“หยุด!”
เย่หยวนนั้นถูกหยุดไว้โดยฮั่นเฉียนหยุนทันทีที่เขามาถึงยังยอดเมฆาเคลื่อน
แดนเนรเทศนั้นมันเป็นมิติที่แยกไปและเหล่านิกายสวรรค์ทั้งห้าของดินแดนสวรรค์ห้าแสงนั้นต่างมีค่ายกลเคลื่อนย้ายที่เชื่อมต่อไปยังที่แห่งนั้น
และของนิกายสวรรค์ยุทธมั่นนั้นมันก็อยู่บนยอดเมฆาเคลื่อนนี้
ได้เห็นฮั่นเฉียนหยุนยืนขวางอยู่ตรงนั้นเย่หยวนก็ขมวดคิ้วแน่น “ข้าจะเข้าไปยังแดนเนรเทศ!”
ฮั่นเฉียนหยุนจึงยิ้มตอบกลับไป “ขออภัยด้วยผู้อาวุโสเย่! แดนเนรเทศนั้นมันอยู่ใต้การดูแลของอาจารย์ข้าแล้ว หากไม่มีคำสั่งของอาจารย์ข้าก็ไม่อาจจะปล่อยให้ใครเข้าแดนเนรเทศไปได้!”
เย่หยวนหรี่ตาลงถาม “เจ้ากล้าหยุดข้า?”
ฮั่นเฉียนหยุนจึงตอบกลับไป “หยุดแล้วทำไมเล่า? มันมิใช่ว่าท่านเข้าไม่ได้เสียหน่อย แต่ท่านแค่ต้องไปทำเรื่องขออาจารย์ข้าก่อนก็เท่านั้น! หรือว่าท่านจะเอาชนะแล้วเหยียบข้ามศพข้าไปก็ได้!”
เย่หยวนไม่คิดจะเถียงใดๆ ต่อไปและเดินหันหน้าหนีไป
ฮั่นเฉียนหยุนที่ได้เห็นท่าทางนั้นของเย่หยวนก็รู้สึกสะใจขึ้นมาเหมือนได้แก้แค้นเรื่องก่อนหน้า
หลังเย่หยวนเดินจากไปแล้วมันก็ปรากฏร่างหนึ่งขึ้นมาแล้วเขาจะเป็นใครไปได้นอกจากเฟิงซวนยี่?
“เจ้าทำได้ดีมาก!” เฟิงซวนยี่กล่าวชม
ฮั่นเฉียนหยุนรีบตอบกลับมา “ท่านเจ้านิกายวางใจเถอะ หากมีข้าอยู่เฝ้าแล้วเย่หยวนย่อมจะไม่มีทางฝ่าไปได้แน่!”
เฟิงซวนยี่พยักหน้ารับ “ข้าย่อมจะวางใจแล้ว แต่ในช่วงนี้เจ้าก็ต้องระวังให้มากอย่าได้ประมาท! เพราะใต้ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำลงไปแล้วเย่หยวนสามารถจะเอาชนะได้สิ้น!”
ฮั่นเฉียนหยุนพยักหน้ารับ “ขอรับท่านเจ้านิกาย!”
