ตอนที่ 1652: การรวมตัวของผู้แข็งแกร่ง (1)
ในเวลาเดียวกันเทพเจ้าแห่งท้องทะเล, หยางลี่, กุยไฮ่ยี่เต่า, เฟิงเซียวเทียน, ฮุสตันและสี่พี่น้องต่างก็รีบเร่งมาที่ตระกูลเจียงหยาง พวกเขามาแสดงความยินดีกับเจี้ยนเฉิน
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะไม่ได้วางแผนอะไรเป็นพิเศษเพื่อฉลอง แต่การประกาศตัวตนของซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนในฐานะบุตรชายของเจี้ยนเฉินก็เหมือนกับการกลับบ้านบรรพบุรุษตามธรรมเนียมของทวีปเทียนหยวน แม้แต่คนทั่วไปก็จะจัดงานฉลองบางอย่าง นี่ไม่ต้องพูดถึงว่าเจี้ยนเฉินและซ่างกวนมู่เอ๋อที่เป็นราชันคนที่สองของโลก เป็นผลทำให้บรรพชนจากตระกูลใหญ่รวมถึงองค์กรมากมายที่ไม่ได้รับเชิญต่างก็มากันมากมายจากทั่วโลกพร้อมกับของขวัญ แม้แต่ผู้นำตระกูลเทียนฉิน, ฉินเซียว, หัวหน้าตระกูลเทียนมู่, เทียนมู่หลิง, อาณาจักรฉินหวง, ฉินจี๋, กวานหยูไค่, คารา ลี่เว่ย, ผู้นำและผู้อาวุโสจากสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงก็มา หลายคนคุ้นเคยกับเจี้ยนเฉินทั้งหมด ท้ายที่สุดเจียงหยางป้าและไป๋หยุนเทียนก็ทำให้เจี้ยนเฉินไม่อาจปฏิเสธงานฉลองได้ พวกเขาจัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่เพื่อต้อนรับแขก
ทุกคนแยกย้ายกันไปหลังจากเฉลิมฉลอง แต่สี่พี่น้องยังอยู่
เจี้ยนเฉินรู้ว่าสี่พี่น้องต้องการอะไร หลังจากที่ทักทายพวกเขา เขาก็พาพวกเขาออกจากตระกูลเจียงหยางและนำเขาไปกลางภูเขาที่ห่างไกล
มีสัตว์อสูรสองสามตัวอาศัยอยู่ในภูเขา แต่พวกมันไม่ได้มีพลังมากนัก ที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นสัตว์อสูรระดับ 6 เท่านั้น ด้วยการปรากฏตัวที่แข็งแกร่งของสี่พี่น้องที่แผ่ออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทำให้สัตว์อสูรเหล่านี้หวาดกลัวเมื่อพวกเขามาถึง
เจี้ยนเฉินยื่นมือขวาและหอคอยขนาดหนึ่งนิ้วก็ปรากฏขึ้น กระบี่ที่ถูกหอคอยผนึกไว้แต่ละเล่มก็ส่องสว่างขึ้น มันเกิดเป็นค่ายกลที่ทรงพลังที่ผนึกทั้งสองเอาไว้
หอคอยแห่งนี้เป็นสมบัติจากโลกที่สูงกว่าที่เจี้ยนเฉินพบในทะเลแห่งความสิ้นหวัง หอคอยอนัตตาของอัครสูงสุดอนัตตา
สี่พี่น้องจ้องไปที่หอคอยทันทีที่มันปรากฏ พวกเขาสนใจและสับสน
นี่เป็นเพราะพวกเขาทั้งสี่รู้สึกถึงความคลุมเครือจากหอคอย
นี่เป็นเหตุผลที่เจ้ามาหาข้า อาจเป็นเพราะหอคอยนี้ใช่หรือไม่ ? เจี้ยนเฉินจ้องไปที่สี่พี่น้องและพูดอย่างใจเย็น
สี่พี่น้องไม่ตอบ ความสนใจของพวกเขาจดจ่ออยู่กับหอคอยอนัตตาอย่างสมบูรณ์ พวกเขาถูกดึงความสนใจ
เพียงแค่การเคลื่อนไหวเดียวของเจี้ยนเฉิน หอคอยอนัตตาในมือของเขาก็ลอยขึ้นไปบนอากาศ จากนั้นภายใต้การควบคุมของเจี้ยนเฉิน หอคอยก็ขยายอย่างรวดเร็วบนอากาศและใหญ่ขึ้นกว่าพันเมตรอย่างฉับพลัน
ตูม !
