ตอนที่ 1599 : การต่อสู้ของขอบเขตเทพ (1)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1599 : การต่อสู้ของขอบเขตเทพ (1)

เกิดระเบิดขึ้นเมื่อกระบี่จือหยิงและกระบี่ดำปะทะกันจนทำให้ทั้งโลกสั่นไหวอย่างรุนแรง ภูเขาโลกถึงกับโอนเอนไปมาพร้อมมิติที่แตกกระจายจนทำให้ดวงอาทิตย์สูญเสียสีสันของมันไป ท้องฟ้าเปลี่ยนจากสีแดงมาเป็นสีดำตอนที่ปราณกระบี่จากกระบี่ทั้งสองได้แผ่พลังออกมาราวกับดอกไม้ พวกมันทิ้งรอยแตกลึกไว้ในมิติโดยรอบ

พลังบางส่วนของปราณกระบี่ได้พุ่งเข้าใส่จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมที่ยอดเขาหลายคนและทำให้พวกนั้นแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา พวกนั้นหลบอย่างสิ้นหวัง พลังจากปราณกระบี่ฟันผ่านผู้พิทักษ์ตัดผิวและทำให้เลือดกระจายออกมา

ในพริบตาผู้พิทักษ์หลายคนก็ตัวชุ่มเลือด พวกเขาบาดเจ็บกันหลายที่ แม้ว่าอาการบาดเจ็บนี้จะเป็นแค่ส่วนผิวแต่ก็ทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดใจ

กระบี่จือหยิงหม่นลงหลังจากที่โจมตีและกลับมาหาเจ้าของ กระบี่ดำซึ่งเป็นของจิตวิญญาณราชันย์เองก็หม่นลงไปด้วย แต่มันไม่ได้กลับไป มันยังคงพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินพร้อมเส้นแสงสีดำและปราณกระบี่ที่เพิ่มขึ้น

ทั้งสองเข้าใจความแข็งแกร่งของกันและกันดีกว่าเดิม ชัดเจนแล้วว่าเจี้ยนเฉินอ่อนแอกว่าจิตวิญญาณราชันย์เล็กน้อย

เจี้ยนเฉินเครียด เขามองไปที่กระบี่ที่พุ่งเข้าหาตัวและสร้างผนึกด้วยมือก่อนจะเกิดแสงสีครามปรากฏขึ้นมา เกิดเสียงสั่นพ้องของกระบี่และกระบี่ฉิงโซวก็พุ่งออกมาจากหลังปะทะกับกระบี่ดำ

หลังจากที่รับการโจมตีจากกระบี่ฉิงโซว กระบี่ดำถึงได้กลับไป มันหมดพลังไปแล้ว แต่กระบี่ฉิงโซวเองก็หม่นสีลงไปด้วย

มันไม่ได้หมายความว่ากระบี่คู่นี้ไม่ใช่คู่มือของกระบี่ดำ จิตวิญญาณกระบี่ยังคงอ่อนแอ นี่รวมกับความจริงที่ว่าพลังของกระบี่ขึ้นอยู่กับระดับการบ่มเพาะของเจ้าของ กระบี่ทั้งสองต้องร่วมมือกันเพื่อหยุดอาวุธของจิตวิญญาณราชันย์

นี่เหมือนเป็นการปะทะระหว่างอาวุธของเจี้ยนเฉินกับจิตวิญญาณราชันย์ แต่อันที่จริงแล้วมันคือทั้งสองที่ปะทะกันเอง

ตอนที่กระบี่ดำบินกลับไป ร่างหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นมาที่ปลายขอบฟ้า เขาเหมือนกับหลอมรวมกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบและแค่ก้าวเดียวเขาก็เดินทางได้ในระยะทางที่ไกล เขาโผล่มาที่ขอบนอกของภูเขาโลกใน 3 ก้าวและจับกระบี่ดำที่บินมาหาเขาเอาไว้

” วิเศษ จิตวิญญาณราชันย์มาถึงแล้ว เรารอดแล้ว….”

ด้วยการมาถึงของจิตวิญญาณราชันย์ จอมยุทธคนอื่น ๆ ของต่างโลกต่างก็พากันโล่งใจ พวกเขาต่างก็ตื่นเต้น ไม่ใช่แค่พวกเขาหลีกหนีความตายได้หลังจากที่จิตวิญญาณราชันย์มาถึง แต่พวกเขายังพอเห็นความหวังที่จะชนะอีกด้วย

ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณราชันย์นั้นไม่จำเป็นต้องพูดถึง เขาดูไร้เทียมทานในใจพวกนี้มานาน จอมยุทธของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งทุกคนต่างก็เชื่อในตัวเขา แม้ว่าจะรู้ว่าเจี้ยนเฉินนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก แต่พวกเขาก็ไม่เชื่อว่าเจี้ยนเฉินจะเป็นคู่มือของจิตวิญญาณราชันย์ได้

โอวหยางหยิงเว่ยและเฉียงซ่งถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ทั้งสองคนรู้สึกเหมือนกับได้ไปเจอกับประตูมรณะเมื่อสู้กับเจี้ยนเฉิน แผ่นหลังของโอวหยางหยิงเว่ยชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขาเกือบจะตายไปแล้วเมื่อตะกี้

