บทที่ 1218 การคุมเชิงของราชวงศ์

The king of War

ทันใดนั้นทุกคนก็ตกตะลึง

ในเวลานี้ร่างกายของหวาอิงเจี๋ยเต็มไปด้วยลมปราณแห่งวิถีบู๊ระดับแดนเทพชั้นยอด ดวงตาของเขาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนสัตว์ร้าย

“ไปกันเถอะ!”

เมื่อเห็นว่าทุกคนยังคงยืนอยู่ตรงนั้น หยางเฉินจึงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว

“พี่เฉิน ระวัง!”

หม่าชาวกำชับแล้วขยับเท้าก้าวถอยหลังโดยไม่ลังเลใดๆ

“ไปกันเถอะ!”

ซ่างกวนโหรวและต้วนหวูหยาก็พายอดฝีมือของตระกูลออกไปโดยไม่ลังเล

เมื่อเห็นเช่นนี้ยอดฝีมือของราชวงศ์เย่และราชวงศ์หลงก็ไม่กล้าที่จะอยู่นาน พากันทยอยออกไป

รอบๆ เหลือเพียงหยางเฉินและหวาอิงเจี๋ย รวมถึงจินกางและหัวหน้าสาขาหง

“หัวหน้า!”

ทั้งจินกางและหัวหน้าสาขาหงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้เพียงว่าในเวลานี้หวาอิงเจี๋ยน่ากลัวมาก

“ออกไปเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นจะฆ่าให้หมด!”

หยางเฉินมองดูทั้งสองคนและตะโกนอย่างโกรธจัด

เหตุผลที่เขาขอให้ทุกคนถอยห่างออกไปหนึ่งพันเมตร ไม่ใช่เพราะเขาห่วงใยความเป็นความตายของยอดฝีมือของราชวงศ์เหล่านั้น แต่เป็นเพราะพวกเขานั้นอ่อนแอเกินไปเมื่ออยู่ต่อหน้าหวาอิงเจี๋ย

คนที่กินยาสมบูรณ์แบบจะเดินเตร่ไปรอบๆ อย่างไร้สติ จิตใจและอารมณ์จะรุนแรงอย่างหาที่เปรียบมิได้ หากฆ่าใครสักคน ก็จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น และบางทีอาจจะสูญเสียการควบคุมอย่างสมบูรณ์ไปในทันที

ในฐานะผู้ใช้ยาสมบูรณ์แบบ หยางเฉินรู้ดีว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นกับร่างกายของผู้ใช้

ในเวลานี้ ลมปราณแห่งวิถีบู๊ของหวาอิงเจี๋ยได้ทะลวงสู่แดนเทพชั้นยอดไปแล้ว เห็นได้ชัดว่ามาถึงแดนเหนือมนุษย์ในตำนานแล้ว

เมื่อจินกางและหัวหน้าสาขาหงได้ยินเสียงคำรามของหยางเฉิน ก็ไม่ได้ออกไปไหน แต่มองไปที่หยางเฉินอย่างเย็นชาและพูดว่า “คุณคิดว่าคุณเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาสั่งพวกเรา?”

“กลัวว่าหากพวกเราอยู่ที่นี่ จะร่วมมือกับหัวหน้าฆ่าคุณงั้นเหรอ?”

เมื่อได้ทั้งสองพูดเช่นนี้ สายตาของหยางเฉินของฉายแววอาฆาต “ถ้าอย่างนั้น ผมจะฆ่าพวกคุณก่อน!”

“ผัวะ!”

ก่อนที่เขาจะทำอะไรได้ ก็เห็นมือข้างหนึ่งของหวาอิงเจี๋ยคว้าหมับที่ลำคอของหัวหน้าสาขาหงในทันใด

วินาทีถัดมา ร่างของหัวหน้าสาขาหงก็ถูกยกขึ้นไปในอากาศ

“หัวหน้า!”

สีหน้าของจินกางเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหวาอิงเจี๋ยถึงโจมตีหัวหน้าสาขาหง

หัวหน้าสาขาหงก็คาดไม่ถึงเช่นกัน เขามีสีหน้าหวาดกลัวเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ส่งมาจากหวาอิงเจี๋ย

จากดวงตาสีแดงก่ำของหวาอิงเจี๋ย เขามองเห็นแต่การฆ่าเท่านั้น

จนกระทั่งถึงเวลานี้เองที่เขาตระหนักว่า หวาอิงเจี๋ยกำลังจะฆ่าเขา!

“กร๊อบ!”

เสียงกระดูกหักดังชัดเจน คอของหัวหน้าสาขาหงถูกหวาอิงเจี๋ยหักเองกับมือ

“โครม!”

