หลังพอลส่งเย่เฉินไปถึง Tomson Riviera แล้ว ก็ขับรถกลับบ้านไป

ตัวเย่เฉินเองพอกลับไปถึงคฤหาสน์ พ่อตาเซียวฉางควนก็รีบร้อนออกมาต้อนรับ เอ่ยถามว่า “ลูกเขยคนดี วันนี้ที่ออกไปกับพอลได้พบกับคุณน้าหานของเธอแล้วหรือยัง”

เย่เฉินเอ่ยอย่างเสียมิได้ “คุณพ่อ ผมออกไปทำงานกับพอลครับ จะได้พบคุณน้าหานได้ยังไง”

เซียวฉางควนอดถอนหายใจไม่ได้ หดหู่ใจอย่างมาก

หลายวันมานี้เขาคิดถึงหานเหม่ยฉิงเป็นพิเศษ เพียงแต่หม่าหลันอยู่ที่บ้าน เขาไม่กล้าเสี่ยงอันตรายออกไปพบเธอจริง ๆ

ตอนนี้จึงได้รู้สึกปวดใจนัก

เขาถามเย่เฉินอีกว่า “งั้นเธอได้ไถ่ถามอะไร เกี่ยวกับสถานการณ์ช่วงนี้ของคุณน้าหานของเธอจากพอลบ้างไหม หลายวันมานี้เธอสบายดีหรือเปล่า”

เย่เฉินยิ้มเอ่ย “ช่วงนี้คุณน้าหานน่าจะสบายดีมากแหละครับ ผมได้ยินพอลเล่าว่า ตอนนี้คุณน้าหานไปมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุสอนหนังสือทุกวันเลย ไม่ใช่แค่สอนนะครับ ยังเรียนวิชาพู่กันจีนกับวาดภาพอะไรพวกนี้จากคนอื่นด้วย ใช้ชีวิตได้เต็มอิ่มมากครับ”

พอเซียวฉางควนได้ยินดังนั้น ก็ร้อนใจชั่วขณะ “ไอ้หยา เธอไปมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุได้ยังไงกัน”

เย่เฉินเอ่ยอย่างประหลาดใจ “มหาวิทยาลัยผู้สูงอายุทำไมเหรอครับ มหาวิทยาลัยผู้สูงอายุก็เป็นที่ที่ผู้สูงอายุควรไปไม่ใช่เหรอครับ”

เซียวฉางควนเอ่ยด้วยใบหน้าไม่สบายใจ “เธอคงไม่รู้ว่าในมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุนี้ ตาเฒ่าหัวงูไร้คู่น่ะมีเต็มไปหมด ตาเฒ่าบ้าบอพวกนี้ที่ไปกันไม่ใช่เพื่อเรียนรู้อะไรหรอก ไปก็เพื่อหาคู่เท่านั้นแหละ”

พอเอ่ยจบ เขาก็เอ่ยอย่างกังวลไปทั้งหน้า “คุณน้าหานของเธอสวยขนาดนี้ พอเข้าไปที่นั่นแล้วคงได้ถูกตาเฒ่าพวกนี้โหยหาไม่ว่างเว้นใช่ไหมล่ะ”

เย่เฉินยิ้มเอ่ย “แล้วคุณห้ามคนอื่นไม่ให้โหยหาได้เหรอครับ”

เซียวฉางควนถอนหายใจยาวทีหนึ่ง “พูดก็ถูก สถานการณ์ตอนนี้ช่างทำให้ค้นกลัดกลุ้มจนอยากตายจริง ๆ”

พอเอ่ยจบ พลันนั้นก็ดวงตาสว่างวาบ “ใช่แล้ว ไม่งั้นฉันไปมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุเลยก็ได้นี่นา พอแบบนี้แล้ว ฉันก็จะได้พบคุณน้าหานของเธอด้วยไม่ใช่เหรอ”

เย่เฉินถาม “ไม่กลัวคุณแม่รู้เข้าเหรอครับ”

