บทที่ 1342 ได้มาอย่างเหนือความคาดหมาย

The king of War

เย่ชงเกือบฉี่ราด เมื่อครู่เขากลัวจนถึงขีดสุด ลืมตัวแค่อยากจะปัดความรับผิดชอบให้พ้นตัว ตอนนี้เพิ่งตระหนักรู้แล้วว่าตัวเองโง่แค่ไหนที่พูดออกไปแบบนั้น

“ท่านปู่ ข้าผิดไปแล้ว ข้ารู้สึกผิดแล้วจริงๆ ได้โปรดให้โอกาสข้าอีกครั้ง ต่อไปข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังอีกแล้ว!”

เย่ชงรีบอ้อนวอนขอร้อง

“ทหาร เอาไปประหาร!”

จากคำสั่งของกษัตริย์เย่ ผู้แข็งแกร่งระดับแดนเทพชั้นยอดคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาพาตัวเย่ชงออกไป

ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมภายในวังราชวงศ์เย่ ทุกคนต่างตกใจ ไม่มีใครคิดว่ากษัตริย์เย่จะฆ่าได้แม้แต่หลานชายของตัวเองเพราะความโกรธ

แต่ในไม่ช้า พวกเขาก็ตระหนักได้ว่า ที่ราชวงศ์เย่ตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้เพราะไอ้สารเลวเย่ชง

“ท่านปู่ ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้วจริงๆ ข้าเป็นหลานชายแท้ๆ ของท่าน ท่านจะฆ่าข้าไม่ได้นะ! ฆ่าข้าไม่ได้นะ!”

“ท่านปู่ ได้โปรดให้โอกาสข้าอีกสักครั้ง ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังอีก ท่านปู่…”

เย่ชงถูกพาออกจากวังราชวงศ์เย่โดยผู้แข็งแกร่งแดนเทพคนนั้น ไม่นานเสียงอ้อนวอนของเขาก็หายไป แน่ชัดแล้วว่าถูกสังหาร

ภายในวังราชวงศ์เย่ เงียบสงัดเป็นเป่าสากทันที ทุกคนดูเหมือนจะได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเอง

“ต่อจากนี้ไป พวกเราจะเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่ ทุกคนต้องให้กำลังใจและพยายามปกป้องราชวงศ์เย่อย่างเต็มที่ หากข้ารู้ว่าใครกล้าหละหลวม จะฆ่าอย่างไร้ความปรานี!”

กษัตริย์เย่กวาดสายมองไปรอบๆ และพูดอย่างเย็นชา

“รับบัญชาฝ่าบาท!”

ทุกคนรีบตอบรับ

“ฝ่าบาท ข่าวร้าย ฟู่ลี่ฉวิน ผู้นำตระกูลฟู่ได้พาคนมาที่นี่แล้ว!”

“ฝ่าบาท เฉียวตงเฉียง ผู้นำตระกูลเฉียวได้พาคนมาที่นี่แล้ว!”

“ฝ่าบาท ผังเหวินหู่ ผู้นำตระกูลผังได้พาคนมาที่นี่แล้ว!”

ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนมากต่างรีบเข้าไปในวังราชวงศ์เย่ รายงานด้วยความตื่นตระหนก

เห็นได้ชัดเจนว่าเหตุใดผู้นำของสามตระกูลใหญ่ในเมืองราชวงศ์เย่ จึงพาผู้แข็งแกร่งของตระกูลมาที่ราชวงศ์เย่ภายในสถานการณ์เช่นนี้

เมื่อได้ยินรายงานของผู้ใต้บัญชา สีหน้าของกษัตริย์เย่ก็มืดมนจนถึงขีดสุด สมาชิกคนอื่นๆ ของราชวงศ์เย่ก็หน้าซีดเผือดเช่นกัน

ในฐานะผู้คุมหางเสือของตระกูลในเมืองราชวงศ์เย่ ปกติแล้วผู้คนจะให้ความเคารพคนของราชวงศ์เย่

แม้แต่ผู้นำของสามตระกูลใหญ่ในเมืองราชวงศ์ ยังต้องคำนับให้เมื่อเห็นพวกเขา

ตอนนี้เรื่องที่ราชวงศ์เย่สูญเสียผู้แข็งแกร่งแดนเทพไปเก้าคนได้ถูกเปิดเผยแล้ว ผู้นำของสามตระกูลใหญ่ของราชวงศ์เย่จึงพาผู้แข็งแกร่งมาที่นี่ด้วยตัวเอง

“ดี ดีมาก!”

