บทที่ 2027 ต้องช่วยเสี่ยวเป่า + ตอนที่ 2028 เป็นแม่พระแล้วกัน

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2027 ต้องช่วยเสี่ยวเป่า

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดูท่าจะอยู่เหนือความคาดหมายของเหมยซูหาน เดิมทีเขาแค่อยากลองเชิงอู่เยวี่ยว่าคำพูดของเหมยเหมยเป็นความจริงหรือไม่ จึงให้ทางครัวเตรียมของหวานที่ผสมถั่วลิสงไว้โดยเฉพาะ

 

ปริมาณผงถั่วลิสงไม่มากนักอีกทั้งเพื่อให้กลบกลิ่นของถั่วลิสงยังเพิ่มแป้งถั่วเหลืองกับแป้งข้าวโพดเป็นพิเศษด้วย แล้วค่อยใช้น้ำมันทอดกลบกลิ่นหอมเดิมเอาไว้ ขอเพียงแค่กินโดยไม่ใส่ใจก็ยากจะรู้รสชาติถั่วลิสงที่ผสมอยู่ข้างในได้

 

เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่นเหมยซูหานยังให้ทางครัวเตรียมเมนูวุ้นเส้นเป่าฮื้อเป็นพิเศษ ความสดใหม่ของอาหารทะเลช่วยให้ประสาทรับกลิ่นทำงานช้าลง ฉะนั้นอู่เยวี่ยถึงได้ทานของหวานไปเกือบครึ่งจานแล้วยังไม่รู้รสชาติถั่วลิสงในของหวาน

 

แม้เหมยซูหานจะมีความรู้การแพทย์ติดตัวอยู่บ้างแต่เขาไม่เข้าใจผู้ป่วยที่แพ้ถั่วลิสงมากนักว่าต้องทานเท่าไรถึงจะเกิดอาการแพ้ เขาถึงเกลี้ยกล่อมให้อู่เยวี่ยทานของหวานเรื่อย ๆ

 

พอมองอู่เยวี่ยที่นอนไม่รู้สึกตัวอยู่บนพื้น เหมยซูหานถึงรู้ได้ว่าสงสัยคงทานมากไปแล้ว

 

จะถึงตายหรือเปล่านะ?

 

นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งที่สร้างความปวดใจแก่เหมยซูหานมากกว่าคือเสี่ยวเป่าที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา เพราะไม่ได้ดื่มนมจากอกของอู่เยวี่ยเสี่ยวเป่าถึงได้รู้สึกทรมานทำให้ร่างเล็กชักไม่หยุด ใบหน้าเล็กขึ้นสีช้ำม่วงที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องสงสารกันทั้งนั้น

 

เดิมทีเหมยซูหานยังรู้สึกผิดต่ออู่เยวี่ยอยู่บ้าง แต่พอเห็นสภาพย่ำแย่ของเสี่ยวเป่าเหมยซูหานก็นึกอยากจะให้อู่เยวี่ยตายต่อหน้าเขาบัดเดี๋ยวนี้เลย

 

คนที่ชั่วช้ายิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานไม่คู่ควรอยู่สิ้นเปลืองออกซิเจนบนโลกใบนี้ด้วยซ้ำ

 

“เสี่ยวเป่า…เด็กดี…ไม่กลัวนะ คุณอาอยู่นี่…”

 

เหมยซูหานพูดกล่อมเสี่ยวเป่าด้วยเสียงอ่อนโยนแต่กลับไม่ช่วยอะไร ใบหน้าของเสี่ยวเป่าบิดเบี้ยวและส่งเสียงไอจากลำคอ ร่างเล็กพยายามดิ้นรนราวกับปลาตัวน้อยที่อยู่ห่างจากน้ำใกล้ตาย นอนอยู่บนบกสูดอากาศอย่างสิ้นหวัง

 

“เรียกรถพยาบาล ยังจะมัวยืนนิ่งทำไมเล่า รีบไปเรียกรถพยาบาลให้ฉันสิ!”

