ตอนที่ 1650: ก่อนเจรจา (4)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1650: ก่อนเจรจา (4)

เจี้ยนเฉินจมลงกับการไตร่ตรองหลังจากที่เขาคุยกับเถี่ยต้า เขาไม่คิดเลยว่าโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งที่เรียกตัวเองว่าเซียนที่ถูกทอดทิ้งจะมีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แม้กระทั่งเผ่าเทพก็พยายามดึงพวกเขามาเป็นพวก เขาอดไม่ได้ที่จะประเมิณโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งใหม่

เจี้ยนเฉินคิดอยู่พักหนึ่ง มีแสงที่วูบวาบผ่านในดวงตาของเขา ซ่างกวนมู่เอ๋อและซ่างกวนเอ๋อเจี้ยน ไม่ได้รบกวนเขาเมื่อพวกเขาเห็นว่าเขาอยู่ในภวังค์ความคิด

ไม่นานเจี้ยนเฉินก็ตัดสินใจ เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่และมองไปที่ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนและซ่างกวนมู่เอ๋อ เขากล่าวว่า ไปทวีปเทียนหยวนกันเถอะ

เห็นได้ชัดว่าซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนเห็นด้วยกับคำแนะนำนี้อย่างมีความสุข เขาต้องการที่จะรับการยอมรับจากปู่และย่าของเขาโดยเร็วที่สุด ในช่วงเวลาที่เขาท่องไปในทวีปเทียนหยวน เขาได้เดินทางไปยังตระกูลเจียงหยางหลายครั้ง ในขณะที่เขายังเป็ยนายน้อยแห่งเกาะสามเซียน เจียงหยางป้าและไป๋หยุนเทียนก็ได้มาต้อนรับเขาด้วยตัวเองทุกครั้ง เขาจึงเห็นหน้าปู่และย่าทุกครั้ง อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้สัมผัสถึงความรู้สึกถึงความรักและความกังวลใด ๆ ที่เขาต้องการ พวกเขาเพียงแค่ทำตัวสุภาพและเคารพ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าเขาเป็นนายน้อยแห่งเกาะสามเซียน

นี่ไม่ใช่สิ่งที่ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนอยากจะเห็น เขาจะยอมรับความสุภาพของคนอื่นอย่างมีความสุขและไม่รู้สึกลำบากใจใด ๆ โดยไม่มีความรู้สึกอึดอัด อย่างไรก็ตามซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนไม่อาจยอมรับความสุภาพที่มาจากปู่และย่าของเขาได้ มันทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงและเต็มไปด้วยความรู้สึกขมขื่น

เจี้ยนเฉินออกจากเกาะสามเซียนกับซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนและซ่างกวนมู่เอ๋อ เมื่อทั้งสองออกไป เสี่ยวเหยียนและเสี่ยวเยี่ยเดินออกมาจากอีกด้านหนึ่งพร้อมกับฉินฉิน ทั้งสองมองไปที่ฉินฉินและลอบถอนใจพร้อมกัน

หลายสิบปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ฉินฉินได้เริ่มต้นการเดินทางด้านการบ่มเพาะของนางและบรรลุความสำเร็จค่อนข้างมาก ดังนั้นนางจึงมีอายุที่ยืนยาวขึ้น ผลที่ตามมาก็คือนางดูเหมือนกับเมื่อก่อนที่ยังคงบริสุทธิ์และงดงามราวกับเด็กสาวอายุ 20 ปี มีความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือตอนนี้นางแสดงออกถึงความเป็นผู้ใหญ่

ฉินฉินมองไปยังทิศทางที่เจี้ยนเฉินจากไปและถอนหายใจ อารมณ์ที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ในใจของนางก็เผยออกมาเช่นกัน