“ไม่เป็นไรหรอก” เซียวฉางควนเอ่ยอย่างจริงจัง “แม่เธอเป็นผู้หญิงแบบไหน เธอยังไม่เข้าใจอีกเหรอ ผู้หญิงคนนี้ห่วงหน้าห่วงตา ดูเธอตอนนี้สิ ขาเป๋ ยันไม้เท้า ฟันหน้ายังหลุดไปสองซี่ ไปอุดเติมไม่ได้ชั่วคราว ตอนนี้เธอยังจะกล้าไปอยู่สถานที่ที่มีคนมากมายที่ไหนกัน ออกไปซื้อของแค่บางครั้งบางคราวยังต้องใส่แว่นดำ ใส่หน้ากากอนามัย เพราะกลัวคนอื่นจะจำเธอได้ ดังนั้นเธอไม่กล้าไปมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุหรอก”

“ก็ได้ครับ” เย่เฉินพยักหน้า ไม่เอ่ยมากความ

ความจริงเขาไม่ได้เป็นกังวลเรื่องพ่อตากับหานเหม่ยฉิงมากนัก แต่หากว่าพ่อตากับหานเหม่ยฉิงใกล้ชิดกันเกินไป จนภรรยาของเขาเซียวชูหรันรู้เข้า จะต้องเศร้าโศกใจและกังวลใจมากแน่

หากว่าแม่ยายของเขาหม่าหลันรู้เข้า นั่นคงได้ถึงชีวิตกันจริง ๆ หากจัดการไม่ดีคงวุ่นวายไปทั้งบ้าน

ดังนั้นคงได้แต่ต้องให้พ่อตากล้ำกลืนกันไป

……

สองวันผ่านไป

เย่เฉินแจ้งกับคนในครอบครัวก่อนแล้วว่าคืนนี้จะไปฉลองวันเกิดเพื่อน

ตอนช่วงบ่าย เขาก็ไปซื้อกล่องของขวัญไม้แดงที่ตลาด จากนั้นก็ใส่ยาอายุวัฒนะลงไปข้างใน

พอจัดวางเสร็จ ก็ให้เถ้าแก่ร้านของขวัญช่วยห่อกล่องของขวัญนี้อย่างดี

ในเมื่อเป็นการมอบของขวัญวันเกิดให้คนอื่น งั้นต้องมีความรู้สึกเป็นพิธีหน่อยจึงจะดี

เพราะว่าพอลเองก็ได้รับคำเชิญ ดังนั้นเขาจึงขับรถมารับเย่เฉินไปคฤหาสน์ตระกูลซ่งด้วยกันเสียเลย

ในวันเกิดของซ่งหวั่นถิง ตระกูลซ่งไม่ได้ติดโคมประดับผ้าสีสัน เพียงแต่ตกแต่งเล็กน้อยในสไตล์ค่อนข้างโมเดิลและอบอุ่น

ตอนที่พอลขับรถเข้าไปในลานบ้าน กระทั่งเย่เฉินยังมองไม่ออกว่าการจัดเตรียมเหล่านี้นั้นทำเพื่อฉลองงานวันเกิด

ซ่งหวั่นถิงในค่ำคืนนี้ สวมชุดราตรียาวสีขาวที่สั่งตัดขึ้นโดยเฉพาะ

ชุดกระโปรงนี้แหวกอก จึงมองแล้วดูเซ็กซี่และงดงามมาก โดยเฉพาะกระดูกไหปลาร้าของซ่งหวั่นถิง ไม่เพียงแต่เด่นชัดอย่างมาก ยังมีรูปทรงอันงดงามเป็นพิเศษ แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันมองแล้วยังริษยา

ภายในลานบ้านมีรถหรูจอดอยู่ไม่น้อย ดูท่าแขกในวันนี้จะมีมากมายทีเดียว

เดิมทีซ่งหวั่นถิงรับแขกอยู่ด้านใน แต่พอยินว่าเย่เฉินมาถึงแล้ว ก็รีบร้อนออกมาต้อนรับทันที

——-