 

เหมยซูหานตาแดงก่ำแล้วตะคอกใส่พนักงานร้านอาหารที่พุ่งเข้ามาหลังได้รับข่าว ใบหน้าอ่อนโยนมีสง่าบิดเบี้ยวขึงขัง พนักงานร้านอาหารไม่เคยเห็นเจ้านายใหญ่โกรธขนาดนี้มาก่อนเลยตกใจรีบไปโทรเรียกรถพยาบาลกันยกใหญ่

 

เหมยซูหานกอดเสี่ยวเป่าที่ยังชักด้วยความหวาดกลัวและเกิดความกระวนกระวายใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขากลัวว่าเสี่ยวเป่าจะทนไม่ไหวแล้วตายคาอ้อมอกเขาแบบนี้

 

“เจ้านาย เด็กคงไม่ได้เป็นลมชักหรอกใช่ไหม ดูอาการแย่เอาการเลย!” ผู้จัดการร้านอาหารเห็นสภาพของเสี่ยวเป่าก็รู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ ลมหายใจโรยริน อาการดูน่าเป็นห่วงอย่างมาก

 

เหมยซูหานมองเสี่ยวเป่าในอ้อมแขนที่ลมหายใจอ่อนลงเรื่อย ๆ และไม่ได้ชักรุนแรงเท่ากับก่อนหน้านี้ แต่กลับสร้างความหวาดกลัวแก่เขามากกว่าเดิมเลยกระชับกอดเสี่ยวเป่าแน่นอย่างอดไม่ได้ พลางตวาดเสียงใส่ผู้จัดการ

 

“เหลวไหล คุณต่างหากที่หนักเอาการ เสี่ยวเป่าจะอายุยืนร้อยปี จะสุขภาพแข็งแรง ไสหัวไป!”

 

เหมยซูหานรู้สึกขัดใจกับผู้จัดการที่เคยชื่นชมเหลือเกิน ปากพล่อยจริง ๆ โบนัสท้ายปีหักครึ่ง

 

แต่เขารู้ว่าความจริงผู้จัดการพูดไม่ผิด เสี่ยวเป่าไม่ไหวแล้วจริง ๆ ควรทำอย่างไรดี?

 

ใครช่วยเสี่ยวเป่าได้บ้าง?

 

อาเช่อหรือ?

 

ไม่ อาเช่อไม่ใช่คุณหมอ เรียกหาเขาก็ไร้ประโยชน์ ตอนนี้จะปล่อยเวลายืดเยื้อไม่ได้ ต้องตามหาคนที่ช่วยเสี่ยวเป่าได้ มีใครบ้าง?

 

เหมยซูหานพยายามสงบสติอารมณ์ให้ใจเย็นลงแล้วคัดเลือกจากท่ามกลางคนที่เขารู้จักทีละคน ๆ เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า เหมยซูหานไล่ความทรงจำถึงคนที่เขารู้จักทั้งหมดหนึ่งรอบแต่กลับไม่มีใครที่จะช่วยเสี่ยวเป่าได้เลย

 

เวลาแบบนี้สงสัยมีเพียงเจ้าแม่กวนอิมที่ช่วยชีวิตเสี่ยวเป่าได้แล้วสินะ?

 

เหมยซูหานมองเสี่ยวเป่าที่นอนหายใจโรยรินในอ้อมแขนอย่างขมขื่น เจ้าแม่กวนอิมเป็นเพียงบุคคลในตำนานที่เล่าขานกันมาในชีวิต แล้วจะปรากฏตัวได้อย่างไร?

 

หรือว่าเขาต้องมองเสี่ยวเป่าตายจากไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้จริงหรือ?

 

เหมยซูหานเจ็บปวดใจยากจะทนไหว สายตาแน่วแน่มั่นคง เขาจะพยายามช่วยเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต

 

ภูเขาหายน้ำเหือดแห้งคล้ายหมดหนทาง กลับเห็นแต่ต้นหลิวผลิดอกไม้บานสะพรั่งหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง[1] ขณะที่กำลังสิ้นหวังอยู่เหมยซูหานก็ฉุกนึกถึงใครบางคนขึ้นมากะทันหันก่อนจะยิ้มแก้มปริ

 

………………………..

