ตอนที่ 2687 พาข้ากลับ

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“เจ้าเชื่อหรือยังเล่า?”

“ข้าเชื่อแล้ว!”

“เช่นนั้นก็กินมันเสีย ต่อให้ข้ากินไปมันก็ไม่ได้ประโยชน์มากมาย”

“ได้!”

จิงเฟยนั้นพยักหน้ารับรัวๆ ก่อนที่จะกลืนผลวิญญาณชาดลงไปในคำเดียว

ของอย่างผลวิญญาณชาดนั้นมันจะเป็นสุดยอดสมบัติหรือสุดยอดขยะนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ด้วย

เย่หยวนนั้นมีพลังสายเลือดที่แข็งแกร่งล้ำอยู่ในระดับของมังกรฟ้ามาแต่แรกแล้ว เขาย่อมจะไม่ต้องพึ่งของอย่างผลวิญญาณชาดนี้

หรือต่อให้เขากลืนมันลงไปมันก็คงแทบไม่ช่วยให้สายเลือดของเขาพัฒนาไปมากกว่านี้

แต่สำหรับตัวเด็กน้อยจิงเฟยนั้นหรือพวกหยูชิงทั้งหลายแล้ว มันย่อมจะแตกต่างกันไปคนละเรื่อง!

สิ่งที่พัฒนาสายเลือดมังกรได้อย่างไร้เงื่อนไขนั้นสำหรับเหล่ากึ่งมังกรทั้งหลายแล้วมันย่อมจะเป็นสมบัติล้ำค่า!

ได้เห็นเช่นนั้นคนทั้งหลายต่างก็ต้องกัดฟันแน่นขึ้นมาอย่างริษยา

เมื่อกลืนผลวิญญาณชาดลงท้องไปพลังสายเลือดของจิงเฟยก็ปะทุขึ้นมาในทันที

เดิมทีแล้วนางนั้นมีชีพมังกรห้าข้อสุด

เวลานี้มันคงพัฒนาไปถึงหกข้อสุดแล้ว!

แม้ว่าที่แห่งนี้มันจะไม่มีศิลาชีพมังกรอยู่แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงของสายเลือดนั้นมันก็ปรากฏให้เห็นชัดแก่สายตาของทุกผู้คน!

หยูชิงและพวกนั้นอิจฉาจนหน้าดำหน้าแดง

หากถ้าเขานั้นได้เป็นคนกินผลวิญญาณชาดลงไปนั้นเขาย่อมจะก้าวขึ้นมาเทียบเคียงจิงเฟยได้แล้ว

แต่โลกใบนี้มันไม่มีคำว่าถ้า

เวลานี้นอกจากเขาจะไม่อาจเทียบเคียงจิงเฟยได้แล้ว นางยิ่งทิ้งห่างเขาออกไปอีกขั้น

“เลิกดูได้แล้ว ไปเล่นกันของพวกเจ้าเองเถอะ ตามพวกเราไปพวกเจ้าจะไม่ได้สมบัติใดๆ ทั้งสิ้นแน่นอน” เย่หยวนยิ้มขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน

หยูชิงนั้นได้แต่กันฟันแน่นด้วยใบหน้าดำมืดราวกับว่าเขานั้นถูกบังคับให้ต้องกลืนแมลงลงคอ

เขานั้นไม่อาจจะเถียงกลับไปได้

“จำเอาไว้เถอะ! ศึกนี้ใครจะชนะมันยังไม่แน่หรอก! อย่าเพิ่งรีบนับศพทหารนัก!” หยูชิงนั้นกัดฟันแน่นตวาดตอบไป

“หึๆ ข้าไม่ต้องมาแข่งขันกับพวกกึ่งมังกรหรอก! เจ้าคิดมากไปแล้ว” เย่หยวนตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มกว้าง

หยูชิงนั้นกัดฟันแน่นสั่งขึ้น “ไปกัน!”

แดนมังกรหลับนั้นมันยิ่งใหญ่กว้างไกลแน่นอนว่าย่อมจะมีทางให้เลือกมากมายนับไม่ถ้วน

สิ่งใดที่จะได้กลับออกไปนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับโชคและกำลังของคนผู้นั้น

คำพูดของเย่หยวนนั้นมันถูกต้อง หากพวกเขาติดตามเย่หยวนต่อไปมันก็คงไม่เหลืออะไรตกมาถึงมือแน่นอน

เพราะเย่หยวนนั้นเหมือนดั่งเป็นผู้ไร้เทียมทานในที่แห่งนี้!

“พี่หยูชิง เราจะปล่อยเรื่องไปเช่นนี้จริงๆ หรือ? ข้ายอมรับมันไม่ได้หรอกนะ!” มู่เฉินนั้นกล่าวขึ้น

แต่หยูชิงนั้นกลับหัวเราะขึ้นมา “เจ้าคิดว่าไอ้เด็กคนนั้นมันไร้เทียมทานหรือ?”

มู่เฉินที่ได้ยินจึงต้องถามกลับมา “แล้วมันมิใช่หรือ?”

หยูชิงนั้นยิ้มตอบกลับไป “แน่นอนว่ามิใช่! เหมือนดั่งที่เขาว่ากันว่าบางครั้งความหายนะมันจะแฝงตัวมาในรูปแบบของโชคลาภ! การถูกแดนมังกรหลับนี้ยอมรับมันย่อมจะหมายความว่าแดนมังกรหลับต้องการอะไรตอบแทน! ไม่สิ เป็นไปได้สูงมากกว่ามันจะต้องแลกมาชีวิตด้วยซ้ำ! ในแดนมังกรหลับนี้ยิ่งเดินทางเข้าไปได้สะดวกเท่าไหร่มันก็ยิ่งเดินทางกลับออกมาได้ลำบากเท่านั้น! หึ ไอ้เด็กคนนี้คิดว่าตัวเองเก่งกาจแต่ไม่ได้รู้เลยว่าแท้จริงแล้วแดนมังกรหลับได้หมายตามันไว้แล้ว!”

เมื่อมู่เฉินและพวกได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ร้องอ่อขึ้นมาตามๆ กัน

“สุดยอด! ได้ยินเช่นนั้นแล้วข้าก็คิดว่ามันไม่ผิดแน่เช่นกัน! ยิ่งเดินทางสะดวกเท่าไหร่มันก็ยิ่งกลับออกมายากเท่านั้น! บางทีแล้วชีวิตของมันนั้นแดนมังกรหลับอาจจะรักษาไว้ให้ถึงด้านในเท่านั้น! ถึงเวลานั้นต่อให้มันอยากจะหนีมันก็คงไม่อาจทำได้อีก!” มู่เฉินนั้นตบเข่าฉาดร้องลั่นขึ้นมา

หยูชิงนั้นพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “ใช่ เพราะเช่นนั้นแหละ! เวลานี้เรามานั่งรอหัวเราะเยาะมันก็พอแล้ว!”

เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็พยักหน้ารับออกมา

หยูชิงที่ถูกยกย่องเป็นยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งเจ็ดทะเลนั้นย่อมจะมิใช่คนโง่เง่านัก

ปัญหาที่กวนใจเย่หยวนอยู่ เขาเองก็ย่อมจะคิดถึงมันได้ไม่ยาก!

“เอาล่ะ ในเมื่อเข้ามาได้แล้วเราก็จะพลาดโอกาสไม่ได้เช่นกัน! เวลานี้ตัวใครตัวมันเถอะ! ใครที่จะได้หัวเราะเป็นคนสุดท้ายนั้นมันยังไม่แน่หรอก!” หยูชิงนั้นกล่าวขึ้นมา

เขานั้นพายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกเข้ามาด้วยถึงสามคนแน่นอนว่าต่อให้เจอภัยอันตรายเช่นไรเขาก็พอจะหาทางหนีได้ เพราะฉะนั้นเขาจึงมีความมั่นใจมากกว่าคนอื่นๆ

ระหว่างทางเข้าไปในแดนมังกรหลับนั้นเย่หยวนได้พาจิงเฟยเดินเล่นหยิบจับเอาสมบัติล้ำค่ามากมายตามใจชอบ

แน่นอนว่าคุณค่าของสมบัติทั้งหลายนั้นมันย่อมจะไม่ช่วยอะไรเย่หยวนมากมาย

ไม่นานพลังชีพมังกรของจิงเฟยนั้นมันก็พัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนถึงเจ็ดข้อสุดในที่สุด!

แต่ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไหร่พลังลึกลับนั้นมันก็ยิ่งเรียกหาเขารุนแรงมากขึ้น

เย่หยวนนั้นรู้ได้เลยว่าตัวเขาคงอยู่ห่างจากต้นตอของพลังนั้นไม่มากแล้ว!

“ฮี่ๆ พี่เย่หยวน พี่เก่งจริงๆ เลย! เหล่าตัวประหลาดในที่นี้มันต่างทำหน้าเหมือนได้เห็นผีเวลาเห็นหน้าพี่!” จิงเฟยยิ้มหัวเราะขึ้น

เย่หยวนที่ได้ยินนั้นได้แต่ต้องกัดฟัน ไม่อาจจะเข้าใจได้ว่าเด็กน้อยคนนี้จงใจพูดหรือแค่พูดไม่คิด

แต่ในตอนนั้นเองที่มันได้เกิดเรื่องประหลาดขึ้นมา!

จุดแสงสีเขียวอ่อนมากมายมันได้ปรากฏขึ้นมาล้อมตัวของพวกเขาทั้งสองไว้

เย่หยวนหน้าซีดร้องออกมาทันที “ถอย!”

แต่เขาพลาด!

