ตอนที่ 1828 เอาบัตรมาจากไหน
เหมยเหมยไม่ได้กลัวว่าก่วนเสี่ยอวี้จะเห็นพวกเธอ เพราะที่นั่งของก่วนเสี่ยวค่อนไปทางด้านหลัง ส่วนที่นั่งของพวกเธอเป็นวีไอพีอยู่ด้านหน้าสุด ระยะห่างตรงกลางค่อนข้างไกล ผู้คนมากมายขวักไขว่ หากไม่ได้ตั้งใจมองก็คงยากที่จะเห็น
เฉินเจียเห็นพวกเขาก็ยิ้มร่าอย่างดีใจ “ขอบคุณมาก…ขอบคุณที่พวกเธอมาดูการแข่งนะ มื้อเที่ยงนี้ฉันเลี้ยงเอง”
“รวยแล้วเหรอ?” สยงมู่มู่เยาะเย้ย
“ก็ใช่ไง เพิ่งได้รางวัลมา” เฉินเจียพูดพลางหัวเราะคิกคัก สายตาเหลือบมองโจวซิงเอ๋อร์ที่นั่งเงียบ ๆอยู่ด้านข้าง พลันแอบแปลกใจ
ทำไมวันนี้ถึงไม่ร่าเริงเลยล่ะ?
และสีหน้าก็ดูไม่ค่อยจะดีนัก!
“คุณหนูโจวไม่สบายหรือเปล่าครับ? ผมว่าคุณดูแปลก ๆไปนะ” เฉินเจียถามเสียงเบา
“เอ่อ…คุณย่าของซิงเอ๋อร์เพิ่งเสียไปไม่กี่วันก่อน เธอเสียใจมากเลยต้องพาเธอออกมาผ่อนคลายบ้าง” เหมยเหมยอธิบายเสียงตะกุกตะกัก เฉินเจียมองโจวซิงเอ๋อร์อย่างเห็นใจ ไม่แปลกเลยที่เด็กผู้หญิงคนนี้จะมีรังสีแห่งความเศร้าโศกแผ่กระจายทั่วร่างกาย!
เขาอยากจะปลอบใจเธอ แต่ด้วยความที่ไม่ค่อยสนิท ถ้าจู่ ๆพูดเรื่องทำนองไว้ทุกข์ก็ดูจะเสียมารยาทเกินไป เฉินเจียคิด ๆแล้วก็ฉีกยิ้มพร้อมพูดกับโจวซิงเอ๋อร์ว่า “คุณหนูโจว เที่ยงนี้ไปทานข้าวด้วยกันสิครับ ผมเลี้ยงเอง เพื่อนคุณ…”
เหมยเหมยรู้สึกว่าไม่ดีแน่ จึงพูดขัดขึ้นว่า “เฉินเจียมานี่หน่อย ฉันมีเรื่องจะถามนาย”
โชคดีที่โจวซิงเอ๋อร์ฟังไม่ค่อยถนัดนัก เธอมองเฉินเจียอย่างมึนงง แววตาเป็นประกายเลือนหายไป ตัวเธอในตอนนี้ไม่มีสิทธิ์ที่จะรักเฉินเจียอีกแล้ว!
แต่เธอก็รับปากเขาพูดเสียงเบาว่า ‘ได้’
เธออยากอยู่กับเฉินเจีย แม้จะไม่ได้คุยกันแต่เธอก็ดีใจมากแล้ว
เฉินเจียส่งยิ้มให้เธออีกครั้ง จากนั้นก็เดินกลับไปหาเหมยเหมย “เรื่องอะไรเหรอ?”
เหมยเหมยไม่ได้มีเรื่องอะไรเลย เธอแค่ไม่อยากให้เขาเอ่ยชื่อของก่วนเสี่ยวอวี้เท่านั้นเอง แต่เพียงชั่วขณะเธอก็คิดออกว่ามีเรื่องต้องถามเขาจึงลากตัวเฉินเจียไปอีกฟาก ลดเสียงลงแล้วเอ่ยว่า “นายกำลังคบหากับก่วนเสี่ยวอวี้เหรอ?”
