บทที่ 2025 ในที่สุดก็เห็นธาตุแท้ + ตอนที่ 2026 แพ้อาหาร

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2025 ในที่สุดก็เห็นธาตุแท้

 

ของหวานทำมาจากแป้งข้าวเหนียว แป้งถั่วเหลือง แป้งข้าวโพดใส่น้ำตาลขาวคนให้เข้ากันแล้วทอดในน้ำมัน กรอบนอกนุ่มในถูกปากอู่เยวี่ยพอดิบพอดี เพราะเธอชอบทานของหวานชนิดของทอดแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก

 

เหมยซูหานเป็นเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันกับอู่เยวี่ยย่อมรู้นิสัยความเคยชินในการเลือกทานของเธอดี ของหวานชนิดนี้เขาจงใจให้ทางครัวทำขึ้นมาโดยเฉพาะและทำขึ้นด้วยความตั้งใจเพราะข้างในนี้มีเล่ห์กลบางอย่างแอบซ่อนไว้อยู่

 

ขนมแป้งขนาดไม่ใหญ่มากซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าไข่นกกระทาเพียงนิดเดียว อู่เยวี่ยทานไปสองชิ้นติดต่อกัน สายตาอาลัยอาวรณ์จับจ้องขนมในมือแล้วก็หยุดชะงักลง

 

“ทำไมไม่ทานต่อล่ะ? รสชาติไม่ดีเหรอ?” เหมยซูหานถามเสียงอ่อน เสียงแผ่วทุ้มต่ำที่ฟังดูคล้ายเสียงกระซิบกระซาบระหว่างคู่รักราวกับเกี่ยวเอาวิญญาณคนฟังให้ออกจากร่าง

 

อู่เยวี่ยใจสั่นไหวเชยตามองเหมยซูหานด้วยแววตาที่อ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย

 

ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิงมักมีความทรงจำเกี่ยวกับคนรักที่เป็นรักแรกลึกซึ้งกว่าเสมอ และมักจะใจอ่อนยวบกว่าเล็กน้อย

 

อู่เยวี่ยในขณะนี้กำลังตกอยู่ในห้วงอารมณ์นี้พอดี เธอหวนนึกถึงช่วงเวลาแสนสุขในวันวานของเธอกับเหมยซูหานก่อนจะคีบขนมแป้งอีกหนึ่งชิ้นขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

 

“ฉันกำลังลดความอ้วนอยู่ ทานของทอดอ้วนง่าย ต้องทานน้อยหน่อย ทานอีกหนึ่งชิ้นก็ไม่พอแล้ว”

 

อู่เยวี่ยชอบทานขนมแป้งทอดมากจริง ๆ แต่เธอไม่พอใจกับรูปร่างของตัวเองในตอนนี้อย่างมาก ฉะนั้นช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอทานแต่น้ำต้มผักกับสลัดผลไม้มาโดยตลอด กลับเข้าสู่ช่วงทานอาหารลดความอ้วนอย่างเคย วันนี้ทานขนมแป้งทอดสองชิ้นนับว่าไว้หน้าเหมยซูหานมากแล้ว

 

นี่ก็เห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ไม่อย่างนั้นอู่เยวี่ยไม่แม้แต่จะทานสักคำเดียว

 

เหมยซูหานขมวดคิ้วน้อย ๆ พลางเหลือบมองเสี่ยวเป่าที่นอนอยู่ในรถเข็นเด็กเงียบ ๆ ทั้งตัวเล็ก ทั้งตัวผอมแห้งและไร้ที่พักพิง

 

เขาพยายามระงับความโกรธแค้นในใจแสร้งเอ่ยว่า “เธอยังอยู่ในช่วงให้นมลูก และเป็นช่วงที่เสี่ยวเป่าต้องการสารอาหารมากที่สุด จะมาลดความอ้วนอะไรกัน?”

 

อู่เยวี่ยชะงักและเพิ่งรู้ตัวว่าสถานะของตนในเวลานี้ต่างไปจากอดีต จะว่าไปตอนนี้เธอยังไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าตัวเองกลายเป็นแม่คนแล้ว และไม่มีจิตใต้สำนึกความเป็นแม่เลยสักนิด

 

เธอยังเหมือนอดีตที่อยากจะทำอะไรก็ทำแบบนั้น สูบบุหรี่ดื่มเหล้าลดความอ้วนไม่เคยขาด คุณหมอเกาเคยเกลี้ยกล่อมเธออยู่หลายครั้งแต่อู่เยวี่ยทำเป็นหูทวนลมยังคงทำตามใจตัวเองอย่างเคย

 

“จะให้ฉันจดจ่อสมาธิอยู่กับเสี่ยวเป่าอย่างเดียวคงไม่ได้หรอกมั้ง ฉันมีชีวิตของฉัน คุณเหมยคงไม่มีวันเข้าใจความต้องการที่อยากจะมีรูปร่างอันสมบูรณ์แบบของผู้หญิงหรอก”

 

อู่เยวี่ยทานขนมแป้งทอดชิ้นที่สามหมดก็วางตะเกียบลงด้วยท่าทีแน่วแน่ ไม่ยอมทานอะไรนอกเหนือจากนี้อีก

 

เหมยซูหานรู้สึกเอือมระอา มองอู่เยวี่ยอย่างผิดหวัง ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ?

