บทที่ 1942 ผู้ชายของเธอแน่นอนว่าจะดีเลิศที่สุด + ตอนที่ 1943 หลักการโดนหมากินไปแล้ว

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1942 ผู้ชายของเธอแน่นอนว่าจะดีเลิศที่สุด

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกระโดดสูงสามฟุตชี้ไปที่โจวเจี๋ยรุ่ยแล้วก่นด่าว่า “นายควรเห็นแก่หน้าเพื่อนเก่าอย่างฉันถึงให้ส่วนลด 30% ไม่ใช่หรือไง?”

โจวเจี๋ยรุ่ยชำเลืองมองเธออย่างเย็นชา “ขนาดเป็นพี่น้องกันแท้ ๆเรื่องเงิน ๆทอง ๆยังต้องทำให้ชัดเจนเลย ฉันกับเธอก็ไม่ได้นับว่าเป็นพี่น้องกันสักหน่อย หากไม่ใช่ว่าพี่สาวที่เธอพามาสวยเหมือนนางฟ้าละก็ ฉันยังไม่ให้ส่วนลด 20%นี้ด้วยซ้ำ!”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพึมพำอย่างโมโหว่า “ไอ้คนใจดำสารเลว ผลไม้เคลือบน้ำตาลที่ซื้อให้กินเมื่อก่อนก็ถือซะว่าซื้อให้หมามันกินก็แล้วกัน”

“ตั้งแต่พวกเรารู้จักกันจนถึงตอนนี้เธอก็ซื้อแค่ผลไม้เคลือบน้ำตาลให้ฉันไม้หนึ่งเท่านั้นแหละ แล้วฉันยังเลี้ยงเป็ดย่างครึ่งตัวเธออีก สรุปใครติดค้างใครกันแน่?” โจวเจี๋ยรุ่ยพูดอย่างเย็นชา ไม่เห็นแก่หน้าของคุณหนูใหญ่เหริ่นเลยสักนิด

ตอนเด็ก ๆก็ให้แค่ผลไม้เคลือบน้ำตาลไม้หนึ่งเท่านั้นเองไม่ใช่เหรอ?

แถมยังโดนยัยอ้วนนี่กัดเข้าไปครึ่งหนึ่ง ทนจนถึงตอนนี้แม้แต่จะมองยังไม่อยากมองเลย น่ารังเกียจ!

สาวอ้วนสกุลเหริ่นเอาแต่พล่ามเรื่องนี้มานานหลายปี ทำเอาเขาจนปัญญาเลยซื้อเป็ดย่างมาหนึ่งตัว ตัวเองกินครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งแบ่งให้สาวอ้วนคนนี้กินเพื่อตอบแทนหนี้บุญคุณที่ติดค้างไว้!

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถลึงตาใส่อย่างโมโหแล้วไม่กล้าพล่ามอะไรอีกต่อไป

ใครใช้ให้เธอขี้เหร่กันล่ะ!

โจวเจี๋ยรุ่ยไอ้คนสารเลว ที่แท้ก็มองคนแค่ที่หน้าตาอย่างเดียว!

เหมยเหมยพอมองออก ถึงแม้ว่าโจวเจี๋ยรุ่ยจะพูดจาไม่ไว้หน้าแต่มิตรภาพระหว่างเขากับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนคงไม่ธรรมดา เธอหยิบเงินออกมาจากกระเป๋านับได้ยี่สิบใบแล้วเลื่อนไปตรงหน้าโจวเจี๋ยรุ่ย

“ตกลงตามนี้ นี่คือเงินค่าเหนื่อยของนาย ไม่ต้องทอนหรอกฉันเลี้ยงน้ำตาลเคลือบผลไม้นายแล้วกัน!” เหมยเหมยพูดยิ้ม ๆ

โจวเจี๋ยรุ่ยยิ้มอย่างมีความสุขเก็บเงินเข้ากระเป๋าอย่างรวดเร็ว การกระทำนี้คล้ายกับคุณหนูใหญ่เหริ่นมาก ทำอะไรก็ไม่เร็วเท่ากับเก็บเงินเข้ากระเป๋าหรอก