 

ตอนที่ 2028 เป็นแม่พระแล้วกัน

 

เหมยซูหานนึกถึงเรื่องหนึ่งครั้งอดีตที่เฮ่อเหลียนเช่อเคยเล่าให้เขาฟัง เฮ่อเหลียนเช่อบอกว่าเหมยเหมยมียาวิเศษราวกับน้ำวิเศษของเจ้าแม่กวนอิม นอกจากจะช่วยยืดอายุแล้วยังช่วยให้ฟื้นจากความตายได้ด้วย

 

ตอนนั้นเขาไม่เชื่อเท่าไรพลางคิดว่าเฮ่อเหลียนเช่อกำลังพูดเรื่องเหลวไหล เกิดแก่เจ็บตายเป็นวัฎจักรชีวิตตามกฎธรรมชาติ แล้วจะมียาชนิดนี้ได้อย่างไร?

 

อีกอย่างเขารู้จักกับเหมยเหมยมาตั้งแต่เด็กจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเธอมียาวิเศษแบบนี้หรือไม่ เพียงแต่เฮ่อเหลียนเช่อกลับเชื่อมั่นว่าเหมยเหมยมี ทั้งยังส่งลูกน้องตามสืบ เพียงแต่เหยียนหมิงซุ่นคุมเข้มทำให้ลูกน้องของเฮ่อเหลียนเช่อสืบไม่ได้ความอะไรเลย เรื่องนี้จึงกลายเป็นเรื่องค้างคาใจของเฮ่อเหลียนเช่อมาโดยตลอด

 

บางทีเหมยเหมยอาจจะมียาวิเศษจริง ๆก็ได้!

 

แบบนี้เสี่ยวเป่าก็รอดแล้ว!

 

เหมยซูหานตัดสินใจเดิมพันไว้ที่ตัวเหมยเหมย เพราะเขาไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว

 

เหมยเหมยเพิ่งเลิกเรียนเตรียมจะไปทานข้าวที่โรงอาหารกับพวกเหริ่นเชี่ยนเชี่ยน เพจเจอร์ในกระเป๋าก็แผดเสียงดังติดต่อกัน เป็นข้อความจากเหมยซูหาน ‘เสี่ยวเป่ามีอันตราย รีบติดต่อกลับด่วน’

 

เธอตกใจแทบแย่ อยู่ดี ๆเสี่ยวเป่าจะมีอันตรายได้อย่างไร?

 

เหมยเหมยจึงไม่สนเรื่องทานข้าวอีกพลางให้พวกเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไปโรงอาหารก่อน ส่วนเธอวิ่งไปใช้ตู้โทรศัพท์สาธารณะที่ใกล้ที่สุดเพื่อติดต่อเหมยซูหาน เสียงรอสายเพิ่งดังได้กริ๊กเดียวเหมยซูหานก็กดรับทันที เห็นได้ว่าเขาร้อนใจมากจริง ๆ

 

ไม่รอเหมยเหมยถามเหมยซูหานก็เอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน “เหมยเหมย ตอนนี้เสี่ยวเป่าตกอยู่ในอันตรายมาก เธอช่วยเขาหน่อยได้ไหม? ฉันขอร้องล่ะ…”

 

“นายน่าจะพาเสี่ยวเป่าไปโรงพยาบาลนะ ฉันไม่ใช่คุณหมอสักหน่อย” เหมยเหมยเองก็เป็นห่วงมาก แต่เธอยอมรับไม่ได้ว่าตัวเองมียาวิเศษ เฮ่อเหลียนเช่อสงสัยว่าเธอมียาวิเศษมาตั้งแต่แรกแล้วใครจะรู้ได้เล่าว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แผนของเขากับเหมยซูหาน

 

“คุณหมอช่วยเสี่ยวเป่าไม่ได้ เหมยเหมยถ้าเธอยังไม่มาอีกเสี่ยวเป่าอาจจะตายจริง ๆก็ได้นะ ฉันขอร้องล่ะ อย่าให้เสี่ยวเป่าตายเลยนะ…”

