บทที่ 1844 ถูกตัดหน้าอีกครั้ง + ตอนที่ 1845 ร่วมงานแต่งงาน

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1844 ถูกตัดหน้าอีกครั้ง

หลังจากผ่านการทดสอบซ้ำ ๆหลายครั้ง ในที่สุดเหยียนหมิงซุ่นก็ทำให้หญิงใต้ร่างแยกแยะความจริงกับความฝันได้สักที ขณะที่เขานั้นรู้สึกผ่อนคลายทั้งกายและใจ

สำหรับใครบางคนแล้วไม่ว่าจะคุยหัวข้อเรื่องอะไรก็ตาม เขาก็สามารถโยงเข้าเรื่องนี้ได้ทุกที หนำซ้ำยังเป็นธรรมชาติไม่มีติดขัดเลยสักนิด

พอดื่มด่ำกับกายหอมของคนงามเพียงพอแล้วเหยียนหมิงซุ่นก็ต้องไปทำธุระแล้ว

ในเมื่อภรรยาตนเกลียดอู่เยวี่ยขนาดนั้นเขาก็มีความจำเป็นต้องกำจัดผู้หญิงคนนี้ทิ้ง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลส่วนตัวหรืองานก็ตาม แต่เขายังไม่ทันมอบหมายภารกิจให้ลูกน้องเลยก็มีบัตรเชิญสีแดงสดส่งมาถึงมือเขาแล้ว

งานมงคลของเฮ่อเหลียนเช่อกับโอหยางซานซาน ครองรักกันนานร้อยปี ขอเรียนเชิญคุณเหยียนหมิงซุ่นเป็นเกียรติมาร่วมงาน…

เหยียนหมิงซุ่นโกรธจนเผลอขยำบัตรเชิญเป็นก้อนกระดาษแล้วทิ้งลงถังขยะก่อนจะทุบโต๊ะแรง ๆหนึ่งที

เฮ่อเหลียนเช่อ!

โดนไอ้สารเลวนี่ตัดหน้าอีกแล้ว!

น่าแค้นใจนัก!

สถานะของอู่เยวี่ยในตอนนี้คือโอหยางซานซาน แล้วตอนนี้ยังจะแต่งงานกับเฮ่อเหลียนเช่ออีก เช่นนี้เขาก็ลงมือไม่ได้ชั่วคราว แม้คนทั้งโลกจะรู้ว่าเขาไม่ถูกกับเฮ่อเหลียนเช่อ แต่ต่อให้ภายนอกพวกเขาจะแสร้งรักใคร่ปรองดองกันไม่ได้ แต่กระนั้นจะห้ำหั่นเข่นฆ่าก็ไม่ได้เช่นกัน

สำหรับนายใหญ่แล้วความสามัคคีต่างหากที่สำคัญที่สุด

ตำแหน่งคุณนายเฮ่อเหลียนเช่อจะเป็นเกราะป้องกันตัวที่ดีที่สุดของอู่เยวี่ย!

“เฮ่อเหลียนเช่อสมองไม่สมประกอบหรือเปล่า? ผู้หญิงมีตั้งเยอะแยะไม่เอาดันไปเอาของเน่าอย่างอู่เยวี่ย เขาไม่กลัวติดโรคหรือไง!”

เหมยเหมยโกรธแค้นยิ่งกว่าจนตาแทบลุกเป็นไฟ ทว่าจำเป็นต้องระงับความโกรธเอาไว้ซึ่งมันน่าอัดอั้นเหลือเกิน

เหยียนหมิงซุ่นมองเธอแวบหนึ่ง “เฮ่อเหลียนเช่อใช้อู่เยวี่ยไว้รับมือกับหนิงเฉินเซวียนเท่านั้นแหละ ตอนนี้เขาจดจ่ออยู่กับแต่เหมยซูหานแล้วจะชอบอู่เยวี่ยได้อย่างไร?”

