ตอนที่ 2725 ต้าหวง เหยียบมัน

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“เจ้าไม่รู้หรือ?” ได้ยินเช่นนั้น คราวนี้มันเป็นด้านหวูฟางบ้างที่ต้องทำหน้าตกใจ

“นิกายสวรรค์หยกแท้นั้นได้ส่งจดหมายเชิญไปทั่วทิศเชิญเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกทั้งหลายไปร่วมกันสำรวจมิติวิเศษด้วยกัน เวลานี้มันจึงมียอดฝีมือมากมายกำลังมุ่งหน้าไปยังนิกายสวรรค์หยกแท้”

เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องขมวดคิ้วแน่น “มิติวิเศษใดกันที่มันยิ่งใหญ่จนแม้แต่นิกายสวรรค์หยกแท้ยังจัดการเองไม่ได้?”

หวูฟางที่ได้ยินก็ต้องส่ายหัวออกมา “นิกายสวรรค์หยกแท้นั้นปิดเงียบเรื่องนั้นเราจึงไม่มีใครรู้สถานการณ์จริงๆ เลย แต่ข่าวลือบอกกันมาว่ามันอาจจะเป็นการถือกำเนิดของสมบัติยอดหมอกที่สำคัญมันอาจจะมีโอกาสให้บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้!”

“เป็นเช่นนั้นเอง!”

ไม่ว่าจะเป็นสมบัติยอดหมอกหรือโอกาสได้บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนนั้นมันก็ต่างเป็นสิ่งที่เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกต้องการสิ้น

สมบัติล้ำค่าเช่นนั้นแม้แต่ตัวนิกายสวรรค์หยกแท้มันก็คงไม่อาจจะจัดการได้ด้วยตัวเอง

แม้ว่านิกายสวรรค์หยกแท้นั้นจะเคยยิ่งใหญ่แค่ไหนแต่เวลานี้พวกเขาก็ตกต่ำลงมาก

แน่นอนว่าสองสิ่งนั้นมันย่อมจะไม่ทำให้เย่หยวนหันมาสนใจได้

นักยุทธผู้นั้นมีความสนใจในตัวต้าหวงอย่างมากทำให้เขายังคงตามติดชวนเย่หยวนคุยมาตลอดทาง

เย่หยวนนั้นเองก็ไม่ได้คิดรำคาญใดๆ มากมายเพราะระหว่างทางไปเขาก็สามารถถามตัวนักยุทธคนนี้ถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนห้ายอดแดนสวรรค์ได้

อย่างเรื่องของพันธมิตรโอสถที่ตอนนี้ปกครองห้ายอดแดนสวรรค์อยู่และเรื่องของกองกำลังที่ต่อต้านพวกนั้น

กองกำลังนั้นมันซ่อนอยู่ในเงามืดโจมตีแบบกองโจรไม่มีใครสืบสาวร่องรอยได้ทำให้พันธมิตรโอสถต้องปวดหัวอย่างมาก

หนึ่งในกองกำลังต่อต้านที่มีชื่อที่สุดนั้นมันคือพันธมิตรเลือด

พวกเขานั้นคือกองกำลังที่จะไล่ล่าเหล่ายอดคนระดับแนวหน้าของพันธมิตรโอสถและเข้าปล้นชิงทรัพยากรจากพันธมิตรโอสถครั้งแล้วครั้งเล่า

ไปมาไร้ร่องรอย จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครเข้าถึงตัวพวกเขาได้

เมื่อมาถึงนิกายสวรรค์หยกแท้นั้นมันก็มีผู้อาวุโสพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนามจงรุยออกมาต้อนรับพวกเขา

เมื่อจงรุยได้เห็นหวูฟางนั้นเขาก็รีบยิ้มเข้ามาทักทายทันที

ส่วนเย่หยวนที่มาด้วยกันนั้นตัวเขาไม่คิดหันมาสนใจแม้แต่น้อย

ในหมู่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกทั้งหลายที่มานี้ส่วนมากแล้วมันย่อมจะเป็นคนที่มีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นต้นอย่างเย่หยวน

