ตอนที่ 1528: โอวหยาง หยิงเว่ย

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1528: โอวหยาง หยิงเว่ย

เจี้ยนเฉินทำได้เพียงฝืนรับแรงกระแทกและหยุดอยู่ที่ขอบอุโมงค์ เขากระอักเลือดออกมา เสื้อผ้าตามร่างกายส่วนบนของเขากลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ขณะที่มีรอยจากการโจมตีของคทาอยู่ที่หน้าอกของเขา ทำให้มันดูสะดุดตาอย่างยิ่ง เนื้อและเลือดของเขาหายไป

เจี้ยนเฉินหายใจไม่ออกเล็กน้อย เขาก้มลงมองเพื่อตรวจดูบาดแผลก่อนที่จะมองไปด้านหน้าอีกครั้ง เฉียงซ่งที่ตอนนี้มองเห็นได้ไม่ชัดนัก พวกเขาอยู่ไกลกันมากและไม่ได้เริ่มต่อสู้ในทันที เขารีบรักษาตัวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

คราวนี้เจี้ยนเฉินใช้พลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงอย่างไม่ลังเล ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยชั้นแสงสีขาวนุ่มนวล พลังงานจากพลังงานดั้งเดิมนั้นอ่อนโยนและไหลไปรวมกันที่แผลที่หน้าอกของเขาและเมื่อรวมกับการฟื้นฟูของร่างบรรพลกาล การฟื้นฟูของเขาก็เริ่มหายในระดับที่มองเห็นด้วยตาเปล่าอย่างน่าอัศจรรย์ เนื้อรอบ ๆ รูที่หน้าอกของเขาเริ่มงอกใหม่

แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะได้รับบาดเจ็บมาก แต่เขาก็ฟื้นฟูด้วยพลังของเขาในฐานะเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 9 ได้อย่างรวดเร็ว

อีกด้าน เฉียงซ่งเดินโซเซถอยไปจนชนกับเซียนจักรพรรดิที่อยู่ด้านหลังของเขา เซียนจักรพรรดิกระอักเลือดจากการโดนชนและกระเด็นออกไป

เซียนจักรพรรดิจากต่างโลกที่อยู่รอบ ๆ มองไปที่เฉียงซ่ง พวกเขามองไปที่บาดแผลของเขาก่อนที่จะถามตามปกติ ผู้อาวุโสเฉียง ท่านสบายดีหรือไม่ ? ท่านต้องการให้เราเรียกผู้อาวุโสคนอื่นมาช่วยหรือไม่ ?

เฉียงซ่งย่นจมูกขณะที่อากาศบริสุทธิ์ได้ไหลออกมาจากจมูกของเขา เขาผลักเซียนจักรพรรดิผู้ที่เข้ามาถามและพูดอย่างเย็นชา ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาโอวหยาง หยิ่งเว่ย มาจัดการกับคนที่ยังไม่ได้อยู่ในขอบเขตดั้งเดิม ถ้าเจี้ยนเฉินไม่ได้มีอาวุธที่ทรงพลังและความเข้าใจเกี่ยวกับเส้นทางกระบี่มากนัก เขาจะสามารถหยุดข้าไม่ให้มุ่งหน้าได้อย่างไร ? จากนั้นเฉียงซ่งก็ตะโกนว่า กฎเป็นกุญแจสู่ขอบเขตเทพ ในไม่กี่ปีมานี้โลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งของพวกเขาได้ให้กำเนิดจิตวิญญาณราชันย์มานับไม่ถ้วน ใครจะรู้ว่ามีกี่คนเข้าไปถึงขั้นนั้น อย่างไรก็ตามไม่มีใครเข้าใจกฏได้ มีเพียงจิตวิญญาณราชันย์ในปัจจุบันนี้เท่านั้นที่สามารถสยบข่าวลือที่ว่าไม่มีใครในโลกของเราเข้าใจกฎได้ ในขณะเดียวกันเจี้ยนเฉินก็ได้เข้าใจกฏเช่นกัน แต่เขาอ่อนแอเกินไป ข้าต้องการฆ่าเขาในการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่มันจะทำให้ข้าได้ผลบุญ แต่ยังช่วยให้ข้ากำจัดปัญหาที่จะเกิดในอนาคตได้และกระบี่ทั้งสองเล่มนี้ก็ไม่ควรอยู่ในมือของโอวหยาง หยิ่งเว่ย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

