ดวงตาที่หลับสนิทได้เปิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน รัศมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวได้แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา

วินาทีที่รัศมีพลังนี้ระเบิดออกมา ได้กลายเป็นลมพายุพัดหวีดหวิว จ้าวตงหลิวที่กำลังจะแทงหอกออกมาเป็นครั้งที่สี่สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที รีบก้าวถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว รูม่านตาหดเล็กลง

หลัวซิวก้มลงมองที่จุดตันเถียนของตนเอง รอยร้าวมากมายได้แตกออก เลือดสด ๆ ไหลออกมา เป็นเพราะได้รับบาดเจ็บจากหอกทั้งสามครั้งของจ้าวตงหลิวเมื่อก่อนหน้านี้นั่นเอง

วินาทีนี้ที่แขนข้างซ้ายของเขา พลังแห่งชีวิตอันมหาศาลได้ปรากฏออกมา อาการบาดเจ็บที่จุดตันเถียนได้ฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงสามลมหายใจเข้าออก ก็ได้ฟื้นฟูกลับมาสมบูรณ์แบบดั้งเดิม

และนี่ก็คือพลังเสริมจากบ่อเกิดพลังชีวิตหลังจากจุดลมปราณที่สิบแปดที่แขนซ้ายได้เปิดอย่างบริบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บที่ร้ายแรงเพียงใด ตราบใดที่ไม่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตในทันที ก็แทบจะพูดได้ว่าเป็นอมตะ พลังในการฟื้นฟูนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

แขนทั้งสองของมนุษย์เป็นตัวแทนของความเป็นตาย แขนซ้ายคือเป็น แฝงไปด้วยพลังชีวิตอันไร้ขีดสุด!

ในขณะเดียวกัน การสัมผัสรู้มากมายได้ปรากฏขึ้นมาในสมองของหลัวซิว จากการเสริมของพลังชีวิตอันไร้ขีดสุด ผู้เป็นอมตะของเขาก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการ กลายเป็นร่างอมตะ!

“เจ้าหนุ่ม เจ้าก่อความวุ่นวายมากพอหรือยัง” สายตาของหลัวซิวได้จับจ้องไปยังร่างของจ้าวตงหลิว

หลังจากที่คนผู้นี้เข้ามาก็ได้ลงมือกับตนเองทันที ทุกการกระทำล้วนเต็มไปด้วยไปสังหาร ต้องการที่จะเอาชีวิตของเขา

สำหรับคนประเภทนี้ หลัวซิวจะไม่ยั้งมือเลยสักนิด ไม่ว่าเจ้าจะเป็นผู้ใดมาจากไหน คิดจะเอาชีวิตข้าก็จะต้องเตรียมใจที่จะถูกข้าสังหาร

“เจ้าช่างบังอาจนัก ถึงได้กล้าพูดกับข้าเช่นนี้” จ้าวตงหลิวสีหน้าดำคล้ำ คนผู้นี้ดูมีอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดเหมือนกับตัวเอง แต่กลับกล้าเรียกตนว่าเจ้าหนุ่มอย่างโอหัง มันทำให้ความต้องการฆ่าที่อยู่ภายในใจของจ้าวตงหลิวลุกโชน

“อายุไม่มาก ปากกล้าไม่น้อย”

หลัวซิวทำเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา เงาร่างวิบวับ ปรากฏตัวขึ้นใกล้กลับจ้าวตงหลิว และยกมือขึ้นซัดออกไปหนึ่งฝ่ามือ

“ผลัวะ!”

ฝ่ามือที่ดูเหมือนจะง่าย จ้าวตงหลิวกลับไม่สามารถต้านทานได้เลย รู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของร่างตนนั้นได้ลดช้าลงไปหลายเท่า ได้แต่มองฝ่ามือของอีกฝ่าย ตบลงไปบนใบหน้าของตนเองโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้

“เจ้า……เจ้ากล้าตบหน้าข้า?” ความเยือกเย็นปรากฏขึ้นมาในดวงตาของจ้าวตงหลิว ปรากฏไอสังหารอันแรงกล้าออกมา

ผลัวะ!

หลัวซิวตบลงไปอีกหนึ่งฝ่ามือ ตบจนเลือดไหลซึมออกมาที่มุมปากของเขา ฟันลอยออกมาอีกหลายเล่ม

“แน่จริงเจ้าก็ฆ่าข้าเสีย! แต่เจ้ากล้าหรือ?” ความอำมหิตจ้าวตงหลิวได้ปรากฏขึ้นมาในดวงตาของเขา

“ในโลกใบนี้ไม่มีผู้ใดที่ข้าไม่กล้าสังหาร เจ้าเชื่อหรือไม่?” หลัวซิวยิ้มอย่างเย้ยหยัน ไอสังหารกลุ่มหนึ่งได้ปรากฏออกมาจากดวงตาของเขา

ไอสังหารกลุ่มนี้มีไม่มาก แต่กลับทำให้จ้าวตงหลิวรู้สึกเหมือนดั่งได้ตกสู่ห้องน้ำแข็ง ทำให้เขาเกิดความรู้สึกสะพรึงกลัวขึ้นมาภายในใจของเขา

หลัวซิวยื่นมือออกไปคว้า กฎปริภูมิได้ผนึกรวมเป็นเงากระบี่ขึ้นมาที่มือของเขา เงากระบี่สายนี้สามารถฟันปริภูมิออกได้ ทำลายทุกอย่าง

ในตอนที่เขากำลังจะสังหารจ้าวตงหลิวในกระบี่เดียวนั่นเอง จู่ ๆ ความรู้สึกถึงอันตรายบางอย่างก็ได้ครอบงำหัวใจของเขา

เขาสัมผัสได้ว่าที่ตัวหยั่งรู้ตรงกลางระหว่างคิ้วของจ้าวตงหลิว มีกระแสพลังอันน่าสะพรึงกลัวอยู่กลุ่มหนึ่ง ขอแค่เขาลงมือสังหารคนผู้นี้ กระแสพลังกลุ่มนี้ก็จะระเบิดออกมา!

มันทำให้หลัวซิวนึกถึงเรื่องเล่าบางอย่างขึ้นมา ในตระกูลที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังบางตระกูล ผู้แข็งแกร่งจะใส่พลังอมตะคุ้มครองไว้ในร่างกายของลูกศิษย์ที่สำคัญ

ตระกูลเจ้า เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังที่สุดในโลกะอัมพรเทว ในตระกูลมีอาจารย์มกุฎเทพประจำตำแหน่ง จ้าวตงหลิวผู้นี้อายุไม่ถึงร้อยปีก็สามารถฝึกตนถึงราชาเทพได้ เป็นที่ประจักษ์ว่าเขามีพรสวรรค์เพียงใด บางทีในร่างกายอาจจะมีพลังอมตะของผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพอยู่ก็ได้

พลังอมตะจะไม่ถูกกดจากกฎเกณฑ์ของตำหนักวัฏสงสาร หากว่าระเบิดออกมา เขาจะต้องไม่สามารถต้านทานได้แน่