แต่ก่อนที่โอวหยางหยิงเว่ยจะได้ยินดี เขาก็รู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บจากขั้วหัวใจ เขารับรู้ถึงอันตรายที่กำลังพุ่งเข้าหาตัว

เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจจิตวิญญาณราชันย์ เขาล็อคเป้าไปที่โอวหยางหยิงเว่ย กระบี่คู่ทั้งสองได้พุ่งออกจากเจี้ยนเฉินแทบจะทันที นิ้วของเขามีแสงส่องประกายสีขาวพร้อมกับดวงตาของโอวหยางหยิงเว่ยที่เบิกกว้างแทบจะถลน เจี้ยนเฉินกวาดนิ้วตัดผ่านหัวของโอวหยางหยิงเว่ย ปราณกระบี่อันทรงพลังได้ลบวิญญาณของโอวหยางหยิงเว่ยไปในทันทีและจบชีวิตของโอวหยางหยิงเว่ย

ในเวลาเดียวกันกระบี่คู่ก็ป้องกันการโจมตีของจิตวิญญาณราชันย์ แต่จิตวิญญาณราชันย์ได้ส่งปราณกระบี่ออกมาด้วยตัวเอง ดังนั้นการโจมตีนี้จึงเหมือนเกินขอบเขตดั้งเดิมและเข้าถึงขอบเขตเทพ มันไม่อาจจะเอาการโจมตีก่อนหน้านี้มาเทียบได้

เกิดการระเบิดขึ้นพร้อมกับกระบี่คู่ที่กระเด็นออกมา แต่ปราณกระบี่ของจิตวิญญาณราชันย์ไม่ได้อ่อนแอลงเลยแม้แต่น้อย มันยังคงพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉิน ตัดผ่านมิติด้วยพลังอันแรงกล้า

เจี้ยนเฉินเริ่มเครียด เขาคำรามออกมาแล้วยกมือขวาขึ้นเหนือหัวและปราณกระบี่ที่ยาวหลายเมตรก็อัดแน่นขึ้นมาในมือ มันได้พุ่งเข้าหาจิตวิญญาณราชันย์ทันที

” ตัดนภา ! ”

นี่คือทักษะกระบี่อันแรกที่เจี้ยนเฉินได้เรียนรู้มาจากจิตวิญญาณกระบี่ทั้งสอง มันคือส่วนหนึ่งของพื้นฐานแต่เนื่องจากมันเกิดขึ้นมาจากโลกอมตะ มันจึงเหนือกว่าทักษะต่อสู้ระดับเซียน

ตอนที่ปราณกระบี่พุ่งออกไปก็ได้เกิดเขตแดนกระบี่ขึ้นมาจนทำให้มิติที่มันพุ่งไปโจมตีกลายเป็นของตัวมันเองแยกมิติอื่นออก พลังของการโจมตีในมิตินี้เพิ่มขึ้น เป้าหมายของมันโดนสยบไว้ในเขตแดนนี้

เพราะพลังของเจี้ยนเฉินที่เพิ่มขึ้นมาและความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้น ทักษะกระบี่ที่เขาใช้จึงทรงพลังกว่าเดิม

ในเวลาเดียวกันก็เกิดเสียงดนตรีดังขึ้น คลื่นเสียงได้กวาดออกมาตอนที่ซ่างกวนมู่เอ๋อเล่นพิณของนางเพื่อยับยั้งกระบี่ของจิตวิญญาณราชันย์

สิ่งเดียวคือการโจมตีของจิตวิญญาณราชันย์นั้นขึ้นถึงขอบเขตเทพไปแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ นางจะทำให้การโจมตีสั่นไหวด้วยความแข็งแกร่งในขั้นแลกเปลี่ยนช่วงกลาง ตอนที่คลื่นเสียงได้ปะทะกับปราณกระบี่ มันก็สลายไปราวกับว่าโดนส่งไปเจอกับความตาย

ยังไงซะเมื่อคนที่เข้าถึงขอบเขตเทพได้ ทั้งระดับการบ่มเพาะและพลังจะเพิ่มขึ้นก้าวข้ามขอบเขตดั้งเดิมได้ง่ายดาย มันเท่ากับการก้าวเข้าสู่ขอบเขตใหม่

ตูม !

ปราณกระบี่ทั้งสองปะทะกันก่อนจะเกิดการระเบิดขึ้นมา ภูเขาโลกสั่นไหวยิ่งกว่าเดิม ส่วนที่เหลือของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งต้องพบกับแผ่นดินไหว พื้นดินแตกออก ทะเลพลิกผัน ภูเขานับไม่ถ้วนในส่วนอื่น ๆ ของโลกถล่มลงไป การปะทะที่ภูเขาโลกนี้ส่งผลไปยังทั้งโลก

จอมยุทธของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งพากันหนีอย่างสิ้นหวัง พวกเขากระโดดลงจากยอดเขาและหลบตามรอยแตก คลื่นกระแทกจาการโจมตีของเจี้ยนเฉินและจิตวิญญาณราชันย์นั้นทรงพลังเกินไป หากพวกเขาประมาท พวกเขาก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัส