บทที่ 1832 ตั๊กแตนตำข้าวจับจั๊กจั่นอยู่หน้า นกกระจอกเหลืองตามอยู่หลัง + ตอนที่ 1833 ชื่ออาเมย์

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1832 ตั๊กแตนตำข้าวจับจั๊กจั่นอยู่หน้า นกกระจอกเหลืองตามอยู่หลัง

โจวจื่อหัวได้ออกคำสั่งเด็ดขาดไว้แต่แรกว่าหากร้อนแรงได้มากแค่ไหนผู้กำกับก็ถ่ายให้ได้มากเท่านั้นโดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงตัวก่วนเสี่ยวอวี้เลย ขอเพียงแค่ดึงดูดสายตาได้ก็พอ คำสั่งของลูกพี่โจวผู้กำกับจะกล้าขัดขืนได้อย่างไรเลยไม่มีความทะนุถนอมใด ๆ ทุ่มเทกับถ่ายหนังโป๊เรื่องแล้วเรื่องเล่าไม่หยุดหย่อน

ในเมื่อไม่จำเป็นต้องมีโครงเรื่องและไม่จำเป็นต้องมีฉากหลัง แต่ปัญหาคือต้องการผู้ชายกี่คนต่างหาก หนึ่งวันถ่ายได้ตั้งหลายเรื่องเชียวนะ!

ครอบครัวก่วนเสี่ยวอวี้ไม่กล้าโวยวายอะไรถึงขั้นแค้นใจหาว่าเธอก่อปัญหาใหญ่ให้ที่บ้าน พวกเขาประกาศไปว่าได้ตัดความสัมพันธ์กับก่วนเสี่ยวอวี้กับคนภายนอกโดยสิ้นเชิงแล้ว เป็นการเอาตัวรอดที่ดีทีเดียว

ส่วนทางโรงเรียนของก่วนเสี่ยวอวี้เองก็ได้แปะใบประกาศไล่ก่วนเสี่ยวอวี้ออกทันที ด้วยเหตุผลที่ว่าก่วนเสี่ยวอวี้ขายตัว ถึงขั้นลงแถลงการณ์ประกาศให้รับรู้โดยทั่วกันเลยทีเดียว

ก่วนเสี่ยวอวี้กลายเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในพริบตา กระแสมาแรงแซงดารารุ่นใหญ่อย่างจางกั๋วหรง หากชาวบ้านว่างเมื่อไรเป็นอันต้องคุยเรื่องก่วนเสี่ยวอวี้ทุกครั้งไป แน่นอนว่าต้องเป็นในแง่ที่ไม่ดีเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม

ณ เรือนรับรองสักแห่งในเมืองหลวง

เฮ่อเหลียนเช่อมีสีหน้าถมึงทึงมอง ‘โอหยางซานซาน’ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานิ่งพลางเคาะนิ้วกับที่วางแขนเก้าอี้เบา ๆเป็นจังหวะ

‘โอหยางซานซาน’ ไม่กล้ากระดิกตัวและเหงื่อเปียกชุ่มไปทั้งแผ่นหลัง ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนเธอก็ยังคงไม่กล้าเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้อยู่ดี

“เก่งขึ้นนี่ กล้าลงมือโดยพลการแล้ว” เฮ่อเหลียนเช่อพูดเสียงเบาด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่กลับทำให้ ‘โอหยางซานซาน’ เหงื่อแตกตรงแผ่นหลังมากกว่าเดิม

เธอกัดปลายลิ้นให้ตัวเองใจเย็นลงแล้วเรียกความกล้าเอ่ยขึ้นว่า “ฉันใจร้อนเกินไป แค่อยากรีบทำภารกิจที่คุณชายเช่อสั่งไว้ให้เสร็จโดยเร็ว ฉันผิดไปแล้ว คุณชายเช่อลงโทษฉันเถอะ!”

เธอรู้นิสัยของเฮ่อเหลียนเช่อเป็นอย่างดี เวลานี้สู้ยอมรับความผิดด้วยตัวเองดีกว่าบางทีอาจจะเอาตัวรอดได้

“ทำภารกิจสำเร็จแล้วเหรอ?” เฮ่อเหลียนเช่อสีหน้าผ่อนคลายลงบ้าง แม้จะเย็นชาเหมือนเดิมแต่รังสีอาฆาตกลับลดลงมาก ‘โอหยางซานซาน’ เป็นคนไหวพริบดีเลยลอบถอนหายใจโล่งอก

“โจวจื่อหัวโง่ ดึงดันจะร่วมมือกับเหยียนหมิงซุ่นให้ได้ ฉันเกลี้ยกล่อมเขาไม่ได้” ‘โอหยางซานซาน’ สารภาพไปตามตรง พอเห็นว่าความเยือกเย็นบนตัวเฮ่อเหลียนเช่อหนักกว่าเดิมเธอจึงรีบเอ่ยเสริม “คุณชายเช่อสบายใจได้ ฉันวางพิษโจวจื่อหัวไปแล้ว อย่างมากอีกสามวันยาพิษก็จะสำแดงฤทธิ์ ร่างกายจะอ่อนแอลง”

