหนังสือจนดึกดื่นถึงได้ส่งผลทำให้ปวดศีรษะ เขาตัดสินใจใช้มาตรการบีบบังคับกำหนดว่าตอนที่เขาไม่อยู่หลังสี่ทุ่มครึ่งจะต้องเข้านอน

ครั้นเขาเห็นเหมยเหมยที่นอนสลบไสลอยู่บนเตียงแต่กลับขมวดคิ้วแน่นด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าซีดจนไร้ร่องรอยของเส้นเลือดเหมือนกับดอกไม้เล็ก ๆที่โดนพายุโหมกระหน่ำ ทำเอาเขาปวดใจเหลือเกิน

“หาตัวหมอกู้เจอหรือยัง?” เหยียนหมิงซุ่นถามเสียงต่ำ

“หาเจอแล้ว กำลังรีบนั่งเรือกลับมา น่าจะถึงก่อนหนึ่งทุ่มค่ะ” เสี่ยวอวิ๋นตอบ

เหยียนหมิงซุ่นยกข้อมือขึ้นดู ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสี่โมงครึ่งยังเหลือเวลาอีกสองชั่วโมงครึ่ง เขาให้พวกเซียวเซ่อออกไปจนหมดเหลือแค่ตัวเขาเอง เขาเอนตัวนอนบนเตียงอีกครึ่งหนึ่งแล้วสวมกอดเหมยเหมยไว้ในอ้อมแขน กระซิบข้างหูเธอเสียงเบา เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าเล็กน้อยแต่กลับทำให้หว่างคิ้วของหญิงสาวในอ้อมแขนผ่อนคลายลงมาก

“พี่หมิงซุ่น…”

เหมยเหมยพูดพึมพำกับตัวเอง เหยียนหมิงซุ่นรีบตอบรับ “พี่อยู่นี่…พี่มาแล้ว…”

อาจเป็นเพราะกลิ่นที่คุ้นเคย มุมปากของเหมยเหมยจึงยกสูงขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าถูกับแขนของเหยียนหมิงซุ่น จากนั้นถึงนอนหลับไปอย่างสบายใจ สีหน้าดูดีขึ้นมาหน่อย

เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจอย่างโล่งอก ความเหนื่อยล้าถาโถมเข้ามาแต่เขาฝืนกดมันไว้ ฟุบตัวบนหัวเตียงถามฉิวฉิวที่มีสีหน้ากังวลใจว่า “แกรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายของแก?”

ฉิวฉิวส่ายหน้าอย่างรู้สึกผิด ความสามารถพิเศษของเขาคือการค้นหาสมบัติล้ำค่าไม่ใช่รักษาอาการเจ็บป่วย คราวนี้ไม่มีหนทางรักษาอาการป่วยของนายหญิงได้จริง ๆ

แม้กระทั่งยาวิเศษก็ใช้ไม่ได้ผล เฮ้อ!

เหยียนหมิงซุ่นมองเจ้าตัวเล็กที่พรูลมหายใจยาวเหมือนผู้ใหญ่ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจตามไปด้วย แม้กระทั่งฉิวฉิวก็ไม่เข้าใจ ดูเหมือนว่าอาการปวดศีรษะของเหมยเหมยจะต้องเป็นเรื่องประหลาดอย่างแน่นอน

ความรู้สึกที่ไม่ดีพุ่งถาโถมขึ้นมาอีกครั้ง เหยียนหมิงซุ่นสะบัดหัวตัดสินใจที่จะไม่คิดถึงมันอีก นอนก่อนสักงีบเพื่อให้มีกำลังวังชาขึ้นมาสักหน่อย

เวลาประมาณหกโมงครึ่งเหมยเหมยก็รู้สึกตัวขึ้นมา อาการปวดศีรษะก็ทุเลาลง เธอเพิ่งฟื้นขึ้นมาจมูกก็ได้กลิ่นอันคุ้นเคย ไม่ต้องมองก็รู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นมาแล้ว เขากำลังโอบเธอนอนหลับอยู่

เธอค่อย ๆเงยหน้าขึ้นก็มองเห็นคางที่เต็มไปด้วยเคราบาง ๆของเหยียนหมิงซุ่น ทั้งยังมีรอยคล้ำเข้มที่ใต้ตา พลันทำเอาเธอนึกปวดใจขึ้นมาเหลือเกิน