เสียงดังลั่นอีกครั้ง หัวหน้าสาขาหงกระเด็นออกไปไกลกว่าสิบเมตร แล้วร่วงลงบนซากปรักหักพังของโรงเรียนศิลปะการต่อสู้เยี่ยนตูอย่างแรง

“ไม่ได้การ! เขาสูญเสียการควบคุมแล้ว!”

สีหน้าของหยางเฉินซีดเผือด

ก่อนหน้านี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและใช้พลังงานไปมากจากการประมือกับยอดฝีมือระดับแดนเหนือมนุษย์ในเมืองเหมียวมาก่อน ต่อมาก็ต่อสู้กับหวาอิงเจี๋ย ซึ่งทำให้เขาหมดแรงอีกครั้ง

ตอนนี้ แม้ว่าเขาจะฟื้นฟูกำลังได้บ้างแล้ว แต่ก็ไม่มีความหวังที่จะควบคุมหวาอิงเจี๋ยที่ตกอยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่งเลย

จินกางเหม่อมองสหายของตัวเองอย่างว่างเปล่า หลังจากที่ถูกหวาอิงเจี๋ยหักคอ ก็ถูกเตะกระเด็นออกไปอีก ตายอย่างสมบูรณ์

“เจ้าโง่ มัวยืนทำอะไรอยู่? รีบหนีเร็ว!”

เมื่อเห็นจินกางยังคงงุนงง หยางเฉินก็ตวาดใส่

จินกางได้สติด้วยเสียงตวาดของหยางเฉิน เขามองมาที่หยางเฉินด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปอย่างไม่ลังเล

“บูม!”

แต่ทันทีที่เขาเริ่มขยับตัว ดวงตาสีแดงก่ำของหวาอิงเจี๋ยก็จับจ้องมาที่เขา และตรงปรี่เข้ามาหาเขา

“หัวหน้า!”

เมื่อรู้สึกว่าความตายกำลังใกล้เข้ามา สีหน้าของจินกางก็ดูสิ้นหวัง แต่หัวหน้าที่เขาพูดถึงนั้น ได้สูญเสียการควบคุมไปโดยสิ้นเชิง จำไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร

หวาอิงเจี๋ยตบหัวจินกาง จินกางไม่ต้องสงสัยเลยว่า หากถูกตบครั้งนี้ ศีรษะของเขาจะแตกหักเป็นชิ้นๆ เหมือนแตงโม

เขาต้องการหนี แต่กลับพบว่าขาของเขาสั่นรุนแรงอย่างควบคุมไม่ได้เพราะความหวาดกลัว ขยับเขยื้อนไม่ได้เลย ทำได้เพียงมองดูตาปริบๆ เมื่อฝ่ามือใหญ่โตของหวาอิงเจี๋ยเคลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

“ผัวะ!”

ในขณะนี้ ร่างของหวาอิงเจี๋ยถูกหยางเฉินที่ปรากฏกายขึ้นอย่างกะทันหันกระแทกขึ้นไปในอากาศ

“ไปให้พ้น!”

หยางเฉินคำรามใส่จินกางอย่างโกรธเกรี้ยว

ตอนนั้นเองที่จินกางกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังและวิ่งหนีไป

หลังจากที่หวาอิงเจี๋ยถูกหยางเฉินกระแทกลอยไป เขาก็รีบพุ่งเข้ามาหาหยางเฉินอีกครั้ง

“ตูมๆๆ!”

หยางเฉินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระเบิดพลังอย่างเต็มที่ เสียงปะทะกันอย่างรุนแรงเข้ามาในหูอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าเหล่ายอดฝีมือแดนเทพของราชวงศ์จะถอยห่างออกไปหนึ่งพันเมตรแล้ว แต่พวกเขาก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงลมปราณแห่งวิถีบู๊ที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งมาจากทิศทางของหวาอิงเจี๋ยและหยางเฉิน

“แข็งแกร่งมาก!”

ซ่างกวนโหรวมีสีหน้าประหลาดใจ

ดวงตาของต้วนหวูหยาระยิบระยับด้วยความตื่นเต้น เขาเป็นยอดฝีมือแดนเทพขั้นปลาย ก่อนหน้านี้หยางเฉินให้เขาต่อสู่กับหกยอดฝีมือแดนเทพเพียงลำพัง ให้วรยุทธของเขาได้รับการขัดเกลา ตอนนี้เขาอยู่ไม่ไกลจากระดับแดนเทพชั้นยอดแล้ว

นอกจากนี้ยังสัมผัสได้ถึงอานุภาพวิถีบู๊ของยอดฝีมือแดนเหนือมนุษย์ ถือเป็นการฝึกฝนอย่างหนึ่งสำหรับเขา

