ตอนที่ 1536: เมฆโลหิต

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1536: เมฆโลหิต

จอมยุทธจากทวีปเทียนหยวนถูกบังคับให้ถอยเนื่องจากการโจมตีที่โหดร้ายของต่างโลก พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นจำนวนมาก หุ่นเชิดเซียนจักรพรรดิและเซียนราชาถูกสังหารอย่างไร้ความปราณีจากจอมยุทธขั้นรับมอบต่างโลก โดยปกติแล้วพวกเขาเสียชีวิตทั้งหมด แม้กระทั่งจอมยุทธขั้นรับมอบจำนวนหนึ่งที่กำลังตั้งรับการโจมตีจากมดทะยานฟ้า แม้ว่าพวกมันจะแข็งแกร่งขึ้นมากหลักจากที่กินเลือดเนื้อของเซียนจักรพรรดิ แต่ก็มีไม่กี่ตัวที่เพิ่มระดับมาถึงระดับ 8 พวกมันทำได้แค่เพียงเป็นภัยคุกคามเซียนจักรพรรดิเท่านั้น และไม่อาจทำอะไรได้กับจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิม

จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมผายมือและพลังงานดั้งเดิมได้มารวมที่มือของเขาก่อนที่จะขยายใหญ่กว่าหนึ่งพันเมตร เขาเอื้อมมือออกไปและคว้ามดทะยานฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วน พร้อมกับกำมือทันทีและมดทะยานฟ้าก็กลายเป็นชิ้น ๆ

มดทะยานฟ้าสูญเสียความได้เปรียบเมื่อเผชิญกับจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิม ความสามารถของมันทำได้กับเพียงเซียนจักรพรรดิเท่านั้น พวกมันไม่อาจป้องกันการโจมตีที่เกิดจากพลังงานดั้งเดิมได้แม้แต่นิดเดียว ร่างกายที่แข็งแกร่งของมันพลันกลายเป็นบอบบางราวกับกระดาษเมื่อถูกโจมตีโดยจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิม

ซ่างกวนมู่เอ๋อบรรเลงเพลงของนางเพื่อควบคุมจอมยุทธขั้นรับมอบ 5 คนจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง ภายใต้การควบคุม พวกเขาได้เข้าโจมตีสหายพวกเดียวกันเองที่เป็นจอมยุทธขั้นรับมอบอีก 5 คนที่มาจากต่างโลก ทำให้สหายของเขายุ่งวุ่นวายตราบเท่าที่จอมยุทธขั้นรับมอบยังคงถูกสะกดจิตอยู่

จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิม 2 คนพุ่งเข้าหาซ่างกวนมู่เอ๋ออย่างเต็มกำลัง เพื่อที่จะทำให้ซ่างกวนมู่เอ๋อไม่อาจบรรเลงพิณได้

ซางกวนมู่เอ๋อนั่งอยู่กลางอากาศขณะที่ดวงตาของนางแวววับไปด้วยความเย็นชาและมีเสน่ห์ นางสนใจอยู่กับของที่อยู่บนตักของนางราวกับว่าความคิดทั้งหมดของนางได้หลอมรวมกัน นางล่องลอยและหลบหลีกการโจมตีจากจอมยุทธขั้นรับมอบทั้งสองคนและยังคงบรรเลงพิณต่อไป หญิงสาวเสน่ห์จากสวรรค์ยังคงเล่นพิณอย่างต่อเนื่อง

แต่ละตัวโน๊ตเต็มไปด้วยพลังที่น่ากลัว แม้แต่จอมยุทธขั้นรับมอบที่เผชิญหน้ายังต้องระวังพวกมัน

โน๊ตที่ดุ่งเข้าหาจอมยุทธขั้นรับมอบทั้งสองได้โจมตีพวกเขาอย่างต่อเรื่อง พวกเขาส่ายอย่างรุนแรงก่อนที่จะเปล่งเสียงราวกับฟ้าร้อง จอมยุทธขั้นรับมอบทั้งสองมีการแสดงออกที่แตกต่างกันเมื่อพวกเขาจ้องมองซางกวนมู่เอ๋ออย่างตกใจ พวกเขาจริงจังมากขึ้น

พวกเขาทั้งสองแต่เดิมเชื่อว่าการควบคุมเหล่าจอมยุทธขั้นรับมอบทั้งห้าคนจะสามารถหยุดการโจมตีทางเสียงเพลงที่และเป็นขีดจำกัดของซางกวนมู่เอ๋อ พวกเขาไม่คิดว่าจริง ๆ แล้วนางมีแรงโจมตีพวกเขาทั้งสองขณะที่ควบคุมพวกเขาทั้งห้าคนได้ ด้วยการบรรเลงเพลงของนางเป็นการโจมตีที่รุนแรง พวกเขาจึงไม่อาจเข้าใกล้นางได้

อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาไม่ทราบก็คือเมื่อซางกวนมู่เอ๋อป้องกันพวกเขาด้วยการบรรเลงเพลงที่ทรงพลังและยังได้รวมกับการควบคุมทั้งห้าให้ต่อสู้ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็จมดิ่งลงไปและกลายเป็นว่างเปล่าอีกครั้ง

ความสามารถทางทักษะซางกวนมู่เอ๋อกับพิณมาถึงในระดับที่ไม่น่าเชื่อ ในโลกทวีปเทียนหยวน นางยืนอยู่ในจุดสูงสุดของการโจมตีทางวิญญาณ ดังนั้นมันจึงเป็นอะไรที่น่าหมดหวังที่เหล่าจอมยุทธขั้นรับมอบจะหลุดพ้นจากการควบคุมของนาง

แต่มันยังคงเห็นได้ชัดว่าซางกวนมู่เอ๋อที่ควบคุมเหล่าจอมยุทธขั้นรับมอบยังคงมีข้อจำกัด ด้วยความแข็งแกร่งของนางในตอนนี้ ห้าคนคือขีดจำกัดของนางและไม่อาจให้คนอื่น ๆ มารบกวนสมาธิของนางได้ ไม่อย่างนั้นการควบคุมของนางจะอ่อนแอลง

ทันใดนั้นเสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้น ค่ายกลที่สร้างโดยอาต้า, อาเอ้อ, อาซานและอาซือมีรอยแตกปรากฏ เมื่อมันปรากฏแล้วค่ายกลที่สมบูรณ์และพวกเขาทั้งสี่ก็ปรากฏออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนในรอยแตกที่ปรากฏออกมา

จากนั้นบอลแสงขนาดเท่ากำปั้นก็ทะลุผ่านรอยแตกออกมาด้วยความเร็วปานสายฟ้า ร่างเงาที่วิบวับเจือแสงลงน้อย ๆ เขาบินกลับไปที่อุโมงค์ด้วยความหวาดกลัว

เขาเป็นจอมยุทธขั้นรับมอบจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งและกลายเป็นวิญญาณ

สี่พี่น้องไล่ตามวิญญาณที่หลบหนีไปทันที พวกเขาแผ่จิตสังหารและปราณกระบี่

เมื่อพวกเขาไล่ตามวิญญาณจอมยุทธขั้นรับมอบไป เขาก็ถูกจอมยุทธขั้นรับมอบคนอื่นขวางกั้น เขาจ้องมองทั้งสี่ด้วยสีหน้าที่มืดมนและสื่อสารทางวิญญาณ ข้าไม่คิดเลยว่าเพียงแค่สี่เซียนจักรพรรดิเท่านั้นที่ทำร้ายสหายเก่าของข้าได้ เขาเสียร่างกายไปแล้ว อาจเป็นไปได้ว่าจิตวิญญาณราชันย์ก็คงไม่อาจทำตามที่รับปากก่อนหน้านี้ ข้า หม่าเฟิง ชื่นชมพวกเจ้าจริง ๆ เพราะเหตุนี้ แต่เจ้าเกือบจะสังหารสหายเก่าของข้า ดังนั้นข้าจึงต้องการเอาชีวิตของพวกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้กับคนที่ทำลายร่างกายของเขา

ด้วยเหตุนี้หอกดาบที่ยาวกว่าสามเมตรก็ปรากฏขึ้นในมือของหม่าเฟิง มันเปล่งแสงอย่างน่ากลัว มีคลื่นปะทุจากอาวุธพร้อมกับแสงที่ทรงพลังไปยังสี่พี่น้องทันที

ค่ายกล ! สี่พี่น้องไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ พวกเขาทั้งสี่ส่งความคิดและวางแผนที่จะต่อสู้นองเลือดกับจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งมาเนิ่นนาน ด้วยการสั่งของอาต้า พี่น้องทั้งสี่ก็ได้สร้างค่ายกลและทำงานกับเป็นทีม พวกเขาได้ฝึกฝนในค่ายกลมาเป็นเวลานานแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเชี่ยวชาญอย่างมากเมื่อใช้มัน การเคลื่อนไหวของพวกเขาราบรื่นเหมือนกับน้ำที่ไหลอย่างต่อเนื่อง พวกเขาป้องกันการโจมตีของหม่าเฟิง

เกิดแสงแว่บผ่านดวงตาของหม่าเฟิง เพียงแค่คิดสี่พี่น้องก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง เขาเหวี่ยงหอกดาบทันทีเมื่อเริ่มต่อสู้กับสี่พี่น้อง

เมื่อเขตแดนของเทพธิดาหิมะถูกเฉียงซ่งทำลาย จอมยุทธจากต่างโลกก็ฟื้นฟูความแข็งแกร่งสูงสุดของพวกเขา เมื่อผนวกกับความจริงที่ว่าทวีปนี้ไม่ได้รับการป้องกันจากเขตแดนอีก คลื่นพลังที่น่าสะพรึงกลัวก็ทำให้แผ่นดินจำนวนมากหายไปทันที หลุมลึกเกิดขึ้นเป็นรัศมีกว่าหนึ่งแสนกิโลเมตรและมีคลื่นความร้อนพวยพุ่งออกมาเป็นครั้งคราวจากด้านล่าง

ทวีปเทียนหยวนกำลังเผชิญหน้ากับความพ่ายแพ้อย่างเต็มที่ มีจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมมากเกินไป มีกระทั่งบางคนที่ต่อสู้กับเซียนจักรพรรดิ ทำให้ทวีปเทียนหยวนสูญเสียอย่างหนัก

นอกจากเสี่ยวหลิง, เถี่ยต้าและซ่างกวนมู่เอ๋อ เจี้ยนเฉิน, เสี่ยวจิน, เทพเจ้าแห่งท้องทะเลและเจียงหยางหมิงเยว่บาดเจ็บสาหัส สามคนแรกเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้สองคนหรือมากกว่านั้น เทพเจ้าแห่งท้องทะเลกำลังต่อสู้กับกับพวกมันถึงหนึ่งต่อสาม

เจี้ยนเฉินและเจียงหยางหมิงเยว่รับมือกับจอมยุทธหวนคืน 2 คน ตัวต่อตัว

หนึ่งในสี่ของจอมยุทธขั้นย้อนกลับยังไม่ได้เริ่มการต่อสู้ เขาจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าอย่างสนใจ เมื่อหนึ่งในสี่อาวุโสที่เห็นคู่ต่อสู้ของเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าถอยกลับมา เขาเข้าร่วมต่อสู้ทันทีกับพวกเขาทันที

แต่ในเวลานี้ใบหน้าของเขากระตุก ทันนั้นเขาก็มองไปที่ทางที่ห่างไกลด้วยความประหลาดใจ

ในเวลาเดียวกัน จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมกำลังสังหารจอมยุทธจากทวีปเทียนหยวนก็หยุดลง พวกเขาจ้องมองจากระยะไกลไปในทิศทางเดียวกัน

ทันใดนั้นเมฆโลหิตก็ปรากฏขึ้นจากท้องฟ้าอันไกลโพ้น มันย้อมท้องฟ้าด้วยเหล่าปีศาจสีแดงและกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว มันเคลื่อนที่เร็วอย่างไม่น่าเชื่อและเปลี่ยนทุกอย่างให้เห็นสีแดง