แววอาฆาตเปล่งประกายอยู่ในส่วนลึกของดวงตาคู่นั้นของกษัตริย์เย่ “ดูเหมือนว่าคนนอกจะคิดว่าราชวงศ์เย่ได้สูญเสียผู้แข็งแกร่งแดนเทพไปแล้วเก้าคน เลยคิดว่าจะเล่นงานได้ง่ายๆ”

“วันนี้ข้าจะทำให้พวกเขารู้ว่า อูฐที่ผอมซูบแข็งแกร่งกว่าม้าเสียอีก!”

“ให้พวกเขาเข้ามา!”

เมื่อสิ้นเสียงกษัตริย์เย่ เสียงหัวเราะอันสดใสกังวานก็ดังขึ้น “กษัตริย์เย่ พวกเราไม่มองว่าท่านเป็นพวกลูบพลับนิ่มหรอก และไม่คิดว่าราชวงศ์เย่จะเหมือนอูฐผอมซูบด้วย แต่เป็น…”

“แต่เป็น…แมวป่วยที่บาดเจ็บสาหัส!”

หลังจากที่อีกฝ่ายพูดออกมาเช่นนี้ ผู้อาวุโสที่มีลมปราณอันแข็งแกร่งก็เดินเข้าไปในวังราชวงศ์เย่เรื่อยๆ

“ไม่เจียมตัว!”

ผู้มีอำนาจของราชวงศ์เย่ ตะโกนอย่างโกรธจัด ชี้ไปที่ชายชราที่นำหน้าอยู่ พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “เฉียวตงเฉียง เจ้ากล้าดียังไงมาบอกว่าราชวงศ์เย่เหมือนแมวป่วย รนหาที่ตายชัดๆ!”

ผู้มีอำนาจคนอื่นๆ ถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็มองไปที่เฉียวตงเฉียงด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

เฉียวตงเฉียง ผู้นำตระกูลเฉียว หนึ่งในสามตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองราชวงศ์เย่

ในเวลานี้ ไม่ใช่แค่เฉียวตงเฉียงเท่านั้น ข้างกายเขายังมีผังเหวินหู่ ผู้นำตระกูลผัง และฟู่ลี่ฉวิน ผู้นำตระกูลฟู่ด้วย

เบื้องหลังผู้นำของสามตระกูลใหญ่ มีผู้แข็งแกร่งแดนเทพที่มีพลังลมปราณอันน่าสะพรึงกลัว นอกจากผู้นำตระกูลทั้งสามแล้ว ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเทพอีก 21 คน

เห็นได้ชัดว่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพเหล่านี้ เป็นรากฐานของสามตระกูลใหญ่นี้

ปัจจุบันราชวงศ์เย่เมื่อนับรวมทายาทสายตรงแล้ว จะมีผู้แข็งแกร่งแดนเทพไม่ถึงสิบคน

พูดอีกอย่างก็คือ ความสามารถโดยรวมของทั้งสามตระกูลใหญ่นั้นเหนือกว่าราชวงศ์เย่แล้ว

สีหน้าของกษัตริย์เย่มืดมนลงจนถึงขีดสุด ชำเลืองมองไปยังผู้นำของสามตระกูลใหญ่อย่างเย็นชา กวาดสายตาผ่านไป และหยุดอยู่ที่เฉียวตงเฉียงที่อยู่ข้างหน้าสุด พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เฉียวตงเฉียง เจ้าพาคนของเจ้าออกไปเดี๋ยวนี้ ข้าจะแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่อย่างนั้น…”

กษัตริย์เย่ยังพูดไม่จบ แต่ใครๆ ก็สัมผัสได้ถึงความคุกคามจากคำพูดของ กษัตริย์เย่

เฉียวตงเฉียงไม่มีความหวาดกลัวบนใบหน้า พลังวิถีบู๊ระดับแดนเทพชั้นยอด ได้ปะทุออกมาจากร่างกายของเขาทันที เขามองดูกษัตริย์เย่อย่างยั่วเย้า “มิฉะนั้น เจ้าจะตายให้พวกข้าดูงั้นหรือ?”

“ฮ่าๆ…”

ผังเหวินหู่และฟู่ลี่ฉวินต่างหัวเราะลั่นออกมา

“กษัตริย์เย่ ท่านรู้สถานการณ์ของราชวงศ์เย่ในตอนนี้ดี พวกเขาไม่สามารถต้านทานการโจมตีที่รุนแรงได้แล้ว”

เฉียวตงเฉียงหัวเราะจนพอใจ แล้วจึงหันไปหากษัตริย์เย่ และกล่าวอย่างเย็นชา “ราชวงศ์เย่ในปัจจุบันนี้ ไม่สมควรถูกเรียกว่าเป็นราชวงศ์ด้วยซ้ำ ลำพังแค่ความร่วมมือกันของพวกเราสามตระกูลใหญ่ ก็แซงหน้าราชวงศ์เย่ไปแล้ว”

“พวกเราเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์เย่ หลังจากที่พวกเราสามตระกูลปรึกษาหารือกันและตัดสินใจร่วมกันได้ว่า ต่อจากนี้ไปเมืองราชวงศ์เย่ จะร่วมกันควบคุมดูแลโดยพวกเราสามตระกูลใหญ่จับมือกับราชวงศ์เย่”

“แบบนี้เท่านั้น ความสามารถของเมืองราชวงศ์เย่จึงจะแข็งแกร่งมากขึ้น”

“พวกเราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อเมืองราชวงศ์เย่ แค่กษัตริย์เย่ยินยอมให้พวกเราสามตระกูลใหญ่เข้าร่วมการบริหารเมืองราชวงศ์ด้วย”

ใช่แล้ว สามตระกูลใหญ่ไม่ได้ร่วมมือกันเพื่อโค่นล้มราชวงศ์เย่ แต่เพื่อสร้างพันธมิตรสี่ตระกูลใหญ่ ควบคุมดูแลเมืองราชวงศ์เย่ร่วมกัน

ทันทีที่กษัตริย์เย่ตอบตกลง ต่อจากนี้ไปเมืองราชวงศ์เย่จะไม่ใช่เมืองราชวงศ์เย่ที่สืบทอดต่อกันมาหลายร้อยปีอีกแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้เปลี่ยนชื่อก็ตาม

สำหรับราชวงศ์เย่แล้ว นี่คือความอัปยศครั้งใหญ่หลวงที่สุด

“ดีจัง ถ้าอย่างนั้น ราชบัลลังก์ของข้า ก็ให้พวกเจ้ามาครองเลยดีไหม?”

แทนที่จะโกรธแต่กษัตริย์เย่กลับหัวเราะและจ้องเขม็งไปที่ผู้นำของสามตระกูลใหญ่

“เหนือความคาดหมายจริงๆ!”

เฉียวตงเฉียงไม่มีความหวาดกลัวเลย เขาหรี่ตาและพูดว่า “ในเมื่อกษัตริย์เย่มีน้ำใจ พวกเราก็ไม่เกรงใจล่ะนะ!”

เมื่อสิ้นเสียง เขาก็เดินนำเข้าไปหากษัตริย์เย่ก่อน

ผังเหวินหู่และฟู่ลี่ฉวินเดินตามหลังเฉียวตงเฉียงไปติดๆ ใกล้กษัตริย์เย่เข้าไปทีละก้าว

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเทพคนอื่นๆ อีก 19 คน ก็ตามไปติดๆ พร้อมที่จะลงมือโจมตีทุกเมื่อ

“ฝ่าบาท!”

สมาชิกของราชวงศ์เย่ ทุกคนต่างมีสีหน้าเป็นกังวล

พอเห็นกษัตริย์เย่กำลังจะถูกห้อมล้อมโดยสามตระกูลใหญ่และผู้แข็งแกร่งแดนเทพ 21 คน พวกเขาก็เกิดความตื่นตระหนก

กษัตริย์เย่เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในราชวงศ์เย่ ถ้าเขาถูกฆ่าโดยสามตระกูลใหญ่ ราชวงศ์เย่จะต้องถึงจุดจบอย่างแท้จริง

กษัตริย์เย่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร มองไปที่ผู้แข็งแกร่งของสามตระกูลใหญ่ที่เดินเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ อย่างเย็นชา สีหน้าดูมืดมนอย่างยิ่ง ดวงตาที่เย็นชาฉายแววเจตนาฆ่าที่รุนแรง

“ระวัง!”

เมื่อเข้าใกล้กษัตริย์เย่มากขึ้นเรื่อยๆ เฉียวตงเฉียงก็ยิ่งระวังตัวมากขึ้นเรื่อยๆ พลางส่งเสียงเตือนผู้คนที่อยู่ข้างหลังเขา

กลุ่มผู้แข็งแกร่งกระจายตัวอย่างรวดเร็ว เข้าโอบล้อมกษัตริย์เย่ที่กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร แค่รอฟังคำสั่งจากผู้นำตระกูลทั้งสาม พวกเขาจะเข้าโจมตีกษัตริย์เย่พร้อมกันอย่างแข็งแกร่งที่สุด

กลุ่มผู้มีอำนาจของราชวงศ์เย่ ในเวลานี้แลดูหวาดกลัว

“ข้ามาแล้ว ท่านช่วยเปิดทางหน่อยได้ไหม?”

เฉียวตงเฉียงยิ้มร่า จับจ้องไปที่กษัตริย์เย่พลางกล่าวขึ้น