 

ทั้งที่อู่เยวี่ยในวัยเด็กอ่อนโยนขนาดนั้น ใจดีขนาดนั้น เห็นนกกระจอกตัวน้อยตกต้นไม้ยังน้ำตาไหลอาบแก้ม แต่ตอนนี้กลับใจร้ายกับลูกชายแท้ ๆของตัวเองถึงขนาดนี้!

 

“ไม่ต้องการให้เธอมอบความรักทั้งหมดให้เสี่ยวเป่าหรอก แต่ขอให้เธอมีจิตสำนึกของความเป็นแม่สักนิด เธอดูสิว่าเสี่ยวเป่าที่เธอเลี้ยงดูสภาพเป็นอย่างไรแล้ว ถ้าเธอเลี้ยงไม่ได้ก็ถอนตัวออกไปเถอะ แล้วส่งเสี่ยวเป่าให้คนที่ใช้หัวใจจริง ๆดูแลแทนจะดีกว่า!” เหมยซูหานพูดเสียงนิ่ง

 

เขาอยากเลี้ยงเสี่ยวเป่าเองแต่กลับไม่มีโอกาส อู่เยวี่ยมีโอกาสนี้กลับไม่รู้จักรักษา

 

น่าแค้นใจนัก!

 

อู่เยวี่ยหัวเราะอย่างได้ใจ “คุณคิดว่าฉันอยากลำบากเลี้ยงเด็กแบบนี้เหรอ? แต่ช่วยไม่ได้นี่นา พอเสี่ยวเป่าอยู่ห่างจากฉันก็เอาแต่ร้องไห้ ใครให้เขาติดฉันแจขนาดนี้ล่ะ!”

 

เหมยซูหานรู้สึกอัดอั้นเต็มที ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมตอนนั้นเหมยเหมยถึงแค้นอู่เยวี่ยถึงเพียงนี้!

 

ตอนแรกที่เหมยเหมยหาว่าเขาเป็นคนตาบอดหูหนวกและโง่เง่ามองธาตุแท้ของอู่เยวี่ยไม่ออก ตอนนั้นเขายังตำหนิเหมยเหมยว่าเธอจิตใจคับแคบ ใจร้ายใจดำกับพี่สาวตัวเองเกินไป

 

แต่ตอนนี้เขามองชัดเจนทุกอย่างแล้ว

 

……………………….

 

ตอนที่ 2026 แพ้อาหาร

 

ภายในเวลาสั้น ๆเพียงสามสี่ปี ต่อให้คน ๆหนึ่งจะได้รับเรื่องสะเทือนใจมากแค่ไหนก็ไม่มีทางเปลี่ยนนิสัยราวกับเป็นคนละคนมากขนาดนี้ นี่บ่งบอกได้เพียงว่าสิ่งที่เธอแสดงให้เห็นในอดีตล้วนเสแสร้งทั้งเพ!

 

เมื่อก่อนอู่เยวี่ยเคยแสดงมุมที่อ่อนโยน ใจกว้าง เอาใจใส่ เป็นเด็กดี ใจดี…มุมที่แสนดีทุกอย่างต่อหน้าเขาล้วนแต่เป็นเปลือกปลอม

 

ทุกอย่างเป็นแค่หน้ากากสวยงามของอู่เยวี่ย!

 

เหมยซูหานใจเย็นวาบและรู้สึกหนาวไปทั้งตัว เขารู้จักอู่เยวี่ยช่วงประมาณวัยสิบขวบ ตอนนั้นในใจของเขาอู่เยวี่ยคือเจ้าหญิงสโนว์ไวท์แสนใจดี เป็นเด็กสาวที่จิตใจดีที่ล่วงเกินไร้มารยาทด้วยไม่ได้

 

ตอนนี้ดูแล้วความดีงามทุกอย่างเป็นเพียงการเสแสร้งของอู่เยวี่ย

 

เพิ่งสิบขวบเท่านั้นเอง เด็กอายุสิบขวบก็ช่างวางแผนได้ขนาดนี้แล้ว เหมนซูหานยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิดหวัง เขาหวนนึกถึงความฝันที่เหมยเหมยถูกผลักลงจากตึก สองมือคู่นั้นของอู่เยวี่ยที่ได้รับการทะนุถนอมดูแลอย่างดี

 

สวยงามมาก สง่าสมฐานะมาก แต่กลับทำให้เขาหวาดกลัว

 

เหมยซูหานประเมินหญิงสาวตรงหน้าที่เขารู้จักมาหลายปีใหม่อีกครั้งด้วยสายตาเย็นยะเยือกราวกับกำลังจ้องคนแปลกหน้า

 

อู่เยวี่ยรู้สึกถึงความผิดปกติเลยยิ้มถาม “คุณเหมยมองฉันแบบนี้ มีอะไรแปลกไปงั้นเหรอคะ?”