แสงสีเขียวอ่อนนั้นมันค่อยๆ ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ จนกลืนคนทั้งสองเข้าไปในที่สุด

เมื่อเย่หยวนได้สติขึ้นมาอีกครั้งเขานั้นก็ไม่เห็นเงาร่างของจิงเฟยอีกต่อไป

หรือจะให้พูดให้ถูก มันดูเหมือนว่าเขานั้นต่างหากที่จะถูกดึงมายังที่ไม่คุ้นตา

ในที่แห่งนี้มันมืดดำจนเขามองไม่เห็นแม้แต่นิ้วมือตัวเองแต่พลังสายเลือดในร่างของเขานั้นมันกลับเดือดพล่านขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ

“มาถึงจนได้!”

ในความมืดมิดนั้นมันมีเสียงหนึ่งที่แฝงไปด้วยความตื่นเต้นดีใจดังขึ้นมา

เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องขมวดคิ้วแน่น “เจ้าหรือคือคนที่เรียกข้าเข้ามา?”

“ใช่แล้ว!”

“เจ้าเป็นใครกันแน่? เรียกข้าเข้ามานี้เจ้าต้องการอะไร?” เย่หยวนถามขึ้นมาด้วยความกังวล

“เจ้าไม่ต้องกลัวหรอก! ที่ข้าเรียกเจ้าเข้ามานี้ก็แค่อยากจะให้เจ้าพาข้ากลับบ้านเท่านั้น!” เสียงนั้นตอบ

“พากลับบ้าน? บ้านเจ้าอยู่ที่ไหนเล่า?” เย่หยวนถามขึ้นมา

“บ้านข้านั้นอยู่ที่สวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่าง! ข้าอยู่ที่นี่มันเหงาจนเกินทน! ข้าคิดถึงบ้าน!” เสียงนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ทุกข์ทน

เย่หยวนนั้นสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเขานั้นคิดถึงบ้านเกิดจริงๆ

“ทำไมเลือกข้า?” เย่หยวนถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

เขานั้นมั่นใจได้แล้วว่าเจ้าของเสียงนี้ไม่ได้มีประสงค์ร้ายต่อตัวเขาจึงทำให้เขาโล่งใจไปได้เปราะหนึ่ง

แน่นอนว่าหากเขาปฏิเสธอีกฝ่ายแล้วมันจะเป็นอย่างไรต่อก็คงไม่อาจทราบ

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ชัดเจนมากถึงความคิดถึงบ้านของคนผู้นี้

เขานั้นเลือกเย่หยวนแต่หากเย่หยวนไม่คิดจะช่วยเหลือเขาแล้ว เย่หยวนก็คงไม่อาจจะรอดกลับออกไปได้ง่ายๆ

บางทีคนที่เข้ามาทั้งหมดในครั้งนี้อาจจะตายลงสิ้นก็ได้!

เสียงนั้นตอบกลับมา “เพราะว่าเจ้านั้นคือทายาทมังกรฟ้า! ข้านั้นรอมาหลายหมื่นปีแต่ก็ไม่เคยได้พบเจอใครที่มีสายเลือดมังกรฟ้ามาก่อน! หากมิใช่มังกรฟ้าแล้วมันก็ย่อมจะไม่มีทางใดที่จะผ่านม่านสวรรค์กลับสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างไปได้! เด็กน้อยคนนั้นเองก็ไม่เลวแต่เจ้านั้นย่อมจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสิ้นเชิง!”

“ม่านสวรรค์?” เย่หยวนถามขึ้นมาอย่างมึนงง

เพราะตัวเย่หยวนเองก็รู้เพียงแค่ว่าโลกใบนี้มันมีนามว่าสามสิบสามสวรรค์แต่เขานั้นไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับสามสิบสามสวรรค์เลย

เขานั้นขึ้นมาถึงโลกนี้นานหลายปีมากแล้ว

แต่สิ่งที่เขาได้รู้จัก มันก็ยังจำกัดแค่ภายในทวีปพิรุณใสนี้

และทวีปพิรุณใสนี้เองก็เป็นแค่ดินแดนชายขอบของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดเสียด้วย

ภายนอกทวีปนี้มันยังมีโลกกว้างใหญ่มากล้นอยู่!

เหมือนอย่างตัวโฉปู้ฉุนนั้นที่เขาหายไปก็คงเพราะว่าเขาไม่มีอะไรต้องทำในทวีปพิรุณใสอีกต่อไป

ที่แห่งนี้มันไม่มีค่าพอจะให้เขาตั้งรกรากอยู่จึงได้ตัดสินใจเดินทางออกไป

เพราะฉะนั้นมันจึงมีความเป็นไปได้สูงว่าเขานั้นเดินทางออกไปท่องโลกกว้าง

เพียงแค่ว่าพูดมันง่ายแต่การจะออกไปจากทวีปพิรุณใสจริงๆ นั้นมันไม่ง่ายเลย

แต่เวลานี้ตัวตนลึกลับผู้นี้กลับกำลังบอกให้เขาข้ามม่านสวรรค์ไป!

นี่มันเหนือล้ำยิ่งกว่าการออกจากทวีปพิรุณใสไปหลายเท่าตัว

มันเป็นการท้าทายที่ใหญ่ยิ่งนัก!

………………