บทที่ 1940 เซียวเวยนั่นเอง + ตอนที่ 1941 เห็นแก่ความงามจะให้ส่วนลด 20%

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1940 เซียวเวยนั่นเอง

เหมยเหมยใจเต้นไม่เป็นระส่ำ เซียวเวย?

ทำไมถึงเป็นเธอไปได้ล่ะ?

“แน่ใจเหรอว่าเป็นเซียวเวย ไม่ผิดแน่นะ?” เหมยเหมยถาม

เธอไม่อยากจะเชื่อเลยเพราะปกติเธอกับเซียวเวยไม่เคยทักทายกันเลย ไม่นับว่าเป็นเพื่อนกันด้วยซ้ำ ทำไมเซียวเวยต้องใส่ร้ายป้ายสีเธอบนอินเทอร์เน็ตด้วยล่ะ?

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดอย่างมั่นใจ “เธอนั่นแหละ ไม่ผิดแน่ เหยาเหยาเธอพูดสิ”

จางเหยาพยักหน้ารับแล้วพูดว่า “ฉันอยู่หอพักเดียวกับเซียวเวย ปกติเธอจะไม่พักในมหาวิทยาลัย แต่เมื่อคืนเธอกลับนอนค้างที่มหาวิทยาลัยแล้วเล่นคอมอยู่ตลอดเวลา แม้เธอจะบอกว่าเล่นเกมเซียนก็เถอะ แต่ความจริงคือส่องกระทู้”

“แล้วมีหลักฐานอะไรที่รับประกันชัดเจนว่าเธอเป็นฮวาจิงหลิงไหม?” เหมยเหมยถามขึ้นอีก

จางเหยายิ้มพลางพูดว่า “ชื่อบนอินเทอร์เน็ตของเซียวเวยคือฮวาจิงหลิง เพราะในชื่อของเธอมีคำว่าเวย[1] เธอชอบให้คนอื่นเรียกเธอว่าฮวาจิงหลิง เพราะงั้นชื่อบนอินเทอร์เน็ตของเธอก็เลยชื่อนี้ด้วย แต่เธอไม่เคยบอกชื่อบนอินเทอร์เน็ตของเธอให้ใครรู้มาก่อนนะ แต่ฉันเดาเอา”

เหมยเหมยรู้สึกผิดหวังเล็ก ๆ “แค่คาดเดามันไม่มีประโยชน์หรอก ต่อให้พวกเราจะมั่นใจว่าเธอคือฮวาจิงหลิง แต่ไม่มีหลักฐานก็ไม่ได้”

กรณีนี้เหมือกับกรณีการสืบคดีของทางตำรวจ ทุกเรื่องต้องมีหลักฐาน มิฉะนั้นต่อให้คุณรู้ว่าคนที่ยืนอยู่ฝั่งหน้าคือฆาตกร แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปจับกุมเขา

จางเหยาพูดขึ้นอย่างเห็นด้วย “นั่นมันก็ใช่ แต่ฉันช่วยพวกเธอได้เท่านี้ แต่ฉันรู้ว่าเซียวเวยตั้งตัวเป็นศัตรูกับจ้าวเหมยมาโดยตลอด ฉันจึงไม่แปลกใจสักนิดที่หล่อนไม่ลงรอยกับเธอ”

“ทำไมล่ะ? เหมยเหมยไม่รู้จักเธอเลยนะ” ฉีฉีเก๋อถามอย่างแปลกใจ

เหมยเหมยรีบอธิบาย “จะบอกว่าไม่รู้จักเลยก็ไม่ใช่ทั้งหมด เคยเจอหน้ากันไม่กี่ครั้ง จริง ๆแล้วฉันกับหลานสาวของเซียวเวยเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่เพื่อนฉันกับเซียวเวยมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไร”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับจางเหยาเป็นคนฉลาด พอได้ฟังเช่นนั้นก็แสดงสีหน้าเข้าใจทันที ภูมิหลังครอบครัวของเซียวเวยไม่ใช่ความลับอะไรในมหาวิทยาลัย ต่อให้คนอื่นไม่ไปถามเธอก็จะพูดมันออกมาเองอย่างห้ามไม่อยู่ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับจางเหยาคือคนที่มากประสบการณ์ในเมืองหลวง เรื่องราวรักใคร่ชายหญิงของอาจารย์เซียว พวกเธอรู้ดีเสียยิ่งกว่าอะไร

เมียมาก ลูกหลานก็มากตาม ปัญหาที่ตามมาก็ย่อมมาก

ลงรอยกันได้สิแปลก!

