ตอนที่ 2662 ช่างยิ่งใหญ่

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

เด็กน้อยองค์หญิงมังกรนั้นกลับไป

แต่มันกลับเกิดเสียงร้องของเถี่ยซินขึ้นมาในเมืองสงบทักษิณ

“ไอ้เด็กเวรนั่นมันอยู่ที่ไหน?! รองเจ้าเมืองผู้นี้จะฉีกร่างมันเป็นชิ้นๆ! ฉีกมันให้ไม่เหลือซาก!”

รองเจ้าเมืองสวรรค์ใต้ผู้ยิ่งใหญ่นั้นกลับต้องมาคุกเข่าก้มหัวขอร้องความเมตตา

ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังถูกเย้ยหยามต่อหน้าผู้คน เรียกได้ว่ามันเป็นการเสียหน้าครั้งใหญ่หลวง

ความเกลียดแค้นของเขาต่อเย่หยวนนั้นมันสูงล้ำทะลุฟ้าดิน

“กองทัพกลับมาแล้วหรือ?” เถี่ยซินรีบถามลูกน้องขึ้นมาด้วยเสียงเกรี้ยวกราด

ลูกน้องของเขานั้นรีบก้าวขึ้นมากล่าวรายงานทันที “เรียนท่านรองเจ้าเมือง เวลานี้กองทัพยังอยู่ห่างจากเมืองสงบทักษิณไปราวร้อยกิโลเมตร พวกเขาคงกลับมาถึงในไม่ช้า”

เถี่ยซินนั้นต้องหัวเราะกัดฟันขึ้น “ดีมาก! พวกเจ้าออกไปรับกองทัพกับข้า! ข้าอยากจะรู้เหลือเกินว่าไอ้เด็กคนนี้มันจะเอาอะไรมาต่อต้านข้าอีกหากไม่มีสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนั้นแล้ว! หากวันนี้ข้าไม่ทุบร่างมันให้แหลกเป็นชิ้นๆ ข้าย่อมจะไม่มีทางระบายความคับแค้นในจิตใจนี้ได้!”

ลูกน้องของเขานั้นกล่าวตอบขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก “เรียนท่านรองเจ้าเมือง ก่อนหน้านี้ไม่นานเจ้าหอใหญ่และเจ้าหอรองได้มาถึงยังเมืองสงบทักษิณและเวลานี้พวกเขาทั้งสองได้ออกไปรับหน้ากองทัพก่อนเราแล้ว!”

เถี่ยซินนั้นผงะไปเล็กน้อยก่อนจะถามขึ้นมา “เจ้าหอใด?”

ลูกน้องคนนั้นตอบกลับไป “ข้าย่อมจะพูดถึงหอโอสถสวรรค์ใต้ เจ้าหอใหญ่ท่านอาจารย์จ้าวซุนและเจ้าหอรองท่านอาจารย์อู้จี้อัน!”

เถี่ยซินนั้นผงะไปแต่สุดท้ายก็ต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “พวกเขามาทำไมกัน?”

คนทั้งสองนั้นคือสุดยอดนักหลอมโอสถสวรรค์ที่เก่งกาจที่สุดแห่งแดนสวรรค์ใต้

หากพูดถึงสถานะแล้วพวกเขาย่อมจะไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้าเมืองสวรรค์ใต้เลยเสียด้วยซ้ำ!

เวลานี้ทัพเผ่าทะเลก็ถอยไปแล้วแต่คนทั้งสองจะยังมีธุระใดจึงได้ออกมา?

แน่นอนว่าตัวลูกน้องเองก็ได้แต่ต้องส่ายหัวขึ้น “ข้าน้อยเองก็ไม่ทราบได้!”

เถี่ยซินนั้นหัวเราะตอบกลับไป “ยังไม่ต้องไปสนหรอกว่าพวกเขามาทำไม! มีหรือที่พวกเขาจะมาเพื่อหยุดข้าจากการสังหารนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่คนหนึ่ง? ไปกัน!”

“เจ้าหอใหญ่แห่งหอโอสถสวรรค์ใต้ จ้าวซุนขอคารวะสหายเต๋าเย่!”

