ตอนที่ 1818 มีชีวิตอยู่ถึงจะสำคัญที่สุด
พอเหมยเหมยรู้ข่าวนี้จากเหยียนหมิงซุ่นก็ตกใจยกใหญ่ “ในฮ่องกงใครใจกล้าขนาดนี้ แม้กระทั่งคนของตระกูลโจวยังกล้าลักพาตัวไป?”
“นอกจากเฉินกั๋วเปียวจะยังเป็นใครได้อีกล่ะ” เหยียนหมิงซุ่นมุ่นคิ้ว การกระทำของเฉินกั๋วเปียวช่างไร้ระเบียบแบบแผนอย่างสิ้นเชิง คิดจะทำก็ทำ ศัตรูเช่นนี้เป็นอะไรที่น่ารำคาญใจที่สุด เดาทางไม่ถูกเลยว่าเขาจะทำอะไรต่อไป
“เฉินกั๋วเปียว? แม่เจ้า…ซิงเอ๋อร์เธอจะ…” เหมยเหมยเป็นห่วงมาก ๆ พอตอนนี้เธอนึกถึงดวงตาที่น่าขยะแขยงของเฉินกั๋วเปียวก็ขนลุกซู่แล้ว ซิงเอ๋อร์ตกอยู่ในมือคนแบบนี้ กลัวว่าจะ…
“อย่าคิดมากไปเลย ไม่ว่าอย่างไรมีชีวิตรอดมาได้ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว โจวจื่อหัวส่งคนไปเจรจากับเฉินกั๋วเปียวแล้ว น่าจะมีผลสรุปในเร็ว ๆนี้” เหยียนหมิงซุ่นพูดปลอบโยนเธอ
แต่เรื่องราวกลับไม่ได้ราบรื่นขนาดนั้น
เงื่อนไขที่เฉินกั๋วเปียวเสนอให้โจวจื่อหัวไม่สามารถยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง แก๊งนี้ไม่ใช่ของเขาคนเดียว เงื่อนไขที่จะให้ยกเหล่าลูกน้องและอาณาเขตครอบครองอยู่ให้นั้น ต่อให้เขาจะตอบตกลงพี่น้องคนอื่น ๆก็คงไม่ยอม
“โจวจื่อหัว ในเมื่อแกไม่เห็นแก่หน้าฉัน งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจแล้วกัน เหอะ!”
เฉินกั๋ยวเปียวคาดไม่ถึงว่าโจวจื่อหัวจะไม่ยอมรับข้อเสนอ แม้กระทั่งภรรยาและหลานสาวก็ไม่สนใจ งั้นก็อย่าโทษว่าเขาไม่ยุติธรรมก็แล้วกัน
โจวซิงเอ๋อร์และคุณนายโจวต่างก็ถูกปิดตาขังอยู่ในห้องมืด ๆ เธออิงแอบคุณนายโจวอย่างหวาดกลัวด้วยตัวที่สั่นเทิ้ม
ก่อนที่คุณนายโจวจะถูกลักพาตัวมาได้ซ่อนปืนไว้ในตัวแล้ว คนของเฉินกั๋วเปียวอาจคิดว่าเธอเป็นแค่หญิงแก่คนหนึ่งจึงไม่ได้ใส่ใจนัก พวกเขาแค่ค้นกระเป๋าของเธอเท่านั้น ไม่ได้ตรวจค้นร่างกายของเธอแต่อย่างใด
เธอลูบหลานสาวของเธอเบา ๆ นัยน์ตาฉายแววปวดใจแต่ก็ยังกำชับว่า “ซิงเอ๋อร์ฟังย่าพูดนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นย่าอยากให้หลานจำเอาไว้ว่า ชีวิตที่เลวร้ายก็ยังดีกว่าความตายนะ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการมีชีวิตอยู่ หลานจำได้หรือยัง?”
โจวซิงเอ๋อร์พยักหน้าอย่างงงงวย “คุณย่า…หนูกลัว คุณปู่จะมาช่วยพวกเราไหมคะ?”
