ตอนที่ 1856 อย่าลงมือกับเด็ก
“อู่เยวี่ยกำลังเตรียมตัวตั้งครรภ์อยู่ เฮ่อเหลียนเช่อทุ่มเทกับเธอไปไม่น้อยเลย” เหยียนหมิงซุ่นช่วยไขปริศนาให้เหมยเหมย
เหมยเหมยเข้าใจได้ในทันที ไม่แปลกเลยที่จะเงียบไปขนาดนี้
“อู่เยวี่ยจะตั้งท้องด้วยวิธีไหน? หรือว่าเฮ่อเหลียนจะทำกับเธอจริง ๆ…” เหมยเหมยรู้สึกรับไม่ได้ ไหนบอกว่ารักเหมยซูหานจริงไง!
เหยียนหมิงซุ่นได้ยินก็นึกขำ บีบจมูกเธอเบา ๆซ้ำอยู่หลายทีแล้วพูดเสียงยียวนว่า “ตอนนี้การแพทย์ก้าวหน้าขึ้นมาก ไม่ได้มีแค่วิธีเดียวที่จะมีลูกได้สักหน่อย ในประเทศเราสามารถทำเด็กหลอดแก้วได้แล้ว”
เหมยเหมยถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ ใบหน้าแดงซ่าน เธอนี่โง่จริง ๆเลย เรื่องแค่นี้ก็คิดไม่ได้
แต่ว่า…
“เฮ่อเหลียนเช่อเกิดจากความรักระหว่างพี่น้องร่วมสายเลือดไม่ใช่เหรอ? เขาจะให้กำเนิดเด็กได้เหรอ?”
หนิงเฉินเซวียนและน้องสาวแท้ ๆของเขาให้กำเนิดเฮ่อเหลียนเช่อที่เป็นปกติสมบูรณ์ นี่ก็ทำให้ผู้คนต่างแปลกใจไปมากแล้ว หรือว่าทฤษฎีวิวัฒนาการจะไม่เป็นผลกับคนในครอบครัวของเฮ่อเหลียนเช่องั้นเหรอ
เหยียนหมิงซุ่นนิ่งไป เขาลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย หากจะพูดว่าเฮ่อเหลียนเช่อปกติดีทุกอย่างก็คงไม่ถูก เขาเป็นคนหัวรั้น ซ้ำยังใจเหี้ยมเลือดเย็นผิดมนุษย์ นิสัยแตกต่างจากคนทั่วไปมาก และนี่คงจะเป็นความบกพร่องทางสายเลือดของคนรุ่นลูก
เฮ่อเหลียนเช่อยังเกิดมาพร้อมกับพละกำลังเหนือธรรมชาติ มีพรสวรรค์ในด้านการต่อสู้สูง และมันคงจะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ในชีวิตเขา
โบราณท่านว่าไว้มีลูกกับญาติพี่น้องสายเลือดเดียวกัน หากไม่เป็นผู้มีพรสวรรค์ ก็เป็นผู้ที่โง่มาแต่กำเนิด หรือไม่ก็อาจจะเป็นพวกตัวประหลาด
เฮ่อเหลียนเช่อคงจะสอดคล้องกับข้อแรก แต่นิสัยของเขาก็ได้รับผลกระทบมาอยู่ดี
แต่นั่นก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าทายาทของเฮ่อเหลียนเช่อจะเป็นปกติได้
หนึ่งเดือนต่อมา ลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นก็สืบทราบข้อมูลผลการตรวจของอู่เยวี่ย “ลูกพี่ อู่เยวี่ยตั้งครรภ์ได้สำเร็จแล้ว ตามที่ทราบทุกอย่างปกติดี แต่ต้องรออีกสามเดือนถึงจะยืนยันได้”
เหยียนหมิงซุ่นเกิดลังเลใจ
เขาจะลงมือกับเด็กคนนี้ดีไหมนะ?
