ชายสองคนที่มีความสามารถเทียบเท่ายอดฝีมือแดนเหนือมนุษย์ ต่างวิ่งเข้าหากัน ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตา
“โครม!”
หยางเฉินและหวาอิงเจี๋ยเข้าปะทะกันแทบจะในทันที
ทันใดนั้น พลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวก็ซัดสาดไปทุกทิศทาง ราวกับก้อนหินขนาดยักษ์ที่ไหลลงสู่ทะเล
“ตูมๆๆ!”
อาคารร้างหลายหลังใกล้กับโรงเรียนศิลปะการต่อสู้เยี่ยนตูพังทลายลงในทันที
แผ่นดินยังคงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ราวกับเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
“นี่…นี่คือความแข็งแกร่งของยอดฝีมือแดนเหนือมนุษย์ใช่ไหม”
กลุ่มยอดฝีมือแดนเทพที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งพันเมตรถูกพลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้บังคับให้ล่าถอยไปหลายก้าว ทุกคนมีสีหน้าตกใจ
หม่าชาวกำหมัดแน่น สายตาเต็มไปด้วยความกังวล
ความผันผวนของพลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้ เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการต่อสู้ครั้งนี้รุนแรงเพียงใด ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เช่นนี้อย่างคาดไม่ถึง
ยิ่งการต่อสู้รุนแรงมากเท่าไร ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความอันตรายของหยางเฉินมากขึ้นเท่านั้น
ถ้าไม่ใช่เพราะไม่สามารถเข้าใกล้ศูนย์กลางของสนามรบได้ หม่าชาวคงจะรีบวิ่งเข้าไปตั้งนานแล้ว
ในเวลานี้ ตำแหน่งที่ทั้งสองคนทำการต่อสู้นั้นเต็มไปด้วยฝุ่น มองไม่เห็นอะไรเลย
ที่ใจกลางสนามรบ ร่างของหยางเฉินตกลงไปบนซากปรักหักพัง ร่างกายโชกเลือดไปทั้งตัว สยดสยองจนทนดูไม่ได้ มีเลือดไหลพรั่งพรูออกจากปากเป็นจำนวนมาก
เขารู้สึกว่าสติของตัวเองค่อยๆ เลือนรางหายไป
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับการปะทะกันระหว่างหยางเฉินกับหวาอิงเจี๋ยเมื่อครู่ มีเพียงตัวหยางเฉินเองเท่านั้นที่รู้ดีว่า การประทะกันครั้งสุดท้ายนั้นทรงพลังเพียงใด
การโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเขาเกิดขึ้นกับร่างกายของหวาอิงเจี๋ย แต่ที่เหมือนกันก็คือ การโจมตีของหวาอิงเจี๋ยก็เกิดขึ้นกับร่างกายของเขาเช่นกัน ทั้งคู่ต่างถอยห่างออกไปหลายสิบเมตร
หยางเฉินไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหวาอิงเจี๋ยยังมีชีวิตอยู่หรือจะลุกขึ้นยืนได้อีกหรือไม่
เขารู้เพียงว่าตราบใดที่หวาอิงเจี๋ยยังสามารถลุกขึ้นยืนได้ สิ่งที่เขาจะต้องเผชิญคือความตายเท่านั้น!
ลมพัดผ่านมา ฝุ่นตลบกระจายทั่วทิศทาง
หยางเฉินยังไม่รู้สึกถึงลมปราณของหวาอิงเจี๋ย ราวกับว่าหวาอิงเจี๋ยได้หายตัวไปจากการโจมตีเมื่อครู่
แต่เขารู้ดีว่า เป็นไปไม่ได้ที่หวาอิงเจี๋ยจะกลายเป็นฝุ่นผงจากการโจมตีของเขา
ต่อให้หวาอิงเจี๋ยถูกฆ่าตาย อย่างน้อยร่างก็ต้องอยู่
แต่หลังจากที่เขารออยู่นาน ก็ยังไม่เห็นการปรากฏตัวของหวาอิงเจี๋ย
อย่าบอกนะว่า หวาอิงเจี๋ยตายแล้วจริงๆ?
เขาต้องการลุกขึ้นและมองหาหวาอิงเจี๋ย แต่ร่างกายของเขาถูกโจมตีอย่างรุนแรง ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้เลย
ยิ่งกว่านั้น สติของเขาก็ค่อยๆ เลือนรางหายไป
“พี่เฉิน!”