ลูกตาของเฉินเจียแทบถลนออกมา ไอติดต่อกันหลายครั้ง “จะเป็นไปได้อย่างไร? จนถึงทุกวันนี้ฉันเพิ่งเคยเจอก่วนเสี่ยวอวี้แค่สี่ครั้งเอง ไม่นับว่าเป็นเพื่อนกันด้วยซ้ำ”
เหมยเหมยพลันวางใจ แล้วถามต่อว่า “แล้วนายเป็นคนให้บัตรเธอหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่ฉัน ก็บอกแล้วไงว่าไม่นับเป็นเพื่อนด้วยซ้ำ จะชวนเธอมาดูการแข่งขันได้อย่างไร? เหมยเหมยมีอะไรเหรอ ฟังดูเหมือนเธอจะไม่ชอบเสี่ยวอวี้? ฉันว่าเธอก็ดูน่ารักดีนะ!”
เฉินเจียรู้สึกแปลกใจมาก เขาฟังออกว่าน้ำเสียงของเหมยเหมยดูไม่ชอบก่วนเสี่ยวอวี้เอาเสียเลย
ถึงก่วนเสี่ยวอวี้จะไม่ได้สวยมากแต่ก็เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ไร้เดียงสาและจิตใจดี และยังเอาใจใส่ดีอีกด้วย เขารู้สึกว่าไม่เลวเลยล่ะ!
“เอาเถอะ นายรีบไปแข่งได้แล้ว ก่อนถึงช่วงแข่งโอลิมปิกนายห้ามมีแฟนนะ ต่อให้เป็นเทพเซียนลงมาจุติก็ห้ามหวั่นไหวเด็ดขาด” เหมยเหมยเตือนอ้อม ๆ
เฉินเจียหน้าแดงก่ำ พูดอย่างเขินอาย “ฉันรู้แล้วน่า โค้ชก็พูดแบบนี้เหมือนกัน”
ตอนนี้ในใจของเขามีแต่เรื่องแข่งกีฬาโอลิมปิกและต้องคว้ารางวัลมาให้ได้ด้วย ก่อนถึงตอนนั้นไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็จะไม่คิดถึงมันทั้งนั้น
แต่บางทีตอนเห็นคู่รักที่พลอดรักกันหวานชื่น เขาก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมานิด ๆ อยากจะรู้ว่ารสชาติของการจูบมันจะหวานขนาดไหนกันนะ!
เหมยเหมยเหลือบมองก่วนเสี่ยวอวี้ครั้งหนึ่ง พร้อมจงใจกำชับว่า “มื้อเที่ยงนายออย่าชวนก่วนเสี่ยวอวี้ล่ะ ฉันไม่ค่อยชอบเธอ มันจะส่งผลต่อความอยากอาหารเอาได้”
เฉินเจียอืมรับไปทีแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
เหมยเหมยไม่มีอารมณ์ที่จะดูการแข่งขัน เฉินเจียไม่ได้เป็นคนให้บัตรก่วนเสี่ยวอวี้ แล้วเธอไปเอาบัตรมาจากไหน?
การแข่งขันกระชับมิตรครั้งนี้ไม่มีการจำหน่ายบัตรเข้าชม ต่อให้ก่วนเสี่ยวอวี้มีเงินก็ซื้อไม่ได้ อีกอย่างเธอเองก็ไม่มีเงิน ที่มาของบัตรใบนี้มีจุดน่าสงสัยเสียแล้ว!
………………………………………………….