หอคอยอนัตตากระแทกพื้นอย่างแรงหลังจากที่ขยายตัว พื้นดินสั่นอย่างรุนแรง น้ำหนักของหอคอยก็เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่ออกจากมือของเจี้ยนเฉิน มันจมลงไปในดินอย่างรวดเร็ว
เจี้ยนเฉินส่ายหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก เมื่อเขามองหอคอยอนัตตาจมลงไปกว่าสามเมตร เขายังไม่ได้ขัดเกลาหอคอยอนัตตาอย่างเต็มที่ ดังนั้นมันจึงมีปัญหาทุกครั้งที่เขาวางมันลง หอคอยมีน้ำหนักเบาราวกับขนนกเมื่ออยู่บนมือของเขา แต่น้ำหนักทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นทันทีเมื่อมันออกห่างจากมือหลังจากที่มันขยาย ยิ่งมีขนาดใหญ่เท่าไร มันก็ยังหนักมากขึ้น ไม่อย่างนั้นหอคอยอาจจะจมลงไปถึงแกนกลางของโลกถ้ามันมีขนาดเพียงนิ้วเดียว
เข้าไปข้างในกับข้า ! เจี้ยนเฉินโบกมือให้สี่พี่น้องก่อนที่จะบินผ่านประตูของหอคอย
สี่พี่น้องเหลือบมองไปที่หอคอยที่ชำรุดซึ่งสูงเสียดเมฆอย่างตกใจก่อนที่จะบินตามเจี้ยนเฉินไป
หอคอยอนัตตามีทั้งหมด 9 ชั้น ทั้งเก้าชั้นมีรอยร้าวบางแห่งพร้อมกับปราณกระบี่ที่บินโฉบไปมาจากทั้งสี่ทิศทางที่แตกต่างกัน
เจี้ยนเฉินพาสี่พี่น้องไปที่ปราณกระบี่ทางตะวันออกของชั้นแรก เขาจ้องไปที่ปราณกระบี่ขนาดใหญ่และพูดว่า เจ้าควรถูกนำมาโดยหอคอยอนัตตา เหตุผลทั้งหมดเป็นเพราะปราณกระบี่เหล่านี้ เจ้านายของปราณกระบี่เหล่านี้ถูกเรียกว่านิพพานอมตะเที่ยงแท้ สุดยอดจอมยุทธของโลกอื่น ข้าไม่รู้วิธีการบ่มเพาะของเจ้ามาจากไหน แต่มันเกี่ยวข้องกับนิพานอมตะเที่ยงแท้อย่างแน่นอน เขาอาจสร้างมันขึ้นมา อย่างไรก็ตามนิพพานอมตะเที่ยงแท้ทิ้งปราณกระบี่ทั้งหมดไว้ในหอคอยอนัตตา ดังนั้นพวกเขาจึงมีต้นกำเนิดเดียวกับเจ้าและอาจเป็นเพราะเหตุนี้ที่เจ้าถูกดึงดูดมา
นิพพานอมตะเที่ยงแท้ มีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด 4 เล่มคือ กระบี่แห่งความเป็นอมตะ, กระบี่แห่งการเกิดใหม่, กระบี่แห่งการสังหารและกระบี่แห่งการตัดขาด กระบี่ทั้ง 4 มีบางอย่างที่เหมือนกันกับกระบี่ในมือของเจ้า….
นี่เป็นเหตุผลที่เจ้าสามารถตัดผ่านมายังขอบเขตดั้งเดิมกำเนิดในระหว่างการต่อสู้ มันควรจะเกี่ยวข้องกับปราณกระบี่ของนิพพานอมตะเที่ยงแท้ที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ก่อนหน้านี้ข้าสยบหอคอย ปราณกระบี่ทั้งสี่เล่มนี้ช่วยข้าไว้ พวกมันถูกซ่อนอยู่ในมือของข้าและในระหว่างการต่อสู้ของเจ้ากับวิกฤตโลก ปราณกระบี่ทั้ง 4 นี้ได้บินออกมาจากมือของข้าด้วยตัวของมันเอง พวกมันหลอมรวมกับพวกเจ้า ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเจ้าถึงตัดผ่านระดับพร้อม ๆ กันในเวลานั้น… เจี้ยนเฉินอธิบายกับสี่พี่น้อง
เจี้ยนเฉิน นิพพานอมตะเที่ยงแท้เป็นคนจากโลกที่สูงกว่างั้นหรือ ? อาต้าถาม