เขารู้ถึงความทะเยอทะยานของหนิงเฉินเซวียนดีกว่าใคร จริง ๆแล้วคน ๆนี้วิปริตเสียยิ่งกว่าเฮ่อเหลียนเช่อเสียอีก ไม่อย่างงั้นเขาคงไม่ตกหลุมรักและมีลูกด้วยกันกับน้องสาวแท้ ๆของตัวเองหรอก ทำอะไรไม่สนใจความคิดเห็นของคนทั้งโลก ฉันพอใจจะทำก็ทำ ไม่มีขื่อไม่มีแป
หนิงเฉินเซวียนถูกขนานนามว่าเป็นผู้มีความทะเยอทะยานดั่งจักรพรรดิ เขาไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างใคร แต่ฟ้าไม่ค่อยเป็นใจนัก หลายครั้งที่มีโอกาสแต่ก็ไร้ซึ่งวาสนาที่จะคว้าตำแหน่งนายใหญ่มาได้ นั่นจึงทำให้หนิงเฉินเซวียนรู้สึกไม่พอใจ
ดังนั้นหลายปีมานี้เขาถึงแอบระดมพล สะสมกองกำลังเพื่อจะเข้ายึดตำแหน่งนายใหญ่ เพื่อบรรลุความปรารถนาที่จะได้ปกครองแผ่นดินใต้หล้า
ในเมื่ออยากเป็นฮ่องเต้ ทายาทจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะงั้นหนิงเฉินเซวียนถึงได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องการแต่งงานของเฮ่อเหลียนเช่อมาก และอยากรีบอุ้มหลานเสียยิ่งกว่าใคร
แต่เหยียนหมิงซุ่นก็ไม่เข้าใจ ในเมื่อหนิงเฉินเซวียนให้ความสำคัญเรื่องทายาทขนาดนั้น แล้วทำไมเขาไม่ไปหาผู้หญิงมาคลอดลูกเองเลยล่ะ?
ด้วยฐานะและอายุของหนิงเฉินเซวียนแล้ว ถ้าอยากจะหาผู้หญิงสักคนมาคลอดลูกให้ก็ง่ายนิดเดียว ไม่เห็นจะต้องบีบบังคบขนาดนี้เลย ความคิดของพวกวิปริตช่างเดายากเสียจริง
เหมยเหมยแค่มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเหยียนหมิงซุ่นกำลังคิดอะไรอยู่ อันที่จริงเธอเองก็รู้สึกย้อนแย้งเหมือนกัน แต่ถึงอย่างไรเด็กก็เป็นผู้บริสุทธิ์ เธอใจเหี้ยมกับผู้ใหญ่ได้แต่ลงมือกับเด็กไม่ได้จริง ๆ
แม้ว่าเด็กคนนี้จะเป็นลูกของอู่เยวี่ยก็ตาม!
“พี่คะ…ปล่อยให้เด็กคนนี้เป็นไปตามยถากรรมเถอะ!” เหมยเหมยพูดเสียงเบา ในใจพลันรู้สึกเจ็บปวด
เธอนึกถึงเด็กในท้องที่น่าสงสารของเธอในภพที่แล้ว ตอนนั้นเพิ่งจะสามเดือน แม้แต่ดวงตาจมูกปากยังไม่มีเลย คำโบราณท่านว่าทารกในครรภ์แบบนี้ยังไม่นับว่าเป็นมนุษย์ ต่อให้ตายไปแล้วก็ไม่สามารถกลับชาติมาเกิดใหม่ได้ ลูกของเธอจะไปอยู่ที่ไหนนะ?
เหยียนหมิงซุ่นสัมผัสได้ถึงความเศร้าโศกที่เกิดขึ้นกะทันหันของเหมยเหมย ยังนึกไปว่าเธอไม่พอใจที่เขาจะลงมือกับเด็ก จึงรับปากว่า “วางใจเถอะ พี่ไม่ลงมือกับเด็กคนนี้หรอก”
เดิมทีเขาแค่คิดเท่านั้นเอง แม้แต่พวกนายพรานที่ล่าสัตว์ยังยอมปล่อยสัตว์ป่าที่อุ้มท้องไปเลย เขาเป็นถึงคุณชายหมิงผู้สูงสง่าจะทำตัวต่ำช้าได้อย่างไร?
“ขอบคุณค่ะพี่หมิงซุ่น…”
เหมยเหมยโอบเอวเหยียนหมิงซุ่นแล้วซบลงอกเขา พลันถอนหายใจเสียงแผ่วเบา
หวังว่าเจ้าตัวเล็กของเธอจะกลับมาเป็นลูกของเธอในชาตินี้อีกครั้ง!
