การบ่มเพาะนั้นมันไร้ซึ่งกาลเวลา เวลาชั่วปีนั้นมันเป็นแค่ชั่วพริบตาบนเขาหมื่นอสูร
ห้าสิบปีนั้นมันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ห้าสิบปีที่ผ่านมานี้เย่หยวนได้ใช้เวลาอันแสนสงบอยู่บนเขาหมื่นอสูร
ในวันนี้ที่ด้านนอกของถ้ำหนึ่งพวกราชาขาลเจิดทั้งห้าต่างเดินไปมาอย่างกังวลสุดใจ
“นี่เจ้าขนทอง จะหยุดสักพักไม่ได้หรือ? เจ้าเดินไปมาเช่นนี้ทำพ่อเจ้ามึนหัวจนจะอ้วกแล้ว!” ราชาขาลเจิดกล่าวขึ้นมา
ขนทองนั้นย่อมจะเป็นชื่อเล่นของราชาราชสีห์เถื่อน
วินาทีที่ตัวราชาราชสีห์เถื่อนได้ยินเขาก็ร้องลั่นสวนกลับมา “เจ้าดูหน้าเสือของเจ้าเถอะตอนนี้มันจะกลายเป็นหน้าลาไปแล้ว คนอย่างเจ้านี้มีสิทธิมาว่าพ่อเจ้านี้?”
แน่นอนว่าถ้ำนี้ย่อมจะเป็นถ้ำที่เย่หยวนเข้าเก็บตัวอยู่
และวันนี้มันเป็นวันที่ครอบพันธะห้าสิบปี!
หากเย่หยวนนั้นไม่อาจจะหลอมโอสถสวรรค์หยกล้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้ในวันนี้เขาย่อมจะต้องรับแรงสะท้อนเต๋าสวรรค์และตายลง!
และพวกเขาทั้งห้านั้นก็จะหมดสิ้นหวังที่จะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนไป
เพราะฉะนั้นพวกเขาทั้งห้าจึงไม่มีใครอยู่นิ่งได้เลย
แน่นอนว่ามันเพราะความกังวล
“เฮ้อ เย่หยวนจะทำมันได้จริงๆ หรือ? เวลาห้าสิบปีนั้นแค่บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์มันก็ยากพอแล้ว นี่ยังต้องมาบรรลุระดับวิชาโอสถอีก มันจะยากเกินไปแล้ว!” ราชาหมื่นคชสารกล่าว
“คิดย้อนกลับไปแล้วมันก็บ้าเกินไปจริงๆ! เรื่องราวเช่นนี้หากได้ลองคิดดีๆ มันย่อมแทบไม่มีความเป็นไปได้เลย!” ราชาขาลเจิดกล่าวขึ้นตาม
“มันยังเหลือเวลาอีกชั่วโมงหนึ่งก่อนที่พันธะจะสมบูรณ์! แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ออกมาข้าเกรงว่าโอกาสสำเร็จมันคงริบหรี่แล้ว!”
พวกเขานั้นยอมรับสุดใจว่าเย่หยวนนั้นเป็นสัตว์ประหลาด
แต่ห้าสิบปีก่อนนั้นเย่หยวนยังมีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำและยังไม่อาจจะศึกษาอะไรโอสถสวรรค์ระดับสี่ได้เลยแม้แต่น้อย
เวลาห้าสิบปีนี้นอกจากเย่หยวนต้องบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์ขึ้นมาแล้วเขายังต้องบรรลุวิชาการโอสถขึ้นมาถึงสองระดับ!
เรื่องราวเช่นนี้ต่อให้คิดอย่างไรมันก็คงเป็นไปไม่ได้
เพราะจะอย่างไรเสียมันมียอดอัจฉริยะมากมายแค่ไหนที่ติดอยู่หน้าประตูชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยก?
เจี่ยงหลี่นั้นเป็นยอดอัจฉริยะด้านการโอสถของเมืองสวรรค์ใต้แต่ก็ยังไม่อาจจะก้าวข้ามจุดนี้ไปได้ ติดอยู่หน้าประตูบานนี้นับร้อยๆ ปี!
ยอดอัจฉริยะด้านวิชายุทธอย่างไรหลัวหยุนชิงนั้นเองก็ต้องติดอยู่ตรงนี้เป็นร้อยๆ ปีเช่นกัน
การบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดินั้นมันมีแต่ต้องหวังพึ่งโชค!
แต่เวลาที่เย่หยวนมีนั้นมันแค่ห้าสิบปีอันแสนสั้น!
ที่น่ากังวลกว่าก็คือเย่หยวนยังต้องศึกษาวิชาการโอสถระดับสี่ที่ยากเย็นลึกล้ำเหนือความเข้าใจ
พวกราชาขาลเจิดและต้าหวงนั้นต่างแยกย้ายกันไปเสาะหาสุดกำลังบนเขาหมื่นอสูรจนในที่สุดก็สามารถหาสมุนไพรสวรรค์ที่ใช้หลอมโอสถสวรรค์หยกล้ำศักดิ์สิทธิ์มาได้ครบหกชุดเมื่อห้าปีก่อน
แต่ว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้ออกมาสู่โลกภายนอกตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อนแล้ว!
