บทที่ 2023 เสียใจภายหลัง + ตอนที่ 2024 อร่อยก็ทานเยอะๆ

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2023 เสียใจภายหลัง

 

เหมยซูหานเดาได้แต่แรกแล้วว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะต้องเป็นฝ่ายยอมเพราะเขาให้ความสำคัญกับเสี่ยวเป่ามาก หากโอหยางซานซานคนนี้เป็นอู่เยวี่ยปลอมตัวมาจริง ๆก็น่าแค้นใจยิ่งนัก

 

เมื่อก่อนเห็นว่าอู่เยวี่ยเป็นคนอ่อนโยนมีเมตตา เป็นคนช่างเอาใจใส่และรู้ความ กลับไม่คิดว่าที่แท้แล้วจะเป็นคนแบบนี้!

 

แต่ก็ต้องพิสูจน์อีกทีว่าคำพูดของเหมยเหมยเป็นจริงหรือไม่

 

“ก็ได้ อย่าโมโหไปเลย แค่บริษัทเดียวเอง ขอแค่เธอดีกับเสี่ยวเป่าจริง ๆ ต่อให้เป็นสิบบริษัทฉันก็ยอม”

 

เหมยซูหานพูดปลอบใจ

 

เฮ่อเหลียนเช่ออารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย พอมีเหมยซูหานที่รู้ความเอาใจใส่มาเป็นตัวเปรียบเทียบอย่างเห็นได้ชัด เขาก็ยิ่งรังเกียจอู่เยวี่ย น่ารังเกียจยิ่งกว่าหนูในท่อน้ำทิ้งเสียอีก

 

“เอาเป็นว่าเรื่องนี้นายไม่ต้องสนใจแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะนัดโอหยางซานซานออกมาทานข้าวแล้วเอาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับบริษัทให้เธอ นายว่าเป็นไง?” เหมยซูหานจงใจถาม

 

เฮ่อเหลียนเช่อไม่ได้คิดอะไรมากกลับคิดว่าเหมยซูหานช่างเอาใจใส่ดีเหลือเกิน

 

“ได้ พรุ่งนี้นายไม่ต้องเกรงใจกับหล่อนเลยนะ เอาบริษัทเล็ก ๆสักบริษัทให้หล่อนก็พอ”

 

“รู้แล้ว ฉันรู้ขอบเขตน่า นายทานข้าวเสร็จก็ไปพักผ่อนเถอะ ดูสิว่านายเหนื่อยขนาดไหนแล้ว” เหมยซูหานสงสารจับใจ ความอ่อนล้าฉายชัดบนใบหน้าของเฮ่อเหลียนเช่อ

 

เฮ่อเหลียนเช่อเหนื่อยมากจริง ๆเพราะหนิงเฉินเซวียนอยากรับเสี่ยวเป่าไปดูแลเอง แต่เพิ่งรับไปได้เพียงครึ่งวันเสี่ยวเป่าก็เริ่มร้องไห้ไม่หยุด สุดท้ายก็เกิดอาการชักทำเอาหนิงเฉินเซวียนกับเขาตกใจแทบแย่ จนจำต้องเรียกอู่เยวี่ยมาถึงจะปลอบประโลมเสี่ยวเป่าให้หยุดร้องไห้ได้

 

เมื่อก่อนเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าการเลี้ยงเด็กจะเหนื่อยขนาดนี้ เหนื่อยทั้งกายและใจ เขายอมอาสาไปรบยังจะดีเสียกว่า

 

วันรุ่งขึ้นเหมยซูหานโทรหาอู่เยวี่ยนัดเธอไปเจอกันที่ร้านอาหารภายใต้การดูแลของเขาร้านหนึ่ง นัดไว้เวลาสิบเอ็ดโมงซึ่งก่อนหน้านี้เหมยซูหานได้สั่งทางครัวของร้านอาหารไว้โดยเฉพาะว่าให้เตรียมอาหารรสเลิศไว้หนึ่งโต๊ะ

 

