ระดับอมตะเคราะห์ด่านเก้า ครอบครองสมบัติอริยะเคลื่อนย้ายในพริบตา มาจากดินแดนรกร้างโบราณ…

ชั่วขณะเดียวเสอเฟิงพลันคาดเดาข้อมูลออกมาได้มากมาย สีหน้าของเขาเย็นเยียบ ในดวงตาสีน้ำตาลเข้มปรากฏจิตสังหารโดยไม่มีปกปิด

นี่คือหนึ่งในบุคคลขอบเขตมกุฎของดินแดนรกร้างโบราณอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ในสายตาของเสอเฟิงกลับไม่มีความหมายเลยสักนิด

สิ่งที่เขาสนใจจริงๆ คือปีกผลาญเทพที่หลินสวินครอบครอง สมบัติที่มีความมหัศจรรย์ในการเคลื่อนย้ายผ่านอากาศ แม้แต่ในดินแดนโบราณมารโลหิตยังยากจะเห็น ล้ำค่าอย่างมาก

สวบ!

ตอนที่ไล่โจมตี เสอเฟิงใช้สมบัติที่เหมือนกับกระสวยบินเล่มนั้น บาดอากาศจนขาด พุ่งแทงใส่หลินสวิน

แม้ถูกหลินสวินหลบหนีได้ทุกครั้ง แต่กลับส่งผลกระทบต่อการบินของหลินสวินด้วย

ไม่นานระยะห่างระหว่างทั้งสองก็ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ…

จะหนีไปข้างหน้าต่อไม่ได้แล้ว!

และตอนนี้เองในใจหลินสวินพลันเกิดความหวาดกลัวแรงกล้า ราวกับบนหนทางข้างหน้านั่นมีอันตรายที่น่ากลัวบางอย่างรออยู่

ฟึ่บ!

ปีกผลาญเทพที่อยู่ข้างหลังกะพริบวาบ เงาร่างของหลินสวินพลันอ้อมกลับ เคลื่อนไปในอีกทิศทางหนึ่ง

แต่ตอนนี้ทำให้ระยะห่างระหว่างเขากับเสอเฟิงยิ่งใกล้กว่าเดิม

“เจ้าหนุ่ม หากเจ้ายอมถูกจับตอนนี้ ข้าสามารถให้เจ้าตายสบายได้ เจ้าคงรู้ดีว่าหากไม่ใช่เพราะปีกคู่นั้น เจ้าตายไปตั้งนานแล้ว!”

ด้านหลังเสียงเย็นเยียบเหี้ยมโหดของเสอเฟิงดังขึ้นอย่างชัดเจน รวมถึงจิตสังหารอันน่ากลัว

หากเป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่ต่ำกว่าระดับอริยะคนอื่นๆ คงสิ้นหวังไปนานแล้ว ถึงอย่างไรการถูกอริยะแท้คนหนึ่งจับจ้อง นั่นไม่ต่างอะไรกับการถูกเทพแห่งความตายจ้องมอง

แต่เสียงของเสอเฟิงเพิ่งจะสิ้นลง พลันเห็นหลินที่อยู่ห่างออกไปเรียกดาบหักออกมา กรีดวาดรุ้งขาวที่งดงามราวกับภาพมายาสายหนึ่งกลางอากาศ

กระบวนเฉือนเกิดดับ!

ทว่าเป้าหมายไม่ใช่เสอเฟิง แต่เป็นต้นบรรพชนหลอมจิตที่อยู่ข้างๆ เสอเฟิง

หืม?

เสอเฟิงสีหน้าอึมครึม ยิ้มเยาะเอ่ย “ยืมแรงโจมตีหรือ ฝันไปเถอะ!”

ฟุ่บ!

ตอนที่พูดเขาก็สำแดงวิชาเคลื่อนย้าย พุ่งไปทางหลินสวิน “ตายซะ!”