พวกเขานั้นไม่รู้เลยว่าเย่หยวนพัฒนาไปได้ถึงไหนแล้ว
“หึ! พวกเจ้าทั้งหลายฟังให้ดี หากเย่หยวนตายไปพวกเจ้าจงปลิดชีวิตตัวเองไถ่โทษเสีย!”
เวลานี้ตัวนักบุญสูงมารกระทิงที่หลับตาอยู่ตลอดได้กล่าวขึ้นมา
เมื่อคนทั้งห้าได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของพวกเขามันก็เปลี่ยนสีไป
หากเย่หยวนถูกพลังเต๋าสวรรค์สังหารลงไปแล้วมันก็ย่อมจะถือเป็นการปิดอนาคตของตัวเขาด้วย
มีหรือที่เขาจะทนรับเรื่องเช่นนั้นได้?
นักบุญสูงมารกระทิงนั้นเชื่อมั่นใจพรสวรรค์และฝีมือของเย่หยวน การก้าวขึ้นไปถึงจุดนั้นมันย่อมเกิดขึ้นได้ในไม่ช้า
เพียงแค่ว่าเจ้าคนโง่ทั้งห้านี้กลับไปบังคับให้เย่หยวนสาบานต่อเต๋าสวรรค์ว่าจะหลอมโอสถสวรรค์หยกล้ำศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ภายในห้าสิบปี!
ห้าสิบปีมันแสนสั้น!
ตัวนักบุญสูงมารกระทิงนั้นเป็นยอดคนมากพรสวรรค์แค่ไหน? แต่สมัยของเขานั้นเขาก็ยังต้องใช้เวลานับพันๆ ปีกว่าจะก้าวขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์แต่ละระดับได้
ไหนจะยังเรื่องที่ว่าเย่หยวนต้องใช้เวลาไปกับวิชาการโอสถอีก
ในสายตาของนักบุญสูงมารกระทิงนั้นคนทั้งห้านั้นย่อมจะไม่มีสมองแม้แต่น้อย!
หากเต๋าสวรรค์ถูกบังคับใช้แล้ว มันย่อมจะจบสิ้นกัน
ต่อให้จะเป็นพลังของยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนอย่างเขามันก็ไม่อาจแก้ไขใดๆ ได้
“ท่านนักบุญสูง เรา…”
“หุบปาก! สมองเจ้ามันมีแต่ขี้เลื่อยหรือ? ห้าสิบปีมันจะไปทำอะไรได้? หืม? จากนี้ไปใครยังมีหน้ามาพูดเถียงอีกจะได้ตายเสียแต่ตอนนี้เลย!”
ราชาชวดสวรรค์นั้นคิดจะเปิดปากขึ้นพูดอธิบายแต่เขานั้นกลับถูกนักบุญสูงมารกระทิงขัดไว้ก่อน
พวกเขานั้นไม่เข้าใจได้ว่าทำไมนักบุญสูงท่านถึงได้โกรธเคืองเช่นนี้
แค่นักหลอมโอสถสวรรค์คนหนึ่งตายลงไปมันคงไม่ถึงขั้นต้องแลกด้วยชีวิตของยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวมิใช่หรือ?
มีเพียงแค่ตัวขาลเจิดเท่านั้นที่นั่งทำหน้าเครียดอย่างไม่พูดกล่าวใดๆ ออกมา
เพราะเขานั้นได้ยินเรื่องความลับของชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมาจากปากของซั่วเหยียน
หากเย่หยวนตายลงมันก็เท่ากับว่าเป็นการส่งนักบุญสูงมารกระทิงลงนรกตามไปด้วยเต๋าทุกข์จักรพรรดิเซียน มีหรือที่จะเขาจะทนรับเรื่องนั้นได้?
เมื่อได้ยินคำด่าลั่นของนักบุญสูงมารกระทิงนั้นปากถ้ำมันก็มีเพียงแค่เสียงลมหายใจอันแผ่วเบาเท่านั้นให้ได้ยิน
เวลาค่อยๆ เคลื่อนผ่านไปแต่ละวินาทีนั้นมันช่างยาวนานเหมือนเป็นปี
จนในที่สุดเวลามันก็มาถึง!
แต่เย่หยวนก็ยังไม่ออกมา!
หัวใจคนทั้งหลายตกวูบลง
สิบห้านาที!
หนึ่งชั่วโมง!
สองชั่วโมง!
เย่หยวนนั้นยังไม่ออกมา!