“ไม่แน่ว่าอาจเป็นเพราะความสัมพันธ์ของเพื่อนเธอ เซียวเวยถึงได้คิดจะทำร้ายเธอ!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนคาดเดา

เหมยเหมยคิดว่ามีเหตุผล เซียวเวยกับเซียวเซ่อเป็นคู่อริกัน เธอโดนเกลียดไปด้วยก็มีความเป็นไปได้

แต่เซียวเซ่อกลับอังกฤษไปแล้ว ไม่งั้นเซียวเซ่อก็คงจัดการยัยเซียวเวยนี่ทันที

“ขอบคุณรุ่นพี่ที่ช่วยนะคะ ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไรแล้วฉันช่วยได้ รุ่นพี่บอกมาได้เลย ฉันจะช่วยอย่างเต็มที่” เหมยเหมยพูดขอบคุณจางเหยา

ถึงแม้จะไม่ได้หลักฐานมาแต่จางเหยาก็ช่วยชี้เรื่องบุคคลต้องสงสัย ถือว่าช่วยได้มากทีเดียว และเธอก็ชอบนิสัยที่แสนกระฉับกระเฉงของเธอ เด็กผู้หญิงคนนี้ควรค่าแก่การคบหา

จางเหยายิ้มร่าแอบนึกดีใจ เหตุผลหลักที่เธอเลือกจะหักหลังเซียวเวยก็เพื่อต้องการเกาะทองคำแท่งใหญ่แท่งนี้ ฟ้าดินรู้ดีว่าเธออิจฉาเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมาก ในปีนี้ธุรกิจครอบครัวตระกูลเหริ่นดีขึ้นมาก ทั้ง ๆที่เมื่อก่อนเทียบกับตระกูลจางไม่ได้เลย แต่ตอนนี้กลับทิ้งห่างตระกูลจางไปไกลแล้วด้วย!

ก็ไม่ใช่เพราะเกาะทองแท่งใหญ่อย่างจ้าวเหมยไว้แน่นหรอกหรือ!

แน่นอน เธอเองก็ดูแคลนต่อพฤติกรรมชั่วร้ายของเซียวเวยที่เอาแต่แทงข้างหลังด้วย ประจบสอพลอก็ส่วนประจบสอพลอ ความยุติธรรมก็ต้องมีด้วย!

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก เธอคือเพื่อนของเชี่ยนเชี่ยนก็ถือว่าเป็นเพื่อนของฉันไปด้วย เป็นเพื่อนกันก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว คุณธรรมต้องมาก่อน!” จางหยางตีอกชกลมด้วยอารมณ์ฮึกเหิม

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแอบเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง แถมยังรู้จุดประสงค์ของเธออย่างชัดเจนแต่แรกแล้ว หากไม่เห็นแก่ว่าจางเหยานิสัยดี เธอคงไม่มีทางแนะนำให้เหมยเหมยรู้จักหรอก!

…………………………………………………….

ตอนที่ 1941 เห็นแก่ความงามจะให้ส่วนลด 20%

จางเหยามีธุระต่อจึงกลับไปก่อนแล้ว เหมยเหมยก็ไม่มีอารมณ์กินข้าว คิด ๆแล้วก็ตัดสินใจกลับไปให้ลุงเหลาช่วยหาผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์เพื่อค้นหาที่อยู่ IP ของฮวาจิงหลิง แบบนี้ก็จะมีหลักฐานมัดตัวได้แล้ว

“เรื่องนี้ให้ฉันไปจัดการแล้วกัน เพื่อนของฉันคนหนึ่งทำเกี่ยวกับพวกคอมพิวเตอร์ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเขาไม่กี่นาทีก็เสร็จแล้ว” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกินจนใบหน้าของเธอแดงเปล่งปลั่ง อารมณ์ดีสดชื่น บอกให้เหมยเหมยวางใจได้เต็มร้อย

ฉีฉีเก๋อได้ยินเช่นนั้นก็งงงวย “ในเมื่อเพื่อนของเธอเก่งขนาดนี้ แล้วทำไมไม่ให้เขาไปจัดการตั้งแต่แรกล่ะ?”

เหมยเหมยก็พยักหน้า ใช่ สำหรับผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์แล้วการตรวจสอบ IP มันง่ายดายราวกับกินอาหารมื้อหนึ่งเท่านั้น แล้วทำไมต้องตรวจสอบทีละคน ๆด้วยเล่า

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหัวเราะเหอะ ๆ “เพื่อนฉันคนนี้มันหน้าเงิน ถ้าไม่ได้เงินเขาก็ไม่ทำงาน และราคาก็มหาโหดมาก นี่ไม่ใช่เพราะว่าประหยัดเงินหรอกเหรอ!”

เหมยเหมยกุมหน้าผากอย่างหมดคำจะพูด หยิบกระเป๋าเงินออกมาจากกระเป๋าอย่างหงุดหงิด โยนไปไว้ตรงหน้าเธอ “ฉันจ่ายเงินเอง เธอไม่จำเป็นต้องประหยัดเงิน รีบไปหาเพื่อนผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์คนนั้นของเธอซะ”

ยอมจำนนให้ผู้หญิงคนนี้เลยจริง ๆ เวลากินเนื้อไม่เคยพูดเรื่องประหยัดแต่ยามคับขันดันมาคิดเรื่องเงิน สมองนี่…

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนลูบจมูกของเธออย่างเก้อเขินแล้วก็ส่งเสียงหัวเราะเหอะ ๆออกมาอีกครั้งดูท่าทีไม่เป็นธรรมชาติ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแล้วผลักกระเป๋าเงินคืนไป

“ฉันก็มีเงิน ไม่จำเป็นต้องให้เธอออกหรอก” ตอนที่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดคำนี้ออกมาเธอรู้สึกปวดใจอยู่บ้าง แต่ช่วงนี้ธุรกิจของครอบครัวไปได้ดี หารายได้มากมายซึ่งล้วนเป็นเพราะคุณงามความดีของเหมยเหมยทั้งนั้น เธอไม่สามารถทำตัวเป็นคนใจดำได้

แต่การจะให้เจ้าหมอนั่นมาทำงานให้ มันต้องใช้เงินเยอะมากจริง ๆ!