ในสายตาเสอเฟิง หากหลินสวินไม่ทำเช่นนี้บางทีคงไม่ถูกไล่ทันในตอนนี้ แต่เขากลับโง่ มาเสียเวลาเพราะเหตุนี้

นี่ทำให้เสอเฟิงคว้าโอกาสได้ มั่นใจเต็มเปี่ยมว่าสามารถสังหารหลินสวินได้ในชั่วขณะนี้

แต่สิ่งที่ทำให้เสอเฟิงตั้งตัวไม่ทันคือ พริบตาที่เขาบพุ่งสังหารเข้าไป เวลาราวกับถูกพลังลึกลับน่ากลัวอันไร้ขอบเขตหยุดชะงัก

อภินิหารหยุดเวลา!

และในเวลาเดียวกันนี้ ดาบหักของหลินสวินก็ตัดใส่ต้นบรรพชนหลอมจิตแล้ว

ตูม!

สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า บนต้นไม้เก่าแก่ที่ราวกับหล่อขึ้นจากสำริดเหลวพลันระเบิดแสงเทาขุ่นแถบหนึ่ง กวาดซัดออกมาในแนวขวาง

“ไม่!”

ตอนที่เสอเฟิงมีปฏิกิริยาตอบสนอง แสงเทาขุ่นแถบนั้นก็ม้วนเข้ามาปกคลุมทั้งร่างของเขาเอาไว้

ฮูม…

ในรัศมีพันจั้ง ต้นไม้ใบหญ้า ก้อนหินทั้งหมดล้วนกัดกร่อน สลายไปอย่างไร้ร่องรอย

ตัวตนยิ่งใหญ่ระดับอริยะแท้อย่างเสอเฟิง เลือดเนื้อร่างกายก็ถูกกัดกร่อนจนหมดในทันที กระดูกเปลี่ยนเป็นของเหลวไหลลงพื้น

ส่วนจิตวิญญาณถูกแสงเทาขุ่นแถบนั้นกลืนกินจนหมดสิ้น!

เหตุการณ์ที่แปลกประหลาดและน่ากลัวนี้ ทำให้หลินสวินฉวยโอกาสชั่วขณะนั้นเคลื่อนย้ายไปในตำแหน่งนอกพันจั้งตั้งนานแล้ว มองดูอย่างหนาวเหน็ย เสื้อผ้าด้านหลังเปียกชุ่มด้วยเหงื่อ

น่ากลัวเกินไปแล้ว!

อริยะแท้คนหนึ่ง เพียงชั่วพริบตาเท่านั้นก็ถูกช่วงชิงเลือดเนื้อกายหยาบ จิตวิญญาณก็ถูกกลืนกิน

และสิ่งที่ทำทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแค่ต้นไม้ต้นหนึ่งเท่านั้น!

หากไม่ใช่เพราะเห็นกับตา หลินสวินไม่กล้าเชื่อว่าบนโลกนี้ยังมีเรื่องที่แปลกประหลาดน่ากลัวขนาดนี้

มองไปตรงนั้นอีกครั้ง บริเวณพันจั้งไร้ต้นไม้พืชพรรณ มีเพียงต้นบรรพชนหลอมจิตต้นนั้นหยั่งรากอยู่ตรงนั้น ลำต้นที่โล้งเลี่ยนแผ่แสงประกายสีเทา

พอนึกถึงก่อนหน้านี้ที่ตนเข้าใกล้ต้นไม้โบราณแปลกประหลาดเหล่านั้นอย่างระมัดระมัดระวังตลอดทาง เก็บแหล่งสมบัติหลอมจิตในรากของพวกมัน หลินสวินก็นึกกลัวขึ้นมา

สวบ!

เขาหันหลังจากไปอย่างไม่ลังเล

อริยะแท้อย่างเสอเฟิงตายแล้ว อีกทั้งสมบัติบนร่างกายยังถูกกัดกร่อนจนสลายทั้งหมด ไม่มีทรัพย์หลังศึกให้พูดถึง

แต่ตอนที่อยู่ระหว่างทาง หลินสวินกลับค้นพบอย่างชัดเจนว่าในป้ายคำสั่งเซียนเหินแผ่นแรกของตน ปรากฏจุดสว่างที่ราวกับดวงดาวดวงหนึ่ง

ชะตามรรคผลงานรบ!