การแต่งงานกับอู่เยวี่ยต่างหากที่เป็นความฉลาดแผนสูงของเฮ่อเหลียนเช่อ ผู้หญิงคนอื่นจะเชื่องเท่าอู่เยวี่ยหรือ

เหมยเหมยแค่นเสียงอย่างนึกโมโห “เขาคงไม่คิดจะให้อู่เยวี่ยท้องหรอกนะ? ฉันได้ยินมาว่าหนิงเฉินเซวียนอยากอุ้มหลานจนจะคลั่งตายอยู่แล้ว”

เหยียนหมิงซุ่นใจกระตุกวูบ นี่ก็มีความเป็นไปได้เพราะเฮ่อเหลียนเช่อไม่มีทางยอมเลิกกับเหมยซูหานแต่ก็ขัดขืนหนิงเฉินเซวียนไม่ได้ ลูกจะเป็นน้ำยาหล่อลื่นคลายความตึงเครียดให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสามคนได้ดีที่สุด

เหมยเหมยคิดได้เช่นนี้เลยหลุดขำออกมาพลางกล่าวอย่างนึกสมน้ำหน้า “อู่เยวี่ยต้องคิดไม่ถึงแน่ว่าเฮ่อเหลียนเช่อแต่งงานกับเธอก็เพื่อใช้เป็นเครื่องมือทำลูกเท่านั้น ตอนนี้เธอคงยังฝันหวานจะเป็นคุณนายข้าราชการระดับสูงอยู่สิท่า!”

อู่เยวี่ยฝันอยากแต่งงานกับข้าราชการระดับสูงมาตั้งแต่เด็ก ในที่สุดตอนนี้ก็ฝันเป็นจริงสักทีไม่รู้ว่าเธอจะรู้สึกอย่างไรบ้างนะ!

จู่ ๆเหมยเหมยก็เริ่มตั้งตารอคอยงานแต่งงานนี้ขึ้นมาแล้วสิ!

“พี่…แล้วบัตรเชิญล่ะ? เราต้องไปร่วมงานแต่งงานนะ ในเมื่อเฮ่อเหลียนเช่อกล้าส่งบัตรเชิญมาแล้วทำไมเราถึงไม่ไปล่ะ!” เหมยเหมยขอบัตรเชิญเพราะเธอคิดได้แล้ว

อู่เยวี่ยคือมารในชีวิตของเธอ เช่นเดียวกันเธอก็จะเป็นมารในชีวิตของอู่เยวี่ย เกรงว่าอู่เยวี่ยจะแค้นเธอมากกว่าตัวเธออีกน่ะสิ!

เธอจะต้องมีชีวิตต่อไปให้ดี ใช้ชีวิตให้มีความสุขแล้วคอยเยาะเย้ยอู่เยวี่ยทุกวัน!

เหยียนหมิงซุ่นนึกถึงบัตรเชิญที่ยับยู่ยี่ในถังขยะก็ลูบปลายจมูกหน่อย ๆ พลางรวบมือของเหมยเหมยที่กำลังปัดป่ายค้นหาบัตรเชิญบนตัวเขาไปทั่ว “เราไปร่วมงานแต่งก็ถือว่าให้หน้าเฮ่อเหลียนเช่อมากแล้วจะใช้บัตรเชิญอะไรอีก?”

“ก็ถูก…ไม่ต้องใช้บัตรเชิญ อ้อ พี่ เราจะให้ของขวัญอะไรดีล่ะ? หรือว่าให้เงินใส่ซองไม่กี่ร้อยก็พอ?” เหมยเหมยมุ่นคิ้วคิดหนักกับของขวัญอย่างมาก

ไปร่วมงานมือเปล่าก็ไม่ได้ อย่างไรเสียก็ต้องแสดงละครให้ครบสูตร

เหยียนหมิงซุ่นแค่นเสียงเบา ๆ ใส่ซองไม่กี่ร้อยอะไรล่ะ เดี๋ยวเฮ่อเหลียนเช่อก็ได้ใจแย่

“เรื่องของขวัญเธอไม่ต้องสนใจหรอก พี่จะจัดการเอง”

เหยียนหมิงซุ่นเพิ่งคิดแผนสุดวิเศษได้หมาด ๆเลยอารมณ์ดีขึ้นทันตา เช่นเดียวกับเหมยเหมยที่เริ่มตั้งตารอคอยการมาถึงของงานแต่งงานในวันพรุ่งนี้แล้ว

เขาจะต้องมอบของขวัญชิ้นนี้ให้เฮ่อเหลียเช่อด้วยสองมือต่อหน้าแขกในงานทุกคน…

……………………………………………..

