บทที่ 1219 ฆ่าและถูกฆ่า

The king of War

สีหน้าของหลงเคอกับเย่ชงซีดเผือด ตอนนี้หากคิดจะไปก็ไปไม่ได้แล้วงั้นหรือ?

ก่อนหน้านี้ด้วยการสนับสนุนจากสมาคมบูโด พวกเขากล้าร่วมมือกันรับมือยอดฝีมือของราชวงศ์ซ่างกวนและราชวงศ์ต้วน ตอนนี้ยอดฝีมือแดนเทพสี่คนของสมาคมบูโดรวมถึงหวาอิงเจี๋ย เหลือเพียงหวาอิงเจี๋ยและจินกางที่อยู่ระดับแดนเทพชั้นต้น

เห็นได้ชัดว่าหวาอิงเจี๋ยสูญเสียการควบคุม ฆ่าได้แม้กระทั่งคนของตัวเอง นับประสาอะไรกับพวกเขา?

ไม่ว่าจะเป็นชัยชนะของหยางเฉินหรือชัยชนะของหวาอิงเจี๋ย มันคือหายนะของพวกเขา

“พวกคุณกำลังทำอะไรอยู่?”

หลงเคอข่มความหวาดกลัวภายในใจ พลางกัดฟันพูดว่า “พวกคุณคิดจะก่อสงครามภายในหมู่ราชวงศ์งั้นหรือ?”

“สงครามภายในหมู่ราชวงศ์?”

ต้วนหวูหยายิ้มเยาะ “หากจะก่อสงครามภายในจริงๆ ก็น่าจะเป็นราชวงศ์หลงกับราชวงศ์เย่สินะ?”

เย่ชงปฏิเสธอย่างหนักแน่น “คุณอาต้วน คุณเข้าใจผิดแล้ว ราชวงศ์ของเราไม่มีเจตนาจะก่อสงครามภายใน

“หุบปาก!”

ราชวงศ์ต้วนตวาดใส่ “คนจอมปลอม! ฉันต้วนหวูหยา ไม่มีหลานชายไร้ยางอายอย่างแก!”

เย่ชงไม่กล้าพูดอะไรอีก แต่ในแววตานั้นมีความโกรธเล็กน้อย

แต่ในตอนนี้เขาไม่กล้าพูดอะไร และไม่กล้าที่จะโกรธ แค่มีสีหน้ากังวล

ซ่างกวนโหรวพูดอย่างเย็นชาว่า “ยอดฝีมือของราชวงศ์หลงมีอาวุธซ่อนอยู่ใต้รองเท้า เขาต้องการฆ่าอาต้วน ฉันถูกโจมตีจนหลุดจากสังเวียนต่อสู้ชี้ขาดแล้ว เย่ชงยังชี้สั่งการยอดฝีมือของราชวงศ์เย่ ให้ลงมือฆ่าฉัน

“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหยาง ตอนนี้ฉันคงเป็นศพไปแล้วใช่ไหม?”

“ตอนนี้ พวกคุณกำลังถามพวกเราว่าจะก่อสงครามภายในหรืเปล่า ยังบอกอีกว่าความจริงที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นความเข้าใจผิด?”

สีหน้าของหลงเคอและเย่ชงซีดเผือดอย่างมาก เพราะสิ่งที่ซ่างกวนโหรวพูดล้วนเป็นความจริง สามารถตรวจสอบได้อย่างง่ายดาย

ต้วนหวูหยาเป็นทายาทของราชวงศ์ต้วน เขาอาจจะขึ้นครองบัลลังก์ของราชวงศ์ต้วนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ส่วนซ่างกวนโหรว เธอยังเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดด้านวรยุทธในราชวงศ์ซ่างกวน แม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์เพียงพอที่จะขึ้นครองบัลลังก์ต่อไป แต่ก็มีคุณสมบัติที่จะขึ้นครองบัลลังก์ได้แน่นอน

ทั้งสองมีฐานะและตำแหน่งสูงมากในราชวงศ์ต้วนและราชวงศ์ซ่างกวน

แต่ตอนนี้ กลับถูกพวกเขาลอบสังหารในเมืองเยี่ยนตู หากเรื่องราวเหล่านี้ถูกเปิดเผย ราชวงศ์เย่และราชวงศ์หลงจะต้องทนรับแรงกดดันมหาศาล

บางทีราชวงศ์ต้วนและราชวงศ์ซ่างกวนอาจต้องเปิดศึกกับพวกเขาสองราชวงศ์ใหญ่จริงๆ

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้มีหยางเฉินอีกคน หากเอาชนะหวาอิงเจี๋ยได้อีกครั้ง ทั้งราชวงศ์หลงและราชวงศ์เย่จะไม่มีโอกาสได้ชัยชนะเลย

“พวกคุณต้องการอะไร?”

