ตอนที่ 2688 กำเนิดเทพ

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“สามสิบสามสวรรค์นั้นมันคือผู้ปกครองของทุกโลกหล้าเบื้องล่าง ที่แห่งนี้มันคือสวรรค์อย่างแท้จริง! สวรรค์แต่ละแห่งนั้นอยู่แยกขาดจากกันทำหน้าที่ของตนเองในการดูแลโลกเบื้องล่างกำหนดชะตามากมายของผู้คน สวรรค์แต่ละแห่งนั้นมันจะมีเขตแดนที่แน่นอนตัดแยกขาดจากกัน พื้นที่รอยต่อนั้นมันจะเป็นดินแดนแห่งความยุ่งเหยิงโกลาหลตัดขาดสวรรค์ทั้งหลายออกจากกัน! มังกรฟ้านั้นคือตัวตนที่เกิดขึ้นมาจากความโกลาหลจึงสามารถเดินทางก้าวผ่านสวรรค์แต่ละแห่งได้ทำให้พวกเราสามารถไปยังทุกที่ทุกแห่งได้สิ้น! เมื่อพลังบ่มเพาะของเจ้าถึงจุดนั้นแล้วเจ้าก็ย่อมจะสามารถบรรลุผ่านม่านสวรรค์ไปได้ แต่ตอนนี้เจ้ายังอ่อนแอเกินไปมาก!”

เสียงลึกลับนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยความอ่อนโยนและหนักแน่น ค่อยๆ เล่าเรื่องราวความลับของสวรรค์ให้แก่เย่หยวนได้ฟัง

เป็นเวลานี้เองที่เย่หยวนได้รู้ว่าทวีปพิรุณใสนั้นมันเป็นได้เพียงแค่เศษดินก้อนหนึ่งในสามสิบสามสวรรค์นี้

และตัวเขาในตอนนี้ก็ช่างไร้พลังใดๆ!

“เป็นเช่นนั้นเอง! แต่ทำไมข้าจึงต้องรับปากเจ้าด้วย?” เย่หยวนถามขึ้น

เดินทางข้ามสวรรค์นั้นมันมิใช่เรื่องที่ฟังดูง่ายเลย

เพราะจะอย่างไรเสียแค่การออกจากทวีปพิรุณใสไปนี้มันยังแสนจะยากเย็น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเดินทางข้ามสวรรค์เลย

“ข้าทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นได้!” เสียงนั้นตอบกลับมา

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่น “เจ้ามีวิชาใดที่จะช่วยให้หลอมประกอบวิญญาณศักดิ์สิทธิ์กลับมาได้หรือไม่?”

“วิญญาณศักดิ์สิทธิ์? เจ้าหมายถึงวิญญาณของคนในภพเบื้องล่างหรือ? คนของภพเบื้องล่างนั้นตราบเท่าที่พวกเขายังไม่เข้าสู่วัฏสงสารแล้วการจะหลอมประกอบคืนวิญญาณมันย่อมจะมิใช่เรื่องยากเย็น เพียงแค่ว่าพลังบ่มเพาะของเจ้าตอนนี้มันอ่อนแอจนเกินไป เกินกว่าที่จะทำมันได้”

เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน เขานั้นรู้สึกเหมือนได้เห็นดวงตะวันสว่างขึ้นมาในความมืดมิดตรงหน้านี้

เขานั้นได้เจอความหวังแล้ว!

แต่เขานั้นก็ยังคงกดความตื่นเต้นในใจของเขาไว้ก่อนจะกล่าวถามขึ้นมา “คำพูดมันไม่พอ ข้าต้องการหลักฐาน!”

เสียงนั้นจึงตอบกลับไป “ได้สิ ข้าจะมอบวิชาลับของเผ่าวิญญาณให้เจ้าเดี๋ยวนี้เลย! ตราบเท่าที่เจ้าบ่มเพาะฝึกฝนมันไปถึงระดับสูงๆ ได้แล้วอย่าว่าแต่การหลอมประกอบวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่วิญญาณดั่งเดิมมันก็คงมิใช่เรื่องยากด้วยซ้ำ!”