ตอนที่ 1845 ร่วมงานแต่งงาน

สองปีมานี้เฮ่อเหลียนเช่อใช้ชีวิตกึ่งสันโดษไม่สร้างปัญหาอะไรเลยแม้แต่น้อย แม้เจ้าตัวจะไม่ปรากฏตัวให้เห็นแต่กลับมีตำนานของเขาเลื่องลือไปทั่วแผ่นดิน ยามเอ่ยถึงคุณชายเช่อทุกคนยังคงรู้สึกเสียวสันวาบอยู่ทุกที

แต่อย่างไรก็ตามเฮ่อเหลียนเช่อก็ไม่ได้อยากจัดงานแต่งงานให้ใหญ่โตนัก เขาแต่งงานกับอู่เยวี่ยเพียงเพื่อรับมือกับหนิงเฉินเซวียนเท่านั้น หากไม่ใช่เพราะว่ากลัวหนิงเฉินเซวียนจะโกรธเอา เขาเองก็ไม่อยากจัดงานเลี้ยงด้วยซ้ำ ลำพังมีแต่งานแต่งให้ก็ดีเท่าไรแล้ว

แต่สุดท้ายก็เกิดพายุทอร์นาโดครั้งใหญ่ขึ้นในเมืองหลวงที่ระยะนี้ค่อนข้างเงียบสงบ

คุณชายเช่อที่รับได้ทั้งชายหญิงหรือกระทั่งคนแก่จะแต่งงานแล้ว?

ทั้งอีกฝ่ายยังเป็นผู้หญิงด้วย?

หนำซ้ำยังเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลโอหยาง!

นี่ต้องมีหน้าตาแบบไหนกันถึงขนาดเข้าตาคุณชายเช่อได้จนทอดทิ้งดอกหญ้าข้างทางนับหมื่นนับพันแล้วแต่งงานกับเธอเพียงคนเดียว!

หนิงเฉินเซวียนเป็นคนสั่งให้ส่งบัตรเชิญซึ่งล้วนเชิญแต่บุคคลที่มีหน้ามีตาในเมืองหลวงมาแทบทั้งหมด หนิงเฉินเซวียนรอคอยมาหลายปีจนวันที่เฮ่อเหลียนเช่อแต่งงาน เขาแทบอยากจะแจกบัตรเชิญให้คนทั้งโลกด้วยซ้ำ แล้วจะไม่จัดงานให้ใหญ่โตได้อย่างไร?

เฮ่อเหลียนเช่อคัดค้านอยู่หลายครั้งแต่เอาชนะหนิงเฉินเซวียนไม่ได้จึงปล่อยเลยตามเลย

งานแต่งงานถูกจัดขึ้นโดยหนิงเฉินเซวียนเพียงคนเดียวโดยจัดในบ้านของเขาเอง พื้นที่กว้างเกือบร้อยไร่ต่อให้จัดโต๊ะเป็นพันก็ไม่เป็นปัญหา

เชฟรับผิดชอบเรื่องอาหารเป็นเชฟใหญ่ฝีมือดีที่จ้างมาจากภัตตาคารชื่อดังทั่วทั้งเมืองหลวง หนิงเฉินเซวียนพูดมาขนาดนี้จะมีภัตตาคารไหนกล้าขัดล่ะ?

งานแต่งงานเริ่มต้นในเวลาเที่ยงตรงของวัน เหยียนหมิงซุ่นกับเหมยเหมยแต่งตัวเป็นพิธีการอย่างมาก เหยียนหมิงซุ่นสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนคู่กับกางเกงสูทสีขาว ส่วนเหมยเหมยนั้นแต่งชุดเดรสกระโปรงยาวที่ทอจากผ้าไหมสีแดงแล้วยังมีผ้าคลุมศีรษะสีเดียวกัน พอสวมใส่แล้วสวยราวกับนางฟ้ามาเกิดกระตุ้นอารมณ์เหยียนหมิงซุ่นจนอยากจะจัดบทรักอีกสักรอบก่อนออกจากบ้าน

เดิมทีการเข้าร่วมงานแต่งงานใส่ชุดสีแดงถือเป็นการเสียมารยาทอย่างมาก แต่เหมยเหมยจงใจและตั้งใจให้เป็นที่สะดุดตามากกว่าอู่เยวี่ย หึ!

“พี่จะให้ของขวัญอะไรกับเฮ่อเหลียนเช่อเหรอ? คงไม่ใช่เพชรพลอยหรอกนะ?” เหมยเหมยมองกล่องของขวัญด้วยความแปลกใจ

กล่องของขวัญสีแดงทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ลำพังดูแค่กล่องของขวัญอันนี้ก็พอจะรู้ได้ว่าของขวัญข้างในกล่องต้องไม่ใช่ของราคาถูก ๆ

เหยียนหมิงซุ่นสนิทกับเฮ่อเหลียนเช่อขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรถึงได้ให้ของขวัญราคาแพงแบบนี้?