เหมยเหมยทั้งโมโหทั้งขบขันจงใจเอากระเป๋าเงินกลับมา “งั้นเธอก็รีบไปหาเขาซะ!”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกะพริบตาปริบ ๆจ้องกระเป๋าเงินในมือเป็นเวลาสามวินาที เฮ้ย…ทำไมวันนี้ดาวมหาวิทยาลัยถึงทำตัวไม่เกรงใจเธอเลยล่ะ?

เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าแย่งเธอออกเงินทุกครั้งหรือไง?

“ได้…ไปตอนนี้เลย!”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนปวดใจอย่างที่สุดแต่ก็กระดากใจจะหยิบกระเป๋าเงินกลับคืนมา ลุกขึ้นอย่างแน่วแน่เพื่อเตรียมตัวไปหาเพื่อนใจดำคนนั้น

เหมยเหมยเห็นสีหน้าอันเจ็บปวดของเธอก็นึกอยากหัวเราะ ล้อเล่นพอแล้วจึงลุกขึ้นตามไป “ฉันไปกับเธอด้วย ฉันมีเงินในกระเป๋าไม่พอ เพื่อนของเธอเสนอราคาเท่าไร? พวกเราไปกดเงินที่ธนาคารกัน”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็หัวเราะอย่างเก้อเขินและไม่เสแสร้งอีกต่อไป เดือนนี้เธอใช้ค่าครองชีพของเธอเกือบหมดแล้ว ไม่งั้นคงจะไม่ขี้เหนียวขี้ตืดขนาดนี้หรอก

“ราคาเริ่มต้นที่หนึ่งพัน ถ้าต้องใช้เทคนิคเล็กน้อยก็สองพัน และเริ่มต้นที่ห้าพันหากต้องใช้เทคนิคสูงขึ้นไปอีก ราคาสูงไม่มีกำหนดเลย” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกัดฟันพูด

เรียกราคาสูงมากขนาดนี้แต่ก็ยังมีผู้คนมากมายไปใช้บริการเขา เพื่อนของเธอทำรายได้มากมายโดยอาศัยแค่ฝีมือเกี่ยวกับเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์เท่านั้น ยังไม่ทันเรียนมหาวิทยาลัยก็ซื้อบ้านสี่ประสานในเมืองหลวงได้แล้ว อย่าให้พูดเลยว่ามีชีวิตสะดวกสบายมากแค่ไหน

ที่แท้ความรู้ก็คือความมั่งคั่ง บรรพบุรุษไม่ได้โกหกจริง ๆด้วย!

เหมยเหมยกดเงินห้าพันหยวนแล้วไปหาเพื่อนผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์คนนั้น ซึ่งต่างจากที่เธอคาดเดาไว้ เพื่อนผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์คนนี้ไม่ได้ผอมเป็นไม้เสียบผีอย่างที่เธอคิด  บนใบหน้าขาวซีดใส่แว่นหนาเตอะเหมือนโอตาคุ แต่เป็นผู้ชายตัวสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลาและอายุไม่แก่นัก อายุไม่น่าเกินยี่สิบปี

“โจวเจี๋ยรุ่ย อายุสิบแปด เพื่อนฉันเอง” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแนะนำ

“สวัสดีพี่สาวคนสวยมีอะไรให้ผมรับใช้ครับ?” โจวเจี๋ยรุ่ยปากหวานมาก พอเห็นเหมยเหมยดวงตาก็เปล่งประกายทันที พี่สาวหน้าตาสะสวยขนาดนี้ ไม่ต้องให้พูดเลยว่าเขากระตือรือร้นมากแค่ไหน!

แต่พอพูดเรื่องงานน้ำเสียงก็เปลี่ยนไปทันที

“สองพันหยวน แต่เห็นแก่ความงามของพี่สาวฉันจะให้ส่วนลด 20% เหลือหนึ่งพันเจ็ดร้อยหกสิบหยวน ห้ามขาดแม้แต่สลึงเดียว” โจวเจี๋ยรุ่ยเสนอราคาอย่างรวดเร็วเผยให้เห็นความเฉลียวฉลาดออกมาทางสายตาของเขา

………………………………….

[1] มาจากคำว่า 薇 ซึ่งในอดีตคือพืชตระกูลรากหญ้าที่มีลักษณะคล้ายถั่วลันเตา