ระหว่างที่อีกฝ่ายพูดไปนั้นเย่หยวนก็สัมผัสได้ว่ามันมีวิชาลับชุดหนึ่งปรากฏขึ้นมาในความคิดของเขา!

เขานั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้างเพราะว่าเขานั้นไม่อาจจะต้านทานการถ่ายทอดข้อมูลจากคนผู้นี้ได้เลยแม้แต่น้อย

วิชาลับนี้มันกลับถูกติดตั้งลงไปในจิตของเย่หยวนโดยตรงในทันที!

แค่นี้มันก็คงชัดเจนแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นเก่งกาจล้ำแค่ไหน!

เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องกดความตกตะลึงในหัวใจไว้ก่อนที่จะเริ่มศึกษาวิชาลับนั้นไป

เมื่อลองได้ศึกษามันดูเขาก็ได้ได้แต่ตื่นตะลึงมากกว่าเก่าขึ้นในใจ

ช่างลึกล้ำ มันช่างเป็นศาสตร์ลับวิญญาณดั่งเดิมที่แข็งแกร่งนัก!

วิชานี้มันมีนามว่ากำเนิดเทพ

นี่มันคือศาสตร์ลับวิญญาณดั่งเดิมที่ใช้บ่มเพาะวิญญาณดั่งเดิมและเมื่อบ่มเพาะมันได้จนถึงที่สุดแล้วคนผู้นั้นจะสามารถใช้เพียงแค่วิญญาณดั่งเดิมของตนเผชิญหน้ากับยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์ได้!

สิ่งนี้มันเหนือล้ำกว่าจะหาคำบรรยาย

วิญญาณโกลาหลดั่งเดิมของเย่หยวนนั้นมันเป็นอมตะเมื่ออยู่ในมหาพิภพถงเทียน

แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์แล้ว มันย่อมจะเป็นสิ่งที่สุดแสนอ่อนแอ

วิญญาณดั่งเดิมนั้นมันเป็นสิ่งสำคัญของยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เช่นกัน

แต่หากเขานั้นสามารถสำเร็จกำเนิดเทพนี้ได้แล้ววิญญาณดั่งเดิมของเขานั้นมันก็จะกลายเป็นวิญญาณที่สุดแสนแข็งแกร่งขึ้นทันที

ต่อให้ร่างกายของเขาจะแตกสลายแต่ว่าวิญญาณดั่งเดิมของเขานั้นก็จะสามารถอยู่รอดต่อไปได้ด้วยตัวเองและยังจะสามารถบ่มเพาะฝึกฝนให้แข็งแกร่งขึ้นได้ด้วย!

เสียงลึกลับนั้นกล่าวขึ้นมา “จะว่าไปแล้ววิญญาณดั่งเดิมนั้นมันเป็นสิ่งที่มีติดตัวมาแต่กำเนิด อย่างของเจ้านั้นผู้ที่มีวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมหลังกำเนิดนั้นมันนับได้ว่ามีน้อยมาก! วิญญาณโกลาหลดั่งเดิมของเจ้านี่มันเหมาะสมกับศาสตร์ลับกำเนิดเทพนี้มาก ด้วยพรสวรรค์ของเจ้านี้หากเจ้าไม่คิดบ่มเพาะฝึกฝนวิชาวิญญาณแล้วมันคงนับว่าน่าเสียดายยิ่ง!”

ไม่ว่าจะเป็นผู้บรรลุสวรรค์หรือว่าชาวสวรรค์เองพวกเขาต่างก็มีธาตุวิญญาณดั่งเดิมที่แตกต่างกันไป

ธาตุวิญญาณดั่งเดิมนั้นมันจะแยกจากกันชัดในตอนที่บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์ขึ้นมา

บางคนนั้นมีวิญญาณสายฟ้าดั่งเดิม บ้างมีวิญญาณไฟดั่งเดิมและอีกมากมาย

แต่วิญญาณโกลาหลดั่งเดิมนั้นมันเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในหมู่ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์

เพราะฉะนั้นตอนที่เสี้ยววิญญาณของจุนเถียนเห็นวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมของเย่หยวนในครั้งนั้นเขาจึงได้ตื่นตกใจอย่างมาก