ด้วยพลังแค่นี้พวกเขาทั้งหลายย่อมจะเป็นนักยุทธจนและไม่ต้องสนใจให้มากมาย

“ฮ่าๆ ไม่นึกเลยว่าน้องหวูฟางนั้นจะมาด้วย! มีเจ้าอยู่ด้วยนั้นมันเหมือนได้มียอดฝีมืออีกเป็นสิบ!” จงรุยนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงหัวเราะลั่น

หวูฟางนั้นหันมามองเย่หยวนก่อนจะตอบไปด้วยรอยยิ้มกว้าง “น้องจง เจ้าพูดยอเกินไปแล้ว!”

จงรุยนั้นยกมือขึ้นมาโบกปฏิเสธ “มันไม่ได้เยินยอใดๆ เลย! ในดินแดนสวรรค์ตะวันเที่ยงนี้มันมีคำพูดกล่าวกันว่าหาเรื่องยมบาลยังดีกว่าหาเรื่องหวูฟาง พี่หวูฟางนั้นมีวิชาการควบคุมภูติแท้ที่เหนือล้ำเรียกได้ว่าไร้คู่ปรับในระดับเดียวกันแล้ว! อ่า คนผู้นี้เป็นศิษย์ท่านหรือ?”

หวูฟางนั้นยิ้มตอบกลับไป “ไม่ๆ ข้าแค่บังเอิญไปเจอคนที่สนใจศาสตร์เดียวกันเข้าระหว่างเดินทางมา เขาและข้านั้นสนใจในวิชาควบคุมภูติเหมือนๆ กันจึงคุยกันถูกคอมาก”

“อ่า เป็นเช่นนั้นเอง!” จงรุยตอบรับและหมดความสนใจในตัวเย่หยวนทันที

หากลองมองดูที่ตัวอินทรีตาดำปีกม่วงของหวูฟางและกระทิงเหลืองของเย่หยวนนั้นมันก็ย่อมชัดเจนแล้วว่าอะไรดีอะไรชั่ว

ดูท่าแล้วเขาคนนี้เองก็คงแค่จะหวังมาเสี่ยงโชคเท่านั้น

จงรุยนั้นย่อมจะเย้ยหยันอยู่ในใจ

ท่าทางของจงรุยนั้นเย่หยวนย่อมจะมองออกได้ชัดเจนเพียงแค่ว่าเขานั้นก็ไม่ได้คิดสนใจจะอธิบายใดๆ

มีหรือที่เขาจะไปอวดโม้ให้คนทั้งหลายฟังว่าต้าหวงนั้นมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียน?

จงรุยนั้นเดินนำคนทั้งสองเข้ามาถึงยอดเขาที่พักของเหล่าแขกทั้งหลาย

ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยก ต่อให้จะเป็นแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นต้นพวกเขานั้นเองก็ต่างล้วนเป็นยอดคนแห่งทวีปพิรุณใสนี้สิ้น

บนเขานั้นมันมียอดฝีมือมากมายพักอาศัยอยู่และคึกคักไปด้วยผู้คน

เหล่ายอดคนทั้งหลายนั้นบ้างก็เปิดร้านขายของบ้างก็เข้าไปแลกเปลี่ยนของวิเศษต่างๆ ที่ต้องการกัน

“หึ ไอ้พวกที่จะเข้ามาเสี่ยงโชคอีกคนแล้ว ทั้งยังเป็นผู้บรรลุสวรรค์ด้วย!” เย่หยวนที่เดินเข้ามาได้ไม่ถึงสามก้าวดีนั้นก็ได้รับการทักทายเข้าในทันที

นี่เป็นคำเชิญของนิกายสวรรค์หยกแท้ แน่นอนว่าคนที่มาส่วนมากย่อมจะเป็นคนถิ่นและมีผู้บรรลุสวรรค์เพียงแค่น้อยนิด

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงกลายเป็นตัวประหลาดขึ้นทันที