หลังจากวันนั้นเฟิงซวนยี่ก็ทำทุกวิถีทางเพื่อจะป้องกันไม่ให้เย่หยวนเดินทางเข้าไปยังแดนเนรเทศ
เขานั้นรู้ดีว่าเย่หยวนนั้นมากวิชาและเก่งกาจแค่ไหนเพราะฉะนั้นเขาจึงได้สั่งการให้ผู้พิทักษ์มากฝีมืออย่างฮั่นเฉียนหยุนนี้เป็นคนมาปกป้องยอดเมฆาเคลื่อน
แน่นอนว่าเขาย่อมจะใช้นามของฉือเฟยหยูมาบังหน้าเพื่อไม่ให้เย่หยวนชิงชังเขา
หลังจากเย่หยวนกลับมาแล้วเขาก็ไม่ได้ไปก่อเรื่องใดๆ มากมายอีก
วันแรกๆ นั้นเฟิงซวนยี่ย่อมจะยังไม่ได้วางใจมากมาย
แต่ผ่านไปได้หลายเดือนเข้าเย่หยวนก็ยังคำแค่เก็บตัวบ่มเพาะในห้องและออกมาสั่งสอนนักหลอมโอสถสวรรค์ทั้งหลายในเรื่องการหลอมโอสถบ้าง เฟิงซวนยี่เองก็เริ่มจะวางใจขึ้นมา
แต่ว่าเฟิงซวนยี่นั้นยังให้ฮั่นเฉียนหยุนเตรียมการรับพร้อมอย่างเต็มที่ไว้เสมอกันว่าเย่หยวนจะแอบลอบเข้าไป
ในวันนี้เย่หยวนก็ได้มาสอนพวกหวู่เฉิงเฉาตามปกติ
หวู่เฉิงเฉานั้นซาบซึ้งในความรู้นี้อย่างมาก
“ผู้อาวุโสเย่นั้นช่างมีพัฒนาการในด้านโอสถที่เหนือล้ำอย่างไม่มีหยุดยั้ง หวู่เฉิงเฉานั้นได้รับประโยชน์ทุกครั้งที่มาฟังท่านจริงๆ!” หวู่เฉิงเฉากล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มกว้าง
หลายปีมานี้มันมิใช่แค่พวกเขาทั้งหลายที่พัฒนา
เพราะหวู่เฉิงเฉาสัมผัสได้ว่าเย่หยวนเองก็พัฒนาไปอย่างมากเช่นกัน!
ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังพัฒนาได้อย่างรวดเร็วล้ำ!
นี่มันคือส่วนที่น่ากลัวที่สุด!
ยิ่งผ่านไปนานเท่าใดหวู่เฉิงเฉาก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของพรสวรรค์นี้
ส่วนเรื่องความเข้ากันได้ใดๆ นั้นมันถูกเขาทิ้งไว้ข้างหลังสิ้นแล้ว
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้านั้นบ่มเพาะฝึกฝนโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งมาจนเกือบครบสิ้นแล้ว มันถึงเวลาที่จะก้าวขึ้นไปฝึกฝนโอสถสวรรค์ระดับสองแล้ว”
หวู่เฉิงเฉาที่ได้ยินจึงต้องถามย้ำขึ้นมา “จริงหรือ?”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ข้าจะยังโกหกเจ้าทำไมเล่า? ไป ไปที่พักเจ้ากัน ข้าจะสอนให้เจ้าโดยตรง”
หวู่เฉิงเฉานั้นยิ้มกว้างอย่างไม่สงสัยอะไรรีบเดินนำทางเย่หยวนไปทันที
คนทั้งสองนั้นมาถึงยังยอดน้ำฟ้า ยอดเขาที่หวู่เฉิงเฉาพักอยู่
ในฐานะผู้พิทักษ์นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสามตัวหวู่เฉิงเฉาย่อมจะต้องมีห้องหลอมโอสถส่วนตัวในบ้าน
หวู่เฉิงเฉานั้นยิ้มกว้างออกมาก่อนจะถามขึ้น “ผู้อาวุโสเย่ ท่านจะสอนอะไรข้ากันแน่?”
เย่หยวนหยิบเอาสมุนไพรสวรรค์หลายชนิดขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ
“พวกเจ้าหลอมกลั่นสมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายนี้ก่อน” เย่หยวนสั่ง
หวู่เฉิงเฉามองดูที่สมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายนั้นด้วยความสงสัย “ผู้อาวุโสเย่ สมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายนี้มันทำเป็นโอสถสวรรค์ใดได้หรือ? ข้าไม่เห็นเคยได้ยิน!”