อู่เยวี่ยอุ้มเสี่ยวเป่ามาตามนัด เสี่ยวเป่าอายุสามเดือนกว่าแล้วเลยดูโตขึ้นเล็กน้อย แต่เหมยซูหานกลับรู้สึกว่าเสี่ยวเป่าผอมลงเรื่อย ๆและไม่ได้ผิวขาวเหมือนแต่ก่อน

 

“ทำไมเสี่ยวเป่าผอมลงอีกแล้วล่ะ? ถ้าน้ำนมของเธอไม่พอก็เปลี่ยนไปป้อนนมผงก็ได้นี่นา” เหมยซูหานมองเสี่ยวเป่าที่นอนอยู่ในรถเข็นเด็กเงียบ ๆอย่างร้อนใจ

 

เวลาที่เสี่ยวเป่าไม่ร้องไห้ทุกอย่างเงียบเชียบงดงามราวกับภาพวาด เพียงแค่นอนอยู่ในรถเข็นเด็กเงียบ ๆ ลืมตาโตกะพริบตาปริบ ๆแล้วทอดมองไปที่ไกลแสนไกล โดยที่ไม่รู้ว่าเด็กตัวน้อยกำลังมองอะไรอยู่

 

แต่เสี่ยวเป่าที่เป็นแบบนี้กลับทำให้เหมยซูหานปวดใจเหลือเกิน

 

เด็กไม่ควรเงียบขนาดนี้ แบบนี้มันผิดไม่ปกติ

 

ครั้นอู่เยวี่ยเห็นคนที่เป็นรักแรกในวัยแรกแย้มของตน ภายในใจก็รู้สึกเศร้าสลด เธอกับเหมยซูหานได้ใช้ช่วงเวลาแสนสุขร่วมกันมาสองปี แม้ไม่ได้มีคำมั่นสัญญาอะไรแต่เธอคิดว่าเหมยซูหานในตอนนั้นต้องชอบเธอแน่ ๆ เพียงแต่ไม่มีความกล้าที่จะสารภาพรักกับเธอเท่านั้นเอง

 

ที่สำคัญตอนนั้นเธอรังเกียจที่บ้านของเหมยซูหานยากจน แถมยังมีแม่ที่ป่วยออด ๆแอด ๆ เธอไม่อยากใช้ชีวิตลำบากกับเหมยซูหานจึงรักษาระยะห่างกับผู้ชายคนนี้อยู่เสมอ ภายหลังยังเลือกใกล้ชิดสนิทสนมกับเหยียนหมิงต๋าเป็นพิเศษอีกด้วย

 

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่ระหว่างเหมยซูหานกับเธอห่างเหินกันขึ้นเรื่อย ๆจนกลายเป็นความเฉยชา

 

อู่เยวี่ยนึกเสียดายว่าหากตอนนั้นเธอคว้าเหมยซูหานไว้ บางทีเธออาจจะไม่ต้องเจออุปสรรคมากมายขนาดนี้ เธอคงกลายเป็นคุณนายเจ้าของบริษัทที่มีความสุข มันจะดีขนาดไหนกันนะ

 

แต่ตอนนั้นใครจะไปรู้ว่าเหมยซูหานจะพลิกชะตาชีวิตจากหนุ่มน้อยยาจกคนหนึ่งมาเป็นเจ้าของบริษัทได้ล่ะ?

 

แล้วก็เหยียนหมิงซุ่นด้วยที่ทำให้เธอตกใจยิ่งกว่า

 

อู่เยวี่ยลอบด่าตัวเองที่มีตาหามีแววไม่ ต้นเงินต้นทองที่ถูกหมายตาไว้อย่างเหยียนหมิงต๋ากลับตกม้าตาย สองคนที่ไม่เข้าตากลับกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ

 

หากย้อนเวลากลับไปในอดีตได้คงดี!

 

……………………………..