 

เสียงของเหมยซูหานติดสะอื้นดังลอยผ่านปลายสายมาอย่างชัดเจน เหมยเหมยเลิกคิ้วอย่างฉงน ตามนิสัยของเหมยซูหานที่แม้จะอ่อนโอนเด็ดเดี่ยวแต่ความจริงท่ามกลางความอ่อนโยนกลับเข้มแข็ง เป็นคนที่เข้มแข็งอย่างแท้จริง ต่อให้เจออุปสรรคมากแค่ไหนก็มีแต่จะประจันหน้ากับมันแต่ไม่ใช่ร้องไห้

 

ในความทรงจำเหมยเหมยเคยเห็นเหมยซูหานร้องไห้เพียงครั้งเดียว

 

ชาติที่แล้วคือตอนที่คุณแม่เหมยเสียชีวิต เหมยซูหานร้องไห้อย่างเศร้าเสียใจและไม่ทานอะไรไปสามวัน

 

เพียงครั้งนั้นครั้งเดียว เวลาอื่นไม่ว่าจะตอนไหนเหมยซูหานก็จะมีแต่รอยยิ้ม ไม่สะทกสะท้านกับเรื่องอะไร ใจเย็นสงบนิ่ง

 

แต่ครั้งนี้เขากลับร้องไห้

 

“นายอยู่ไหน ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” เหมยเหมยไม่ปฏิเสธอีกต่อไป

 

เธอใจร้ายกับเสี่ยวเป่าไม่ลงจริง ๆ หากเด็กคนนี้อยู่ในท้องของอู่เยวี่ยตลอดไปเธอคงไม่รู้สึกอะไร ต่อให้ตายไปก็ไม่สะเทือนใจ แต่ตอนนี้เขาคลอดออกมาเป็นคนจริง ๆ เป็นเด็กน้อยที่น่ารักราวกับเทวดาตัวน้อย

 

ต่อให้จะรังเกียจอู่เยวี่ยกับเฮ่อเหลียนเช่อมากเพียงใดก็ไม่อาจห้ามให้เธอหยุดชอบเสี่ยวเป่าได้ ตอนนี้เสี่ยวเป่าตกอยู่ในอันตรายเธอย่อมนิ่งดูดายไม่ได้

 

ถือเสียว่าเธอเป็นแม่พระแล้วกัน!

 

เหมยซูหานบอกว่าได้ส่งคนไปรับเหมยเหมยแล้วก่อนที่จะโทรมาหาเพื่อเป็นการประหยัดเวลา

 

เขารู้อยู่แล้วว่าเหมยเหมยเป็นผู้หญิงใจดี เธอไม่ปล่อยให้เสี่ยวเป่าเป็นอะไรไปอย่างแน่นอน เขาเดิมพันถูกคนแล้ว!

 

เหมยเหมยโทรหาลุงเหลาอีกครั้งให้เขาแจ้งเหยียนหมิงซุ่นให้ทราบเรื่องนี้ พอคนของเหมยซูหานมาถึงเธอก็ก้าวขึ้นรถทันที

 

เธอยังเชื่อในตัวเหมยซูหานในเมื่อชาตินี้เหมยซูหานไม่เคยทำเรื่องเลวร้ายอะไรกับเธอ แถมยังช่วยเธอไว้ไม่น้อย ครั้งนี้เธอเลือกที่จะเชื่อเหมยซูหาน

 

ดีที่ร้านอาหารของเหมยซูหานอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเท่าไร ใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึง ในอ้อมแขนของเหมยซูหานมีเสี่ยวเป่าที่นอนไม่ได้สติพร้อมกับเขาที่ทำหน้าสิ้นหวัง พอเห็นเหมยเหมยก็มีความหวังใหม่จุดประกายขึ้นมาบนใบหน้า

 

……………………….

 

 

[1] เป็นสำนวนแปลว่ายามที่เจอเรื่องลำบาก ฉับพลันก็เห็นแสงสว่างนำทางช่วยแก้ปัญหา