บทที่ 1896 หนึ่งล้าน + ตอนที่ 1897 ทิ้งแล้ว

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1896 หนึ่งล้าน

ทุกคำพูดของเหมยเหมยเหมือนกับคมมีดที่ทิ่มแทงหัวใจของอู่เยวี่ยอย่างรุนแรง ความจริงเป็นแบบนั้น แต่แน่นอนว่าเธอไม่สามารถยอมรับได้ ไม่อย่างนั้นเธอจะเหลือศักดิ์ศรีอะไรอยู่อีก?

“ฉันเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณชายเช่อ เขาจะไม่ให้เงินฉันใช้ได้อย่างไร?” อู่เยวี่ยเน้นคำว่าภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เน้นย้ำถึงสถานะของตัวเอง แน่นอนว่าพวกผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่ชะเง้อยืดคอยาวอยู่ก็สงบลงทันที แสร้งทำเป็นมองไปทางเวทีแต่เงียหูฟังอย่างตั้งใจ

เหมยเหมยปิดปากหัวเราะ “ที่แท้ก็ให้เงินค่าขนมด้วยหรอเนี่ย แล้วทำไมเธอถึงขี้เหนียวจัง? ฉันได้ยินมาว่าคุณชายเช่อหาเงินได้เก่งมากเลยนะ พี่หมิงซุ่นของฉันยังหาเงินไม่ได้มากเท่าเขาเลย พี่…ใช่ไหมคะพี่?”

เหยียนหมิงซุ่นพงกหัวเบา ๆ “ใช่ คุณชายเช่อหาเงินเก่งมาก ฉันยังสู้ไม่ได้เลย”

“พี่ ในใจของฉันพี่สุดยอดที่สุดแล้ว ยอดมนุษย์ยังสู้พี่ไม่ได้เลย!” เหมยเหมยรีบประจบ ทำไมสามีของเธอจะสู้คนโรคจิตวิปริตอย่างเฮ่อเหลียนเช่อไม่ได้เล่า?

ครั้งนี้เพื่อให้ความร่วมมือเขาเสียสละเยอะเกินไปแล้ว!

เหยียนหมิงซุ่นมองเธอเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม ไม่พูดอะไรทั้งนั้น เธอค่อย ๆสัมผัสเองแล้วกัน…

เหมยเหมยเสียวสันหลังวาบ หัวเราะเสียงแห้งไปไม่กี่ที…แม่จ๋า ประจำเดือนหมดแล้ว หนีไม่พ้นแล้ว…

คนอื่น ๆก็หัวเราะตามเช่นกัน แม้ว่าอาการขนลุกที่แขนของพวกเขาจะลุกซู่ซ่าก็ตาม

เหมยเหมยเอาใจสามีของเธอจนอารมณ์ดีขึ้นแล้วจึงหันกลับมาอีกครั้งเพื่อจัดการกับอู่เยวี่ย เธอไม่ได้มางานการกุศลเพื่อละลายทรัพย์ แต่เพื่อความสะใจตอนเหยียบย่ำอู่เยวี่ยจมดินต่างหาก!

“คุณนายเฮ่อเหลียนก็ไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนี่นา ในเมื่อพวกเรามาทำการกุศลกันใช่ไหมล่ะ มีเงินก็ออกเงินไม่มีเงินก็ออกแรง ถึงแม้ว่าพี่หมิงซุ่นของฉันจะหาเงินสู้คุณชายเช่อไม่ได้ แต่เขาพูดไว้แล้วว่าขอแค่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ถึงเราจะต้องกินแครอทกับผักก็คุ้ม!”

เหมยเหมยพยายามกลั้นหัวเราะ ไม่ย่อท้อที่จะยืนหยัดต่อความถูกต้อง

คนข้าง ๆก็คล้อยตามด้วย “คุณชายหมิงคุณธรรมสูงส่ง พวกผมจะเอาเป็นแบบอย่างนะครับ!”

