“ห-หกสิบเอ็ด!”
“พ-เพิ่มขึ้นจริง! ความเข้ากันได้นั้นกลับเพิ่มขึ้นจริง!”
“พระเจ้าช่วย ข้าไม่ได้ฝันไปใช่หรือไม่? โอสถสวรรค์ปรับฐานนั้นมันกลับมีฤทธิ์เพิ่มค่าความเข้ากันได้!”
…
เข็มนั้นมันไปหยุดลงที่เลขหกสิบเอ็ด!
แม้ว่ามันจะเพิ่มขึ้นมาแค่สองแต้มแต่มันก็ยังทำให้คนทั้งหลายแทบหยุดหายใจ!
พวกเขานั้นต่างคิดว่าเย่หยวนกล่าวล้อเล่น ไม่มีใครนึกฝันว่ามันกลับเป็นความจริง
โอสถสวรรค์ปรับฐานขยะนั้นมันกลับเพิ่มค่าความเข้ากันได้!
เย่หยวนมองดูหน้าหวู่เฉิงเฉาพร้อมถามขึ้น “หวู่เฉิงเฉา เจ้าลองบอกข้ามาอีกครั้งสิว่าโอสถสวรรค์ปรับฐานมันมีประโยชน์หรือไม่?”
หวู่เฉิงเฉาหน้าซีดขาวลงกล่าวขึ้นอย่างอับอาย “ม-มีประโยชน์! แต่ทำไมมันจึงเป็นเช่นนี้ได้กัน?”
เย่หยวนไม่คิดตอบและกล่าวขึ้นมา “เอาล่ะ ทีนี้พวกเจ้าจะเอาอย่างไรต่อ?”
หวู่เฉิงเฉานั้นได้แต่ยืนทำหน้าเหยเก
แต่ว่าปาฏิหาริย์นี้มันทำให้พวกเขาเกิดความอยากอันมหาศาลขึ้นมา
ที่สำคัญไปกว่านั้นพวกเขายังรู้ดีว่าเรื่องวันนี้มันคงไม่พ้นต้องถูกลงโทษแน่แล้ว!
หวู่เฉิงเฉารีบก้มหัวลงประสานมือต่อหน้าหลินหลาน “น้องหลิน ก่อนหน้านี้ข้าหุนหันเกินไปโปรดอภัยให้เฒ่าคนนี้ด้วยเถอะ!”
เมื่อหลินหลานได้ยินเขาก็ได้แต่หัวเราะตอบกลับไป
หวู่เฉิงเฉานั้นได้แต่ยืนนิ่งอย่างอับอายอยู่ตรงนั้น
หากเป็นก่อนหน้านี้แล้ว ถูกนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสามมาก้มหัวขอโทษเช่นนี้ตัวหลินหลานย่อมจะสั่นกลัวไปทั้งกาย
แต่เวลานี้เขานั้นเป็นศิษย์ของเย่หยวน เขาย่อมจะทำตัวสมตำแหน่งตน!
‘เจ้าตีศิษย์ผู้อาวุโสเย่แล้วคิดจะจบเรื่องด้วยแค่การขอโทษหรือ?’
‘ฝันไปเถอะ!’
เย่หยวนหรี่ตาลงมองและถามขึ้น “ใครอีกที่ลงมือ?”
“อาจารย์ลุงหลินข้าขออภัยด้วย!”
“ข-ข้าขออภัย!”
…
คนที่ลงมือไปนั้นต่างก้าวออกมาก้มหัวขอโทษอย่างต่อเนื่อง
เมื่อมันครบทุกคนแล้วเย่หยวนจึงได้สั่งแก่หลินหลานออกมา “ไปเรียกผู้อาวุโสหลัวมา! คนที่มันทำร้ายเจ้านั้นจงมอบให้แก่หอลงทัณฑ์ไปจัดการต่อ!”