“แค่พี่สาวสุดสวยมีความสุขก็พอแล้ว พี่สาวมีแฟนหรือยังครับ? ผมขอแนะนำตัวเองหน่อยแล้วกัน ผมชื่อโจวเจี๋ยรุ่ย อายุ 18 ปี เป็นนักเรียนมัธยมปลายอีจงในเมืองหลวง สถานภาพทางการเงินอิสระ มีบ้านเป็นของตัวเอง ไม่มีพ่อแม่ ถ้าพี่สาวแต่งงานกับผมก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความขัดแย้งระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้ และจะทำให้พี่ได้สัมผัสกับอิสรภาพของการเป็นโสดหลังแต่งงานอย่างแน่นอน…”

โจวเจี๋ยรุ่ยพูดเป็นต่อยหอย กางทรัพย์สินของที่บ้านออกมาจนหมดแล้วเปิดการขายตัวเอง

เหมยเหมยตัดบทเขายิ้มแล้วพูดว่า “ยอดเยี่ยมจริง ๆเลยนะ แต่ว่าฉันมีคู่หมั้นอยู่แล้ว และฉันไม่ได้สนใจการคบเด็กเลยแม้แต่น้อย”

โจวเจี๋ยรุ่ยถอนหายใจด้วยความผิดหวัง ดอกไม้ดี ๆโดนหมูแย่งไปกินซะแล้ว!

เฮ้อ!

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเตะเขาไปทีหนึ่งอย่างอารมณ์เสีย “หมาเห่าเครื่องบินจริง ๆนะนายเนี่ย อย่ามัวมาทำให้ฉันขายขี้หน้า รีบไปทำงานได้แล้ว!”

โจวเจี๋ยรุ่ยเก็บรอยยิ้มทะเล้นของเขากลับไปแล้วทำท่าทีจริงจังทันที “พูดมาเลย อยากให้ฉันทำอะไร?”

เหมยเหมยพูดว่า “ฉันต้องการให้นายค้นหาที่อยู่ IP ในกระทู้หนึ่งของเพจมหาวิทยาลัยของพวกเรา”

“Ok ไม่มีปัญหา ผมจะไปจัดการตอนนี้แหละ”

โจวเจี๋ยรุ่ยบอกจะทำก็ทำเลยรื้อผ้าปูโต๊ะข้างตัวออก คาดไม่ถึงว่าจะมีคอมพิวเตอร์อยู่ด้วย อีกทั้งมองดูแล้วเหมือนว่าจะประกอบด้วยตัวเองอีกต่างหาก แม้กระทั่งอุปกรณ์ห่อหุ้มก็ไม่มีสายไฟห้อยระโยงระยางโผล่ออกมาให้เห็น ภายนอกไม่ค่อยน่าดูเท่าไรนัก

“ไม่ต้องไปมหาวิทยาลัยของพวกฉันเหรอ? ที่นี่สามารถเข้าเพจของมหาวิทยาลัยได้เลยเหรอ?” เหมยเหมยถามอย่างแปลกใจ

“ไม่จำเป็นหรอก ผมสามารถเข้าถึงเครือข่ายทั้งหมดในเมืองหลวงได้จากที่นี่”

โจวเจี๋ยรุ่ยขยับมือทั้งสองข้างอย่างว่องไว เหมยเหมยมองอย่างตื่นตาตื่นใจ หลังจากนั้นไม่นานก็เห็นหน้าเพจมหาวิทยาลัยเมืองหลวงบนหน้าจออย่างน่าอัศจรรย์ คลิกอีกครั้งก็เข้าสู่เพจของมหาวิทยาลัย

สิ่งที่เห็นก็คือภาพถ่ายของเหมยเหมยและเหยียนหมิงซุ่นจูบกันอย่างดูดดื่ม โจวเจี๋ยรุ่ยผิวปาก มองไปที่เหยียนหมิงซุ่นอย่างพิจารณาสามวินาทีแล้วพูดทันทีว่า “พี่สาวสายตาไม่เลวเลย!”

“แน่นอน ผู้ชายธรรมดาปกติทั่วไปฉันไม่เห็นอยู่ในสายตาหรอก!”