มีแสงแว่บผ่านสายตาของเฉียงซ่ง เขาไม่ต้องการให้เจี้ยนเฉินมีเวลาหายใจ เขาพุ่งไปด้านหน้าทันที อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขาก็กระตุกขณะที่เขาเคลื่อนไหว เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง

พลังกฏบัดซบพวกนี้ป้องกันไม่ให้ข้ารักษาบาดแผล นี่คือพลังที่ควบคุมของขอบเขตเทพ มันเป็นภัยคุกคามชั้นเลิศสำหรับคนที่อยู่ในขอบเขตดั้งเดิม แม้ว่าจะเป็นพลังเสี้ยวเล็ก ๆ ที่อยู่บนร่างกายของข้าเท่านั้น แม้แต่ข้าก็ไม่อาจทำให้มันหายไปได้ในเวลาสั้น ๆ ด้วยพลังขั้นย้อนกลับช่วงปลายของข้า เฉียงซ่งขมวดคิ้วทันทีเมื่อเขามองดูบาดแผลที่ถูกฟันบนร่างกายของเขา มันมีพลังของกฏ เขาต้องจดจ่อพลังเข้าไปส่วนหนึ่งเพื่อระงับพลังเหล่านั้นและต้องป้องกันไม่ให้บาดแผลรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตามนั่นก็น่าจะทำให้เขาไม่อาจแพ้การต่อสู้ได้

เฉียงซ่ง ถ้าเจ้าทำไม่ได้ก็ถอยไป หยุดพยายามหากว่าเจ้าไม่อาจทำได้ มองดูเจ้าซิ ไม่เพียงแต่จะตกอยู่ในสภาพสังเวช แต่เจ้ายังบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย จิ๊ จิ๊ บาดแผลที่เกิดจากพลังของกฎไม่อาจจัดการได้ง่าย ๆ และด้วยความเข้าใจของข้า คนที่เข้าใจเส้นทางกระบี่ก็ยังไม่ถึงขั้นย้อนกลับ หากข้าเป็นเจ้า ข้าจะไปซ่อนตัวในโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งเพื่อที่จะไม่ได้รับความอับอายจากคนที่ไม่แม้แต่จะอยู่ในขั้นย้อนกลับ ไม่แม้แต่จะอยู่ช่วงปลายของขั้นย้อนกลับด้วยซ้ำ เสียงผู้หญิงดังออกมจากด้านหลัง เห็นได้ชัดว่ามันเป็นการเยาะเย้ยเฉียงซ่ง

เฉียงซ่งหน้าตึงและมีจิตสังหารแว่บผ่านสายตาของเขา เขาตอบอย่างเย็นชาโดยไม่แม้แต่จะมองกลับไป โอวหยาง หยิงเว่ย อย่าอวดดีเกินไป เขาใช้กระบี่เช่นกัน แต่เมื่อเทียบกันแล้ว เขาดีกว่าเจ้า ความแข็งแกร่งของเขานั้นไม่เทียบเท่ากับข้า แต่แม้ว่าเจ้าจะรับมือด้วยตัวเอง เจ้าก็คงไม่อาจรับมือได้สบาย ๆ เช่นกัน

เฉียงซ่ง เจ้าสำคัญตัวผิด เป็นเรื่องปกติที่เจ้าจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเขา แต่สำหรับข้า มันไม่ต่างจากการบี้มด เสียงของหญิงสาวดังขึ้นอีกครั้ง มันเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งโดยไม่สนใจเจี้ยนเฉิน