“มาช่วยสิ…จะต้องมาช่วยแน่ ๆ ดังนั้นพวกเราต้องเข้มแข็ง” คุณนายโจวปวดใจมาก เธอรู้ว่าจุดประสงค์ของ เฉินกั๋วเปียวที่จับตัวเธอและซิงเอ๋อร์มาคืออะไร แต่เฉินกั๋วเปียวคนนี้ประเมินสถานะของพวกเธอสูงเกินไป และยังประเมินสติปัญญาของโจวจื่อหัวต่ำเกินไป
โจวจื่อหัวจะไม่มีวันเป็นฝ่ายเสียเปรียบยกอาณาเขตเพื่อเธอและโจวซิงเอ๋อร์อย่างแน่นอน
เฉินกั๋วเปียวจะต้องอับอายจนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ พอถึงตอนนั้นคงมาระบายอารมณ์ใส่เธอและซิงเอ๋อร์แน่นอน หญิงชราแก่ ๆอย่างเธอก็ช่างมันเถอะ แต่ซิงเอ๋อร์…
คุณนายโจวยังไม่ทันได้กำชับบอกอะไรซิงเอ๋อร์ประตูก็ถูกเปิดออกเสียก่อน เฉินกั๋วเปียวเดินเข้ามาด้วยท่าทีโหดร้าย เตะเข้าที่คุณนายโจวอย่างแรงทีหนึ่ง แสยะยิ้มพลางคว้าตัวโจวซิงเอ๋อร์ขึ้นมา
คุณนายโจวพุ่งขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง “เฉินกั๋วเปียว แกมีอะไรก็มาลงที่ฉัน ซิงเอ๋อร์ยังเด็ก…”
“ยายแก่หงำเหงือกอย่างแกเนื้อเหนียวเคี้ยวติดฟัน ดูสิว่าเจ้าหนูคนนี้เติบโตมาได้ดีขนาดไหน อายุสิบหกก็สามารถมีลูกได้แล้วจะยังเป็นเด็กได้ไงกันเล่า? อยากจะโทษก็ต้องโทษตาแก่ของแกนู้น!”
เฉินกั๋วเปียวเตะคุณนายโจวล้มลงกับพื้นอีกครั้งแล้วลากตัวโจวซิงเอ๋อร์ที่กรีดร้องไม่หยุดออกไป
“คุณย่า…ช่วยหนูด้วย…อย่ามาแตะต้องเนื้อตัวฉันนะ…คุณย่า…คุณปู่…พ่อแม่…พวกแกออกไปนะ…”
เสียงร้องของโจวซิงเอ๋อร์ยังคงดังลอยมาไม่หยุด ทั้งยังมีเสียงหัวเราะได้ใจอย่างบ้าคลั่งของพวกเฉินกั๋วเปียวดังแว่วมาด้วย คุณนายโจวได้ยินอย่างชัดเจน เธอกัดริมฝีปากแน่นจนเลือดไหลซึมออกมา มือล่วงเข้าไปในเสื้อผ้าคิดอยากจะหยิบปืนออกมาอยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายเธอก็ยังอดทนไว้
ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเพราะชีวิตสำคัญที่สุด หากต่อต้านตอนนี้ซิงเอ๋อร์คงตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ในอนาคตหากซิงเอ๋อร์โตแล้วจะเข้าใจเองว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการมีชีวิตอยู่!
……………………………………………
ตอนที่ 1819 เทปวิดีโอ
เรื่องที่เกิดขึ้นกับโจวซิงเอ๋อร์และคุณนายโจวผ่านไปหนึ่งคืนแล้ว ทั้งโจวจื่อหัวและเหยียนหมิงซุ่นส่งคนไปหาแหล่งกบดานของเฉินกั๋วเปียว แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาเอาตัวสองคนนั้นไปซ่อนไว้ที่ไหนเพราะหาอย่างไรก็หาไม่เจอสักที
“ลูกพี่ เฉินกั๋วเปียวมันบ้าไปแล้ว นี่คือสิ่งที่เราหาเจอในห้องฉายวิดีโอ”
ในมือของเสี่ยวอวิ๋นมีเทปวิดีโอที่พกเอากลับมาด้วย ท่าทางดูโกรธมาก
ห้องฉายวิดีโอขนาดเล็กในฮ่องกงก็คือโรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก พื้นที่คับแคบ ภาพยนตร์ที่นำมาฉายล้วนเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ค่อยโด่งดังนัก เหมยเหมยมีลางสังหรณ์ใจไม่ดี เธอรับวิดีโอมาแล้วนำไปเปิดที่ห้องฉายวิดีโอ
ประสิทธิภาพในการถ่ายยังไม่ค่อยดีนัก ภาพดูเบลอ ๆแต่ก็ยังเห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน ในวิดีโอมีผู้ชายหลายคนกำลังรุมโทรมผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ พอตอนที่กล้องซูมใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น เหมยเหมยก็โมโหจนกระเด้งตัวผึ่งขึ้นมา
“สัตว์นรก…สัตว์นรกแบบนี้ควรโดนมีดค่อย ๆแล่เนื้อออกมาจนทรมานตายไปเลย…”
ผู้หญิงคนนั้นก็คือโจวซิงเอ๋อร์ที่หายตัวไป เธอไม่ได้ต่อต้าน สีหน้าท่าทางดูเย็นชา สายตาว่างเปล่าเหมือนคนตายทั้งเป็น ปล่อยให้ผู้ชายเหล่านั้นทำดั่งใจต้องการ
“เทปวิดีโอต้นฉบับถูกขายครั้งแรกโดยนักเลงอันธพาลที่ชื่อเฮยจื่อ เขาไม่ได้บอกว่าเป็นหลานสาวของโจวจื่อหัว บอกแค่เพียงว่าถ่ายโดยคนจริง ๆ ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมมากในโรงภาพยนตร์ใต้ดิน แต่ว่าโจวจื่อหัวรู้เรื่องนี้แล้วจึงทำการปิดโรงภาพยนตร์ใต้ดินเหล่านั้นทั้งหมดและยังเก็บเทปวิดีโอทั้งหมดกลับมาด้วย”
เสี่ยวอวิ๋นก็โมโหมากเหมือนกัน เธอเกลียดผู้ชายที่รังแกผู้หญิงมากที่สุด ถ้าเธอจับได้จะขยี้กล่องดวงใจของพวกมันให้เละไปเลย
“พี่หมิงซุ่น ตอนนี้จะทำไงต่อไปดี? แบบนี้ซิงเอ๋อร์เธอ…เธอก็…” เหมยเหมยพูดไม่ออก เธอไม่กล้าแม้แต่จะคิดเลยว่าวันข้างหน้าโจวซิงเอ๋อร์จะใช้ชีวิตต่อไปเช่นไร?
