ตอนที่ 1651: ก่อนเจรจา (5)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1651: ก่อนเจรจา (5)

เจียงหยางป้าและไป๋หยุนเทียนต่างก็ตกตะลึง พวกเขาจ้องมองไปที่ซ่างกวนมู่เอ๋ออย่างงุนงง ในขณะนั้นพวกเขาก็พบว่าหัวใจของเขาราวกับจะหยุดเต้น

นายหญิงแห่งเกาะสามเซียนนั้นเลืองชื่อไปทุกที่และสามารถได้ยินอย่างต่อเนื่อง ย้อนกลับไปเจี้ยนเฉินเก็บตัวบ่มเพาะและจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมทั้งสองโลกกำลังเจรจา จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมฝั่งทวีปเทียนหยวนก็เต็มไปด้วยความกลัว เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิม ที่ตั้งของการเจรจาก็เป็นจวนเจ้าเมืองของเมืองอัคนี มันได้บ่งชี้ว่าจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมของโลกรู้สึกถึงความกดดันต่อจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมของต่างโลกมากเพียงใด

ในระหว่างการเจรจาจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมของทวีปเทียนหยวนสามารถที่จะเห็นได้ถึงความกลัวต่อนายหญิงแห่งเกาะสามเซียน นั่นจึงทำให้จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมต่างโลกไม่กล้าที่จะลองดีหรือข่มขู่พวกเขาในระหว่างการเจรจานี้ ไม่ใช่เพราะเมืองอัคนี แต่เพราะนายหญิงแห่งเกาะสามเซียน

ท้ายที่สุดเมืองอัคนีจะหยุดกลุ่มของเฉียงซ่งไม่ให้เกิดการต่อสู้และทำลายสถานที่ หากผลลัพธ์ทำให้พวกเขาไม่พอใจ เขาอาจจะใช้กำลังข่มขู่หรือแม้แต่กดดันตัวแทนจากโลกนี้ ไม่จำเป็นสำหรับพวกเขาที่จะทำมันอย่างสุภาพและหวาดกลัว คนที่ยับยังจริง ๆ คือนายหญิงแห่งเกาะสามเซียน

แม้ว่าเจียงหยางป้าและไป๋หยุนเทียนจะไม่เคยเข้าไปเจรจา แต่พวกเขาก็รู้รายละเอียดอย่างมาก เนื่องจากตัวตนของพวกเขา

เหตุผลที่ทำให้ทั้งคู่รู้สึกเคารพจากก้นบึ้งของจิตใจต่อนายหญิงแห่งเกาะสามเซียน แม้ว่านางจะไม่ได้ทรงพลังเท่ากับลูกชายของนาง แต่การคงอยู่ของนางก็สามารถขัดขวางจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมจากต่างโลกได้ทั้งหมดนอกจากจิตวิญญาณราชันย์

ถึงอย่างนั้นนายหญิงแห่งเกาะสามเซียนที่พวกเขานับถือก็ได้มาเรียกพวกเขาว่าท่านพ่อท่านแม่ มันทำให้พวกเขาตกใจจนวิญญาณแทบจะหลุดจากร่าง

ท…ท…ท่านเป็นแม่ของเด็กคนนี้ ? เจียงหยางป้าเพิ่งฟื้นสิตหลังจากผ่านไปนาน เขาจ้องมองไปที่ซ่างกวนมู่เอ๋อทันทีพร้อมกับมีความตกใจอยู่เต็มใบหน้าของเขา

เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้ ราชันหญิงที่ผู้คนให้ความเครารพอย่างมาก จริง ๆ แล้วเป็นลูกสะใภ้ของพวกเขา

ซ่างกวนมู่เอ๋อจ้องมองไปที่ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนและพยักหน้าอย่างอ่อนโยนขณะที่นางเห็นว่าพ่อสามีและแม่สามีตกใจอย่างนี้

เจียงหยางป้าอ้าปากค้างทันทีหลังจากที่ได้รับการยืนยันจากนาง หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างมากในตอนนี้ ตามหลักแล้วหัวใจของเขาไม่เคยที่จะเต้นได้เร็วขนาดนี้มาก่อน ตอนนี้พวกเขารู้สึกตกใจอย่างมาก เมื่อพวกเขารู้ว่าลูกชายของพวกเขานั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าจิตวิญญาณราชันย์

งะ…งั้นเจ้าก็คือหลานชายของข้าจริง ๆ น้ำตาไหลพรากออกมาจากดวงตาของไป๋หยุนเทียน อารมณ์ของนางเมื่อมองไปที่ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนอย่างดีใจ นางอดไม่ได้ที่จะหยิบถุงหอมของซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนที่มอบให้นางออกมากำไว้แน่น

ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนได้สร้างถุงหอมนี้ด้วยตัวเอง เขาใช้สมบัติสวรรค์จำนวนมาก ราคาของสมบัติสวรรค์ที่ทำถุงหอมใบนี้มีมากเสียจนคนอื่นต้องตกใจหากได้ยิน ตอนนี้ไป๋หยุนเทียนรู้ว่าถุงหอมใบนี้เป็นของขวัญจากหลานชายของนาง ดังนั้นถุงหอมใบนี้ของนางจึงล้ำค่ามากขึ้นหลายต่อหลายเท่า

..