ฉินฉินหลงรักเจี้ยนเฉินจริง ๆ และแม้แต่เสี่ยวเหยียนและเสี่ยวเยี่ยก็รู้ อย่างไรก็ตามนางเข้าใจถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในหลายสิบปีที่ผ่านมา และนางก็รู้ว่านางไม่มีวาสนากับเจี้ยนเฉินในชีวิตนี้ ดังนั้นางจึงเก็บอารมณ์ความรู้สึกของนางไว้ในส่วนลึกและผนึกมันด้วยความเย็นชา

เจี้ยนเฉินกลับไปที่ตระกูลเจียงหยางในเมืองลอร์พร้อมกับซ่างกวนมู่เอ๋อและซ่างกวนเอ๋อเจี้ยน คราวนี้พวกเขาทั้งสามไม่ได้บินตรงเข้ามา พวกเขาได้เดินเข้ามาด้านหน้าแทน

การปรากฎกายของเขาสร้างความตื่นตระหนกกับทหารยามที่อยู่หน้าทางเข้าหลักของตระกูล พวกเขาทั้งหมดคุกเข่าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ พวกเขาสงสัยว่านายน้อยสี่วางแผนที่จะทำอะไรถึงได้เข้ามาทางเข้าหลักโดยตรง ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลประตูหน้า พวกเขาไม่เคยเห็นเจี้ยนเฉินเข้ามาทางนี้เลย ทุกครั้งเขาจะเคลื่อนไหวอย่างลึกลับและปรากฏในตระกูลก่อนที่จะหายตัวไปอีกครั้ง ทำให้เป็นไปไม่ได้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเขาไปที่ใด

ข้าต้องการพบท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าสำหรับธุระบางอย่าง โปรดส่งคนไปบอกพวกด้วย เจี้ยนเฉินสั่งทหารทันทีที่เขาก้าวเข้าในตระกูล

ขอรับ ข้าน้อยจะบอกอดีตหัวหน้าตระกูลและฮูหยินผู้เฒ่าทันที หนึ่งในทหารรู้สึกสับสนต่อการกระทำที่ผิดปกติของนายน้อย แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะลังเลและมีข้อสงสัย เขาตอบรับอย่างนอบน้อนก่อนที่จะวิ่งเข้าไปข้างในโดยเร็วที่สุด เขาหายไปในพริบตา

เจี้ยนเฉินนำซ่างกวนมู่เอ๋อและซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนเข้าไปในตระกูลผ่านทางประตูหน้าตรง ๆ ทั้งสามคนไม่ได้เดินเร็วนัก เขาเดินด้วยความเร็วแบบคนธรรมดา โดยไม่มีข้อยกเว้นทหารทั้งหมดที่พวกเขาเจอจะคำนับให้กับคนทั้งสาม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเคารพ

ตระกูลเจียงหยางได้ขยายตัวมาหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ได้มีพื้นที่เพิ่มมากเกินไปนัก ไม่นานเจี้ยนเฉินก็เข้าสู่ห้องโถงกับซ่างกวนมู่เอ๋อและซ่างกวนเอ๋อเจี้ยน ในเวลาเดียวกันไป๋หยุนเทียนและเจียงหยางป้าได้รับข้อความจากทหารและออกมาจากบริเวณต้องห้าม พวกเขาเข้าไปในห้องโถงเช่นกัน

เจี้ยนเฉินไล่ทหารที่อยู่ทั้งที่ลับและที่แจ้งออกไปจากห้องโถง ดังนั้นจึงเหลือเพียง 5 คนเท่านั้นที่เหลืออยู่

ฮ่าฮ่า นายหญิงและนายน้อยจากเกาะสามเซียนมาเยี่ยม ข้าไม่อาจมาต้อนรับท่านได้เร็วนัก โปรดยกโทษให้ข้าด้วย เซียงเอ๋อ ทำไมเจ้าไม่บอกพ่อว่านายหญิงได้มาเยี่ยม ? ข้าจะได้เตรียมตัวสักหน่อย เจียงหยางป้าป้องมือทักทายซ่างกวนมู่เอ๋อเมื่อเขาเห็นนาง เขาไม่สามารถทำตัวแย่ได้ แต่เขาก็ยังโทษเจี้ยนเฉินเพียงเล็กน้อย