 

ไม่นานเหมยซูหานก็จัดระบบความคิดได้ ก่อนหน้านี้เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าเลยยังทำใจไม่ค่อยลง แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั้นมลายหายไปแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่ควรได้รับความเห็นใจ เธอไม่ควรถูกเรียกว่าเป็นคนเสียด้วยซ้ำ

 

“เปล่า นี่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท เธอลองอ่านดูคร่าว ๆก่อนนะ ถ้ามีตรงไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามฉันได้เลย”

 

เหมยซูหานหยิบเอกสารปึกหนึ่งจากกระเป๋าออกมา นี่เป็นบริษัทเล็ก ๆบริษัทหนึ่งภายใต้ชื่อของเขา บริษัทนี้ก็ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดีจากเขาแล้วว่าเหมาะกับผู้หญิงที่มีความทะเยอทะยานอย่างอู่เยวี่ยมาก

 

อู่เยวี่ยตาลุกวาวแล้วรับเอกสารมาอย่างดีใจ เธอรู้อยู่แล้วว่าขอแค่เอาเสี่ยวเป่ามาเป็นไพ่ต่อรอง เฮ่อเหลียนเช่อจะต้องยอมแพ้

 

เสี่ยวเป่าก็คืออาวุธวิเศษสำหรับชัยชนะของเธอ ลูกชายคนนี้ไม่ได้คลอดมาสูญเปล่าและไม่เสียแรงที่เธออ้วนขึ้นห้ากิโลกว่าเลย

 

อู่เยวี่ยเผลอได้ใจชั่วขณะซึ่งความละโมบฉายชัดบนใบหน้าเธอ เหมยซูหานหัวเราะอย่างเย้ยหยัน

 

บริษัทของเขาไม่ได้ให้เอาไปง่าย ๆหรอกนะ!

 

“ไม่ต้องรีบมีเวลาถมเถไป ดื่มน้ำชาก่อนแล้วทานของว่างอีกนิด ของว่างน้อยแค่นี้ไม่ทำให้เธออ้วนขึ้นหรอก” เหมยซูหานให้พนักงานเสิร์ฟน้ำชาแล้วคีบขนมแป้งทอดอีกชิ้นใส่จานตรงหน้าอู่เยวี่ย

 

อู่เยวี่ยที่อารมณ์ดีขึ้นทันตาก็นึกอยากจะตามใจตัวเองอีกสักครั้งเลยไม่ปฏิเสธการปรนนิบัติอย่างขยันขันแข็งของเหมยซูหาน คีบขนมแป้งทอดมาทานไปอ่านเอกสารไปพลาง เมื่ออู่เยวี่ยทานขนมแป้งทอดไปเรื่อย ๆ ก็ทานไปเกือบครึ่งจานโดยไม่รู้ตัว

 

เหมยซูหานเหยียดยิ้มมุมปากกว้างกว่าเดิมและคาดคะเนว่าใกล้ได้เวลาแล้วจึงไม่เกลี้ยกล่อมให้อู่เยวี่ยทานขนมอีก ตัวเองนั่งดื่มชาเงียบ ๆ รอดูเรื่องสนุก ๆเปิดฉากขึ้น

 

“แอะ ๆ…”

 

เสี่ยวเป่าที่อยู่ในรถขยับตัวดิ้นกะทันหัน สีหน้าดูเจ็บปวดอย่างมากและชูกำปั้นน้อย ๆทั้งสองข้างโบกไปมาไม่หยุดพร้อมส่งเสียงครางในลำคอ

 

อู่เยวี่ยรีบถลาเขาไปหมายจะอุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นแล้วยังถามว่า “ที่นี่มีห้องส่วนตัวไหม? ฉันจะป้อนนมให้เสี่ยวเป่า”

 

“มี ฉันให้พนักงานพาเธอไป”

 

เหมยซูหานมองเสี่ยวเป่าที่เริ่มออกอาการชักด้วยหัวใจที่บีบรัดและสีหน้าร้อนรน แค่ต้องการดื่มนมเท่านั้นแต่เสี่ยวเป่ากลับบิดตัวไปมาราวกับเป็นลมชัก แล้วจะเป็นเด็กปกติได้อย่างไรกัน?

 

พนักงานเพิ่งเดินเข้ามาอู่เยวี่ยก็สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันเกือบทำเสี่ยวเป่าในอ้อมแขนหล่นตกพื้น เหมยซูหานตกใจรีบรับเสี่ยวเป่าไว้ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

 

“ถั่ว…ลิสง…คุณ…”

 

อู่เยวี่ยดูเหมือนใกล้จะขาดอากาศหายใจตายก็ไม่ปาน สีหน้าขึ้นสีช้ำม่วงแล้วร่างก็ล้มนอนลงบนพื้น

 

………………………….