และในเวลานี้ เขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นที่ข้างหู
ในที่สุดเปลือกตาของหยางเฉินก็หนักขึ้นเรื่อยๆ เขาค่อยๆ หลับตาลง แล้วสติของเขาก็หายไปอย่างสมบูรณ์
หม่าชาววิ่งเข้ามาหา เมื่อเขาเห็นหยางเฉินนอนจมกองเลือดโดยมีบาดแผลทั่วร่างกาย สภาพน่าเวทนาอย่างยิ่ง น้ำตาก็ไหลพรั่งพรูออกมาทันที
“พี่เฉิน คุณตื่นเดี๋ยวนี้ คุณตื่นเดี๋ยวนี้ อย่าทำให้ผมตกใจ ได้โปรด อย่าทำให้ผมกลัว!”
หม่าชาวร้องไห้ น้ำตาไหลหยดแหมะๆ
เขาติดตามหยางเฉินมานาน แต่ไม่เคยเห็นหยางเฉินได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้มาก่อน
ซ่างกวนโหรวและต้วนหวูหยาก็รีบวิ่งเข้ามาเช่นกัน พวกเขายังแปลกใจเมื่อเห็นหยางเฉิน
“เกิดอะไรขึ้นเมื่อครู่นี้? คุณหยางได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ได้ยังไง? แล้วหวาอิงเจี๋ยล่ะ?”
ต้วนหวูหยารู้สึกสับสนมากและมีสีหน้ากังวล
ซ่างกวนโหรวเม้มริมฝีปากแน่น หยิบขวดกระเบื้องเคลือบสีขาวออกมาอย่างไม่ลังเลแล้วยื่นให้หม่าชาว “นี่คือยารักษาที่ดีที่สุดของราชวงศ์ซ่างกวนของเรา ซึ่งได้มาจากตระกูลบู๊โบราณ”
“ถ้าคุณไว้ใจฉัน ก็ให้คุณหยางกินยานี้ก่อน!”
เมื่อเห็นการกระทำของซ่างกวนโหรว สีหน้าของยอดฝีมือแดนเทพสองคนที่อยู่ข้างหลังเธอก็ถึงกับถอดสี “คุณหนู!”
“คุณหนู ทางราชวงศ์ซ่างกวนต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากถึงจะได้ยาวิเศษจากตระกูลบู๊โบราณมา ในตระกูลซ่างกวนมีเพียงเม็ดเดียวเท่านั้น!”
“นี่คือสิ่งที่กษัตริย์ของราชวงศ์มอบให้ท่าน เอาไว้ใช้ช่วยชีวิต!”
“ใช่แล้ว คุณหนู ได้โปรดท่านคิดดูอีกที!”
ยอดฝีมือแดนเทพสองคนต่างเอ่ยปากห้ามไว้
“หุบปาก!”
ซ่างกวนโหรวตวาดใส่ พูดด้วยดวงตาแดงก่ำ “คุณหยางช่วยชีวิตฉันไว้ ให้ยาเขาแค่เม็ดเดียวจะเป็นอะไรไป?”
ซ่างกวนโหรวรู้สึกขอบคุณหยางเฉินจากก้นบึ้งของหัวใจ ก่อนหน้านี้ที่ยอดฝีมือของราชวงศ์เย่ต้องการฆ่าเธอ หยางเฉินเป็นคนที่ขว้างก้อนหินเข้ามาและฆ่ายอดฝีมือของราชวงศ์เย่ตายในขณะที่กำลังอยู่ในการต่อสู้ที่ดุเดือด เธอถึงรอดชีวิตมาได้
นอกจากเรื่องช่วยชีวิตแล้ว เธอยังรู้สึกชื่นชมหยางเฉินอีกด้วย อัจฉริยะด้านวิถีบู๊ที่อายุน้อยกว่าเธอสองปี จะมาตายแบบนี้ไม่ได้
ต้วนหวูหยาตกใจมากเมื่อเห็นยาที่ซ่างกวนโหรวนำออกมา
ยอดฝีมือสองคนของราชวงศ์ซ่างกวน พอได้ยินที่ซ่างกวนโหรวพูด ก็ไม่กล้าที่จะห้ามเธออีก
หม่าชาวมองซ่างกวนโหรวอย่างลึกซึ้ง และรับยาเม็ดมาป้อนให้หยางเฉินโดยไม่ลังเล
หลงเคอและเย่ชงก็เข้ามาด้วย หวาอิงเจี๋ยหายตัวไป ส่วนหยางเฉินยังไม่รู้ว่าจะรอดหรือไม่ สำหรับพวกเขาแล้ว นี่คือโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่
ในใจพวกเขารู้สึกยินดีมาก ว่ากันตามหลักเหตุผล หยางเฉินเพิ่งเป็นแชมป์ของการแข่งขันชิงตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตู ถึงอย่างไรหวาอิงเจี๋ยก็ถูกหยางเฉินกำจัดตั้งแต่แรก
ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้ระหว่างหยางเฉินและหวาอิงเจี๋ย จนกระทั่งหวาอิงเจี๋ยถูกกำจัด จึงได้ระเบิดพลังทั้งหมดเพื่อต่อสู้กับหยางเฉิน
เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นชัยชนะของหยางเฉินเท่านั้น
แต่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าหยางเฉินผู้เป็นแชมป์จะรอดหรือไม่
“เราไปกันเถอะ!”