สาวน้อยที่เคยสดใสร่าเริงและไม่รู้จักรสชาติของความเศร้าโศก ในอนาคตเธอจะยังสามารถยิ้มแย้มสดใสเหมือนดั่งดวงอาทิตย์ได้อยู่ไหมนะ?
เหยียนหมิงซุ่นพูดปลอบใจเธอ “มีชีวิตรอดมาได้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้ว อย่างน้อยเรื่องเทปวิดีโอก็ทำให้พวกเรารู้ว่าโจวซิงเอ๋อร์ยังมีชีวิตอยู่”
เหมยเหมยพยักหน้า ก็จริง ไม่มีสิ่งใดมีค่าไปกว่าชีวิตอีกแล้ว สิ่งเลวร้ายจะค่อย ๆถูกลบเลือนไปตามกาลเวลาเอง
เหยียนหมิงซุ่นกดเล่นอีกครั้งจนสุดท้ายก็กดหยุดอยู่ที่ภาพบานหน้าต่าง หน้าต่างไม่ได้ปิดไว้จึงสามารถเห็นทิวทัศน์ภายนอกว่าเป็นชายหาดแห่งหนึ่งได้อย่างชัดเจน และยังเห็นเรือประมงอีกด้วย
เขาขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นแล้วพูดกับเสี่ยวอวิ๋นว่า “ให้คนรีบไปตามสืบหาสถานที่แห่งนี้โดยเร็วที่สุด แล้วแจ้งให้โจวจื่อหัวทราบด้วย”
“ค่ะ”
เสี่ยวอวิ๋นออกไปแล้ว
เหยียนหมิงซุ่นยิ้มอย่างเย็นชา ช่างโง่เขลาเสียจริง หากไม่ได้ถ่ายวิดีโอไว้เขาคงหาที่ซ่อนของเฉินกั๋วเปียวไม่เจอหรอก พื้นที่ฮ่องกงไม่ใหญ่นัก หมู่บ้านชาวประมงก็มีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น แค่ทิวทัศน์เล็กน้อยแค่นี้คนของเขาจะต้องหาเฉินกั๋วเปียวพบอย่างแน่นอน
โอหยางซานซานเปลี่ยนไปพักโรงแรมอีกแห่ง เธอกำลังรับชมวิดีโออยู่ พอเห็นฉากตอนที่โจวซิงเอ๋อร์ต้องเจอสิ่งเลวร้ายพวกนั้นสีหน้าท่าทางของเธอก็พลันตื่นเต้นขึ้นมาก อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นรินไวน์แดงสักแก้ว
เรื่องที่น่ายินดีขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องมีเครื่องดื่มฉลองหน่อยสิ
ถ้าหากนางเอกในวิดีโอเปลี่ยนเป็นจ้าวเหมยเธอคงมีความสุขมากกว่านี้!
โทรศัพท์แผดเสียงดังขึ้น โอหยางซานซานได้ฟังเพียงสองสามประโยคสีหน้าก็เปลี่ยนไปดูไม่ได้ พร้อมสบถด่าว่า “ไอ้หน้าโง่!”
เธอดื่มไวน์รวดเดียวหมดแก้ว จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อเชิ้ตเก่า ๆบ้านนอกตัวหนึ่ง จากนั้นก็หยิบขวดแก้วออกมาจากลิ้นชักมาทาผมทาหน้า ในไม่ช้าก็แปลงร่างเป็นหญิงวัยชราที่มีริ้วรอยเต็มใบหน้า ผมสีเทาขาวและหลังค่อม
เธอมองสำรวจการปลอมตัวครั้งใหม่ของตัวเองอย่างพึงพอใจ หยิบกระเป๋าลายดอกอีกใบออกมาแล้วเดินตัวโงนเงนเหมือนคนแก่ พอตอนเดินไปถึงประตูเธอก็หันหน้ามาส่งจูบพร้อมรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
ตอนคนของโจวจื่อหัวมาถึงโรงแรมห้องก็ว่างเปล่าแล้ว ทางฝั่งสนามบินก็ไม่มีบันทึกการเดินทางของโอหยางซานซานเสียด้วย
…………………………………………..