คนทั้งหลายนั้นแทบหยุดหายใจลง
“เฮ้อ สุดท้ายก็ไม่ได้หรือ?” ราชาขาลเจิดนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยความผิดหวัง
หลังจากผ่านไปสองชั่วโมงเย่หยวนก็ยังไม่ออกมา
นักบุญสูงมารกระทิงเบิกตาขึ้นด้วยความผิดหวังอย่างไม่อาจปิดบังได้
“ซั่วเหยียน เจ้าเข้าไปเก็บร่างของพี่เจ้าเถอะ!” นักบุญสูงมารกระทิงสั่ง
คำพูดเดียวนี้มันทำให้น้ำตาร่วงไหลลงมาจากใบหน้าของซั่วเหยียน
เขานั้นพยายามลากร่างเดินเข้าไปใกล้ถ้ำ
เมื่อเขามาถึงปากถ้ำจริงๆ เขาก็หมดแรงที่จะก้าวเดินต่อไป
แต่ในเวลานั้นเองที่มันกลับมีเงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากความมืด
ซั่วเหยียนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาหนักกว่าเก่า
แต่น้ำตานั้นมันเปลี่ยนจากความเศร้าเป็นความดีใจ
“พะ พี่! พี่ยังไม่ตาย!” ซั่วเหยียนนั้นร้องลั่นขึ้นมาอย่างสุดเสียง
เวลานี้คนทั้งหลายรวมไปถึงตัวนักบุญสูงมารกระทิงต่างสั่นสะท้านไปทั้งกาย
“เขา…เขาทำได้จริง?” นักบุญสูงมารกระทิงนั้นแทบไม่อยากเชื่อสายตา
เย่หยวนนั้นออกมาได้เช่นนี้มันย่อมหมายความว่าเขานั้นทำตามพันธะได้จริง!
สิ่งที่แทบไม่มีทางเป็นไปได้นั้น เขากลับทำมันได้จริง!
เหลือเชื่อ!
“เขาทำได้จริง! เขา…เขาทำได้จริงๆ!”
ท่ามกลางความตกตะลึงของคนทั้งหลายนั้นพวกราชาขาลเจิดต่างก็ร้องลั่นขึ้นมา!
เย่หยวนทำตามพันธะได้นั้นมันย่อมจะหมายความว่าพวกเขานั้นมีตั๋วไปยังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนแล้ว!
แม้แต่ตัวต้าหวงเองก็ยังได้แต่ยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆ นักบุญสูงมารกระทิง
สภาพของเย่หยวนในตอนนี้มันดูเหนื่อยอ่อนมาก
ใบหน้าของเขานั้นซีดขาว
เหมือนราวกับว่าเขานั้นไปรบในสมรภูมิใหญ่มา
แท้จริงแล้วตัวเย่หยวนนั้นหลอมโอสถสวรรค์ให้คนทั้งหลายได้ตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนแล้ว
เพียงแค่ว่าเขานั้นใช้เวลาที่เหลือนั้นหลอมโอสถสวรรค์จักรพรรดิระดับสี่อีกสามเม็ด
เพื่อที่จะปลุกหมี่เทียนให้ตื่นขึ้นมา!
เวลาห้าสิบปีที่ผ่านมานี้หมี่เทียนหลับใหลไม่ตอบสนองใดๆ
สภาพของหัวใจมังกรมันดูไม่ดีอย่างมาก
เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงได้คิดจะใช้พลังสายเลือดของตัวเองฉีดอัดกลับเข้าไปในหัวใจมังกรให้มันมีพลังอีกครั้ง
เพียงแค่ว่าเย่หยวนนั้นเข้าใจดีว่าหัวใจมังกรมันเหมือนทะเลที่เหือดแห้ง ลำพังแค่พลังเลือดของเขามันไม่พอจะเติมเต็มใดๆ ได้
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้หลอมโอสถสวรรค์จักรพรรดิระดับสี่สามเม็ดขึ้นมาเพื่อกระตุ้นพลังสายเลือดและส่งมันเข้าหัวใจมังกรไป
หลายวันมานี้เย่หยวนปล่อยพลังสายเลือดของตนให้ไหลกลับเข้าไปยังหัวใจมังกรอย่างไม่หยุดยั้งจนในที่สุดมันก็มีการตอบสนอง
หมี่เทียนตื่นขึ้นมาเป็นครั้งแรกในรอบห้าสิบปี
วินาทีที่เขาตื่นขึ้นมาเขาก็ต้องตกตะลึงสุดตัวเช่นกัน
เพราะการลงมือของเขานั้นมันทำให้เขาอ่อนแรงลงอย่างมาก เขาคิดว่าตัวเองคงต้องหลับใหลไปอีกเป็นร้อยๆ ปี
ไม่นึกฝันว่าเย่หยวนกลับจะหาทางปลุกเขากลับขึ้นมาได้!
ได้เห็นจิตใจและร่างกายของเย่หยวนในตอนนี้หมี่เทียนก็รู้สึกตื้นตันขึ้นมาอย่างมาก
เขานั้นรู้ได้เลยว่าเขามองคนไม่ผิดจริงๆ!