…………………………………………………………
ตอนที่ 1857 หลานสำคัญที่สุด
การตั้งครรภ์ของอู่เยวี่ยสร้างความแตกตื่นในเมืองหลวงขึ้นไม่น้อย คนที่มีความสุขที่สุดคือหนิงเฉินเซวียน ในที่สุดทายาทของเขาก็มาแล้ว!
ถึงแม้จะไม่พอใจในตัวโอหยางซานซานและยังได้เตรียมจะส่งคนไปฆ่าสะใภ้คนนี้ด้วย แต่ตอนนี้เขากลับเปลี่ยนความคิดแล้ว เรื่องอะไรก็ไม่สำคัญเท่าหลาน รอเด็กคลอดออกมาก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที ถึงอย่างไรเสียชะตาชีวิตของโอหยางซานซานก็อยู่ในกำมือของเขาแล้ว ซึ่งง่ายดายราวกับบี้มดตัวหนึ่งในมือให้ตาย
“ให้ซานซานอุ้มท้องดูแลตัวเองอยู่ที่บ้าน ออกบ้านให้น้อย กินให้อิ่มนอนให้อุ่น หลานของฉันจะได้แข็งแรง” หนิงเฉินเซวียนกำชับอย่างอารมณ์ดี ดวงตาจับจ้องหน้าท้องแบนราบของอู่เยวี่ย อยากจะเห็นหน้าหลานจนอดใจไม่ไหว
อู่เยวี่ยรู้สึกเสียวสันหลังวาบ จมดิ่งอยู่กับความคิดของตน
วัน ๆขังไว้ในบ้านเหมือนเลี้ยงหมู เธอเสียสละไปตั้งมากมายจะมีประโยชน์อะไร?
ในเมื่อไม่ได้รับความจริงใจจากเฮ่อเหลียนเช่อ เช่นนั้นเธอจะอยู่ในฐานะภรรยาของเฮ่อเหลียนเช่ออย่างเสียเปล่าไม่ได้ คงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ได้ผลประโยชน์กลับมาบ้าง
“คุณอาคะ คุณหมอบอกว่าถ้าอยากให้หลานมีสุขภาพแข็งแรงก็ต้องออกไปเดินเยอะ ๆ วัน ๆไม่ควรอุดอู้อยู่แต่ในบ้านค่ะ” อู่เยวี่ยพูดเสียงนุ่มนวล พยายามเรียกหาอิสระให้ตัวเอง
เฮ่อเหลียนเช่อมองอู่เยวี่ยอย่างเย็นชาแล้วแอบหัวเราะเยาะ
ผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่ตัวเขารู้ดีเสียยิ่งกะไร คงทนเหงาไม่ไหวตามคาด ก็คงแค่อยากหาผลประโยชน์ให้ตัวเองบ้างก็เท่านั้น ขอแค่อู่เยวี่ยเชื่อฟังและวางใจยอมคลอดเด็กคนนี้ออกมา เขาก็ไม่ถือสาที่จะให้ผลประโยชน์กับอู่เยวี่ย เขาเข้าใจหลักการที่ว่าอยากให้ม้าวิ่งได้เร็วก็ต้องให้กินหญ้าเป็นอย่างดี
หนิงเฉินเซวียนไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้เลยสักนิด ตอนที่เสี่ยวซีแม่ของเฮ่อเหลียนเช่อตั้งท้อง ภายนอกเธอคือภรรยาของเฮ่อเหลียนชิง กระบวนการขั้นตอนทุกอย่างมีเฮ่อเหลียนชิงเป็นคนดูแล และในตอนนั้นเขาเองก็อยู่ที่อื่น พอเขากลับมาเมืองหลวง เฮ่อเหลียนชิงก็จัดงานฉลองเหล้าครบเดือน[1]พอดี แวบแรกที่เขาเห็นเจ้าเด็กตุ้ยนุ้ยในอ้อมแขนของเฮ่อเหลียนชิง ก็รับรู้ได้ว่า…
เด็กคนนี้คือลูกของเขา!
ด้วยเหตุผลข้างต้นจึงทำให้เกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ตามมา!