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “มันเป็นโอสถสวรรค์ระดับสองลับชนิดหนึ่ง เพราะฉะนั้นเจ้าคงไม่รู้จักมันหรอก จากนี้ไปเจ้าแค่หลอมมันตามที่ข้าสั่งบอกก็พอ! ข้าอยากจะเห็นว่าการหลอมโอสถสวรรค์ระดับสองของเจ้านั้นมันมีปัญหาตรงไหนบ้าง”
เมื่อหวู่เฉิงเฉาได้ยินเช่นนั้นเขาก็ยิ้มกว้างขึ้นมาด้วยความเข้าใจ “ยอดเยี่ยมไปเลยผู้อาวุโสเย่!”
เย่หยวนยิ้มแต่ไม่ตอบใดๆ กลับไป
เพียงแค่ว่าเย่หยวนนั้นได้แต่ต้องหัวเราะอยู่ในใจ
‘อีกไม่นานเจ้าคงจะด่าข้าแทนแล้ว!’
หวู่เฉิงเฉานั้นทำตามที่ได้รับสั่งหลอมกลั่นสมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายและโยนมันใส่หม้อหลอมไปตามที่เย่หยวนบอก
เริ่มการหลอมโอสถ!
เย่หยวนนั้นพูดสั่งออกมาอย่างละเอียดเรื่องๆ ไม่มีหยุด
ตัวหวู่เฉิงเฉานั้นเหมือนดั่งเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกป้อนคำสั่งไปเรื่อยๆ ทำได้แค่ทำตามคำของเย่หยวน
หากเป็นก่อนหน้าตัวเขานั้นย่อมจะไม่มีทางทำตามคำสั่งทั้งหมดของเย่หยวนได้แน่
แต่ตอนนี้เขากลับสามารถทำตามมันได้อย่างไร้ปัญหาใด!
เรื่องนี้ทำให้หวู่เฉิงเฉาตื่นเต้นดีใจอย่างมาก
‘ผู้อาวุโสเย่นี่ช่างสมชื่อผู้อาวุโสเย่ วิชาการโอสถของข้าในตอนนี้มันเหนือล้ำกว่าก่อนหน้าไปมากมายนัก! และนี่ข้าแค่สำเร็จการฝึกฝนโอสถสวรรค์พื้นฐานระดับหนึ่งเท่านั้น หากข้าฝึกฝนโอสถสวรรค์พื้นฐานระดับสองหรือระดับสามต่อไปแล้ว วันหน้าข้าอาจจะก้าวขึ้นไปถึงระดับสี่ได้ก็ได้!’ หวู่เฉิงเฉาได้แต่คิดในใจ
หลายปีมานี้การพัฒนาของหวู่เฉิงเฉานั้นมันชัดเจนอยู่แก่ใจของเขา!
มันเหมือนดั่งการก้าวขึ้นสวรรค์อีกครั้ง!
เวลานี้หากเขาหลอมโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งมันก็สามารถจะก้าวขึ้นถึงระดับเจ็ดได้ง่ายๆ!
ส่วนโอสถสวรรค์ระดับสองนั้นเขาก็สามารถหลอมได้ถึงระดับห้าได้สิ้น
ส่วนโอสถสวรรค์ระดับสามนั้นโอสถชนิดใดที่เขาเคยหลอมไม่ได้ ตอนนี้เขาก็หลอมได้ขึ้นมา
และชนิดใดที่หลอมได้มาแต่แรกมันก็พัฒนาขึ้นไปอย่างมาก!
กำลังฝีมือในด้านการโอสถของเขานั้นมันไม่ได้ด้อยไปกว่าฉินชุนแล้ว!
เพราะว่าเย่หยวนสอน!