เขากำหมัดแน่นและสาบานกับตัวเองในใจว่า จะต้องก้าวเข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ให้ได้

หม่าชาวก็มีความคิดแบบเดียวกัน แม้ว่าเขาจะเพิ่งเข้าสู่ระดับแดนเทพ แต่หลังจากปลดล็อคพลังต่อสู้แล้ว และกินยาที่เฝิงเสียวหว่านให้เขา ก็สามารถเพิ่มศักยภาพไปถึงระดับแดนเทพชั้นยอดได้

เมื่อมองดูหยางเฉินที่ต่อสู้กับหวาอิงเจี๋ยที่กำลังบ้าคลั่งตามลำพัง หม่าชาวก็รู้สึกผิดมาก ถ้าตัวเองไม่อ่อนแอเกินไป จะปล่อยให้หยางเฉินเผชิญกับทุกสิ่งตามลำพังได้อย่างไร?

ในทางกลับกัน ยอดฝีมือของราชวงศ์หลงและราชวงศ์เย่ต่างก็มีสีหน้าย่ำแย่มาก

เมื่อมาถึงจุดนี้ ไม่ว่าใครจะชนะ มันก็เป็นผลงานที่ย่ำแย่สำหรับพวกเขาอยู่ดี

ยอดฝีมือแดนเทพสองคนของราชวงศ์เย่ คนหนึ่งถูกหยางเฉินฆ่าตายภายในเสี้ยววินาที ตอนนี้เหลือเพียงคนเดียวเท่านั้น

ยอดฝีมือแดนเทพสามคนของราชวงศ์หลงที่มีหลงเคอรวมอยู่ในนั้นด้วย ยอดฝีมือแดนเทพขั้นปลายคนหนึ่งก็ถูกหยางเฉินสังหารภายในเสี้ยววินาทีเช่นกัน ตอนนี้เหลือเพียงหลงเคอและยอดฝีมือแดนเทพอีกคนหนึ่งเท่านั้น

ตรงกันข้ามยอดฝีมือแดนเทพคนหนึ่งของทั้งราชวงศ์ซ่างกวนและราชวงศ์ต้วน นั้นไม่ตาย

แม้ว่าจะไม่มีหยางเฉิน แต่ยอดฝีมือของราชวงศ์ซ่างกวนและราชวงศ์ต้วนก็สามารถปราบปรามยอดฝีมือของราชวงศ์เย่และราชวงศ์หลงได้

“พวกเราไปกันเถอะ!”

ทันทีที่หลงเคอออกคำสั่ง เขาก็หันหลังกำลังจะเดินจากไป หากยังอยู่ที่นี่ต่อไป มันจะยิ่งอันตรายมากขึ้น

เมื่อเห็นหลงเคอกำลังจะไป เย่ชงก็รีบเตรียมจะพายอดฝีมือแดนเทพของราชวงศ์เย่เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ออกไป

“ไปไหน? จะไปไหน?”

ต้วนหวูหยาขยับเท้าเข้ามายืนขวางตรงหน้าหลงเคอ ยอดฝีมือแดนเทพคนอื่นๆ ก็พากันก้าวไปข้างหน้า และล้อมรอบยอดฝีมือแดนเทพอีกคนหนึ่งของหลงเคอเอาไว้ตรงกลาง

ซ่างกวนโหรวก็พายอดฝีมือแดนเทพสองคนเข้ามาล้อมเย่ชงและยอดฝีมือแดนเทพคนหนึ่งของราชวงศ์เย่เอาไว้ให้อยู่ตรงกลาง

หลงเคอได้เห็นกับตาตัวเองแล้วว่า ศักยภาพของต้วนหวูหยานั้นแข็งแกร่งเพียงใด ไม่ต้องพูดถึงว่า ต้วนหวูหยากำลังพายอดฝีมือแดนเทพสองคนเข้ามาปิดล้อมพวกเขา ต่อให้มีเพียงต้วนหวูหยาคนเดียว ก็สามารถต้านทานยอดฝีมือของราชวงศ์หลงได้

สถานการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นกับทางด้านราชวงศ์เย่ ตัวเย่ชงมีความสามารถเพียงระดับกึ่งแดนเทพ และตอนนี้มีเพียงยอดฝีมือแดนเทพคนเดียวเท่านั้นที่อยู่เคียงข้างคอยคุ้มกัน แต่ทางด้านราชวงศ์ซ่างกวนรวมถึงซ่างกวนโหรว ก็มียอดฝีมือแดนเทพอยู่อีกสามคน

หากยอดฝีมือของราชวงศ์หลงและราชวงศ์เย่คิดจะไป แล้วจะไปได้หรือ?