“เจ้าหอรองแห่งหอโอสถสวรรค์ใต้ อู้จี้อันขอคารวะสหายเต๋าเย่!”

ต่อหน้ากองทัพใหญ่โตนั้นเจ้าหอทั้งสองต่างก้มหัวลงกล่าวทักทายเย่หยวนขึ้น

ภาพนี้มันทำให้คนทั้งหลายแทบลืมหายใจ

เวลานี้ทหารทั้งหลายในกองทัพนั้นเป็นแค่กองกำลังที่มาช่วยจากเมืองสวรรค์ใต้แน่นอนว่าพวกเขาย่อมจะไม่รู้ถึงเรื่องราวก่อนหน้าที่เย่หยวนก่อไว้ในเมืองสงบทักษิณ

สิ่งที่พวกเขารู้นั้นคือเรื่องที่เย่หยวนร่วมมือกับองค์หญิงมังกรจัดการเถี่ยซินจนหมดสภาพไปก่อนหน้าเท่านั้น

แต่ว่าตัวตนของคนทั้งสองนี้มันเหนือล้ำกว่าเถี่ยซินไปลิบลับ

แม้ว่าเถี่ยซินนั้นจะเป็นรองเจ้าเมืองแต่ว่าคนที่ควบคุมเมืองสวรรค์ใต้ไว้จริงๆ มันก็เป็นตัวเจ้าเมือง

เถี่ยซินนั้นเป็นเพียงแค่ลูกน้องของเขาเท่านั้น

ที่สำคัญไปกว่านั้นคนที่ครองตำแหน่งรองเจ้าเมืองมันยังไม่ได้มีเพียงแค่เถี่ยซินคนเดียว

แต่ตัวตนของจ้าวซุนนั้นมันยิ่งใหญ่ไม่แพ้ตัวตนของเจ้าเมืองเลย

แม้ว่าอู้จี้อันจะมีตำแหน่งต่ำกว่าจ้าวซุนแต่เขานั้นเองก็ยังอยู่ในระดับเดียวกับเจ้าเมือง

เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกในแดนสวรรค์ใต้นี้มันย่อมจะต้องเคยได้รับการช่วยเหลือจากคนทั้งสองนี้มาก่อนไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง

แต่เวลานี้พวกเขาทั้งสองนั้นกลับก้มหัวลงคารวะเย่หยวน มันเหมือนเป็นการยอมรับเย่หยวนขึ้นมาเป็นคนระดับเดียวกัน

มีหรือที่ภาพเช่นนี้จะไม่ทำให้ทหารทั้งหลายตกตะลึง?

“ข้าเย่หยวนขอคารวะสหายเต๋าทั้งสองเช่นกัน” เย่หยวนเองก็โค้งหัวลงทักทายคนทั้งสองเช่นกัน

เย่หยวนนั้นไม่ได้ตกตะลึงกับการมาถึงของคนทั้งสองเลย

เจียงหลี่นั้นเป็นศิษย์ของอู้จี้อันเขาจึงรีบรายงานเรื่องของเย่หยวนกลับไปให้อาจารย์ได้รับรู้ทันที

การปรากฏขึ้นของโอสถสวรรค์ระดับแท้นั้นมีหรือที่ยอดคนทั้งสองนี้จะอยู่เฉยได้?

เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงได้รีบมุ่งหน้ามายังเมืองสงบทักษิณเพื่อทักทายทันที

จ้าวซุนนั้นยิ้มตอบกลับไป “จ้าวผู้นี้ได้ยินว่าในสงครามกับเผ่าทะเลในครั้งนี้มันเป็นฝีมือของสหายเต๋าเย่ที่จัดการกับราชวงศ์หนามใต้ช่วยเหลือชีวิตนับล้านๆ ของแดนสวรรค์ใต้เราไว้! แท้จริงแล้วท่านเจ้าเมืองเองก็ได้สั่งการมาอย่างหนักแน่นให้จ้าวผู้นี้มากล่าวขอบคุณต่อสหายเต๋าเย่”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ท่านเจ้าหอใหญ่และท่านเจ้าเมืองจะเกรงใจกันเกินไปแล้ว! เรื่องนี้มันไม่ได้ยากเย็นใดๆ มากมาย อย่าได้ถือเป็นคุณใดๆ เลย!”

จ้าวซุนนั้นตอบกลับมา “สหายเต๋าเย่นั้นสร้างความดีความชอบไว้ยิ่งใหญ่แต่กลับไม่คิดถือตัวเอาผลงาน ท่าทางนี้มันเป็นของปรมาจารย์อย่างแท้จริง! เดิมทีท่านเจ้าเมืองนั้นคิดจะออกมารับด้วยตัวเองแต่ว่าเขาเองก็มีแขกสำคัญที่กำลังรับหน้าอยู่ทำให้ไม่อาจจะผลัดตัวมาได้ เขาจึงได้แต่ต้องวานให้พวกเราทั้งสองออกมารับหน้าแทน”

อู้จี้อันยิ้มกล่าวขึ้นมาเสริม “ศิษย์ข้าเจียงหลี่นั้นบ่มเพาะมานานปีแต่ก็ยังติดอยู่ที่คอขวดไม่อาจจะบรรลุขึ้น มันเป็นเพราะโอสถสวรรค์ระดับแท้ของสหายเต๋าเย่แท้ๆ ที่ช่วยให้เขาก้าวข้ามผ่านความยากลำบากนั้นมาได้! ในฐานะอาจารย์ของเขาแล้วข้าย่อมจะต้องขอขอบคุณเจ้าแทนเขาด้วยอีกครั้ง”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ท่านเจ้าหอทั้งสองจะเกรงใจกันเกินไปแล้ว! แต่ที่นี่มันไม่เหมาะจะพูดคุยกันสักเท่าไหร่ เข้าไปในเมืองกันก่อนจะดีหรือไม่?”

จ้าวซุนพยักหน้ารับ “แน่นอน!”

กองทัพนั้นเดินหน้าต่อไปด้วยความตกตะลึงในหัวใจของทหารทุกผู้คน

เจ้าหอผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองนั้นกลับวางท่าเกรงใจต่อนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่คนหนึ่งอย่างมากเช่นนี้มันเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“เจ้าหนุ่มคนนี้เป็นใครมาจากที่ไหนกัน? หรือว่าเขาจะมาจากค่ายสำนักยิ่งใหญ่ในภาคกลาง?”

“ตัวตนของท่านเจ้าหอทั้งสองนี้ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุดเองก็ยังต้องก้มหัวให้พวกท่าน แต่เวลานี้พวกท่านทั้งสองกลับให้เกียรติเด็กหนุ่มคนหนึ่งอย่างมาก!”

“เจ้าหอทั้งสองท่านนั้นบอกว่าเจียงหลี่บรรลุขึ้นมาได้เพราะว่ากินโอสถสวรรค์ของเด็กหนุ่มผู้นี้ มีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่เช่นนี้เขาจะหลอมโอสถสวรรค์ใดที่มันช่วยให้คนบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกได้หรือ? จะบ้าเกินไปแล้ว!”

วินาทีนี้เย่หยวนย่อมจะกลายเป็นตัวตนที่สุดแสนลึกลับในสายตาของทุกผู้คน

“เย่หยวน เจ้าออกมาบัดเดี๋ยวนี้! ไม่มีพลังของสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกแล้วรองเจ้าเมืองผู้นี้ยังอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะเอาอะไรมาโอหังได้!”

ในเวลานั้นเองที่มันกลับเกิดเสียงร้องลั่นหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหน้าพลันปรากฏเงาร่างของยอดคนมากมายพุ่งเข้ามาถึงอย่างรวดเร็ว

เถี่ยซินเห็นเย่หยวนทันทีที่มาถึง

เพราะว่าเย่หยวนนั้นเดินนำทัพกลับมาเอง

ข้างๆ ตัวเย่หยวนนั้นมันมีจ้าวซุนและอู้จี้อันอยู่

ได้เห็นหน้าเย่หยวนตัวเถี่ยซินก็ไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้อีก

เขานั้นไม่คิดสนใจยอดคนทั้งสองนั้นและกระแทกฝ่ามือเข้าใส่เย่หยวนทันที

“เด็กนรก กลับบ้านเจ้าไปเสียเถอะ!” เถี่ยซินร้องลั่นขึ้น

จ้าวซุนและอู้จี้อันนั้นขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาพร้อมๆ กันก่อนจะยื่นมือออกมาแทบพร้อมกัน

ตูม!

วินาทีต่อมานั้นยอดฝีมือพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุดทั้งสามคนนั้นก็ปะทะกันเข้าอย่างรุนแรง

เถี่ยซินนั้นเก่งกาจแต่จ้าวซุนและอู้จี้อันนั้นเองเป็นมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุดเช่นกัน ย่อมจะไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเขามากมาย

และเมื่อคนทั้งสองโจมตีออกมาพร้อมๆ กันแล้วมันย่อมจะต้องเสริมพลังให้แก่กันไปอีกหลายเท่า

ภายใต้การโจมตีนี้ตัวเถี่ยซินต้องถูกซัดปลิวออกมา

“เถี่ยซิน เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ?” จ้าวซุนกล่าวขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

เถี่ยซินนั้นเองก็มึนงงกับเรื่องราวตรงหน้าเช่นกัน

เขานั้นแค่คิดจะสังหารนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่คนหนึ่งลง ทำไมมันถึงถูกขัดขวางไว้โดยยอดคนทั้งสองนี้กัน?

ในกองทัพนั้นมันมีแต่คนมองดูเถี่ยซินด้วยสายตาสงสาร

วันนี้ท่านรองเจ้าเมืองคงได้ขายหน้ารอบที่สองแล้ว

“ข้าผู้นี้ไม่อาจจะทนรับเจ้าเด็กนี้ได้แล้ว ทำไมเจ้าหอทั้งสองต้องหยุดข้าด้วย?” เถี่ยซินนั้นกล่าวขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

จ้าวซุนที่ได้ยินก็ต้องหัวเราะตอบกลับไป “หึๆ เถี่ยซิน เจ้าเผยธาตุแท้ออกมาแล้วสินะ! คิดสังหารคนต่อหน้าเจ้าหอผู้นี้ ในสายตาของเจ้านั้นหอโอสถสวรรค์ใต้เรามันคงไร้ค่าใดๆ แล้ว?”

เถี่ยซินนั้นหรี่ตาลงรีบกล่าวมา “ทำไมท่านเจ้าหอถึงกล่าวเช่นนั้นเล่า? ไอ้เด็กคนนี้มันมีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่แต่กลับกล้ามาทำให้ข้าอับอายขายหน้าผู้คน! หากข้าไม่สังหารมันลงวันนี้แล้วความคับแค้นของข้านี้คงไม่อาจจะดับลงได้! หากมันทำให้เจ้าหอทั้งสองไม่พอใจแล้วข้าก็ต้องขออภัยด้วย! แต่ข้าต้องสังหารมันลงให้จงได้!”

อู้จี้อันที่ได้ยินก็ตอบกลับมา “รองเจ้าเมืองเถี่ยซินนั้นมีอำนาจยิ่งใหญ่เหลือเกิน! สหายเต๋าเย่นั้นเป็นแขกทรงเกียรติของแดนสวรรค์ใต้เรา พวกเราทั้งสองนั้นกำลังคิดจะมาเชิญเขาไปพูดคุยที่หอโอสถสวรรค์ใต้แต่เจ้ากลับคิดมาสังหารแขกต่อหน้าพวกเราหรือ? หึๆ หลังจากกลับไปข้าคงต้องไปถามเมิ่งฮั่นเฟิงหน่อยเสียแล้วว่ามันสั่งสอนลูกน้องอย่างไร!”

เถี่ยซินนั้นหน้าซีดขาวลงทันที เวลานี้ขนทั้งร่างของเขามันลุกชัน

แขกทรงเกียรติของแดนสวรรค์ใต้!

เจ้าเด็กคนนี้มันกลายไปเป็นแขกอันทรงเกียรติของแดนสวรรค์ใต้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

ที่สำคัญเจ้าหอทั้งสองนั้นกลับเรียกเย่หยวนว่า…สหายเต๋า!

…………………….