 

ตอนที่ 2024 อร่อยก็ทานเยอะๆ

 

พอได้ยินถ้อยคำราวกับซักถามของเหมยซูหานอู่เยวี่ยก็เริ่มโกรธเล็กน้อย หลุดจากภวังค์ความทรงจำในอดีตที่แสนงดงาม สีหน้าเย็นชาตอบกลับด้วยเสียงเย็น “น้ำนมของฉันพอทาน บางทีเสี่ยวเป่าทานไม่หมดด้วยซ้ำ ไม่จำเป็นต้องเพิ่มนมผงที่ไร้สารอาหารแบบนั้นหรอก”

 

หากเปลี่ยนเป็นนมผงแล้วเธอจะควบคุมเสี่ยวเป่าได้อย่างไรอีก?

 

แล้วจะเอาผลประโยชน์จากตัวเฮ่อเหลียนเช่อได้อย่างไร?

 

แล้วจะไต่เต้าขึ้นที่สูงกลายเป็นราชินีที่ควบคุมโลกใบนี้ได้อย่างไร?

 

เหมยซูหานโกรธมากกับถ้อยคำของอู่เยวี่ยพลางชี้ไปที่ดวงหน้าเล็กที่ปลายคางเรียวแหลมอย่างเห็นได้ชัดของเสี่ยวเป่า เอ่ยด้วยเสียงที่พยายามระงับอารมณ์โกรธเต็มทีไว้ว่า “ตามปกติแล้วเด็กอายุสองสามเดือนจะร่างกายเติบโตเร็วที่สุด หนึ่งเดือนอ้วนขึ้นหนึ่งถึงสองกิโลเป็นเรื่องปกติมาก แต่เธอดูเสี่ยวเป่าเกิดมาหนักสามกิโลเจ็ดขีด นี่เกือบจะสามเดือนครึ่งแล้วกลับหนักแค่ห้ากิโลกว่า สามเดือนอ้วนขึ้นแค่หนึ่งกิโลครึ่ง เธอให้เขาทานอิ่มท้องแน่เหรอ?”

 

อู่เยวี่ยใจหล่นวูบ เธอเลี้ยงเด็กเป็นครั้งแรกโดยไม่เคยมีประสบการณ์ใด ๆมาก่อนแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเด็กคนหนึ่งควรหนักขึ้นกี่กิโลในหนึ่งเดือน ฟังจากเหมยซูหานที่พูดดูมีหลักการเหตุผล หรือว่าจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ?

 

“เสี่ยวเป่าของฉันแข็งแรงดี มีคุณหมอเกาคอยตรวจเช็กสุขภาพให้เขาทุกวันแล้วจะมีปัญหาได้อย่างไร คุณเหมยเข้ามายุ่งมากเกินไปหรือเปล่า?” อู่เยวี่ยโต้กลับด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก

 

เธอรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเหมยซูหานกับเฮ่อเหลียนเช่อ เพราะเขาทำให้หลังแต่งงานเฮ่อเหลียนเช่อไม่เคยมานอนห้องเดียวกันกับเธอเลยแม้แต่คืนเดียวเพราะมัวแต่อยู่กับเหมยซูหาน

 

เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งจะต้องมาแย่งผู้ชายคนเดียวกับเหมยซูหาน อีกทั้งเธอยังเป็นฝ่ายแพ้อีกด้วย!

 

เรื่องนี้ทำให้อู่เยวี่ยรู้สึกเสียศักดิ์ศรีมากและยิ่งเกลียดเหมยซูหาน พอตอนนี้เหมยซูหานใช้น้ำเสียงแบบนี้คุยกับเธอก็ยิ่งทำให้อู่เยวี่ยบันดาลโทสะในฉับพลัน

 

เสี่ยวเป่าเป็นลูกชายของเธอ เหมยซูหานมีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนเธอ?

 

เหมยซูหานใจหนักอึ้ง ความเศร้าโศกถาโถมเข้ามา

 

จริงด้วย เขาไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งเรื่องเสี่ยวเป่า แต่เขาสงสารนี่นา!

 

“ฉันกับอาเช่อมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ลูกชายของเขาก็เหมือนลูกชายของฉัน ฉันหวังว่าเสี่ยวเป่าจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ด้วยเหตุนี้ฉันถึงได้อ่านตำราคู่มือเลี้ยงดูเด็กทารกมามากมาย!”