วิญญาณโกลาหลดั่งเดิมนั้นมันไม่มีธาตุ หรือจะเรียกว่ามีทุกธาตุก็ไม่ผิดเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นวิญญาณสายฟ้าดั่งเดิมนั้นสามารถฝึกฝนวิชาวิญญาณสายฟ้าได้อย่างยอดยิ่งแต่หากไปฝึกวิชาวิญญาณธาตุอื่นมันก็จะได้ผลที่ยอดแย่เช่นกัน

แต่วิญญาณโกลาหลดั่งเดิมนั้นมิใช่ ความโกลาหลนั้นผสานไว้ด้วยทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นวิชาวิญญาณธาตุไหนก็มันสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่สิ้น

เพราะฉะนั้นคนที่มีวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมนั้นจึงถือว่าเป็นคนที่เหมาะสมอย่างมากที่จะบ่มเพาะฝึกฝนวิชาวิญญาณ แต่ว่าวิชาการบ่มเพาะฝึกฝนวิญญาณดั่งเดิมนั้นมันหาได้ยากยิ่งในทวีปพิรุณใสนี้ เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงเหมือนคนที่เดินถือแร่ทองแต่ไม่มีเตาหลอม เป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง

แต่หากว่าเย่หยวนสำเร็จศาสตร์ลับกำเนิดเทพนี้ขึ้นมาแล้วเขาย่อมจะมีไม้ตายใหญ่ยิ่งอีกอย่างหนึ่งขึ้นมา

การได้ศาสตร์ลับกำเนิดเทพนี้มาครองเย่หยวนย่อมจะทำท่าทางเหมือนคนได้ขุมสมบัติไว้ในมือรีบยกมันขึ้นมาศึกษาอย่างไม่ทันรู้ตัว

การบ่มเพาะนั้นไม่สนเวลา ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใดแต่สุดท้ายเย่หยวนก็ตื่นขึ้นมาจากการบ่มเพาะ

เขานั้นรู้สึกราวกับว่าจะสามารถแยกวิญญาณดั่งเดิมออกมาจากร่างกายตนเองได้ในตอนนี้!

วิญญาณโกลาหลดั่งเดิมของเขานั้นมันแข็งแกร่งล้ำกว่าก่อนหน้าไปหลายเท่าตัวนัก!

“ช่างเป็นวิชาวิญญาณดั่งเดิมที่แข็งแกร่งนัก! ข้าไม่นึกเลยว่าแค่สำเร็จระดับหนึ่งขึ้นมามันก็จะทำให้วิญญาณของข้าพัฒนาได้มากมายขนาดนี้! ตอนนี้แค่ข้าคิดอยากทำมันก็คงสามารถสังหารนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำลงได้สิ้น!” เย่หยวนยิ้มกว้างขึ้นด้วยความชื่นชม

แต่เย่หยวนนั้นกลับรู้สึกได้ว่าเสียงลึกลับนั้นไม่ตอบกลับมาเขาจึงอดถามขึ้นไม่ได้

“ผู้อาวุโส?”

“อ่า ข้ายังอยู่!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่หยวนก็ค่อยโล่งใจ

เสียงนั้นกล่าวขึ้นมาตาม “เจ้าเด็กคนนี้ เจ้าช่างเป็นอัจฉริยะในการบ่มเพาะวิชาวิญญาณเสียจริง! เจ้านั้นกลับใช้เวลาแค่หนึ่งเดือนนี้สำเร็จระดับแรกมาได้แล้ว! หากข้าไม่เห็นว่าเจ้ามีสายเลือดมังกรข้าคงคิดว่าเจ้านั้นเป็นคนเผ่าวิญญาณแน่ๆ! ก่อนนั้นยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งของเผ่าวิญญาณอย่างฮวนเชียนซุยเองก็ยังต้องใช้เวลาถึงสามปีกว่าที่จะสำเร็จระดับแรกขึ้นมาได้!”

ในเวลาหนึ่งเดือนนี้เจ้าของเสียงลึกลับนี้ได้แต่ต้องอ้าปากค้างตั้งแต่ต้นจนจบ

เพราะความเร็วในการบ่มเพาะฝึกฝนของเย่หยวนนั้นมันแปลกประหลาดจนเกินไป

เย่หยวนนั้นไม่เคยรู้ถึงศาสตร์ลับกำเนิดเทพมาก่อนแต่เขากลับฝึกฝนได้อย่างไร้ที่ติ!

