บทที่ 1816 งูเห่า + ตอนที่ 1817 โดนโจมตี

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1816 งูเห่า

เฉินกั๋วเปียวเหมือนว่าจะฟังเข้าใจแต่เขาก็ยังลังเลไม่ตัดสินใจ ตอนนี้เขาไม่ใช่นักเลงหัวไม้เหมือนเมื่อสิบปีก่อนอีกต่อไปแล้ว ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะไต่ขึ้นสู่ตำแหน่งพี่ใหญ่นั่งเสพสุขอยู่บนชื่อเสียงเงินทอง จะยอมตายไม่ได้เด็ดขาด!

โอหยางซานซานยังคงพูดปลุกปั่น “พี่เปียวไม่อยากไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุดในฮ่องกงเหรอ? โจวจื่อหัวเป็นขวากหนามที่ใหญ่ที่สุดของพี่ แค่กำจัดเขาพี่ก็จะได้เป็นใหญ่เพียงหนึ่งเดียวในฮ่องกง ขนาดผู้ปกครองระดับสูงสุดยังต้องให้เกียรติพี่เลย”

สีหน้าของเฉินกั๋วเปียวผ่อนคลายลงมาก โอหยางซานซานวาดฝันไว้เสียยิ่งใหญ่จนทำให้เขาใจเต้นขึ้นมา

“โจวจื่อหัวจะส่งพวกเด็ก ๆไปเรียนที่โรงเรียนแผ่นดินใหญ่ปลายเดือนสิงหาคมนี้ ถ้าพี่เปียวไม่คว้าโอกาสครั้งนี้ไว้ครั้งหน้าก็ไม่มีโอกาสแล้วนะ? พี่คิดดูดี ๆสิว่าอะไรโจมตีตาแก่โจวนั่นได้มากที่สุด? พี่นอนกับหลานสาวของเขาแล้วอัดวิดีโอขายให้สตูดิโอ ทั้งทำเงินได้ทั้งโจมตีตาแก่โจวได้ด้วย ฉวยโอกาสตอนที่สภาพจิตใจของเขายังไม่นิ่งช่วงชิงอาณาเขตของเขามา…”

โอหยางซานซานยิ้มเบาบางพูดราวกับกำลังเลือกซื้อเสื้อผ้ากระเป๋าอย่างเป็นธรรมชาติ ขนาดเฉินกั๋วเปียวที่เป็นมือสังหารฆ่าคนอย่างเหี้ยมโหด พอได้ฟังยังรู้สึกเสียวสันหลังวาบพลางแอบระแวงอยู่ในใจ

โอหยางซานซานผู้หญิงคนนี้เป็นอสรพิษงูเห่าชัด ๆ หลังจากนอนด้วยครั้งนี้แล้ววันหลังควรอยู่ให้ห่างหน่อยจะดีกว่า!

“เธอกับโจวจื่อหัวมีความแค้นใหญ่หลวงอะไรกันเหรอ? ถึงทุ่มเทคิดวางแผนจัดการเขาขนาดนี้?” เฉินกั๋วเปียวเริ่มสงสัย

โอหยางซานซานสยายผมเห็นแล้วช่างเย้ายวนใจเหลือเกิน เฉินกั๋วเปียวมองอย่างหลงใหล จิตใจเริ่มเอนเอียงบ้างแล้ว

“ฉันเสนอความคิดเพื่อพี่เลยนะ ฉันชอบพี่เปียวถึงได้เค้นสมองคิดหาวิธีให้ พี่เปียวไม่ชอบเหรอ?” โอหยางซานซานสยายผมไปมาพลางบิดร่างกายช้า ๆ แววตาของเฉินกั๋วเปียวค่อย ๆเลือนราง

“ชอบสิ…ชอบจะตายไป…”

ในสายตาของเขาตอนนี้มีเพียงแค่โอหยางซานซาน เขาไม่คิดถึงอะไรทั้งนั้น คิดแค่อยากจะเสพสุข…มัวเมาเพ้อฝัน!

โอหยางซานซานยิ้มอย่างลำพองใจ สายตาราวกับงูพิษที่พ่นพิษอยู่ในความมืด…

โจวจื่อหัวตาแก่สารเลวนี่รั้นจะร่วมมือกับเหยียนหมิงซุ่นให้ได้ เหอะ คิดจะมานอนกับเธอฟรี ๆไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก หากเธอทำภารกิจไม่สำเร็จเหยียนหมิงซุ่นก็อย่าได้ลำพองใจไปเลย

ในเมื่อเธอไม่สามารถใช้มันได้ งั้นก็กำจัดทิ้งอย่างไม่ใยดีไปเลยแล้วกัน!

บอดี้การ์ดข้างกายของโจวจื่อหัวเต็มไปหมดเลยหาโอกาสลงมือไม่ได้สักที แต่ภรรยาและหลานสาวของเขากลับไม่ได้เข้มงวดอะไรขนาดนั้น และเธอก็เพิ่งได้ยินมาว่ายายแก่โจวและโจวซิงเอ๋อร์จะออกไปดูละครเวทีวันนี้ ช่างเป็นโอกาสที่พระเจ้ามอบให้เธอจริง ๆ!