เฮ่อเหลียนชิงตาแก่โรคจิตนั่นเอาแต่โยนงานให้เหยียนหมิงซุ่น วัน ๆตัวเองกลับเอาแต่เที่ยวเตร็ดเตร่ชมแม่น้ำภูเขา เพลิดเพลินมีความสุขจนหลงลืมภาระหน้าที่ของตัวเอง ปากก็พูดเสียน่าฟังว่าจะฝึกฝนความสามารถในการทำงานของเหยียนหมิงซุ่น

เชอะ ทั้ง ๆที่ขี้เกียจแท้ ๆ!

…………………………………………..

ตอนที่ 1805 รีบพาหมอกู้กลับมา

พอเหยียนหมิงซุ่นตื่นขึ้นมาเห็นว่าเหมยเหมยไม่ปวดศีรษะอีกก็วางใจลงบ้าง กลิ่นหอมจาง ๆของหญิงสาวในอ้อมแขนลอยมาแตะจมูกเป็นครั้งคราวจึงอดไม่ได้ที่จะประทับจูบลงหน้าผากของเธอ ถามเบา ๆว่า “ยังปวดอยู่ไหม?”

เหมยเหมยส่ายหัวไปมาอยู่ในอ้อมกอด ผมนุ่มสลวยปัดผ่านคางของเขาเป็นระยะ ๆ เหยียนหมิงซุ่นปัดผมของเธอออกไปไว้อีกด้านแล้วเอื้อมมือนวดที่ขมับของเธอเบา ๆ “เข้านอนไม่ตรงเวลาใช่ไหม? วาดรูปแล้วนอนดึกอีกแล้วใช่ไหม?”

“เปล่านะ หลายวันมานี้มีเรื่องวุ่นเยอะแยะจะตาย แม้กระทั่งแรงบันดาลใจที่สร้างสรรค์ผลงานฉันยังไม่มีเลย พี่หมิงซุ่นโอหยางซานซานเป็นตัวปลอม เธอฆ่าโอหยางสยง พวกเราเพิ่งคิดวิเคราะห์กันออกมาได้”

เหมยเหมยลำพองใจเป็นอย่างมาก กระหยิ่มยิ้มย่องใจสุด ๆ

เหยียนหมิงซุ่นเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจเพราะเรื่องนี้เขายังไม่รู้จริง ๆ เสี่ยวอวิ๋นมัวแต่กังวลอาการป่วยของเหมยเหมยจึงลืมรายงานเรื่องนี้ไปชั่วขณะ

“เรื่องเป็นมาอย่างไร?” เขาถาม

เหมยเหมยคิดอยากจะพูด จู่ ๆเธอก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยปิดจมูกด้วยท่าทางน่ารัก กลิ้งตัวไปอีกด้านด้วยความรังเกียจ “พี่เหม็นมาก…ไม่ได้อาบน้ำมากี่วันแล้วเนี่ย? รีบไปอาบน้ำเลย…รีบไป…”

เธอพูดพลางก้มหัวลงดมตัวเธอเองพลันถลึงตาจ้องเหยียนหมิงซุ่นอย่างขุ่นเคือง “ทำเอาตัวฉันมีกลิ่นไปด้วยเลย ยังจะมีหน้ามาว่าฉันอีก ฉันไม่ได้ดูแลอยู่ข้างพี่ถึงขนาดอาบน้ำยังไม่ตรงเวลาเลยเหรอ”

เหยียนหมิงซุ่นเริ่มใจเสียเขาไม่ได้อาบน้ำมาแล้วสองวันจริง ๆ แม้กระทั่งเวลานอนยังไม่มีเลยไหนเลยยังจะมีเวลาดูแลสุขอนามัยของตัวเองได้อีก?

“งั้น…อาบด้วยกัน?”

เหยียนหมิงซุ่นยื่นมือดึงสาวงามเข้ามาในอ้อมแขน ยิ้มแล้วเดินไปห้องน้ำ

แน่นอนว่าไม่ได้ทำอะไร เขาไม่ใช่สัตว์ร้ายที่จะลงมือกับภรรยาที่ป่วยอยู่นะ ถือโอกาสสร้างความอบอุ่นสักหน่อยก็ยังพอได้อยู่!