เหยียนหมิงซุ่นเลิกคิ้วแล้วเหลือบมองยัยปีศาจตัวน้อยที่หน้าหนาขึ้นเรื่อย ๆ คว้ามือเล็กของเหมยเหมยมาวาดวงกลมลงบนฝ่ามือของเธอเบา ๆจนรู้สึกคันยุบยิบ

เหมยเหมยไล่ต้อนแบบนี้ ต่อให้อู่เยวี่ยตัดใจทำไม่ลงก็ต้องกัดฟันรับคำท้าแล้ว ไม่อย่างนั้นพอเธอก้าวขาออกจากโรงแรมไปก็คงมีข่าวลือแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงแน่

พูดว่าคุณชายเช่อใจกว้างสู้คุณชายหมิงไม่ได้ทำการกุศลก็ตระหนี่ขี้เหนียว

หากหนิงเฉินเซวียนรู้เข้าคงตำหนิเธอที่ทำให้เฮ่อเหลียนเช่อเสียหน้าต่อคนภายนอกแน่นอน

อู่เยวี่ยกัดฟันฝืนยิ้มพูดว่า “คุณหนูจ้าวพูดตลกแล้ว ตอนฉันออกมาอาเช่อยังกำชับฉันไว้ว่าไม่จำเป็นต้องช่วยเขาประหยัดเงิน ให้ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย”

“ที่แท้คุณชายเช่อก็เป็นคนจริงใจเหลือเกิน ต่างหูคู่นี้เป็นของรักของหวงของฉัน ดังนั้นฉันจะต้องซื้อกลับมาให้ได้ คุณนายเฮ่อเหลียน หากคุณยังไม่เสนอราคาต่างหูคู่นี้ก็จะเป็นของฉันแล้วนะ!”

เหมยเหมยพูดพลางยิ้มตาหยี ค่อย ๆพูดกดดันเธอ

อู่เยวี่ยฝืนยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติ พูดว่า “ฉันก็ชอบต่างหูคู่นี้เหมือนกัน คุณหนูจ้าว งั้นฉันขอไม่เกรงใจแล้วละกัน ห้าแสน!”

เธอก็ยอมเสี่ยงหมดหน้าตัก ต่อให้เหยียนหมิงซุ่นจะใจกว้างมากแค่ไหนก็คงจะไม่ให้จ้าวเหมยใช่เงินตามอำเภอใจจนไม่มีที่สิ้นสุดหรอกจริงไหม?

เมื่อเทียบกับจ้าวเหมยที่เขียนหนังสือเพื่อหาเงินแล้ว เธอมีเงินมากกว่า ดังนั้นการต่อสู้ในครั้งนี้เธอต้องชนะแน่นอน!

“หกแสน!”

“เจ็ดแสน!”

“แปดแสน!”

“เก้าแสน!”

ใจของทุกคนต่างก็จุกอยู่ที่คอหอย มองสองสาวประมูลกันอย่างตั้งใจตาไม่กะพริบ ทุกคนต่างตื่นตะลึงเพราะตอนนี้เก้าแสนแล้ว!

สามารถซื้อต่างหูใหม่ได้ตั้งกี่คู่เนี่ย?

เหมยเหมยมองอู่เยวี่ยที่ดวงตาแดงก่ำจึงแอบขบขันในใจ ดูเหมือนว่าเกือบจะถึงขีดจำกัดของเธอแล้ว เธอต้องดันเป็นครั้งสุดท้าย เหมยเหมยจงใจแสร้งทำเป็นลังเล ป้ายประมูลถูกยกขึ้นแล้วก็ลดลงแล้วก็ยกขึ้นอีกครั้ง ไม่เสนอราคาประมูลอยู่นาน

เดิมอู่เยวี่ยยังคงมีความปวดใจอยู่บ้าง แต่พอเห็นท่าทางเหมยเหมยแบบนี้ก็รู้สึกลำพองใจ รู้สึกว่าตัวเองคิดไม่ผิด เหยียนหมิงซุ่นไม่ยอมให้จ้าวเหมยเพิ่มราคาแล้ว

เหมยเหมยยกป้ายประมูลพูดว่า “เก้าแสนห้าหมื่น!”

“หนึ่งล้าน!” อู่เยวี่ยเสนอราคาอย่างไม่ลังเลเลยสักนิดแล้วมองเหมยเหมยอย่างยั่วยุ

……………………………………………………………..

ตอนที่ 1897 ทิ้งแล้ว

ทุกคนต่างก็สูดหายใจเฮือก หนึ่งล้าน!

พระเจ้า!

โลกของคนรวยช่างยากจะเข้าถึงจริง ๆ!