“เช่อเอ๋อร์ หมอพูดแบบนั้นจริงเหรอ?” หนิงเฉินเซวียนไม่เชื่ออู่เยวี่ยจึงหันไปถามเฮ่อเหลียนเช่อ
ใจของอู่เยวี่ยจุกขึ้นมาอยู่ที่ลำคอ เธอไม่กล้าเงยหน้าขึ้นจึงได้แต่ก้มหน้าดื่มน้ำไป
เฮ่อเหลียนเช่อมุมปากกระตุก พยักหน้ารับ “ใช่ครับ หมอบอกว่าการอยู่แต่ในบ้านจะไม่เป็นผลดีต่อพัฒนาการของเด็กในท้อง”
ใจของอู่เยวี่ยร่วงลงสู่ที่เดิมพลันรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก แต่ไม่รู้ว่าทำไมเฮ่อเหลียนเช่อถึงช่วยเธอพูด แต่เธอก็ขี้เกียจคิดแล้ว แค่ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจก็เพียงพอแล้วล่ะ
พอหนิงเฉินเซวียนได้ฟังว่าไม่เป็นผลดีต่อพัฒนาการของหลานจึงกระวนกระวายขึ้นทันที “งั้นก็ออกไปเดินบ่อย ๆ ฉันจะส่งคนคอยตามดูแลซานซานสักสองสามคน นักโภชนาการก็ต้องหาแบบดี ๆไว้ ส่วนเฮ่อเอ๋อร์เองก็อย่ายุ่งกับงานนอกบ้านนักล่ะ ยุ่งจากงานแล้วก็กลับมาอยู่กับซานซานด้วย เข้าใจไหม?”
ความหมายของเขาก็คือไม่ให้เฮ่อเหลียนเช่อไปพัวพันอยู่กับเหมยซูหาน ในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ให้เอาหลานมาเป็นอันดับแรก
รอเด็กคลอดออกมา เฮ่อเหลียนเช่อจะไปหาผู้ชายอีกสักสิบคนเขาก็จะไม่ยุ่งอีก
เฮ่อเหลียนเช่อมีท่าทีเย็นชาขึ้นทันที อู่เยวี่ยใจชาวาบ พลางรีบเอ่ยว่า “คุณอาคะ อา…เช่อเขาให้ความสำคัญกับงานมาก อีกอย่างฉันก็มีคนคอยดูแลตั้งมากมาย คงไม่ต้องถึงกับให้อา…เช่อสละเวลาอันมีค่ามาหรอกค่ะ ไม่เป็นไรจริง ๆค่ะ”
เธอไม่อยากอยู่ร่วมกับเฮ่อเหลียนเช่อแม้แต่น้อย มีปีศาจตัวหนึ่งอยู่ด้วยอากาศคงไม่บริสุทธิ์ มันจะทำให้เธอหายใจไม่ได้!
หนิงเฉินเซวียนพึงพอใจต่อการรู้กาลเทศะของอู่เยวี่ยอย่างมาก เป็นผู้หญิงก็ต้องรู้ความสำคัญของคนเป็นสามี โอหยางซานซานนับว่าเข้าใจสิ่งใดควรทำและสิ่งใดไม่ควรทำอยู่บ้าง เพียงแต่พวกพ่อบุญธรรมเหล่านั้นของเธอช่างน่ารำคาญใจเหลือเกิน ช่างมันเถอะ เห็นแก่หน้าของหลานไว้ชีวิตเธอสักครั้งก็แล้วกัน
แต่จะให้เธออยู่ในฐานะสะใภ้ของตระกูลหนิงไม่ได้เด็ดขาด เขาจะไม่ยอมให้ใบหน้าแก่ ๆนี่ต้องอับอายขายหน้า
สิ่งที่หนิงเฉินเซวียนไม่รู้คืออู่เยวี่ยปรารถนาที่จะหลุดพ้นจากเฮ่อเหลียนเช่อในเร็ววัน แต่ไหนแต่ไรมาเธอก็ไม่เคยคิดที่จะอยู่ร่วมกับเฮ่อเหลียนเช่ออยู่แล้ว!
…………………………………………………………….
[1] คล้ายกับพิธีโกนผมไฟของไทย ซึ่งจะจัดเมื่อเด็กแรกเกิดมีอายุครบหนึ่งเดือนเต็ม