เพราะฉะนั้นเขาจึงรู้สึกซาบซึ้งในคุณของเย่หยวนอย่างมาก
‘หากวันหน้ามีโอกาสข้าต้องตอบแทนผู้อาวุโสเย่ท่านแน่นอน!’ หวู่เฉิงเฉาได้แต่คิดอยู่ในใจ
เพียงแค่ว่าเขาไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังตอบแทนเย่หยวนอยู่แล้ว
หวู่เฉิงเฉาหลอมได้อย่างราบรื่นไม่มีปัญหาใด
ไม่นานการหลอมนั้นมันก็สำเร็จ!
หวู่เฉิงเฉามองดูเย่หยวนด้วยใบหน้าเหยๆ ก่อนจะถามขึ้น “ผู้อาวุโสเย่ การหลอมของข้าพอใช้ได้หรือไม่?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ไม่ว่ามันจะใช้ได้หรือไม่ เจ้าลองเปิดออกดูก็จะได้รู้เองมิใช่หรือ?”
หวู่เฉิงเฉาพยักหน้ารับก่อนจะพลิกฝ่ามือเปิดหม้อหลอมออก!
ตูม!
ฝุ่นสีเหลืองพุ่งพวยออกมาจากหม้อหลอมนั้น
หวู่เฉิงเฉานั้นผงะไปทันทีแต่ก็ไม่วายสูดมันเข้าไปเต็มปอด
จากนั้นเขาก็ร่วงลงไปนอนชักกระตุกบนพื้นทันที
ส่วนเย่หยวนนั้นหายไปจากจุดที่ยืนอยู่แล้ว
ได้เห็นว่าควันเหลืองนั้นมันกำลังค่อยๆ แผ่ออกไปทั่วยอดน้ำฟ้าเย่หยวนก็ต้องยิ้มกว้างขึ้น “โค่นสายลมสูตรปรับปรุงนี้มันรุนแรงดีจริง! จงเจียนโชวนั้นคงไม่คิดฝันว่าโค่นสายลมของเขานั้นกลับจะรุนแรงได้ปานนี้ใช่หรือไม่? หึ ท่านเจ้านิกาย ท่านคิดผิดแล้ว มีหรือที่แค่ฮั่นเฉียนหยุนนั้นมันจะหยุดข้าไว้ได้?”
พูดจบเขาก็พุ่งตัวมุ่งหน้าไปยังยอดเมฆาเคลื่อนทันที
บนยอดน้ำฟ้านั้นมันเกิดควันหนาสีเหลืองอ่อนค่อยๆ กระจายออกไปทั่วทั้งยอดเขา
“มันเกิดอะไรขึ้นกัน? เจ้าหวู่เฉิงเฉานี่มันหลอมอะไรขึ้น… มา?” บนยอดน้ำฟ้านั้นผู้พิทักษ์หลายต่อหลายคนที่พักอยู่บนยอดเขาต่างพูดได้ไม่ทันจบคำก็ต้องลงไปนอนกองบนพื้น
บนยอดน้ำฟ้านั้นมันมีผู้พิทักษ์ทั้งหลายพักอาศัยอยู่
แต่ว่าวินาทีที่หมอกควันนี้กระจายออกมามันก็ไม่อาจจะถูกกำจัดได้
เหล่าผู้พิทักษ์ทั้งหลายนั้นต่างตกตะลึงเพราะวินาทีที่พวกเขาไปแตะเข้ากับหมอกควันนี้พวกเขาจะลงไปนอนชักบนพื้นทันที
ไม่นานมันก็ทำให้คนทั้งนิกายต้องหันมาสนใจยอดน้ำฟ้านี้
“ไปดูเร็ว! มันเกิดอะไรขึ้นบนยอดน้ำฟ้ากัน?”
“ข้าได้ยินมาว่าเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำนั้นต่างลงไปนอนกองกันสิ้น รีบๆ ไปดูเร็ว”
“ไม่ดีแล้ว! พวกเจ้าดูสิ! ควันหนานั้นมันกำลังเคลื่อนไปทางยอดเมฆาเคลื่อนแล้ว!”