หลงเคอกัดฟันถาม

“แม้ว่าต้องการไป ก็ต้องรอจนกว่าคุณหยางจะเอาชนะหวาอิงเจี๋ยได้ ค่อยตัดสินใจว่าจะปล่อยพวกคุณไปหรือไม่!”

ต้วนหวูหยากล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา

ถึงอย่างไรหลงเคอและเย่ชงก็มีตำแหน่งสูงในราชวงศ์ของตน แม้ว่าการกระทำของพวกเขาจะเพียงพอที่จะทำให้เกิดสงครามระหว่างราชวงศ์แล้ว

แต่เมื่อเกิดสงครามราชวงศ์ขึ้น มันจะมีผลกระทบอย่างมาก

ก่อนหน้านี้ยอดฝีมือของราชวงศ์หลงและราชวงศ์เย่ที่ลงมือสังหารต้วนหวูหยาและซ่างกวนโหรว ตอนนี้ล้วนถูกฆ่าโดยหยางเฉิน

พอถึงเวลานั้น ทั้งราชวงศ์หลงและราชวงศ์เย่จะสามารถโยนทุกอย่างไปที่ยอดฝีมือสองคนนี้ที่ถูกฆ่าตายได้

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะฆ่าหลงเคอและเย่ชงง่ายๆ ทำได้เพียงปล่อยให้หยางเฉินจัดการทั้งสองคน

หม่าชาวยังมองดูหลงเคอและเย่ชงอย่างเย็นชา “พวกคุณควรอธิษฐานให้ พี่เฉินยอมไม่ติดใจเอาความจากพวกคุณ มิฉะนั้น ต่อให้กษัตริย์ของพวกคุณมาเอง ก็ปกป้องพวกคุณไม่ได้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของราชวงศ์หลงและราชวงศ์เย่ก็ซีดเผือด

ตอนนี้ความแข็งแกร่งที่หยางเฉินแสดงออกมาก็เพียงพอที่จะต่อสู้กับยอดฝีมือระดับแดนเหนือมนุษย์ ส่วนกษัตริย์ของแต่ละราชวงศ์นั้นอยู่ในระดับแดนเทพชั้นยอดเท่านั้น หรือหากระเบิดพลังออกไปทั้งหมด อาจจะถึงระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์ก็ได้

แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่คู่ต่อกรกับยอดฝีมือระดับแดนเหนือมนุษย์อยู่ดี

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ภายในใจหลงเคอกับเย่ชงก็มีเพียงความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง

ในเวลานี้ หยางเฉินกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับหวาอิงเจี๋ย ลมปราณที่รุนแรง เหมือนเกลียวคลื่นซัดสาดไปทั่วทุกทิศทาง

แม้แต่กลุ่มยอดฝีมือที่ถอยห่างออกไปหนึ่งพันเมตรก็ยังรู้สึกกดดันอย่างมหาศาล

“ฮึ่ม!!”

หวาอิงเจี๋ยแหงนหน้าคำรามราวกับว่ากำลังระบายความโกรธเกรี้ยวภายใน

หยางเฉินเช็ดเลือดออกจากมุมปากของเขาและมองไปที่หวาอิงเจี๋ยด้วยความหวาดกลัวในสายตา

เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้เมื่อครู่ เขาที่ได้รับบาดเจ็บหนักอยู่แล้ว คราวนี้ได้รับบาดเจ็บหนักเพิ่มขึ้นจริงๆ

แต่หวาอิงเจี๋ยยังคงบ้าคลั่งเช่นเคย ลมปราณที่รุนแรงภายในร่างกายของเขายังคงทวีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งหมายความว่า หวาอิงเจี๋ยยังคงแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แต่เขานั้นเหนื่อยมามากแล้ว ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป อาจจะเป็นการทำร้ายพื้นฐานวรยุทธได้

“หากผมสามารถก้าวข้ามไปสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นต้นได้ อาจะไม่ต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบากเช่นนี้”

หยางเฉินส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มขมขื่น

เขาในเวลานี้ พูดให้ถูกก็คือ ควรจะก้าวเข้าสู่กึ่งแดนเหนือมนุษย์แล้ว การที่สามารถระเบิดศักยภาพได้เทียบเท่าระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นต้น นั่นคือขีดจำกัดของเขาแล้ว