หลงเคอไม่ลังเลใดๆ และไม่กล้าพูดอะไรมาก พายอดฝีมือแดนเทพของราชวงศ์หลงที่เหลืออยู่หนึ่งคนหันหลังเดินจากไป
เย่ชงก็รีบตามออกไปเช่นกัน
คราวนี้ไม่มีใครขัดขวางพวกเขา ตอนนี้หยางเฉินยังไม่รู้ว่ารอดหรือไม่ พวกเขาต่างกำลังเป็นห่วงหยางเฉิน
ยี่สิบนาทีต่อมา หม่าชาวก็พาหยางเฉินมาถึงคลินิกอ้ายหมินของเมืองจิ่วโจว ตอนนี้ทำได้เพียงฝากความหวังไว้ที่เฝิงเสียวหว่านเท่านั้น
“พี่หยาง!”
เมื่อเฝิงเสียวหว่านเห็นเลือดทั่วร่างกายของหยางเฉิน เธอร้องไห้พรั่งพรูออกมาทันทีพลางพูดว่า “พี่หยาง เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?”
“เสียวหว่าน คุณรีบช่วยพี่หยางเร็วเข้า จะให้เกิดอะไรขึ้นกับเขาไม่ได้!”
หม่าชาวอ้อนวอน
เฝิงเสียวหว่านปาดน้ำตา ไม่กล้าทำให้เสียเวลาอีก เริ่มรักษาหยางเฉินทันที
หม่าชาวยังไม่กล้าบอกเฝิงเสียวหว่านเรื่องที่หวางจ้านถูกฆ่าตาย
ในช่วงเวลานี้ หวางจ้านอยู่ในคลินิกอ้ายหมินมาโดยตลอด ดีกับเฝิงเสียวหว่านมาก ทั้งสองเข้ากันได้ดีเหมือนเป็นปู่กับหลานจริงๆ
สถานการณ์ปัจจุบันของหยางเฉินส่งผลกระทบต่อเฝิงเสียวหว่านมากพอแล้ว หากเธอรู้อีกว่าหวางจ้านที่รักเธอมากได้ตายไปแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าเธอจะทนรับได้ไหม
ด้านนอกคลินิกอ้ายหมิน หม่าชาวกำลังเฝ้าอยู่ด้านนอกด้วยตัวเอง ต้วนหวูหยาและซ่างกวนโหรวก็อยู่ขนาบซ้ายขวาเช่นกัน พวกเขาไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับหยางเฉิน
“พวกคุณไม่ต้องกังวล คุณหยางจะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน!”
ทันใดนั้นต้วนหวูหยาก็หันไปมองซ่างกวนโหรวและหม่าชาว ก่อนจะพูดอย่างหนักแน่น
ซ่างกวนโหรวพยักหน้าอย่างหนักแน่นและพูดด้วยดวงตาแดงก่ำ “ยาที่คุณหยางกินนั้นเป็นยาวิเศษที่ปู่ของฉันได้มาจากตระกูลบู๊โบราณ แม้แต่ในตระกูลบู๊โบราณเอง ยาวิเศษชนิดนี้ยังสำคัญมาก ว่ากันว่า ต่อให้เป็นยอดฝีมือแดนเหนือมนุษย์ใช้มัน ก็ยังได้ผลมาก”
“หม่าชาว คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”
และในเวลานี้ คนตัวใหญ่และตัวเล็กก็ปรากฏกายขึ้นที่ประตูของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป
คนที่เอ่ยปากถามหม่าชาว ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉินซี
ในเวลานี้ ฉินซีกำลังจูงมือของเสี้ยวเสี้ยวอยู่ด้วย
“สวัสดีค่ะคุณอาหม่า!”
เมื่อเห็นหม่าชาว เสี้ยวเสี้ยวก็หน้าตาเบิกบาน
“คุณไม่ได้คอยติดตามหยางเฉินเหรอ? แล้วเขาล่ะ?”
ฉินซีจูงมือเสี้ยวเสี้ยวเดินเข้ามาหา เธอที่ไม่รู้ความจริงยังคงยิ้มแย้มอยู่