เผ่าวิญญาณนั้นมีวรยุทธบ่มเพาะใหญ่อยู่สามอย่างและกำเนิดเทพนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น!

ก่อนนั้นตัวคนลึกลับคนนี้เคยได้สังหารยอดฝีมือของเผ่าวิญญาณลงและได้ช่วงชิงเอาวรยุทธบ่มเพาะนี้มาจากอีกฝ่าย

เขานั้นใช้เวลากว่าร้อยปีกว่าที่จะสามารถสำเร็จขั้นแรกของกำเนิดเทพนี้ได้

และตอนนั้นเขาก็เป็นถึงยอดคนแห่งสามสิบสามสวรรค์ไปแล้วด้วย

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังต้องใช้เวลาถึงร้อยปีกว่าจะสำเร็จขั้นแรกขึ้นมาได้ มันเป็นเครื่องบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าวรยุทธบ่มเพาะวิญญาณนี้มันลึกล้ำแค่ไหน

แต่เย่หยวนนั้นกลับใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนก็สามารถสำเร็จขั้นแรกได้

ความเร็วของเขานี้มันน่ากลัวเสียยิ่งกว่าชาวเผ่าวิญญาณ!

วรยุทธบ่มเพาะลับของเผ่าวิญญาณนั้นกลับถูกลูกครึ่งมนุษย์ครึ่งมังกรฝึกฝนบ่มเพาะได้รวดเร็วเสียยิ่งกว่ายอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งเผ่าวิญญาณ!

มันช่างน่าตลกนัก!

เขานั้นย่อมจะไม่รู้ว่ากว่าจะเดินมาถึงวันนี้ได้เย่หยวนได้ศึกษาและทำความเข้าใจศาสตร์แห่งวิญญามามากมายแค่ไหน

ไม่เช่นนั้นแล้วมีหรือที่เย่หยวนจะสามารถพัฒนาวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมนี้ขึ้นมาในโลกที่ถูกตัดขาดอย่างมหาพิภพถงเทียนได้?

“ขอบพระคุณผู้อาวุโสที่ช่วยสั่งสอน! เรื่องที่ท่านผู้อาวุโสต้องการนั้นต่อให้เย่หยวนผู้นี้จะต้องตายกลายเป็นฝุ่นผงข้าก็จะทำมันให้สำเร็จ!” เย่หยวนตอบกลับไป

กำเนิดเทพนั้นมีอยู่ทั้งหมดด้วยกันเจ็ดระดับและตราบเท่าที่เขาบ่มเพาะไปถึงระดับสามได้เย่หยวนก็จะสามารถใช้วิชาที่เรียกว่าประกอบเทพได้

นี่มันคือวิชาที่ใช้ในการหลอมประกอบวิญญาณศักดิ์สิทธิ์!

ถึงตอนนั้นเขาก็คงสามารถชุบชีวิตมู่หลินเสวียขึ้นมาได้!

เย่หยวนนั้นเดินหน้าบุกบั่นมาจนถึงสามสิบสามสวรรค์นี้มันก็เพื่อวันนี้ มีหรือที่เขาจะไม่ตื่นเต้นดีใจ?

คนลึกลับผู้นี้ได้มอบวรยุทธบ่มเพาะวิญญาณให้แก่เขา ช่วยให้เย่หยวนสามารถเห็นความหวังที่เขาตามหามาทั้งชีวิต แน่นอนว่าเขาย่อมจะต้องตอบแทนคุณครั้งนี้อย่างสุดชีวิตแม้ต้องร่างแหลกสลายกลายเป็นฝุ่นผงเขาก็ยอม!

เจ้าของเสียงลึกลับนั้นจึงตอบกลับมาอย่างพอใจ “อืม มันต้องเช่นนั้น! ข้าเองก็เบื่อมากและอยากจะกลับบ้านเต็มทีแล้ว! ข้านี้มีนามว่าหมี่เทียน จากวันนี้ไปจะขอติดตามเจ้าออกไปภายนอกแล้ว!”

…………………….