โจวซิงเอ๋อร์เป็นเจ้าหญิงตัวน้อยที่สดใสร่าเริงนักไม่ใช่เหรอ?

เชอะ ก็แค่หลานสาวของนักเลงหัวไม้เก่าคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรมาเป็นเจ้าหญิง?

สมน้ำหน้าที่จะโดนเฉินกั๋วเปียวย่ำยี!

ดูสิว่าวันหลังเธอจะยังหัวเราะแบบที่ทำให้คนเกลียดได้อีกไหม!

สิ่งที่เธอชอบที่สุดก็คือการเอารอยยิ้มที่สดใสดั่งดวงอาทิตย์ผลักลงสู่เหวลึกจนกลายเป็นบึงดำสกปรกที่แสนโดดเดี่ยว

รู้สึกสำเร็จมากเชียวแหละ!

ในใจของคุณนายโจวรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี จิตใจกระสับกระส่าย เธอเหลือบมองหลานสาวที่กำลังจดจ่อดูการแสดงโอเปร่าอยู่ข้างกายเธอ ความรู้สึกวิตกกังวลก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

“ซิงเอ๋อร์ ครั้งหน้าค่อยมาดูเถอะกลับบ้านก่อนดีไหม?”

“เดี๋ยวก็จบแล้วค่ะคุณย่า รออีกครู่เดียวเองค่ะ ขอร้องนะคะคุณย่า นี่คือละครเพลงบรอดเวย์ในอังกฤษเลยนะ หาดูยากมากเลย” โจวซิงเอ๋อร์กอดแขนคุณนายโจวพลางออดอ้อน

คุณนายโจวขัดเธอไม่ได้จึงทำได้แค่ดูเป็นเพื่อนหลานสาวไป เธอแอบหยิบปืนพกพาออกจากกระเป๋าแล้วดึงสลักออกด้วยท่าทีตื่นตัวสูง

โรงละครเงียบมากมีเพียงเสียงของนักแสดงบนเวทีเท่านั้น ตอนนี้ยังไม่เกิดอะไรขึ้น ท่าทีของคุณนายโจวจึงค่อย ๆผ่อนคลายลงพลันหลงคิดว่าตัวเองกระต่ายตื่นตูมเกินไป แต่ว่าเธอก็ยังไม่กล้าที่จะประมาทและส่งสายตาเป็นสัญญาณให้กับลูกน้องที่อยู่ข้างตัวเพื่อให้พวกเขาระแวดระวังตื่นตัวอยู่เสมอ

……………………………………………

ตอนที่ 1817 โดนโจมตี

คุณนายโจวมองหลานสาวด้วยความรัก ถามเสียงเบาว่า “ซิงเอ๋อร์ อนาคตหลานอยากทำอะไรล่ะ?”

“หนูอยากเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมเหมือนเฮปเบิร์น คุณย่าคะ คุณย่าช่วยพูดกับคุณปู่ให้หน่อยสิคะว่าหนูไม่อยากเรียนแฟชั่นดีไซน์ หนูอยากเรียนการแสดง เป็นนักแสดงไม่ดีตรงไหนกันคะ?” โจวซิงเอ๋อร์พูดเสียงเบาออดอ้อน

ตอนอายุสิบสามเธอได้ดูหนังเรื่องหนึ่งชื่อว่าโรมรำลึก เธอถูกเจ้าหญิงเฮปเบิร์นผู้สูงศักดิ์ที่น่ารักสดใสและสวยงามดึงดูดเข้าให้ เธอเลยไปเสาะหาภาพยนตร์ทั้งหมดของเฮปเบิร์นมาดู นับตั้งแต่นั้นมาเฮปเบิร์นจึงกลายเป็นเป้าหมายในชีวิตของเธอ

ขอสาบานว่าวันข้างหน้าเธอจะเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จเหมือนเฮปเบิร์นให้ได้!

แต่อุปสรรคขัดขวางที่ใหญ่ที่สุดกลับเป็นโจวจื่อหัว

เพราะโจวจื่อหัวคิดว่านักแสดงเป็นอาชีพที่ต่ำต้อยและไม่ดีพอที่จะโอ้อวดใครได้ เพราะงั้นเขาจะปล่อยให้หลานสาวของเขาจะไปเป็นนักแสดงได้อย่างไร?

เขาได้เตรียมอนาคตที่สดใสไว้ให้หลานสาวแล้ว นั่นก็คือการเป็นนักออกแบบแฟชั่น เพราะสถานะทางสังคมสูงและหาสามีที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมได้ง่าย นี่เป็นอาชีพที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเด็กผู้หญิง

คุณนายโจวโดนเขย่าตัวไปมาจนเวียนหัว เธอจึงดึงมือออกแล้วพูดอย่างเอือมระอาว่า “ย่าเองก็คิดว่าอาชีพนักแสดงไม่ดีเหมือนกัน ทำไมหลานถึงรั้นจะเป็นนักแสดงให้ได้นักนะ?”