หลินหลานที่ได้รับคำสั่งหัวเราะขึ้นมาก่อนจะเดินหายไป
ความเจ็บปวดใดๆ บนร่างกายของเขานั้นมันดีขึ้นอย่างมาก
แต่สีหน้าของพวกหวู่เฉิงเฉากลับซีดขาวลงอย่างมาก
หลัวหยุนชิงนั้นทำหน้าที่ดูแลหอลงทัณฑ์ในตอนนี้และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขานั้นสนิทสนมกับเย่หยวนแค่ไหน มีหรือที่โทษนั้นมันจะเบาๆ ได้?
พวกเขานั้นก้มหัวขอโทษกันไปแล้วแต่กลับยังต้องถูกลงโทษจากทางหอลงทัณฑ์!
ผู้อาวุโสเย่นั้นช่างไร้ปรานี!
และในเวลาเดียวกันนั้นเองที่เย่หยวนได้หยิบเอาโอสถสวรรค์ปรับฐานอีกเม็ดออกมา
สายตาของคนทั้งหลายจึงต่างหันไปมองมันเป็นตาเดียว
ร่างกายของพวกเขานั้นมันโกหกไม่เป็น!
“พวกเจ้าลองมองดูดีๆ ว่าสีโอสถสวรรค์ปรับฐานนี้มันมีอะไรแตกต่างจากโอสถสวรรค์ปรับฐานระดับเก้าทั่วๆ ไป?” เย่หยวนถามขึ้น
ก่อนหน้านี้คนทั้งหลายเห็นแค่ว่ามันมีสีทองและย่อมจะเป็นโอสถสวรรค์ปรับฐานระดับเก้าแน่แล้วจึงไม่ได้สนใจมากมาย
ได้ยินเย่หยวนพูดเช่นนั้นแล้วคนทั้งหลายก็ต้องจ้องมองดูมันอย่างจริงจัง
เมื่อได้มองมันดูดีๆ อีกครั้งแล้วคนทั้งหลายก็ต้องพบเจอความผิดปกติ
“แม้ว่าโอสถสวรรค์ปรับฐานนี้มันจะมีคุณภาพระดับเก้าแต่มันกลับไม่ได้ส่องแสงปล่อยคลื่นออกมาภายนอกมากมายนัก! หรือว่านี่มัน…”
หลังจากหวู่เฉิงเฉามองดูมันดีๆ แล้วเขาก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้จนทำให้ต้องมองเย่หยวนด้วยปากที่อ้าค้าง
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “อย่างน้อยๆ นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสามอย่างเจ้านั้นก็พอจะมีความรู้อยู่บ้าง ใช่แล้ว นี่มันคือโอสถสวรรค์ปรับฐานระดับเก้าขั้นสุด! เพราะฉะนั้นเจ้าลองตอบข้ามาหน่อยสิว่าการบ่มเพาะโอสถสวรรค์ปรับฐานมันมีประโยชน์หรือไม่?”
“ร-ระดับเก้าขั้นสุด!”
“ระดับเก้าขั้นสุดในตำนาน! มัน… มันกลับมีคนที่ทำได้ถึงขั้นนี้อยู่หรือ!”
“ไม่แปลกใจเลย! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้อาวุโสเย่จึงหลอมโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิได้! ที่แท้นี่คือฝีมือที่แท้จริงของเขา!”
…
เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ทั้งหลายนั้นแทบไม่อาจจะหุบปากที่อ้าค้างอยู่ได้
เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาได้รู้ว่าเย่หยวนนั้นหลอมโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิขึ้นมาได้อย่างไร!
ส่วนตัวหวู่เฉิงเฉานั้นได้แต่ยืนทำหน้าเหยเกกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มขื่นขม “ผู้อาวุโสเย่ แต่ระดับเก้าขั้นสุดนั้นมันมิใช่สิ่งที่ใครคิดจะฝึกก็ฝึกได้! เอาเวลามาเสียกับโอสถสวรรค์ระดับพื้นฐานเช่นนี้มันจะดีจริงๆ หรือ?”