แต่จริงๆ แล้วตัวหวูฟางเองก็เป็นผู้บรรลุสวรรค์เช่นนั้น เพียงแค่ว่าเขานั้นมีวิชาการควบคุมภูติที่ลือลั่นจนไม่มีใครในดินแดนสวรรค์ตะวันเที่ยงนี้ที่กล้าเข้ามาหาเรื่องเขา

แต่เย่หยวนนั้นมิใช่

แน่นอนว่าในหมู่ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกที่มานั้นมันย่อมจะมีผู้บรรลุสวรรค์อยู่ไม่น้อย

แต่คนที่กล้ามาล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือสิ้น

เหมือนอย่างตัวหวูฟางนั้น

แม้ว่าเขานั้นจะพ่ายให้แก่ต้าหวงอย่างสิ้นท่าแต่กำลังของเขานั้นก็แข็งแกร่งอย่างแท้จริงในดินแดนสวรรค์ตะวันเที่ยง

หวูฟางนั้นมีกระเป๋ามิติอยู่และมันมีภูติแท้อยู่ภายในถึงกว่าสิบตัว!

และสองในสิบนั้นมันมีพลังถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุดเสียด้วยซ้ำ!

หวูฟางนั้นมีพลังการต่อสู้ที่ไม่เหนือล้ำแต่ว่าด้วยภูติแท้ทั้งสิบนั้นมันย่อมทำให้เขานั้นไร้คู่ปรับในระดับเดียวกันสิ้น

จะมียอดฝีมือสักกี่คนบ้างเล่าที่รับมือการล้อมโจมตีจากยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนับสิบได้?

เพราะเช่นนั้นเองมันจึงทำให้จงรุยนั้นไม่ถูกเย้ยหยันใดๆ

เมื่อเสียงนั้นส่งมาถึงมันก็ย่อมจะทำให้เกิดกลุ่มคนมากมายเข้ามามุงดู

ชายหนุ่มที่นำกลุ่มคนนั้นมาใส่ชุดสีน้ำเงินเข้มเดินมาชี้หน้าเย่หยวน “ไอ้หนู หากเจ้ายังมีสมองบ้างก็ลงเขาไปเถอะ! อยู่บนนี้ต่อไปเจ้าจะได้ตายเปล่าๆ!”

ชายหนุ่มคนนี้มีพลังที่รุนแรงไม่น้อย ดูท่าแล้วคงอยู่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นกลางทีเดียว

ดูจากท่าทางของเขานั้น เขาคงมีชื่อเสียงไม่น้อยในกลุ่มคนที่มาวันนี้

ส่วนจงรุยนั้นย่อมไม่คิดจะออกมาห้ามใดๆ แค่มองดูเรื่องราวดำเนินไป

เขานั้นเป็นเจ้าบ้านย่อมไล่แขกที่มาเองไม่ได้ แต่หากคนอื่นลงมือเขาก็ย่อมไม่คิดช่วยเหลือใดๆ

“ได้ยินหรือไม่? ผู้อาวุโสเว่ยหยูไล่เจ้าแล้ว? ยังไม่ไปอีก?”

“ไอ้หนู ด้วยพลังฝีมือแค่เท่านี้เจ้าก็คิดหรือว่าจะเข้าไปเสี่ยงโชคในมิติวิเศษได้?”

“เจ้าคิดหรือว่าแค่ขี่พลังกระทิงเหลืองตัวใหญ่แล้วเจ้าจะกลายเป็นดั่งพี่หวูฟาง? ลอกเลียนคนนี้ไม่ดูตัวเองมันมีแต่จะทำให้ดูโง่เง่าเท่านั้น!”

เมื่อเว่ยหยูกล่าวขึ้นนำมันก็ย่อมจะมีเสียงว่าขึ้นตามมาไม่ขาดสาย

เหล่าคนทั้งหลายนั้นบ้างก็มีพลังถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นปลายด้วย

แค่นี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าเว่ยหยูนั้นมีชื่อเสียงสูงล้ำค่าไหน

เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจและถามกลับไปด้วยความอยากรู้แทน “เว่ยหยูคือใครกัน? มันเก่งมากหรือ?”