เหยียนหมิงซุ่นสะกิดฝ่ามือของเหมยเหมยเตือนเธอว่าให้พอได้แล้ว เหมยเหมยพยักหน้าเบา ๆเป็นการรู้กัน เสแสร้งทำเป็นถอนหายใจอย่างเสียดาย “เฮ้อ คุณชายเช่อช่างร่ำรวยเงินทองอำนาจจริง ๆ ฉันเทียบไม่ได้เลย ฉันตระหนักได้แล้วถึงแม้ว่าต่างหูคู่นี้จะเป็นคู่โปรดของฉัน แต่ถ้าสามารถช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยได้ถึงจะมีความหมายยิ่งใหญ่ที่สุด คุณนายเฮ่อเหลียนคุณช่างใจดีมีน้ำใจจริง ๆ ฉันต้องขอขอบคุณแทนผู้คนในพื้นที่ประสบภัยด้วยนะคะ!”

อู่เยวี่ยจุกอยู่ในอก เวลานี้ถึงสงบลงมาได้ หัวใจเหมือนถูกมีดสับจนแหลกละเอียด ความเจ็บปวดทรมานเกินกว่าจะหายใจได้

ทำไมเธอถึงเสียเงินหนึ่งล้านเพื่อซื้อต่างหูผุพังนี้นะ?

หนึ่งล้านเป็นเงินที่มากกว่าวงศ์สกุลของเธอทั้งชีวิตเลยนะ!

หายวับไปง่ายดายขนาดนี้เลยเหรอ…

“การทำการกุศลเป็นหน้าที่ที่ทุกคนพึงกระทำอยู่แล้ว และฉันก็ยังเป็นหนึ่งในผู้จัดงานแน่นอนว่าต้องทำมากกว่าอยู่แล้ว คุณหนูจ้าวก็พูดเกินไป” อู่เยวี่ยพยายามสะกดความปวดใจไว้ พูดเสียงเรียบนิ่ง ฝ่ามือถูกเล็บจิกจนเลือดไหลซิบ

เวลานี้เธอตระหนักได้แล้วว่าเธอถูกจ้าวเหมยหลอก โดนนังแพศยานี่ยั่วยุจนเสียการควบคุม เสียเงินเปล่าเป็นล้าน ๆ!

มาเสียใจตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว ทำได้แค่เพียงซื้อชื่อเสียงที่ดีกลับคืนมาให้ได้มากหน่อยเท่านั้น อีกทั้งอู่เยวี่ยยังคงมีความหวังสุดท้ายว่าบางทีเฮ่อเหลียนเช่อจะคืนเงินให้กับเธอ!

ถึงอย่างไรท้ายที่สุดเธอก็ใช้เงินเพื่อชื่อเสียงของเฮ่อเหลียนเช่อนะ!

อีกอย่างต่อให้เฮ่อเหลียนเช่อไม่คืนเงินก้อนนี้ให้เธอ เธอก็มีวิธีเอาเงินก้อนนี้กลับคืนมา ถึงอย่างไรตอนนี้มูลนิธิก็มีเธอเป็นผู้รับผิดชอบ

อู่เยวี่ยถึงใจสงบลงมาบ้าง

เหมยเหมยยิ้มอย่างอารมณ์ดี ในเวลานี้พนักงานได้หยิบเอาต่างหูของเธอไปมอบให้กับอู่เยวี่ย เหมยเหมยเหลือบมอง พร้อมจงใจพูดว่า “คุณนายเฮ่อเหลียนต้องรักษาต่างหูของฉันคู่นี้ให้ดีนะ พวกมันถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่าของฉัน คุณต้องดูแลต่างหูบ้าง อย่าลืมล่ะ!”

เดิมทีอู่เยวี่ยยังคงลังเลว่าจะโยนต่างหูทิ้งดีไหมเพื่อแก้แค้นความอัปยศที่จ้าวเหมยทำไว้เมื่อครู่ ถึงอย่างไรก็เป็นเงินตั้งหนึ่งล้าน เธอทำไม่ลงจริง ๆ

แต่พอได้ยินคำพูดของเหมยเหมยพร้อมสายตาอาลัยอาวรณ์ของเธอ อู่เยวี่ยก็ตัดสินใจ

ขนาดพระสงค์องค์เจ้ายังต้องการให้คนกราบไหว้ มนุษย์เราก็ต้องการต่อสู้เพื่อความเหนือกว่าเช่นกัน วันนี้เธอจะต้องเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของนังจ้าวเหมยอย่างโหดเหี้ยมให้ได้ เหยียบย่ำไว้ใต้เท้าประหนึ่งเป็นขี้หมากองหนึ่ง