 

เหมยซูหานพูดไปก็สังเกตสีหน้าของอู่เยวี่ยไปพลาง จากนั้นเขาก็เห็นสายตาลุกลี้ลุกลนของเธอพาดผ่านเข้ามาแวบหนึ่ง ทว่ากลับหนีไม่พ้นสายตาของเขา

 

มีปมจริง ๆด้วย!

 

เหมยซูหานลอบแค่นหัวเราะในใจ ต่อหน้าเฮ่อเหลียนเช่อเขาเป็นเยี่ยงบัวพันกลีบรู้ภาษาที่อ่อนโยนแสนเชื่อง แต่ต่อหน้าคนภายนอกเขากลับเป็นท่านประธานเหมยที่เย็นชาเจ้าเล่ห์ หากไม่เจ้าแผนการสักนิดจะก่อร่างสร้างตัวมีธุรกิจใหญ่โตขนาดนี้ได้อย่างไร?

 

อู่เยวี่ยยังคิดจะโต้ตอบกลับไปสักหน่อยแต่เหมยซูหานกลับปรบมือให้พนักงานมาเสิร์ฟอาหาร ไม่นานบนโต๊ะอาหารก็เต็มไปด้วยอาหารรสเลิศเต็มโต๊ะจนทำเอาอู่เยวี่ยตาลาย

 

“อาเช่อบอกเรื่องที่เธออยากดูแลบริษัทให้ฉันแล้ว เรื่องเล็กน้อย พอดีเลยช่วงนี้ฉันค่อนข้างยุ่ง เธอช่วยฉันแบ่งเบาภาระหน่อยก็ไม่เลว ทานข้าวก่อน ทานไปคุยไปแล้วกัน”

 

เหมยซูหานยิ้มเอ่ยแล้วหมุนโต๊ะเบา ๆ พลางเลื่อนเมนูวุ้นเส้นเป่าฮื้อไปตรงหน้าอู่เยวี่ย อู่เยวี่ยตาเป็นประกายวาววับ วุ้นเส้นเป่าฮื้อเป็นของโปรดของเธอเชียว

 

อู่เยวี่ยไม่รอช้าคีบเป่าฮื้อมาทานหนึ่งตัวอย่างเอร็ดอร่อย เหมยซูหานตาหม่นแสงลงและรู้สึกขมฝืดที่ลิ้น อาเช่อโกหกเขาจริง ๆด้วย!

 

โอหยางซานซานคนนี้คืออู่เยวี่ย

 

เขาจำได้แม่นยำว่าอู่เยวี่ยชอบทานวุ้นเส้นเป่าฮื้อ เป็นเมนูที่ต้องสั่งทุกครั้งเวลาไปทานข้าวร้านอาหาร ซึ่งต่อให้ทานเท่าไรก็ไม่มีวันเบื่อ อีกทั้งท่วงท่าและสีหน้าเวลาโอหยางซานซานคนนี้ทานวุ้นเส้นเป่าฮื้อเหมือนอู่เยวี่ยไม่มีผิด ความรู้สึกแบบนั้นมันหลอกกันไม่ได้

 

“ดูเหมือนเธอจะชอบอาหารทะเลมากเลยนะ ของหวานอันนี้เป็นของหวานเอกลักษณ์ของร้านอาหารแห่งนี้เลย รสชาติดีไม่หยอก เธอลองทานดูสิ”

 

เหมยซูหานเลื่อนของหวานสีเหลืองมาตรงหน้าอู่เยวี่ยที่ดูจะเป็นแป้งทอดโรยงา แค่ดมกลิ่นก็หอมมากแล้ว

 

อู่เยวี่ยทนกลิ่นหอมยั่วยวนไม่ไหวเลยคีบมาทานหนึ่งชิ้นก่อนปริปากชม “รสชาติไม่เลวเลย อร่อยมาก”

 

“อร่อยก็ทานเยอะ ๆ”

 

เหมยซูหานอมยิ้มแต่รอยยิ้มกลับดูมีเลศนัย

 

…………………..