เซียวชูหรันช่วยเธอเลือกชุดเจ้าสาวแบบเกาะอกที่งดงามอย่างยิ่งตัวหนึ่งมา บอกว่า “ฉันว่าชุดนี้เหมาะกับเธอนะ ดูดีมีสง่า แถมยังโชว์ไหปลาร้าด้วย สง่างามมาก”
จางเสี่ยวม่านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “งั้นก็ฟังเธอแล้วกัน ฉันไม่รู้ว่าควรจะเลือกยังไงจริงๆ…”
ซ่งหวั่นถิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สายตาของคุณนายเย่ยังคงยอดเยี่ยมมากเลยนะคะ ชุดเจ้าสาวตัวนี้เป็นตัวที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดของที่นี่เลยค่ะ และฉันก็รู้สึกว่าชุดนี้เข้ากับรูปร่างและบุคลิกของคุณหนูจางมากเลยค่ะ”
ต่อมา ซ่งหวั่นถิงก็เรียกพนักงานร้านเวดดิ้งมืออาชีพสองคนมา สองคนนี้ปลดชุดลงมา แล้วนำทางจางเสี่ยวม่านไปยังลองชุดอย่างสุภาพนอบน้อม
ผ่านไปไม่กี่นาที
จางเสี่ยวม่านสวมชุดเจ้าสาวแบบเกาะอกสีขาวสง่างามตัวหนึ่ง เดินออกมาจากห้องลองชุด ท่าทางไม่เป็นธรรมชาติอยู่บ้าง
เซียวชูหรันตาเป็นประกายขึ้นมาทันที อุทานออกมา “เสี่ยวม่าน เธอสวมชุดเจ้าสาวตัวนี้แล้วสวยมากจริงๆ!”
จางเสี่ยวม่านเอ่ยอย่างค่อนข้างเขินอาย “ชุดเจ้าสาวตัวนี้ประณีตเหลือเกิน แล้วราคาแพงเกินไปด้วย ใจฉันเต้นรัวอยู่ตลอดเลย กลัวว่าฉันจะทำพังเข้า…”
ในเวลานี้ซ่งหวั่นถิงได้เอ่ยยิ้มๆ ว่า “คุณหนูจาง คุณไม่จำเป็นต้องแบกรับความกังวลมากขนาดนี้หรอกค่ะ ในเมื่อคุณเป็นเพื่อนของคุณนายเย่ แบบนั้นถึงแม้ชุดเจ้าสาวตัวนี้จะถูกคุณสวมจนพัง คุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเลยค่ะ ทางร้านของเราจะไม่ให้คุณต้องรับผิดชอบค่าเสียหายใดๆ เลย”
จางเสี่ยวม่านเอ่ยอย่างวิตกยิ่ง “แบบนี้น่าละอายมากไปแล้ว…”
ซ่งหวั่นถิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูจางคะ นี่ไม่ได้มีอะไรน่าละอายเลยค่ะ ชุดเจ้าสาวในร้านของเราล้วนทำประกันไว้แล้วทั้งนั้น ถ้าเกิดปัญหาขึ้น พวกเราก็จะไปเจรจากับทางบริษัทประกัน คุณสวมใส่อย่างสบายใจได้เลยนะคะ”
พอได้ยินว่ามีประกัน จางเสี่ยวม่านถึงได้วางใจเสียที
เย่เฉินเห็นว่าเหลือเวลาไม่มากแล้ว จึงกล่าวกับเซียวชูหรันและจางเสี่ยวม่าน “ในเมื่อชุดเจ้าสาวตัวนี้เหมาะสมแล้ว งั้นพวกเราก็สวมแล้วไปกันเลยเถอะ ไม่งั้นจะไม่ทันเวลาเอาจริงๆ”
เซียวชูหรันพยักหน้า ตอบไป “ได้ พวกเรารีบไปที่ฮิลตันเถอะ!”
กล่าวไปแล้ว เธอก็มองไปที่ซ่งหวั่นถิง เอ่ยด้วยสีหน้าซาบซึ้ง “คุณหนูซ่งคะ วันนี้ต้องขอบคุณคุณมากจริงๆ ค่ะ!”
ซ่งหวั่นถิงยิ้มนิดๆ “คุณนายเย่ คุณเกรงใจไปแล้วค่ะ นี่ล้วนเป็นเรื่องที่หวั่นถิงสมควรทำ”
พอจางเสี่ยวม่านได้ยินซ่งหวั่นถิงเอ่ยนามของตัวเองออกมา ตัวคนก็ตาค้างอ้าปากหวอไปทันที ปานถูกฟ้าผ่า!
ซ่งหวั่นถิง?
นี่คงไม่ใช่คุณหนูใหญ่ตระกูลซ่งที่เลื่องชื่อลือชาใช่ไหม?
สวรรค์ ตระกูลซ่งเป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของเมืองจินหลิงเชียวนะ!
คุณหนูใหญ่ตระกูลซ่งเกรงอกเกรงใจพวกเซียวชูหรันสามีภรรยาขนาดนี้เลยหรือ?!
เพื่อนสมัยมัธยมปลายคนนี้ของตน เผลอแวบเดียวก็กลายเป็นคนที่เก่งกาจขนาดนี้ขนาดนี้แล้วเหรอ?
ตอนนี้ เย่เฉินเองก็เปิดปากพูดแล้ว “คุณหนูซ่ง ลำบากคุณแล้ว พวกเราต้องไปก่อนแล้ว”
ดวงตาอันงดงามของซ่งหวั่นถิงทอประกายเจิดจ้าขึ้นมา เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ปรมาจารย์เย่ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันขนาดนี้หรอกค่ะ”
พอพูดไปแล้ว ในใจเธอก็นึกถึงตอนที่ตัวเองเป็นฝ่ายจูบเย่เฉินในครั้งก่อนขึ้นมา พวงแก้มจึงแดงเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย
เซียวชูหรันมองเห็นฉากนี้ หัวใจพลันบีบรัดขึ้นมา!
ทำไมซ่งหวั่นถิงถึงมีท่าทีเขินอายสามีของตนล่ะ?!
อาการเขินอายแบบนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เพื่อนทั่วไปสมควรจะมี!