เงินหนึ่งล้านจะแค่ไหนกันเชียว ขอแค่เธอยืนอยู่ในเมืองหลวงได้อย่างมั่นคง เงินจำนวนนับไม่ถ้วนก็จะหลั่งไหลเข้ามาในกระเป๋าของเธอ

“คุณหนูจ้าว ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขออภัยด้วยจริง ๆ ฉันรังเกียจที่ต่างหูคู่นี้มันสกปรก”

อู่เยวี่ยยิ้มอย่างลำพองใจและไม่แตะต้องต่างหูด้วยซ้ำ สั่งพนักงานเสียงเบาว่า “เอาต่างหูคู่นี้ไปโยนทิ้งนอกหน้าต่างให้ฉันที โยนทิ้งตอนนี้เลย!”

“เฮือก…”

ทุกคนต่างสูดลมหายใจเข้าด้วยท่าทีตกตะลึง แคะหูอย่างสงสัย คิดว่าพวกเขาคงหูฝาดไป หนึ่งล้านเชียวนะ!

ไม่ใช่หนึ่งหมื่นหรือหนึ่งแสน ของราคาหนึ่งล้าน บอกว่าจะทิ้งก็ทิ้งเลยเหรอ?

ผู้หญิงสองคนนี้จะต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ!

พนักงานปวดใจจนไม่รู้จะหาวิธีหายใจเช่นไรแล้ว  เมื่อครู่เพิ่งโยนสร้อยข้อมือราคาสามแสนไป จนถึงตอนนี้เขาเพิ่งจะผ่อนคลายลง แต่ตอนนี้กลับมาบอกให้เขาโยนต่างหูราคาเป็นล้านทิ้ง?

หัวใจของเขาจะต้องวายแน่นอน!

“นิ่งอยู่ทำไมล่ะ? รีบไปโยนทิ้งสิ!” อู่เยวี่ยมองไปยังพนักงานที่เฉื่อยชาด้วยความไม่พอใจ

พนักงานบีบแขนของตัวเองอย่างแรงถึงได้ดึงสติตัวเองกลับคืนมา ถือถาดอย่างเศร้าสลดเดินไปที่หน้าต่าง หยิบต่างหูขึ้นมาอย่างลังเล…

ของราคาหนึ่งล้านจะโยนทิ้งไปแบบนี้จริงเหรอ?

แม่เจ้า เงินเดือนและโบนัสรวมกันหนึ่งเดือนของเขายังได้แค่ไม่กี่พันหยวนเอง เขาทำทั้งชีวิตยังหาเงินไม่ได้มากมายเท่านี้เลย แต่ตอนนี้เขาต้องทิ้งเงินหนึ่งล้านกับมือตัวเอง ทำไมพระเจ้าต้องโหดร้ายกับเขาขนาดนี้?

ถึงแม้ว่าเขาจะปวดใจจนน้ำตาแทบไหลแต่พนักงานก็ต้องทำใจโยนต่างหูออกไปนอกหน้าต่างด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เงินของเขาอยู่แล้ว ก็แค่โยนทิ้งไปซะ!

ในอนาคตยังสามารถออกไปคุยโวได้อีกว่า เขาโยนเงินหนึ่งล้านสามแสนทิ้งเองกับมือ!

ทุกคนต่างพากันมองด้วยสายตาสิ้นหวัง เงินหนึ่งล้านหายวับไปง่ายดายขนาดนี้เลยเหรอ มันช่างน่าปวดใจจริง ๆ!

แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นแสงสีขาวที่กะพริบหายวับไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้ากระโดดลงหน้าต่างไป จากนั้นก็แวบกลับมาอย่างรวดเร็ว ทุกคนเพิ่งสังเกตเห็นว่ามันเป็นกระรอกสีขาวน่ารักที่กำลังคาบต่างหูคู่หนึ่งอยู่ในปาก ดวงตาสีดำเล็ก ๆกลอกไปมา ไม่ต้องพูดถึงเลยว่ามันน่ารักขนาดไหน

……………………………………………………….