“ในเมื่อตอนนี้แม่เยาะเย้ยกลับไป ผมคิดว่ามันก็เป็นแค่การ ใช้สิ่งที่พวกเขาเคยทำกับเรา มาทำใส่พวกเขากลับไปเท่านั้นเอง จะว่าไปแล้ว ก็เป็นเพราะพวกเขาหาเรื่องใส่ตัวทั้งนั้น”
เซียวฉางเฉียนและนายหญิงใหญ่เซียวก็ถูกหม่าหลันเยาะเย้ยจนแทบโมโหตาย แต่ก็สู้อะไรกลับไปไม่ได้ ทั้งสองคนก็โมโหหันหลังเดินกลับไป
เซียวฉางเฉียนก็เดินไปด่าไปว่า “อีหม่าหลันนี่มันมควรตาย จากนี้ถ้าผมมีโอกาส ผมจะเล่นมันให้ตายเลย!”
นายหญิงใหญ่ก็พูดอย่างหัวเสียว่า “อย่าเพิ่งพูดเรื่องมันเลย พรุ่งนี้รีบพาเฉียนหงเย่นไปเอาลูกมารหัวขนในท้องออกไปเสีย นี่มันเป็นความอัปยศของตระกูลเซียวในรอบ100ปีเชียวนะ!”
เซียวฉางเฉียนก็มีสีหน้ารังเกียจ แล้วกัดฟันพูดว่า “แม่วางใจเถอะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะพาเธอไปเอง!”
พอกลับมาที่บ้าน เซียวไห่หลงและเซียวเวยเวยก็เพิ่งตื่น ตอนนี้กำลังอยู่ในห้องรับแขก กำลังรอเฉียนหงเย่นทำกับข้าว
ครั้งก่อน เฉียนหงเย่นซื้อเครื่องทำกาแฟมา แล้วเงินเหลือ วันนี้ก็เลยจะกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวเสียหน่อย ดังนั้น วันนี้ก็เลยซื้อหอยเป๋าฮื้อสดมามากมาย เตรียมจะจัดงานเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อให้คนในบ้าน
แค่วัตถุดิบอย่างหอยเป๋าฮื้อ ก็จ่ายไปหลายพันหยวนแล้ว สำหรับเฉียนหงเย่นแล้ว ถือว่าควักเลือดควักเนื้ออยู่เหมือนกัน
พอนายหญิงใหญ่เซียวเห็นว่าเฉียนหงเย่นซื้อหอยเป๋าฮื้อมา แวบแรกก็ดีใจ เที่ยงวันนี้จะได้มีของดีกินแล้ว
แต่จากนั้น นายหญิงเซียวก็นึกรายละเอียดขึ้นมาได้ ก็เลยถามเฉียนหงเย่นไปว่า “เอาเงินที่ไหนมาซื้อหอยเป๋าฮื้อพวกนี้? ”
เซียวหงเย่นก็โกหกไปว่า “ก่อนหน้านี้มีเพื่อนเล่นไพ่มาได้ แล้วให้ยืมเงินมา ยังไม่ได้คืนมา ช่วงนี้ขัดสนไม่ใช่หรือ? หนูก็เลยไปเอาเงินคืนมา”
นายหญิงใหญ่เซียวก็พยักหน้าเบาๆ แล้วพูดเสียงขรึมว่า “เอาเงินที่เหลือทั้งหมด โอนมาที่วีแชทของฉัน ต่อไปนี้เงินทั้งหมดของบ้าน แม่จะเป็นคนดูแล รวมทั้งเงินที่ประธานอู๋ลงทุนกับบริษัทเซียวซื่อด้วย ฉันจะเป็นคนจัดการเอง ถ้าใครกล้าแอบเก็บเงินไว้เอง ก็ขอเชิญออกไปจากบ้านหลังนี้”
เฉียนหงเย่นก็รีบยิ้มตาม แล้วพูดว่า “แม่วางใจเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูจะโอนเงินทั้งหมดที่เหลือให้เลย จะไม่เหลือไว้เลยค่ะ!”
นายหญิงใหญ่เซียวก็มองไปทางเซียวฉางเฉียน แล้วพูดเสียงขรึมว่า “ฉางเฉียน ก่อนหน้านี้แกเก็บเงินไว้สิบกว่าล้าน ให้ตายก็ไม่ยอมให้ฉัน สุดท้ายเงินนั้นก็หายลับไป ดังนั้นแต่นี้ไป ถ้าแกกล้าแอบเก็บเงินไว้อีกล่ะก็ ก็อย่ามาโทษว่าแม่ใจร้ายแล้วกัน ได้ยินไหม? ”
เซียวฉางเฉียนก็พยักหน้า แล้วก็ยกมือคำนับพูดว่า “ผมทราบแล้วครับแม่ วางใจเถอะ ต่อไปนี้ผมไม่กล้าซ่อนเงินแล้ว!”
นายหญิงใหญ่เซียวก็พยักหน้าอย่างพอใจ ดูเหมือนว่าสถานการณ์คับขันของตระกูลเซียว จะช่วยทำให้การปกครองดูแลตระกูลให้มั่นคงมากขึ้น
ไม่นาน เฉียนหงเย่นก็ยกหอยเป๋าฮื้อรูปแบบต่างๆ ออกมาเสิร์ฟบนโต๊ะ
งานเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อ ก็จะมีหอยเป๋าฮื้อทุกเมนู
เป๋าอ้อสดนึ่งวุ้นเส้น เป๋าฮื้อน้ำแดง ซาซิมิเป๋าฮื้อ ซุปเป๋าฮื้อ
เนื่องจากซื้อวัตถุดิบมาดี ดังนั้นรสชาติของทุกเมนูก็เลยอร่อย
แต่ว่า บนโต๊ะอาหาร เฉียนหงเย่นกลับกินบะหมี่ใส่เขียวเจียวชามหนึ่งธรรมดาๆ ไม่ได้กินเมนูหอยเป๋าฮื้อเลย
เซียวเวยเวยก็แปลกใจ แล้วถามเธอว่า “แม่คะ ทำไมแม่ไม่กินเป๋าฮื้อล่ะคะ? ทำมาตั้งนาน ทำไมกินสักคำเลยล่ะคะ? ”
เฉียนหงเย่นก็ไม่กล้าพูดความจริง จะกล้าบอกลูกสาวได้อย่างไร ว่าเธอนั้นป่วย ก็เลยกินอาหารทะเลไม่ได้
ดังนั้นเธอก็ได้แต่พูดว่า “ช่วงนี้แม่ท้องไม่ค่อยดี กินอาหารทะเลไม่ได้”
เซียวฉางเฉียนก็เพิ่งหัวเสียกับหม่าหลันมา ในใจยังร้อนรุ่ม ก็เลยมองเธอด้วยสายตาโกรธ แล้วพูดว่า “อย่างแกอะนะจะกินอาหารทะเล ไม่คู่ควรหรอก!จะกินมันไปทำไม? ไปช่วยบำรุงลูกมารหัวขนในท้องแกรึไง? ”