เมื่อสิ้นเสียง ร่างคนสามร่างได้ปรากฏอยู่ด้านหลังเฉียงซ่ง คนทางซ้ายเป็นชายชราตัวเตี้ย เขาดูแก่มาก รอยย่นของเขายับเข้าหากัน เขาหัวล้านและหลังค่อมทำให้เขาเดินได้อย่างลำบากอย่างมาก เขาให้ความรู้สึกว่าได้มาถึงปลายชีวิตและพร้อมที่จะจากไปตลอดเวลา

คนที่อยู่ตรงกลางเป็นชายกลางคนที่ดูอายุไม่น้อยกว่า 20 ปี ใบหน้าของเขาหล่อเหลาที่ไม่อาจอธิบายได้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าบางอย่างที่ทำให้เขาดูเป็นผู้ชาย มันคงเป็นเรื่องง่ายมากที่จะบอกว่าเขาเป็นหญิงสาวที่ทรงเสน่ห์ อย่างไรก็ตามเขาดูเป็นผู้ชายที่ไม่เหมือนผู้ชายเหมือนกับคนปกติ เขาดูเหมือนกับเป็นผู้ชายที่ให้ความรู้สึกของผู้หญิงที่คอยจู้จี้ขี้บ่น

คนที่อยู่ด้านขวาเป็นหญิงสาวที่งดงามอย่างยิ่ง ร่างกายของนางโค้งมนและมีผมสีดำมันวาว นางมีดวงตาที่เย้ายวนและมีใบหน้าที่มีเสน่ห์เป็นพิเศษ เสน่ห์ของนางมากจนแผ่ออกมาโดยไม่ตั้งใจ ไม่ว่านางจะยิ้มหรือไม่ยิ้ม นางก็ดูมีเสน่ห์อย่างมาก

กงซีหมิง, เจียงจิงหยวน ทำไมพวกเจ้าถึงมานี่ ? เฉียงซ่งถามขณะที่สายตาของเขาดูเย็นชาและไร้ความปราณี

หญิงสาวยิ้มเบา ๆ นางก็ดูเปล่งประกายขณะที่นางหัวเราะ จิตวิญญาณราชันย์ได้สั่งการออกมา ดังนั้นเราจะไม่มาได้อย่างไร เฉียงซ่ง เจ้าทำให้เกิดความวุ่นวายมากเกินไปในอุโมงค์ ซึ่งทำให้จิตวิญญาณราชันย์ไม่พอใจ ข้าเห็นเขาขมวดติ้วอย่างชัดเจน

จิตวิญญาณราชันย์ขมวดคิ้วจริง ๆ หรือ ? ในที่สุดการแสดงของเฉียงซ่งก็เปลี่ยนไป เขาค่อนข้างไม่สบายใจ ดูเหมือนว่าเขาจะทำผิดพลาด

แม้ว่าจิตวิญญาณราชันย์คนปัจจุบันในโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งจะไร้ความปราณี เขาถูกอธิบายว่าเขาเป็นคนใจดีเมื่อเทียบกับคนก่อน ๆ ในอดีต อย่างไรก็ตามความกลัวก็เกิดขึ้นในใจของจอมยุทธขั้นรับมอบและขั้นย้อนกลับคนอื่น ๆ ที่มากกว่าจิตวิญญาณราชันย์คนใด ๆ ในอดีต

นี่เป็นเพราะว่าจิตวิญญาณราชันย์คนปัจจุบันทรงพลังมากเกินไป ไม่มีการพูดเกินจริงที่ว่าเขาเป็นคนที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง เขาได้รับสิทธิ์ในการเข้าไปถึงขอบเขตเทพ ความหาญที่จะสามารถทะลวงไปถึงขอบเขตเทพได้นั้นมันท่วนท้นอย่างมาก แม้ว่าเขาจะถูกมองว่าอ่อนแอกว่าคนที่อยู่ในขั้นสูงสุดของขอบเขตการบ่มเพาะนั้นๆ