เดิมทีเธอคิดจะใส่ซองสองร้อยหยวนเสียด้วยซ้ำ!

เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้มแล้วเอ่ยด้วยเสียงยากจะคาดเดาได้ “เดี๋ยวก็รู้ ไม่ต้องรีบหรอก…”

เหมยเหมยกลอกตาใส่เขาไปทีหนึ่ง เล่นตัวอีกแล้ว!

พวกเขาไปถึงค่อนข้างสายเลยมีแขกอยู่ในงานจำนวนไม่น้อยแล้ว บรรยากาศภายในงานคึกคักมาก จ้าวอิงหัวก็ได้รับบัตรเชิญเช่นกันแต่เขาติดงานที่ต่างประเทศจึงไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานได้ เขาเลยให้เลขาส่งของขวัญมาเท่านั้น

หนิงเฉินเซวียนยืนต้อนรับแขกที่หน้าประตูด้วยตัวเองซึ่งสร้างความตื่นตกใจแก่บรรดาแขกอย่างมากจนแทบยืนหลังไม่ตรง

ท่านคนนี้รับมือยากยิ่งกว่าเฮ่อเหลียนชิงเสียอีก!

“ตาแก่หนิง ไม่เจอกันหลายปีทำไมแกแก่ขนาดนี้แล้วล่ะ? จุ๊ ๆ…รอยเหี่ยวย่นบนหน้าหนีบแมงมุมตายได้แล้วมั้ง…”

เสียงคุ้นหูดังขึ้น เขาไม่ต้องหันไปมองต้นเสียงก็รู้ว่าเป็นใคร

นอกจากเฮ่อเหลียนชิงใครจะกล้าใช้น้ำเสียงนี้คุยกับหนิงเฉินเซวียนอีก?

เฮ่อเหลียนชิงที่กินอิ่มหลับสบายจนอ้วนขึ้นกว่าเดิมเท่าตัว นอกจากสองขาที่เดินไม่ได้แล้ว สุขภาพร่างกายก็แข็งแรงเสียยิ่งกว่าใคร ดูท่าทางยังจะอยู่เป็นภัยให้แก่โลกมนุษย์อีกหลายปีเชียว

หนิงเฉินเซวียนถูกขนานนามว่าเป็นจิ้งจอกรูปงาม หน้าตาย่อมไม่มีทางด้อยไปกว่าใครอยู่แล้ว ต่อให้แก่ขึ้นก็ยังคงดูดีเป็นชายชราหน้าหล่อไม่เปลี่ยน

แต่ไม่มีการเปรียบเทียบก็จะไม่เจ็บปวด หนิงเฉินเซวียนถือว่าบำรุงตัวเองดีมากแล้วแต่ยามอยู่ต่อหน้าคนที่มียาวิเศษบำรุงร่างกายอย่างเฮ่อเหลียนชิงก็ยังดูแก่กว่านับสิบกว่าปี รอยตีนกาตรงหางตาคงไม่ถึงขั้นหนีบแมงมุมตายได้แต่กับยุงคงไม่ใช่ปัญหา

ไม่เหมือนเฮ่อเหลียนชิงที่ผิวพรรณเรียบเนียนนุ่มดุจหญิงสาววัยสิบแปดปี เฮ่อเหลียนชิงต้องเชยชมตัวเองอยู่หน้าบานกระจกเป็นเวลาสามนาทีก่อนเข้านอนทุกคืนถึงจะเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างพึงพอใจแล้วค่อยนอนฝันหวานอย่างมีความสุข

หนิงเฉินเซวียนเห็นเฮ่อเหลียนชิงที่ดูอ่อนเยาว์ลงย่อมตกใจไม่น้อยและรู้สึกแย่เหลือเกิน

ตลอดยี่สิบปีนี้เขารอวันที่ตาแก่นี้ตายอย่างเดียว แต่เวลาผ่านไปยี่สิบปีตาแก่นี่กลับยิ่งหนุ่มขึ้นเรื่อย ๆส่วนเขากลับแก่ขึ้นเรื่อย ๆ!

……………………………………