เหมยเหมยยอมรับอย่างเต็มปากเต็มคำ ผู้ชายของเธอจะต้องดีที่สุดอยู่แล้ว!

…………………………………………..

ตอนที่ 1943 หลักการโดนหมากินไปแล้ว

โจวเจี๋ยรุ่ยขยับนิ้วบนแป้นพิมพ์อีกสักพัก ไม่นานก็พบฮวาจิงหลิงแต่เขากลับส่ายหัวพูดว่า “ตอนนี้ฮวาจิงหลิงนี้ไม่ได้ออนไลน์ ฉันหา IP ของเธอไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพวกพี่กลับไปก่อนไหมรอเธอออนไลน์เมื่อไรผมก็จะหาได้ทันที ถึงเวลานั้นผมจะโทรหาพวกพี่เอง”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกระโดดพรวดขึ้นมา “ทำไมต้องรอให้ออนไลน์ก่อนถึงจะหาเจอล่ะ? ไม่ใช่ว่านายเก่งกาจมากหรือไง ไม่ใช่ว่านายทำไม่ได้หรอกนะ?”

โจวเจี๋ยลุ่ยพูดฉุน ๆอย่างอารมณ์เสียว่า “นี่ ถ้าไม่เข้าใจก็อย่าพูดจาซี้ซั้วสิ บรรพบุรุษสิบแปดชั่วโคตรขายขี้หน้าเพราะเธอหมดแล้ว ไม่ได้ออนไลน์เธอจะให้ฉันไปค้นหาที่ไหน? แม้แต่แฮกเกอร์ที่เก่งกาจที่สุดในโลกก็ยังหาไม่เจอเลย”

เขาหยุดชะงักไป เพิ่มน้ำหนักเสียงแล้วพูดว่า “อีกอย่างขอร้องเธอช่วยรักษากฎหน่อย วันหลังอย่าพูดว่านายทำไม่ได้ต่อหน้าผู้ชายอีก You Know?”

เหมยเหมยมุมปากกระตุก อันที่จริงประโยคนี้ช่าง…

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนส่งเสียงหัวเราะเยาะมองพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้าพูดอย่างดูถูกว่า “นายเป็นผู้ชายด้วยเหรอ? ขนยังขึ้นไม่ครบเลย!”

“เธออย่ามาใช้วิธียุแหย่กับฉัน ขนของฉันจะขึ้นหรือไม่ขึ้นก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ ครั้งแรกของฉัน ฉันจะให้ผู้หญิงที่ฉันรักเท่านั้น ไม่เห็นยัยอ้วนอย่างเธออยู่ในสายตาหรอก!” โจวจื่อหัวส่งเสียงหัวเราะเยาะเช่นกัน เชิดจมูกสูง ทำสีหน้าดูแคลน

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนและเขาทะเลาะกันมาตั้งแต่เด็กยันโตจนชินกับปากจัด ๆของเขานานแล้ว แต่ก็ยังเตะเขาไปสองสามครั้งอย่างโมโห

เหมยเหมยจับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไว้ถามว่า “ขอแค่เพียงฮวาจิงหลิงออนไลน์ นายก็จะสามารถหาที่อยู่ IP ของเธอได้ใช่ไหม?”

“ใช่ ขอเพียงแค่เธอออนไลน์ แค่ครึ่งชั่วโมงก็สามารถหาตัวเธอได้แล้ว” โจวเจี๋ยรุ่ยเชื่อมั่นในตัวเองมาก

“ได้ ฉันจะให้โอกาสนาย”

เหมยเหมยเตรียมตัวจะกลับไปใช้วิธีกวนประสาทเพื่อกระตุ้นเซียวเวยให้โผล่ออกมา ต้องบังคับให้เธอออนไลน์อีกครั้งให้ได้

เธอเตรียมจะขอตัวกลับแต่นึกถึงสิ่งที่โจวเจี๋ยรุ่ยพูดก่อนหน้านี้เลยนึกขึ้นมาได้จึงถามว่า “ตอนนี้นายยังเรียนอยู่หรือเปล่า?”