นี่ทำให้หลินสวินตื่นเต้นขึ้นมา

เห็นได้ชัดว่าแม้เสอเฟิงถูกต้นบรรพชนหลอมจิตนั่นฆ่าตาย แต่โชควาสนามหามรรคบนตัวเขากลับถูกป้ายคำสั่งเซียนเหินเก็บไป

แต่ตอนที่หลินสวินตรวจสอบป้ายคำสั่งรกร้างโบราณกลับพบว่าไม่มีบันทึกที่ฆ่าเสอเฟิงตาย นี่ทำให้เขาจนคำพูดอีกครั้ง

ทว่าคิดดูอย่างละเอียดแล้วหลินสวินก็เข้าใจ

สิ่งที่ป้ายคำสั่งเซียนเหินเก็บไปก็คือชะตามรรคผลงานรบที่ไร้รูปอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะคู่ต่อสู้ที่ถูกตนฆ่าตายโดยตรงหรือทางอ้อม เพียงแค่คู่ต่อสู้ครอบครองพลังโชควาสนามหามรรค ก็จะถูกป้ายคำสั่งเซียนเหินเก็บรับไว้

ป้ายคำสั่งรกร้างโบราณกลับเป็นสมบัติที่สะสมผลงานรบ มีเพียงศัตรูที่ถูกตนฆ่าตายโดยตรงเท่านั้นจึงจะถูกบันทึก สั่งสมเป็นผลงาน

ฟู่ๆ…

ขณะบินทะยาน หลินสวินสีหน้าซีดขาว หายใจหอบ

เขาเอาโอสถเทพต้นหนึ่งออกมาเสริมกำลังอย่างไม่ลังเล ก่อนหน้านี้ใช้อภินิหารหยุดเวลา แม้ล่อสังหารเสอเฟิงได้ แต่กลับทำให้พลังรอบตัวหลินสวินถูกใช้จนหมดในชั่วพริบตานั้น!

นี่คือข้อด้อยของอภินิหารหยุดเวลา หากไม่ถึงทางตัน หลินสวินไม่สามารถใช้ง่ายๆ

……

“ผู้อาวุโสเสอเฟิงไปครึ่งชั่วยามแล้ว เหตุใดยังไม่กลับมา”

เหล่าชายหญิงเผ่างูมารทองคำรออยู่ตลอด แต่ตอนนี้กลับตสงสัยไม่อาจสงบได้ เกิดความรู้สึกไม่สบายใจเสี้ยวหนึ่ง

ด้วยพลังปราณของอริยะแท้ ฆ่าคู่ต่อสู้ที่ยังไม่บรรลุอริยะคนหนึ่งย่อมง่ายปานดื่มน้ำกินข้าว ไม่จำเป็นต้องเสียเวลานานขนาดนี้

นี่ทำให้พวกเขาต่างอดกังวลไม่ได้ จะเกิดเรื่องไม่คาดคิดกับเสอเฟิงหรือไม่

“พวกเจ้าอยู่ที่นี่ ข้าไปดูสักหน่อย”

ชายชุดฟ้าที่ผอมตอบสีหน้าเย็นชาคนหนึ่งสูดหายใจเข้าลึกแล้วตัดสินใจ “จำกัดเวลาหนึ่งก้านธูป หากข้ากับผู้อาวุโสเสอเฟิงไม่กลับมา พวกเจ้าออกจากป่าหลอมจิตไปเชิญยอดฝีมือในเผ่ามาทันที”

คนอื่นๆ ต่างพยักหน้ารับ

“เสอเหมิง เจ้าต้องระวัง!”

มีคนเตือน

ชายหนุ่มชุดฟ้าที่ถูกเรียกว่าเสอเหมิงขานรับว่าอืม จากนั้นร่างก็พริบไหวหายไป

“ทุกคนเตรียมพร้อมรับมือเอาไว้ ป่าหลอมจิตแห่งนี้มีอันตรายที่แปลกประหลาดและอัปมงคลมากมาย ในการต่อสู้แห่งเก้าดินแดนที่แล้วมา เคยมีอริยะไม่น้อยหลงทางอยู่ในนี้ ไม่หวนกลับมาอีก”

“พวกเราก็จะประมาทไม่ได้!”