ตอนที่ 1829 น่าสงสัยมาก
การแข่งขันจบลง ผลการแข่งขันคงไม่ต้องสงสัย ในเมื่อมีนักกีฬามืออาชีพอย่างเฉินเจียอยู่ มหาวิทยาลัยฮ่องกงต้องชนะมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้อย่างง่ายดายเป็นธรรมดา ลบล้างความอัปยศที่เคยแพ้มาหกปีซ้อนจึงทำให้อธิการบดีของมหาวิทยาลัยฮ่องกงดีใจจนแทบบ้า ใบหน้าแก่ ๆยิ้มแป้น
เฉินเจียมีท่าทีผ่อนคลายมากเหมือนเล่นอะไรสนุก ๆ ไม่มีความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด เขาพาพวกเหมยเหมยเตรียมออกไปทางประตูหลัง เพื่อหลีกเลี่ยงการรุมล้อมจากนักข่าวด้านนอก
“ภัตตาคารป้าหวังฉันคงเลี้ยงไม่ไหว ใกล้ ๆมหาวิทยาลัยมีร้านอาหารเสฉวนอยู่ รสชาติดีไม่น้อย ฉันชอบไปกินที่นั่น…”
เฉินเจียเดินไปพลางพูดเสียงกลั้วหัวเราะไป โจวซิงเอ๋อร์ฟังอยู่เงียบ ๆ มุมปากประดับรอยยิ้มจาง ๆ นั่นเป็นความสวยงามอีกรูปแบบหนึ่ง เฉินเจียเหลือบมองอยู่บ่อยครั้งอย่างอดไม่ได้
“เฉินเจีย ยินดีด้วยที่ได้รางวัล…ซิงเอ๋อร์…เธอ…”
เพิ่งเดินมาถึงทางออกก่วนเสี่ยวอวี้ก็วิ่งพรวดออกมาอย่างดีใจ ดูเหมือนจะรออยู่ตรงนี้นานแล้ว จังหวะที่เธอเห็นโจวซิงเอ๋อร์เข้า ดวงตาของเธอฉายแววสับสน ท่าทีดูไม่เป็นปกติ แต่ก็กลับมาเป็นดอกไม้ขาวแสนบริสุทธิ์ขี้อายได้อีกครั้ง
โจวซิงเอ๋อร์ตกใจมากกว่าเดิม “เสี่ยวอวี้ ทำไมเธอเองก็มาดูการแข่งขันได้ล่ะ? เธอเอาบัตรมาจากไหนเหรอ?”
ก่วนเสี่ยวอวี้ไม่พอใจเป็นอย่างมาก พูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ “เพื่อนคนหนึ่งให้ฉันมา ฉันนึกว่าซิงเอ๋อร์จะไม่มาดูการแข่งขันเสียอีก เธอไม่โทรมาหาฉันเลยนะ”
โจวซิงเอ๋อร์ดวงตาแดงก่ำ อธิบายว่า “ฉัน…ฉันลืมน่ะ…เสี่ยวอวี้ คุณย่าของฉัน…”
คำพูดที่เหลือเธอพูดต่อไปไม่ไหว โจวซิงเอ๋อร์ฝืนความเจ็บปวดเอาไว้ไม่พูดอะไรอีก ความเศร้าเสียใจทวีมากขึ้น เฉินเจียก็พลอยรู้สึกเจ็บปวดไปด้วยเช่นกัน
เพราะคุณปู่ที่เขารักที่สุดก็เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว เขาเสียใจอยู่นาน เพราะงั้นเขาจึงเข้าใจความรู้สึกของโจวซิงเอ๋อร์ในตอนนี้
เหมยเหมยพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ก่วนเสี่ยวอวี้ คุณย่าของซิงเอ๋อร์เสียแล้ว รู้ไหมว่าเธอเสียใจแค่ไหน หรือว่าเธอไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์เหรอ?”
โจวซิงเอ๋อร์น้ำตาคลอเบ้าแต่ก็สูดเก็บกลับเข้าไปได้อย่างรวดเร็ว เธอรับปากกับคุณย่าไว้แล้ว ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรก็จะไม่ร้องไห้เด็ดขาด!