“ฮ่าๆๆ มันไม่รู้จักแม้แต่ผู้อาวุโสเว่ยหยูแต่ไอ้หนูนี่ก็กล้ามายังนิกายสวรรค์หยกแท้ด้วย!” เสียงหัวเราะลั่นดังขึ้น

ได้เห็นเย่หยวนถูกรุมว่าเช่นนั้นตัวหวูฟางก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมา “น้องเย่ เว่ยหยูนั้นเป็นยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งดินแดนสวรรค์ตะวันเที่ยงจากนิกายสวรรค์เจ็ดดาว! อย่าเพิ่งไปมองว่าเขานั้นมีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นกลางทีเดียว เพราะว่าเขานั้นเก่งกาจพอที่จะเอาชนะได้แม้แต่เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุดทั้งหลาย! เขานั้นเป็นยอดอัจฉริยะหนุ่มที่คนทั้งหลายต่างคาดเดาว่าจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้ในวันหน้า!”

เย่หยวนตอบกลับไปด้วยเสียง ‘อ่า’ แสดงความเข้าใจ

หมายความว่าตัวเว่ยหยูนั้นคงเป็นเหมือนหลัวหยุนชิงแห่งนิกายสวรรค์เจ็ดดาว

แต่เวลานี้หลัวหยุนชิงย่อมจะพัฒนาตัวไปได้เหนือล้ำกว่าเว่ยหยูหลายเท่าแล้ว

“เฮอะ น้องเย่ หากเจ้าให้ต้าหวงกับข้าแล้วนอกจากข้าจะให้อินทรีตาดำปีกม่วงกับเจ้าข้ายังจะช่วยให้เจ้าหลุดพ้นจากกลุ่มคนทั้งหลายนี้ด้วย ว่าอย่างไร?” หวูฟางนั้นรีบกล่าวขึ้นมาทันที

เมื่อเขากล่าวเช่นนี้สีหน้าของคนทั้งหลายก็ต้องเปลี่ยนสีไป

นามของหวูฟางนั้นมิใช่เล่นๆ

เว่ยหยูได้แต่ต้องทำหน้าไม่พอใจกล่าวขึ้น “พี่หวูฟาง ท่านคิดจะเป็นศัตรูกับนิกายสวรรค์เจ็ดดาวข้า?”

แต่หวูฟางนั้นกลับหัวเราะตอบกลับไป “ข้านั้นไม่อยากเป็นศัตรูกับนิกายสวรรค์เจ็ดดาวหรอก แต่นักยุทธเฒ่าคนนี้ชอบเจ้ากระทิงเหลืองตัวนี้มาก! ว่าอย่างไรเล่าน้องเย่?”

เย่หยวนได้แต่ต้องยิ้มตอบกลับไป “ไม่ต้องหรอก ต้าหวง ไปกัน”

เย่หยวนสั่งต้าหวงเดินผ่านหน้ากลุ่มคนทั้งหลายไปอย่างไม่คิดสนใจ

เว่ยหยูนั้นกัดฟันแน่นขึ้นมาทันทีที่ได้เห็น “คนเขาอุตส่าห์ไว้หน้ากลับไม่สนใจ! ตายเสียเถอะ!”

พูดจบเว่ยหยูก็ชักดาบออกมาฟันอย่างรวดเร็ว

“ต้าหวง เหยียบมัน!” เย่หยวนสั่งขึ้นมาทันที

แม้เย่หยวนจะไม่สั่งต้าหวงก็ย่อมไม่คิดนั่งเฉย เขายกเท้าขึ้นมาทันที

เว่ยหยูนั้นเร็วแต่ต้าหวงย่อมเร็วกว่า

กีบเท้าของเขานั้นขยับเคลื่อนไหวอย่างสวยงามประทับเข้าที่กลางหน้าเว่ยหยูทันที

…………………………