เมื่อเห็นว่าไม่ต้องเก็บความลับของซ่างกวนมู่เอ๋อและซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนอีกต่อไป ไม่นานข่าวเหล่านี้ก็แพร่กระจายออกไปทั่วทั้งตระกูลเจียงหยาง ซึ่งทำให้พวกเขาตกใจอย่างมาก คนที่ตกตะลึงมากที่สุดคือเจียงหยางเค่อ เขาทำเพียงแค่ลอบถอนใจเท่านั้น

หลังจากนั้นไม่นานข่าวนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วทวีปเทียนหยวนราวกับไฟไหม้ป่า มันแพร่กระจายออกไปทั่วทั้งสามเผ่าพันธุ์และทำให้ทุกคนประหลาดใจ ผู้คนนับไม่ถ้วนถอนหายใจด้วยความตกใจ

ในเมืองอัคนี เด็กสาวคนหนึ่งกำลังเดินผ่านถนนที่เต็มไปด้วยคนพลุกพล่านพร้อมกับเด็กชายคนหนึ่ง พวกเขาเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้อย่างต่อเนื่อง เมื่อใดก็ตามที่นางเห็นบางอย่างต้องตา นางก็จะซื้อมันโดยไม่ลังเล ไม่ว่ามันจะราคาเท่าใด นางเป็นคนฟุ่มเฟือยมากจนเหล่าทายาทตระกูลใหญ่และตระกูลมั่งคั่งหลายคนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

ทั้งสองคนนั้นดูเหมือนจะเป็นสองในสามคนจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมที่ปกป้องเมืองอัคนี เสี่ยวจินและเสี่ยวหลิง อย่างไรก็ตามในตอนนี้พวกเขาได้แปลงโฉม ดังนั้นมีเพียงคนที่รู้นิสัยของพวกเขาเป็นอย่างดีเท่านั้นที่จะจำพวกเขาได้

การสนทนาเกี่ยวกับตัวตนอื่นของซ่างกวนมู่เอ๋อและซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนถูกพูดกันไปทั่วเมือง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งสองก็ได้ยินเรื่องนี้เช่นกัน

หืม ? ? นายน้อยเกาะสามเซียนแท้จริงแล้วเป็นลูกชายของพี่ใหญ่ เสี่ยวหลิงพึมพำ นางคิดนิดนึงก่อนที่จะพูดกับเสี่ยวจินว่า น้องเสี่ยวจิน เราไปที่ตระกูลเจียงหยางกันเถอะ

ได้เลย พี่เสี่ยวหลิง เสี่ยวจินถอนหายใจเล็กน้อย เขาทำอะไรไม่ได้เลย ในฐานะจิตวิญญาณที่มีคุณสมบัติ ร่างกายของเขาเติบโตช้ามาก แต่จิตใจของเขาไม่เหมือนกับเสี่ยวหลิงซึ่งไม่อาจเติบโตได้อย่างถาวร แม้ว่าเสี่ยวจินจะดูเหมือนกับเด็กน้อย แต่เขาก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะโตแค่ไหน เสี่ยวหลิงก็มักจะทำกับเขาราวกับเป็นเด็กน้อยเสมอและดึงเขาไปทั่วทุกที่

คราวนี้ชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งเบ่มเพาะอยู่ในบริเวณต้องห้ามในจวนเจ้าเมือง พลังงานดั้งเดิมกระจายไปรอบ ๆ ตัวเขาและมีแรงกดดันจากเขาแผ่กระจายเป็นครั้งคราว

ชายหนุ่มคนนี้เป็นเสือขาวในร่างมนุษย์ ซึ่งแตกต่างจากเสี่ยวหลิงและเสี่ยวจิน เขาบ่มเพาะอย่างหนัก เขาไม่ใช้เวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ โดยทั่วไปแล้วเขาใช้เวลาบ่มเพาะตลอดเวลานอกเหนือจากการอยู่กับแม่ เขาจะไม่หยุดบ่มเพาะจนกว่าจะมีเรื่องสำคัญ ๆ เกิดขึ้น

ในเวลานีดวงตาของเสือขาวเปิดขึ้น ในขณะที่เขาทำอย่างนั้นพื้นมิติที่รอบ ๆ ตัวเขาก็แตกสลายหายไป เพียงแค่จ้องมองอย่างเดียวก็ทำลายสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ได้ เมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งในอดีต เขาแข็งแกร่งขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด

นายน้อยแห่งเกาะสามเซียนเป็นลูกของพี่ชายข้า ข้าต้องไปแสดงความยินดีกับเขา หลังจากที่เขาประกาศ เสือขาวพึมพำ ไม่นานเขาก็หายไป

ปัจจุบัน เถี่ยต้าที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ในโถงเทพเจ้าสงคราม เขาเปล่งประกายแสงสีทองอย่างเนื่องแน่น แสงได้กระจายไปทั่วทั้งโถงเทพเจ้าสงครามราวกับว่ามันได้หลอมรวมจนเข้าเป็นโถงสีทอง

มีผู้อาวุโสเซียนจักรพรรดิกว่า 20 คนในโถงอยู่ใต้บัลลังก์ ทุกคนหลับตา พวกเขายังคงบ่มเพาะและดูดซับแสงสีทองน้อย ๆ จากเถี่ยต้า

ทันใดนั้นดวงตาของเถี่ยต้าก็ลืมขึ้น ความหนาแน่นของแสงสีทองรอบ ๆ ตัวเขาก็ค่อย ๆ หายไปก่อนที่จะหายไปอย่างสมบูรณ์ โถงศักดิ์สิทธิ์กลับไปสู่สภาพเดิม

ผู้อาวุโสใต้บัลลังก์ทุกคนก็หยุดการบ่มเพาะในเวลาเดียวกัน พวกเขาลืมตาและมองไปที่เถี่ยต้าอย่างสุภาพ

เตรียมของขวัญดี ๆ ! ข้ากำลังไปที่ตระกูลเจียงหยาง เถี่ยต้าหัวเราะเบา ๆ และลุกขึ้นออกคำสั่ง

น้อมรับคำสั่ง ! ข้าจะไปเตรียมพวกมันทันที ผู้อาวุโสในห้องตอบทันทีและออกไปอย่างสุภาพ