ใบหน้าเล็ก ๆของโจวซิงเอ๋อร์ก็หงอยลงทันทีอย่างน่าสงสาร ทันใดนั้นหัวใจของคุณนายโจวก็อ่อนลง หยิกแก้มเธอเบา ๆพลางพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า “ก็ได้ ๆ ย่าจะกลับไปคุยกับคุณปู่ของหลานให้แล้วกัน”

“ขอบคุณค่ะคุณย่า คุณย่าใจดีที่สุดเลย หนูรักคุณย่าที่สุดเลยค่ะ…” โจวซิงเอ๋อร์หอมแก้มคุณนายโจวหลายฟอด จนใบหน้าชุ่มไปด้วยน้ำลาย ดวงตาของคุณนายโจวมีรอยยิ้ม

ในที่สุดละครเวทีก็จบลง นักแสดงทุกคนโค้งคำนับและขอบคุณผู้ชมอยู่บนเวที ผู้ชมต่างลุกขึ้นยืนปรบมือให้อย่างตื่นเต้นจนในโรงละครเสียงดังกึกก้อง

โจวซิงเอ๋อร์ปรบมือเสียงดัง แต่เธอยังมีเรื่องที่เสียดายอยู่บ้างจึงพูดพึมพำกับตัวเองว่า “เสียดายที่เสี่ยวอวี้ไม่มาดูด้วย เธอเองก็ชอบดูละครเวทีมากเหมือนกัน!”

คุณนายโจวสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ถามด้วยน้ำเสียงแสบแก้วหูว่า “หลานบอกเรื่องที่จะมาดูละครเวทีกับเสี่ยวอวี้ด้วยเหรอ? ระยะนี้ย่าขอไม่ให้เปิดเผยที่อยู่กับใครไม่ใช่หรือไง? “

โจวซิงเอ๋อร์ตกใจยกใหญ่เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่คุณย่าดุเธอ เธอจึงพูดแก้ตัวอย่างน้อยใจว่า “เสี่ยวอวี้ไม่ทำร้ายหนูหรอกคะ…”

คุณนายโจวมองเธออย่างผิดหวัง ไม่มีเวลาสั่งสอนเธอแล้ว ความวิตกกังวลถาโถมขึ้นมาอีกครั้ง คุณนายโจวตัดสินใจตะโกนสั่งลูกน้องที่อยู่ข้าง ๆในทันทีว่า “รีบไปขับรถมา เร็วเข้า!”

“เอ๊ะ”

อยู่ดี ๆโรงละครก็ตกสู่ความมืดมิด เสียงกรีดร้องแหลมสูงดังขึ้นไม่หยุด โจวซิงเอ๋อร์ก็คิดจะกรีดร้องเช่นกันแต่กลับโดนคุณนายโจวปิดปากเอาไว้

“อย่าร้องแล้วตามย่ามา จำไว้นะไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น อย่าส่งเสียงร้องและอย่าร้องไห้เด็ดขาด”

เสียงของคุณนายโจวเฉียบขาด โจวซิงเอ๋อร์พยักหน้าอย่างแรง น้ำตาคลอเบ้าไม่กล้าไหลรินออกมา

มีเสียงดังขึ้นอีกครั้งแต่เป็นเสียงทุ้มหนัก ฟังดูเหมือนเสียงมีดที่แทงทะลุเข้าเนื้อ คุณนายโจวใจหล่นลงตาตุ่ม เธอเรียกชื่อลูกน้องอยู่หลายครั้งแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับ

นั่นหมายความว่าบอดี้การ์ดที่เธอพามานั้นโดนลอบทำร้ายแล้ว คุณนายโจวผ่านประสบการณ์มามากจึงตระหนักถึงสิ่งผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว เธอมองไปทางด้านหลังของโจวซิงเอ๋อร์ในทันทีแต่กลับเห็นว่าเธอโดนคนแปะลายนิ้วมือเรืองแสงบนหลังไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร แสงสีฟ้าเรืองแสงในความมืด

เธอรีบหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วออกแรงตีที่ด้านหลังของโจวซิงเอ๋อร์และเธอ พร้อมทั้งโน้มตัวลงเพื่อต้องการให้ที่นั่งปกปิดที่อยู่ของพวกเขา แต่ก็เปล่าประโยชน์เพราะพวกเธอถูกจับได้อย่างรวดเร็ว

ตอนที่โจวจื่อหัวรู้ข่าวโรงละครก็วุ่นวายไปหมดแล้ว คนที่เขาส่งไปปกป้องล้วนตายกันหมด ภรรยาและหลานสาวของเขาตกอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูเรียบร้อยแล้ว

…………………………………………..