‘โอหยางซานซาน’ เห็นเฮ่อเหลียนเช่อดูท่าทางค่อนข้างพอใจเลยแอบดีใจทั้งพูดเสริมขึ้นต่อ “ถึงตอนนั้นพวกลูกน้องของโจวจื่อหัวจะต้องวุ่นวาย ฉันได้เกลี้ยกล่อมพี่น้องร่วมสาบานของโจวจื่อหัวไปแล้ว ขอแค่โจวจื่อหัวล้มเขาก็จะถือโอกาสนี้ยึดอำนาจมาแทน ถึงตอนนั้นก็จะกลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของคุณชายเช่อ”

เฮ่อเหลียนเช่อเหยียดยิ้มที่มุมปากบางเบา “อืม…เรื่องนี้ทำได้ดีถือว่าพอไถ่ความผิดได้ เธอไปพักผ่อนสักหน่อย ถ้ามีอะไรแล้วจะเรียกแล้วกัน”

“ค่ะ!”

‘โอหยางซานซาน’ พรูลมหายใจยาวเพราะรู้ว่าตนผ่านด่านแล้ว

เฮ่อเหลียนเช่อคอยมองแผ่นหลังอ้อนแอ้นหายวับไปจากตรงประตูก่อนจะยิ้มได้ใจ

เหยียนหมิงซุ่นเอ๋ยเหยียนหมิงซุ่น…ต่อให้แกเก่งแค่ไหนแล้วอย่างไรล่ะ?

คุณชายอย่างฉันแค่นั่งดูเสือสองตัวสู้กัน แล้วรอเป็นประมงตกปลาก็พอ ฮ่า ๆ!

เฮ่อเหลียนเช่อลูบปลายคางอย่างนึกสนุก อยากรู้เหลือเกินว่าหากเหยียนหมิงซุ่นรู้ตัวตนที่แท้จริงของโอหยางซานซานแล้วจะมีสีหน้าแบบไหน?

ต้องสนุกมากแน่ ๆ!

แต่ยังไม่ใช่เวลานี้หรอก รอเวลานั้นมาถึงเขาจะเปิดตัวและต้องมีเรื่องสนุก ๆให้ดูแน่!

เฮ่อเหลียนเช่ออารมณ์ดีสุดขีดเพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมามักตกเป็นรองเหยียนหมิงซุ่นเสมอ คราวนี้เขาเอาคืนได้สักที วันนี้อากาศดีไม่หยอก…

อืม…ให้ซูหานทำของอร่อย ๆเยอะหน่อยดีกว่าจะได้ฉลองให้เต็มที่ไปเลย!

……………………….………………….

ตอนที่ 1833 ชื่ออาเมย์

ยังคงตามหาศพของโอหยางสยงไม่พบเช่นเดิม เหยียนหมิงซุ่นเลยสั่งให้เสี่ยวอวิ๋นจับตัวเพื่อนร่วมแผนการของ ‘โอหยางซานซาน’ อย่างจางฉู่เซิงมา พอพวกเสี่ยวอวิ๋นไปถึงจางฉู่เซิงที่ว่าก็กำลังเตรียมออกจากฮ่องกงเพื่อกลับแผ่นดินใหญ่

เจ้าหมอนี่ดูท่าทางจะเป็นคนขี้ขลาดตาขาว เสี่ยวอวิ๋นยังไม่ทันทำอะไรเขาก็ตกใจจนฉี่ราดและสารภาพออกมาหมดเปลือก

โอหยางสยงถูก ‘โอหยางซานซาน’ ฆ่าตายจริงแต่คนที่เคลื่อนไหวในคืนนั้นคือเขา อีกทั้งเขาเป็นคนโยนศพของโอหยางสยงลงทะเล ผ่านไปนานขนาดนี้สงสัยไม่เหลือแม้แต่เถ้ากระดูกแล้ว

มิน่าคนของเหยียนหมิงซุ่นตามหาอยู่นานก็ไม่พบ

“นายกับโอหยางซานซานเป็นคนของเฮ่อเหลียนเช่องั้นเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นถามแต่เขากลับรู้สึกว่าไม่เหมือน คนของเฮ่อเหลียนเช่อไม่ได้ขี้ขลาดขนาดนี้

เป็นไปตามคาด–

จางฉู่เซิงทำหน้างงงวย “ฉันไม่รู้จักเฮ่อเหลียนเช่อ ฉันไม่ใช่สายลับจริง ๆ ฉันเป็นแค่พนักงานบริษัทธรรมดา ขอร้องละปล่อยฉันไปเถอะ!”

“งั้นนายฟังคำสั่งใคร?”