“เขาแค่มีชื่อประดับไว้งั้นแหละ ในหนึ่งเทอมเข้าเรียนได้สามครั้งก็สุดยอดแล้ว เรียนม.6 มาสองปีแล้วยังไม่จบเลย” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหวังอยากจะให้เขาดีขึ้น

เห็นอยู่ชัด ๆว่าความฉลาดไอคิวสูงขนาดนั้นคณิตศาสตร์ฟิสิกส์และเคมีได้คะแนนเต็ม แต่ภาษาวรรณกรรม ประวัติศาสตร์และการเมืองสอบได้ศูนย์ คะแนนห่วย ๆแบบนี้เรียนไปอีกสิบปีก็ไม่จบ น่ากลุ้มใจจริง ๆ!

ตัวของโจวเจี๋ยรุ่ยเองกลับไม่สนใจ “เรียนไม่จบก็ไม่เห็นเป็นไร ถึงอย่างไรฉันก็ยังสร้างรายได้โดยที่ไม่ต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัยได้นี่นา”

“เมื่อกี้นายเพิ่งบอกว่านายสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ทั่วทั้งเมืองหลวง งั้นนายเข้าถึงเครือข่ายของระบบรักษาความปลอดภัยสาธารณะได้ไหม?” เหมยเหมยจงใจถาม

โจวเจี๋ยรุ่ยมองเธออย่างหวาดระแวงแล้วกล่าวด้วยสีหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มว่า “พี่สาว ถึงแม้ว่าพี่จะสวยมากแต่ผมเป็นคนมีหลักการ บางอย่างต่อให้จะเพิ่มเงินให้มากแค่ไหน ผมก็ไม่…”

“หนึ่งหมื่น ขอเพียงแค่นายสามารถเข้าสู่ระบบรักษาความปลอดภัยสาธารณะได้ และอยู่ในนั้นเป็นเวลาสองนาที” เหมยเหมยพูด

โจวเจี๋ยรุ่ยสีหน้าท่าทางดูสงบลง ปากยังพูดอีกว่า “ผมเป็นคนมีหลักการ…”

“สองหมื่น!”

“ผมเป็นคนทำอะไรมีหลักการ แต่เห็นแก่ความสวยของพี่แล้ว หลักการบางอย่างก็สามารถหักล้างกันได้ แต่ว่า…”

“สามหมื่น!”

“เพื่อความสุขของพี่สาว ตกลง!”

โจวเจี๋ยรุ่ยดวงตาเป็นประกาย ตบโต๊ะเบา ๆแล้วขยับปลายนิ้วลงแป้นพิมพ์เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

ดวงตาของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเบิกกว้าง ด่าด้วยความโมโหว่า “แล้วหลักการของนายล่ะ?”

“หมากินไปแล้ว!”

มือของโจวเจี๋ยรุ่ยขยับไม่หยุด ท่าทางดูจริงจังมาก ความเร็วของมือเร็วจนน่าตกใจจนเหมือนภาพลวงตา

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนจุกอยู่ในอก ตั้งแต่เล็กจนโตการลับฝีปากของเธอไม่เคยเป็นรองใครมาก่อน แต่ว่า——

ต่อหน้าเจ้าหมอนี่เธอเถียงกลับไม่ได้สักคำ!

“เสร็จแล้ว พี่สาวดูสิ!”

โจวเจี๋ยรุ่ยชี้ไปที่หน้าจออย่างตื่นเต้น ทำหน้าลำพองใจ

เหมยเหมยดูอย่างตั้งใจ นี่เป็นการเชื่อมต่อระบบรักษาความปลอดภัยสาธารณะจริง ๆด้วย เธอเคยเห็นมันจากเหยียนหมิงซุ่นมาก่อน เธอเริ่มจับเวลาตั้งแต่โจวเจี๋ยรุ่ยเริ่มลงมือ ทั้งหมดเป็นเวลายี่สิบนาที

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจเรื่องคอมพิวเตอร์นัก แต่ก็พอรู้ว่าเวลาที่ใช้มันสุดยอดมากจริง ๆ!

………………………………………….