แม้ว่าลูกชายของเขาเป็นสุดยอดจอมยุทธของโลกตอนนี้ นายหญิงจากเกาะสามเซียนก็ยังคงเป็นจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิม นางมีพลังมากเสียจนนางอยู่ที่สองทั้งในชื่อเสียงและความแข็งแกร่ง ในความจริงการที่นางยับยั้งระหว่างการเจรจาของทั้งสองโลกในขณะที่เจี้ยนเฉินเก็บตัวบ่มเพาะ นางยังหยุดยั้งไม่ให้จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งไม่อาจทำอะไรที่มันโจ่งแจ้งได้ เป็นผลทำให้เจียงหยางป้าเชื่อว่าเขาควรจะจัดพิธีต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ให้สมกับตัวบุคคล นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะต้อนรับใครบางคนเช่นนายหญิงแห่งเกาะสามเซียน

เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างลึกลับ เขาไม่ได้ตอบคำถาม เขาหันหน้าไปทางซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนและพูดว่า เสี่ยวเป่า ทำไมยังไม่คารวะท่านปู่และท่านย่าของเจ้า

ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนไม่ลังเลที่จะก้าวมาด้านหน้าและคุกเข่าลงพร้อมกับพูดว่า หลานชายคารวะ ท่านปู่และท่านย่า

ฉากนี้ทำให้เจียงหยางป้าและไป๋หยุนเทียนตกตะลึงทันที พวกเขาทั้งสองจ้องมองไปที่นายน้อยแห่งเกาะสามเซียนที่กำลังคุกเข่าอย่างไม่อยากจะเชื่อ คำพูดของเขาเปรียบดั่งกับเสียงสายฟ้าฟาด มันทำให้เขาตกตะลึงจนถึงขั้นงงงวย พวกเขาพยายามควบคุมสติให้อยู่กับตัว

“เซียงเอ๋อ นี่คืออะไร ? นายน้อยแห่งเกาะสามเซียน นายน้อยแห่งเกาะสามเซียนคือใคร ? ไป๋หยุนเทียนรู้สึกราวกับว่าจิตใจของนางยุ่งเหยิงจนทำให้นางไม่อาจคิดอะไรได้ลึกซึ้งนัก

เจี้ยนเฉินหัวเราะ ท่านแม่ ทำไมยังเรียกเขาว่านายน้อยแห่งเกาะสามเซียน ? นายน้อยแห่งเกาะสามเซียนเป็นลูกชายของข้าและเขาก็เป็นหลานชายของท่าน ข้าเพิ่งจะบอกถึงความลับที่ข้าเก็บเอาไว้โดยไม่มีสาเหตุและไม่มีใครในทวีปเทียนหยวนรู้จักตัวตนของเขา

หา ! นายน้อยแห่งเกาะสามเซียนเป็นบุตรชายของเซียงเอ๋อ ? นะ-นี่ ดวงตาของไป๋หยุนเทียนเบิกกว้างและหัวใจของนางปั่นป่วน นางไม่คิดเลยจริง ๆ ว่านางมีหลานชายและหลานชายของนางก็โตขึ้นมากแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นนางยังได้พบกับเขามาหลายครั้งแล้ว

เจียงหยางป้าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นางก็ตกใจมากเช่นเดียวกัน เขาจ้องมองไปที่ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนและไม่อาจรักษาความสงบได้อีกต่อไป อย่างไรก็ตามไม่นานเขาก็นึกขึ้นและถามทันที มารดาของเด็กคือ…

มู่เอ๋อคารวะท่านพ่อท่านแม่ ซ่างกวนมู่เอ๋อคำนับเจียงหยางป้าและไป๋หยุนเทียน