“ก็อาเมย์ไง เธอเป็นคนจัดการวางงานให้ฉันแล้วบอกให้ฉันช่วยอะไรเธอนิด ๆ หน่อย ๆ เรื่องอื่นฉันไม่รู้จริง ๆ…ความจริงหลังจากฉันกำจัดศพแล้วก็ไม่กล้าอยู่ต่อ ตั้งแต่เล็กจนโตฉันยังไม่เคยฆ่าแม้กระทั่งไก่สักตัวเลย…”

จางฉู่เซิงร้องไห้ปล่อยโฮน้ำหูน้ำตาไหลเปื้อนเต็มหน้า กลิ่นฉี่เหม็นหึ่งลอยปะทะเข้าจมูกจนทำเอารู้สึกขยะแขยงกันแทบแย่

เสี่ยวอวิ๋นมองเขาด้วยสายตารังเกียจแล้วยกเท้าถีบเข้าทีหนึ่ง ตะคอกใส่ “ร้องไห้อีกจะตัดลิ้นทิ้งซะเลย!”

เสียงร้องไห้หยุดชะงักทันที จางฉู่เซิงสะอื้นตัวโยนเปลี่ยนเป็นการร้องไห้แบบเงียบ ๆไร้เสียง ทำเอาคนมองรู้สึกรังเกียจยิ่งกว่าเดิม

“นายรู้จักกับโอหยางซานซานได้อย่างไร?” เหยียนหมิงซุ่นถาม

“รู้จักกันที่อเมริกาเมื่อสองปีก่อน ตอนนั้นฉันเรียนต่อที่อเมริกาและอาเมย์ก็อยู่ที่นั่นด้วย เธอไปทานข้าวที่ร้านอาหารที่ฉันทำงานบ่อย ๆ พอรู้ว่าฉันมาฮ่องกงก็แนะนำงานปัจจุบันให้ฉัน” จางฉู่เซิงเอ่ยเสียงปนสะอื้น

มีบางอย่างแล่นผ่านขึ้นมาในหัวเหยียนหมิงซุ่นจนทำให้เขาขมวดคิ้วน้อย ๆ เพราะมันแวบผ่านขึ้นมาเร็วเกินไปจนคว้าไว้ไม่ทัน

“โอหยางซานซานเป็นคนแบบไหน?” เหยียนหมิงซุ่นถามอีก

“อาเมย์ทั้งสวยทั้งร่าเริง การเรียนดี กีฬาเด่น มนุษยสัมพันธ์ดี ที่บ้านก็ฐานะดีมาก ทั้งยังได้รับความนิยมในมหาวิทยาลัย อีกอย่างมีคุณชายเศรษฐีฮ่องกงมากมายกำลังตามจีบอาเมย์อยู่”

จางฉู่เซิงแววตาหม่นลงชั่ววูบ ความจริงเขาเองก็ชอบเธอเช่นกัน ไม่อย่างนั้นเขาจะยอมช่วยกำจัดศพแทนอาเมย์ได้อย่างไร?

ทั้งที่รู้ว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายแท้ ๆ!

“อาเมย์เธอไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าคน เพราะผู้ชายคนนั้นคิดจะข่มขืนเธอ เธอถึงพลั้งมือฆ่าทิ้ง ซึ่งเป็นการปกป้องตัวเอง…”

จางฉู่เซิงยังคิดว่าเหยียนหมิงซุ่นเป็นตำรวจเลยลองแก้ตัวแทนโอหยางซานซาน ก็ดูเป็นคนรักเพื่อนดีนะ

“เจ้าโง่ นายรู้ไหมว่าผู้ชายที่นายโยนทิ้งทะเลไปคือใคร? นั่นเป็นอาแท้ ๆของโอหยางซานซานและเป็นเจ้าหน้าที่รัฐของแผ่นดินใหญ่ อาเมย์ของนายไม่ได้ฆ่าแค่คนเดียวหรอกนะ…”

เหยียนหมิงซุ่นถามอะไรไม่ออกอีกแล้ว จางฉู่เซิงคนนี้เป็นเพียงคนน่าสงสารที่ถูกความสวยของโอหยางซานซานตัวปลอมหลอกตบตาเท่านั้น

ไม่รู้อะไรเลย

จางฉู่เซิงทรุดตัวนั่งโง่อยู่กับพื้นเหมือนวิญญาณออกจากร่าง ผ่านไปพักใหญ่ถึงร้องไห้เสียงดังอย่างนึกเสียใจภายหลัง

จบแล้ว…จบสิ้นหมดแล้ว…เขาร่ำเรียนอย่างยากลำบากมาเกือบยี่สิบปีตอนนี้ทุกอย่างจบสิ้นหมดแล้ว

“อาเมย์…ทำไมเธอถึงหลอกฉัน…ทั้ง ๆที่ฉันรักเธอั้ง ๆที่น ริง การเรียนดี กีฬาเด่นขนาดนี้…อาเมย์…”

เหยียนหมิงซุ่นเดินไปถึงหน้าประตูพลันหยุดชะงักฝีเท้ากะทันหันแล้วหันไปจ้องจางฉู่เซิงนิ่ง อีกฝ่ายยังพึมพำเรียก ‘อาเมย์’ ซ้ำ ๆไม่หยุด

อาเมย์?

ชื่ออังกฤษนี้แหละที่แวบเข้าหัวเขาเมื่อครู่

…………………….…………………