ความตื่นตระหนกพาดผ่านในแววตาของก่วนเสี่ยวอวี้ ทำไมเธอจะไม่รู้ล่ะ หญิงชราของตระกูลโจวถูกลอบฆ่าตาย ในหนังสือพิมพ์ทั่วทั้งฮ่องกงก็พาดเป็นข่าวใหญ่ ตรอกซอยทั่วทุกพื้นที่มีแต่ข่าวลือเต็มไปหมด
แต่เธอไม่ได้เก็บมาใส่ใจ คนที่ตายไม่ใช่ย่าของเธอสักหน่อย มีอะไรให้ใส่ใจนักเหรอ
และเธอเองก็ไม่กล้าถาม…
“ขอโทษนะ…ซิงเอ๋อร์ ฉันไม่รู้เลย…เธออย่าเสียใจเลยนะ” ก่วนเสี่ยวอวี้กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว พูดปลอบใจด้วยเสียงเล็กแหลม โจวซิงเอ๋อร์ฝืนยิ้มที่มุมปากแต่ไม่ได้พูดอะไร
เหมยเหมยเห็นถึงความตื่นตระหนกก่อนหน้านี้ของก่วนเสี่ยวอวี้ เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้มีจุดที่น่าสงสัย
เธอเลยจงใจถามหยั่งเชิง “คุณนายโจวเกิดเรื่องขึ้นตอนที่ไปดูละครเวที คุณก่วนรู้ไหมคะ?”
“หา…ไม่รู้เลยค่ะ…ซิงเอ๋อร์ ฉันกลับก่อนนะ ไว้วันหลังฉันจะไปเยี่ยมเธอ…ขอตัวนะเฉินเจีย!”
แว่นตาอันหนาเตอะนั้นไม่สามารถบดบังความตื่นตระหนกของก่วนเสี่ยวอวี้ได้เลย เธอบอกลาอย่างร้อนรน แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะโบกมือลาเฉินเจีย
แม้ว่าโจวซิงเอ๋อร์จะไร้เดียงสาแต่ก็ฉลาดมากทีเดียว อีกทั้งเธอยังได้ประสบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มา ความรู้สึกของเธอจึงว่องไวมาก เหมยเหมยเห็นได้ถึงความผิดปกติของก่วนเสี่ยวอวี้ ตัวเธอเองก็เช่นกันจึงพลันรู้สึกใจชาวาบ
ตอนที่คุณย่าพาเธอหนีออกมาเคยบอกเธอว่าเป็นไปได้ว่าก่วนเสี่ยวอวี้จะหักหลังเธอ จากนี้ไปให้เธอระวังตัว แต่เธอนั้นก็ไม่เชื่อ
แต่ตอนนี้…
โจวซิงเอ๋อร์หันไปขอโทษพร้อมส่งยิ้มให้เฉินเจีย “ขอโทษด้วยนะ ฉันมีธุระต้องรีบกลับก่อน ขอให้คุณได้รับรางวัลจากการแข่งที่ประเทศญี่ปุ่นนะคะ!”
เธอคงจะไม่ไปดูการแข่งขันของเฉินเจียอีก
บอกลากันตรงนี้เลยแล้วกัน!
ปฏิกิริยาของเฉินเจียยังไม่ทันได้ตอบสนองก็เห็นเพียงรอยยิ้มแสนเศร้าของโจวซิงเอ๋อร์ แต่ตัวของเธอเดินจากไปแล้ว
“ฉันก็ไม่กินแล้ว เฉินเจียนายตั้งใจแข่งแล้วกันเพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศ ครั้งหน้าฉันจะไปเชียร์นายแข่งที่แอตแลนตาแน่นอน” เหมยเหมยให้กำลังใจเขา แล้วจากไปพร้อมเสี่ยวอวิ๋นอย่างรวดเร็ว
ก่วนเสี่ยวอวี้น่าสงสัยมาก ต้องตามสืบให้แน่ชัด!
……………………………………………………………..