เย่หยวนหันไปมองเขาด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย “เพราะเช่นนั้นแหละเจ้าถึงได้ไม่เก่งกาจเท่าฉินชุน! หลายปีมานี้ถูกมันกดหัวเจ้าคงสบายใจมากสิ?”
เมื่อหวู่เฉิงเฉาได้ยินเขาก็ร้องกลับขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “ผู้อาวุโสเย่ ท่านกลับคิดเอาข้าไปเทียบกับเจ้าสวะนั้นหรือ?”
เย่หยวนกล่าวขึ้นมาตาม “ไม่ว่านิสัยมันจะเป็นอย่างไรแต่ฝีมือของมันก็เหนือกว่าเจ้านัก! เจ้ารู้ตัวหรือไม่เล่าว่าพวกเจ้าแตกต่างกันที่ตรงไหน?”
หวู่เฉิงเฉาตอบกลับมาด้วยใบหน้าจริงจัง “ข้าย่อมจะรู้ดี พื้นฐานของข้านั้นมันไม่อาจจะเทียบเคียงกับมันได้! แต่มันนั้นเป็นคนที่ฝึกฝนวิชามาจากพันธมิตรโอสถ! แม้ว่าข้าจะเคยไปศึกษาที่พันธมิตรโอสถแต่ข้าก็ไม่อาจจะเข้าไปถึงหลักการสอนของพวกเขาได้เลย!”
เย่หยวนที่ได้ยินก็หัวเราะขึ้นตอบ “เช่นนั้นข้าจึงได้ส่งหลินหลานให้ไปช่วยพวกเจ้าฝึกฝนรากฐานนั้นให้แข็งแรง แต่เจ้ากลับทำร้ายเขาจนมีสภาพเช่นนั้น?”
หวู่เฉิงเฉาที่ได้ยินต้องรีบกล่าวขึ้นมาตอบด้วยความอับอาย “ร-เรื่องนั้นมันเพราะว่าข้าไม่รู้มิใช่หรือ? ผู้อาวุโสเย่ เฒ่าคนนี้เชื่อถือท่านจริงๆ แล้ว! โอสถสวรรค์ปรับฐานนี้ท่านสามารถฝึกฝันมันจนถึงระดับเก้าขั้นสุดได้! เช่นนั้นท่าน…”
“ไม่!” เย่หยวนตอบกลับมาอย่างหนักแน่น
คนทั้งหลายได้แต่รู้สึกเสียดายขึ้นมาสุดใจเมื่อได้ยิน
ครั้งนี้พวกเขาได้ลบหลู่ผู้อาวุโสเย่อย่างหนักแล้ว!
แต่ว่าเหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ทั้งหลายในที่นี้ต่างเริ่มเชื่อถือในวิธีการของเย่หยวนขึ้นมาจับใจ!
แม้ว่าโอสถสวรรค์ระดับเก้าขั้นสุดและโอสถทองระดับเก้าทั่วๆ ไปมันจะมีระดับเก้าเหมือนกันแต่มันกลับแตกต่างกันสิ้นเชิง
เพราะโอสถทองระดับเก้านั้นมันเคยมีคนหลอมขึ้นมาได้ก่อน
แต่ระดับเก้าขั้นสุดนั้นมันเป็นแค่ตำนาน!
แต่ผู้อาวุโสเย่คนนี้กลับใช้ค่าความเข้ากันได้แค่สี่สร้างของในตำนานอย่างโอสถสวรรค์ระดับเก้าขั้นสุดขึ้นมา!
นี่มันคงเรียกได้ว่าเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง!
เย่หยวนกล่าวขึ้นมาต่อ “จากวันนี้ไปพวกเจ้าจงเชื่อฟังข้าให้มากขึ้น! ใครที่ฝึกฝนโอสถสวรรค์ปรับฐานได้ถึงระดับเก้าก็จะได้รับโอสถสวรรค์ปรับฐานระดับเก้าขั้นสุดนี้ไปหนึ่งเม็ด! หากเจ้าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องไปฝันถึงมัน!”