เหล่าชายหญิงที่เหลือต่างเพิ่มความระวังมากขึ้น

ในข่าวลือ ส่วนลึกของป่าหลอมจิตมีสิ่งมีชีวิตวิญญาณที่แปลกประหลาดน่ากลัวเสียยิ่งกว่าต้นบรรพชนหลอมจิต แค่ไม่รู้ว่าข่าวลือเป็นจริงหรือเท็จ

ถึงอย่างไรตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเขาเองก็เพิ่งเข้าสู่สมรภูมิเก้าดินแดนเป็นครั้งแรก

“พวกเจ้าว่าแปลกหรือไม่ เสอเจินเป็นถึงบุคคลขอบเขตมกุฎที่ก้าวสู่ระดับอมตะเคราะห์ด่านแปด ส่วนผู้อาวุโสเสอเฟิงยิ่งเป็นอริยะแท้คนหนึ่ง แต่เสอเจินกลับถูกสังหารอย่างไร้สุ้มเสียง แม้แต่ผู้อาวุโสเสอเฟิงลงมือ จนตอนนี้ก็ยังไม่มีข่าวส่งกลับมา”

มีคนแปลกใจไม่อาจสงบได้ “คาดการณ์เช่นนี้ ฆาตกรที่ฆ่าเสอเจินตายจะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร”

“ไม่ธรรมดาแค่ไหน ตอนที่ยังไม่บรรลุอริยะก็ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของผู้อาวุโสเสอเฟิงได้!”

มีคนพูดด้วยเสียงหนักแน่น “รอก่อนเถอะ ไม่แน่ว่าอีกเดี๋ยวผู้อาวุโสเสอเฟิงจะหิ้วหัวฆาตกรกลับมา”

พรวด!

เพิ่งจะสิ้นเสียง คนผู้นี้เพียงรู้สึกว่าภาพตรงหน้าพร่ามัว เงาร่างสายหนึ่งปรากฏตัวตรงหน้าเขากะทันหัน ตอนที่เขายังตอบสนองไม่ทันศีรษะก็ถูกเด็ดลง!

พิรุณโลหิตสีแดงสดสาดกระเซ็นออกจากบนศพหัวขาด ชายหญิงคนอื่นๆ ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนไปโดยพลัน ส่งเสียงกรีดร้องออกมา

ผู้มาเยือนก็คือหลินสวินนั่นเอง!

หลังจากฆ่าศัตรูคนหนึ่งตาย เงาร่างของเขาไม่หยุดสักนิด ปลดปล่อยปราณกระบี่ไท่เสวียนที่หล่อเลี้ยงอยู่ในร่างออกมาในชั่วพริบตา!

ตูม!

ค่ายกลกระบี่ลึกลับที่หนาแน่นและพร่างพราวปรากฏออกมา ปกคลุมเงาร่างของชายหญิงเหล่านั้นไว้ทั้งหมด ปราณกระบี่สลับทับซ้อน ดุร้ายอย่างที่สุด สว่างบาดตา ตัดร่างกายของพวกเขาเป็นชิ้นเลือดเนื้อมากมายหล่นร่วงลง

แม้แต่การต่อต้านทานยังดูไร้เรี่ยวแรงอย่างที่สุด

ค่ายกลกระบี่นั่นน่ากลัวและหนาแน่นเกินไป สังหารอย่างง่ายดาย ไม่มีอะไรที่ทำลายล้างไม่ได้

อีดทั้งผู้แข็งแกร่งเผ่างูมารทองคำเหล่านั้น ที่เก่งกาจที่สุดก็มีพลังเพียงขอบเขตมกุฎระดับอมตะเคราะห์ด่านแปดเท่านั้น จะเป็นคู่ต่อสู้ของหลินสวินได้อย่างไร

ชั่วพริบตาเท่านั้นบนพื้นเปลี่ยนเป็นแอ่งเลือด เลือดเนื้อเป็นชิ้นๆ ลอยอยู่ภายใน แผ่กลิ่นคาวเลือดที่ชวนคลื่นไส้

ฮูม…

ตอนที่การต่อสู้จบลง ปราณกระบี่ไท่เสวียนมากมายราวกับฝูงนกกลับรัง หวนกลับเข้าร่างกายของหลินสวิน ส่วนหลินสวินเริ่มรวบรวมทรัพย์หลังศึกอย่างคล่องแคล่ว

สมบัติ ลูกกลอนโอสถ เจตวัตถุ วัตถุดิบวิญญาณ… พวกสมบัติมีค่าถูกหลินสวินเก็บไปทั้งหมด

ในนั้นแค่สมบัติอริยะก็มีสามชิ้นแล้ว!

นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้หลินสวินดีใจคือ ในนี้ยังมีขวดหยกมันแพะสี่ขวดที่บรรจุแหล่งสมบัติหลอมจิตไว้เต็ม

สิ่งเดียวที่เสียดายอาจจะเป็นหลังจากฆ่าคู่ต่อสู้เหล่านี้ตาย มีเพียงผลงานรบบางส่วนเท่านั้นที่ถูกบันทึกในป้ายคำสั่งรกร้างโบราณ สำหรับชะตามรรคผลงานรบในป้ายคำสั่งเซียนเหิน ไม่มีเพิ่มเลยสักอัน

ทำทั้งหมดนี้เสร็จหลินสวินก็หายตัวไปจากจุดนั้นราวกับผีอย่างไรอย่างนั้น

เมื่อครู่ตอนที่สังหารคู่ต่อสู้เหล่านี้ ได้สร้างความปั่นป่วนขนานใหญ่ขึ้น ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ควรอยู่นานอีกต่อไป

สวบ!

ตามคาด ไม่นานชายชุดฟ้าคนนั้นก็รีบหวนกลับมา ตอนที่เห็นภาพนองเลือดอย่างที่สุดบนพื้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปโดยพลัน มือเท้าเย็นเยียบ

“ไม่ทันไร ก็ตายหมดแล้ว…”

หน้าอกของเสอเหมิงกระเพื่อมไหวรุนแรง เขารับรู้ได้ว่าสถานการณ์ผิดปกติ ก็ยกเท้าจากไปทันทีโดยไม่อาจสนใจอย่างอื่น

ผู้อาวุโสเสอเฟิงหายตัวไปแล้ว แม้แต่พรรคพวกเหล่านั้นก็ถูกสังหารทั้งหมด ตอนนี้สำหรับเสอเหมิง ป่าหลอมจิตแห่งนี้เป็นแดนแห่งความตายชัดๆ!

ครึ่งวันหลังจากนั้น

เสอเหมิงหนีออกจากอาณาเขตที่ผืนป่าลึกหลอมจิตปกคลุมอย่างหวุดหวิด เขาไม่ได้เสียเวลา พลันหยิบยันต์ลับสีทองแผ่นหนึ่งออกมาบีบอย่างแรงให้แตกในคราเดียว

ปัง!

รุ้งเทพสีทองที่สว่างไสวสายหนึ่งทะยานอากาศขึ้นมา และหายไปในท้องฟ้าไกลโพ้น

ไม่นานพื้นที่กว้างใหญ่ในรัศมีหมื่นลี้ ผู้แข็งแกร่งที่เข้าสู่พื้นที่แห่งนี้ในแต่ละเส้นทาง แทบทุกคนต่างสังเกตเห็นรุ้งเทพสายนี้

“เป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือของเผ่างูมารทองคำ!”

มีคนตกใจ

“ไป ไปดูที่ป่าหลอมจิตสักหน่อย”

มีคนสังเกตเห็นว่ารุ้งเทพสีทองมาจากป่าหลอมจิตที่อยู่ไกลมาก

“เร็ว พวกเราไปดูพร้อมกัน โลกมารโลหิตแห่งนี้เป็นอาณาเขตดินแดนโบราณมารโลหิตของพวกเรา พวกเรากับผู้แข็งแกร่งอีกเจ็ดดินแดนมีสัญญาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะ ‘ตัดรกร้างโบราณก่อน ค่อยประชันสูงต่ำ’ แต่ตอนนี้กลับมีศัตรูร้ายกาจปรากฏตัว จากการคาดการณ์เช่นนี้ ศัตรูนั่นจะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งที่มาจากดินแดนรกร้างโบราณอย่างแน่นอน!”

ทันใดนั้นพื้นที่หมื่นลี้นอกป่าหลอมจิตพลันเกิดคลื่นลมขึ้น!

……………..