ไม่ถึงทุ่มหมอกู้ก็ถูกลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นลากตัวมา เท้ายังสวมรองเท้าแตะสำหรับอาบน้ำอยู่ ท่อนล่างพันด้วยผ้าขนหนู ท่อนบนกลับมีเสื้อคลุมคลุมอยู่ดูไม่เข้ากันเลยสักอย่าง

ตอนที่คนของเหยียนหมิงซุ่นหาเขาพบ ชายชราคนนี้กำลังดื่มด่ำกับการนวดอยู่ในโรงอาบน้ำกับเจ้าถิ่นผู้มีอิทธิพลที่คบค้าสมาคมในช่วงระยะนี้

เจ้าถิ่นผู้มีอิทธิพลทำเพื่อขอบคุณที่หมอกู้รักษาไตอ่อนแอให้เขา เขาจึงตั้งใจเชิญหมอกู้ไปนวด กำลังสบายเลย!

“พวกนายทำอะไรกัน…พูดให้เข้าใจหน่อยได้ไหม…ตกลงคุณหนูของพวกนายเป็นอะไรกันแน่…”

หมอกู้ใส่รองเท้าแตะเดินย่ำไปมา ขามีขนรกรุงรังเต็มไปหมด เค้าหมอเทวดาในอดีตเวลานี้กลับพังยับเยินจนหมดสิ้น

“อุ๊บ”

เหมยเหมยที่เพิ่งเดินลงมากลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่อยู่ การแต่งตัวแบบนี้มันช่าง…

หมอกู้เห็นเหมยเหมยที่ดูสดชื่นหลังอาบน้ำก็นึกโกรธในทันที “คุณหนูของพวกนายไม่ใช่ว่าสบายดีอยู่เหรอ? พวกนายลากฉันมาแบบนี้รู้ไหมว่าฉันยังไม่ได้รับค่ารักษาเลย? รู้ไหมว่าค่ารักษาของฉันสูงมากแค่ไหน…”

ลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นยืนเฉย ๆตีหน้านิ่ง ไม่สนว่าหมอกู้จะด่าอย่างไรพวกเขาก็แค่ปิดปากเงียบกริบ พร้อมหันไปทำความเคารพเหยียนหมิงซุ่นด้วยความนอบน้อม พูดเสียงดังฟังชัดว่า “เรียนคุณชาย พาตัวมาได้แล้วครับ!”

“อืม!” เหยียนหมิงซุ่นตอบรับเสียงเบาให้พวกเขาออกไป

หมอกู้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกมาอย่างขุ่นเคือง ใบหน้าของเขาดำถมึงทึงราวกับสีคาร์บอน

เจ้าถิ่นมาเก๊าคนนั้นกว่าเขาจะคบค้าสมาคมด้วยนั้นไม่ง่ายเลย คนโง่เงินเยอะ ขอเพียงหลอกล่ออีกแค่สองสามวัน เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินบำนาญของเขาอีกต่อไป

แต่ตอนนี้…

ทั้งหมดโดนยัยเด็กอัปลักษณ์นี่ทำลายจนหมดสิ้น!

“หมอกู้ รบกวนคุณช่วยตรวจดูอาการของเหมยเหมยให้หน่อย ระยะนี้เธอมักจะมีอาการปวดหัวที่แปลกมาก ๆ ปวดจนหมดสติไปถึงสองครั้งแล้ว พอเธอไปตรวจอาการที่โรงพยาบาลก็ไม่มีปัญหาอะไรจึงทำได้แค่รบกวนหมอกู้แล้ว” เหยียนหมิงซุ่นพูดอย่างเกรงใจ

สีหน้าของหมอกู้เคร่งขรึมขึ้น เขาไม่คิดว่าเหมยเหมยจะป่วยจริง ๆ อีกทั้งยังป่วยหนักเอาการจึงไม่บ่นอีกต่อไป เขาให้เหมยเหมยยื่นมือออกมา หลังจากตรวจดูอาการอยู่นานสีหน้าก็เริ่มประหลาดใจขึ้นเรื่อย ๆ

…………………………………………..