ยิ่งระดับสูงเท่าใด ช่องว่างระหว่างระดับวิถีบู๊ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

เหมือนกับหม่าชาว เมื่อสำแดงพลังอย่างเต็มที่ จะสามารถใช้ศักยภาพระดับแดนเทพชั้นต้นต่อสู้กับยอดฝีมือระดับแดนเทพชั้นยอดได้

แต่เมื่อมาถึงระดับแดนเหนือมนุษย์ ช่องว่างระหว่างสองระดับจะใหญ่โตมาก

แม้แต่ในระดับเดียวกัน พื้นฐานของวิถีบู๊ยิ่งลึก กำลังต่อสู้ก็จะยิ่งแข็งแกร่ง

ดังนั้นหยางเฉินในเวลานี้ การต่อสู้กับหวาอิงเจี๋ยที่กำลังบ้าคลั่งโดยอาศัยระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นต้น จึงเป็นขีดจำกัดของเขาแล้ว

“ฮึ่ม!”

หวาอิงเจี๋ยคำรามใส่เขาอีกครั้ง

หยางเฉินไม่กล้าฟุ้งซ่าน เขากระทืบเท้าอย่างแรงและหายตัวไปในทันที พยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลบหลีกการโจมตีของหวาอิงเจี๋ย

ตอนนี้เขาทำได้เพียงอาศัยความเร็วในการถ่วงเวลาหวาอิงเจี๋ย

บางทีเขาอาจใช้โอกาสนี้ฟื้นฟูกำลังเล็กน้อย ถ้าไม่อย่างนั้นต่อให้เป็นเขา ก็อาจจะต้องตายที่นี่เหมือนกัน

“ปัง!”

แม้ว่าเขาจะระเบิดความเร็วสูงสุดออกมาแล้ว แต่ก็ยังถูกหวาอิงเจี๋ยโจมตีตรงเป้า หลังจากถูกโจมตี ร่างกายของหยางเฉินก็ลอยขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง

ครั้งนี้หยางเฉินยังคงลุกขึ้นยืนอย่างสั่นเทิ้ม ร่างกายของเขาโชกเลือดอยู่แล้ว แต่เขาไม่กล้าที่จะผ่อนคลายลง หากไม่ทันระวัง ก็อาจจะถูกหวาอิงเจี๋ยฆ่าตายได้

ความทนทานทางร่างกายของหวาอิงเจี๋ยนั้นแข็งแกร่งกว่าผู้นำหงเฉินอย่างเห็นได้ชัด

ตอนแรกหลังจากกินยาสมบูรณ์แบบเข้าไปแล้ว ใช้เวลาเพียงห้านาที ร่างกายของเขาก็ระเบิดเสียชีวิต เพราะไม่สามารถต้านทานพลังรุนแรงของยาสมบูรณ์แบบได้

แต่สถานการณ์ของหวาอิงเจี๋ยนั้นกินเวลานานต่อเนื่องถึงสิบนาที ร่างกายก็ยังไม่ระเบิด กลับกลายเป็นยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้น

บางทีแม้แต่ยอดฝีมือระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นกลางทั่วไป ก็อาจไม่สามารถฆ่า หวาอิงเจี๋ยในสภาพนี้ได้อย่างง่ายดาย?

“ฮึ่มๆๆ!”

หวาอิงเจี๋ยคำรามอีกครั้ง แล้วพุ่งตรงเข้าไปหาหยางเฉิน

หยางเฉินขบกรามแน่น เขาสัมผัสได้ว่ากำลังของตัวเองถูกใช้จนหมดแล้ว บางทีอาจจะยืนหยัดได้เป็นครั้งสุดท้าย

ถ้าเขาล้มลงในครั้งนี้ ก็อาจจะไม่มีกำลังต่อสู้อีกต่อไป กลายเป็นเพียงวิญญาณภายใต้คมกระบี่ของหวาอิงเจี๋ยเท่านั้น

เมื่อเห็นหวาอิงเจี๋ยเข้าใกล้ตนเงมากขึ้นเรื่อยๆ ลมปราณที่รุนแรงก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

“ฆ่ามัน!”

หยางเฉินคำรามขึ้นมาอย่างฉับพลัน เขารวบรวมกำลังทั้งหมดไว้ที่หมัดขวา

นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะสามารถปลดปล่อยได้ และเป็นหมัดที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาด้วย ถ้าไม่ฆ่าหวาอิงเจี๋ย ก็ต้องถูกหวาอิงเจี๋ยฆ่า!