“หะ?! ระดับเก้า? ผู้อาวุโสเย่ ท่านคิดจะให้เราฝึกไปจนแก่ตายเลยหรือ?” เมื่อเหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ย่อมจะกล่าวขึ้นมาขัด
เย่หยวนจึงยิ้มตอบกลับไป “แน่นอนว่าหากเจ้าไม่อยากฝึกเจ้าก็ไม่ต้องสนใจโอสถสวรรค์ปรับฐานอีกเลยก็ได้เช่นกัน”
พูดไปนั้นเขาก็เอาโอสถสวรรค์ปรับฐานมาวางลงบนมือของเหวินจิงซวน “กินเสียแล้วหลอมซึบซับมันต่อ!”
คนทั้งหลายได้แต่ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาแทบจะกระอักเลือด
หวู่เฉิงเฉาร้องลั่น “ผู้อาวุโสเย่! ท่าน… ท่านลำเอียง!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้าลำเอียงแล้วทำไม? ศิษย์ของข้านั้นข้าจะให้นางกินสักกี่เม็ดก็ได้! ที่สำคัญพวกเจ้าจงสบายใจเถอะ เพราะการฝึกของหลินหลานและจิงซวนนั้นมันจะหนักหน่วงกว่าที่พวกเจ้าต้องเจอนับพันนับหมื่นเท่า! ข้าเย่หยวนนั้นไม่มีคำว่าทางลัดในการหลอมโอสถใดๆ มีเพียงแค่การฝึกฝนเท่านั้น! หากร้อยครั้งไม่สำเร็จข้าก็จะทำมันพันครั้ง! หากพันครั้งไม่สำเร็จข้าก็จะทำมันหมื่นครั้ง! หากหมื่นครั้งไม่สำเร็จข้าก็จะทำมันแสนครั้ง! ทำมันล้านครั้งไปเรื่อยๆ จนกว่าจะชำนาญมันในสักวัน!”
ได้เห็นสีหน้าของเย่หยวนนั้นคนทั้งหลายต่างก็ก้มหัวลงอย่างยอมรับสุดตัว
เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาได้รู้ถึงความลับในความสำเร็จของเย่หยวน! ความลับที่ไม่ลับใด!
แต่จู่ๆ มันก็ปรากฏหลายเงาร่างลอยลงมาจากท้องฟ้า หลัวหยุนชิงมาถึงแล้ว!
หวู่เฉิงเฉาที่ได้เห็นต้องร้องขึ้นมาทันที “ผู้อาวุโสเย่ ข้าเฒ่าหวู่นี้รู้แล้วว่าตัวเองผิดไป! ครั้งนี้ท่านช่วยให้อภัยข้าด้วยเถอะ!”
แต่หลัวหยุนชิงนั้นกลับเดินขึ้นมาบังหน้าเขาไว้ “แม้ว่าผู้อาวุโสเย่นั้นจะมีพลังบ่มเพาะต่ำแต่เขานั้นสำคัญกับนิกายเราอย่างไม่อาจหาใครแทนได้! เจ้านิกายท่านสั่งมาแล้วว่าใครที่ไม่เคารพผู้อาวุโสเย่นั้นต้องถูกลงโทษสิ้น! ตามกฎของนิกายแล้วคนที่ลบหลู่ผู้อาวุโสนั้นต้องถูกโบยร้อยครั้งและแห่ไปรอบเมืองสามวันสามคืน! พวกเจ้า! ลากตัวพวกมันไป!”
จากนั้นคนทั้งหลายต่างก็ถูกสมาชิกหอลงทัณฑ์ลากตัวไปทันที
“ผู้อาวุโสเย่ ข้าผิดไปแล้ว!”
“ผู้อาวุโสเย่ ให้อภัยเราด้วยเถอะ!”
เสียงร้องโหยหวนนั้นมันดังลั่นไปทั้งนิกาย
………………………