เจี้ยนเฉินพยักหน้า ใช่ นิพานอมตะแท้เป็นคนจากโลกที่สูงกว่า แต่เขาไม่ได้เป็นคนจากโลกเซียน เขามาจากโลกอมตะซึ่งเป็นโลกที่ต่อต้านโลกเซียนรวมถึงจอมยุทธชั้นยอดจากโลกอมตะ ความแข็งแกร่งของเขาเกินกว่าจินตนาการของเรา เจี้ยนเฉินถอนหายใจและมองบนฟ้า เมื่อเขาพูดมาถึงตรงนี้ น้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนเป็นเศร้าโศก โชคไม่ดีที่ความรุ่งโรจน์ของเขาได้กลายเป็นเรื่องในอดีตเพราะเขาจากไปนานแล้ว เขาตายระหว่างสนามรบของทั้งสองโลก
เมื่อได้ยินว่านิพพานอมตะเที่ยงแท้คนนั้นตายไปแล้ว ความรู้สึกของสี่พี่น้องก็ผสมปนเปกัน พวกเขารู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดของวิถีบ่มเพาะของพวกเขา แต่ต้นกำเนิดของเขาก็จากไปแล้วอย่างน่าเสียดาย
สิ่งที่เจ้าเห็นตอนนี้คือปราณกระบี่ของกระบี่แห่งการตัดขาด หากเจ้ามองดูมันจะคล้ายกับกระบี่แห่งการตัดขาด จ้าอยากจะรู้ว่าเจ้าสามารถเชื่อมต่อกับปราณกระบี่ หากเจ้าสามารถดูดซับปราณกระบี่ได้มันก็จะดียิ่งขึ้น เจี้ยนเฉินมองไปที่อาต้าอย่างสนใจเพราะเขาเป็นคนที่กระตือรือร้นคนแรก นอกจากการตอบสนองจากคำถามของสี่พี่น้องแล้ว เขายังนำทางสี่พี่น้องมาที่หอคอยอนัตตาด้วยเหตุผลนี้ เขาต้องการดูว่าสี่พี่น้องจะกำจัดปราณกระบี่ถ้ามันเป็นไปได้
ปราณกระบี่ทั้งหมดถูกผนึกไว้ที่หอคอยอนัตตา หากผนึกถูกลบออกไม่ได้ เขาจะไม่อาจแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหอคอยอนัตตาได้อย่างเต็มที่แม้ว่าเขาจะขัดเกลามันแล้วก็ตาม
อาต้าจ้องไปที่ดาบสักพักหนึ่งก่อนที่จะส่ายหัว ข้าพบว่าปราณกระบี่เหล่านี้มีทั้งความคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย การดูดซับพวกมันเป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะข้าสามารถรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของพวกมันได้อย่างชัดเจน แม้ว่าข้าจะยืนอยู่ตรงนี้ แต่หัวใจของข้าก็ยังเต้นอย่างหวาดกลัว หากข้าพยายามดูดซับมัน ข้าจะกลายเป็นชิ้น ๆ เพียงแค่อึดใจเดียวและข้าก็จะตาย
เจี้ยนเฉินรู้สึกผิดหวัง แต่เขาก็ไม่ผิดหวังนัก เขาพาสี่พี่น้องไปที่ปราณกระบี่ที่สอง กระบี่ที่สองคือกระบี่แห่งการสังหารซึ่งคล้ายกับกระบี่ของอาเอ้อ
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่แตกต่างจากอาต้า นอกจากนี้เขายังรู้สึกถึงความคุ้นเคยจากปราณกระบี่ แต่เขาก็ไม่อาจดูดซับปราณกระบี่ได้
เจี้ยนเฉินพาสี่พี่น้องไปทั้งสี่มุมของชั้นแรก แต่พวกเขาก็ไม่อาจพบอะไรในท้ายที่สุด เขาพาพวกเขาไปที่ชั้น 9 ตรง ๆ และดูชมปราณกระบี่ทั้งสี่เช่นกัน ก่อนที่จะออกไปด้วยความผิดหวัง พวกเขาออกจากหอคอยอนัตตา
เช่นนั้นปราณกระบี่ข้างนอกล่ะ ? เจ้าสามารถควบคุมหรือดูดซับมันได้หรือไม่ ? เจี้ยนเฉินยืนอยู่ด้านนอกและจ้องมองปราณกระบี่บนหอคอย แม้เขาจะรู้ผลลัพธ์แล้ว แต่เขาก็อยากจะลอง
สี่พี่น้องจ้องไปที่ปราณกระบี่และหลับตาในไม่ช้า การแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนไปทันทีในเวลาเดียวกัน
ตาของเจี้ยนเฉินหรี่ลงกระทันหัน ตอนนี้เขารู็สึกได้ว่าสี่พี่น้องดูเหมือนจะหลอมรวมเข้ากับปราณกระบี่
พวกเขายืมพลังของปราณกระบี่เพื่อเข้าใจเส้นทางกระบี่ ! ความคิดนี้แว่บเข้ามาในหัวของเจี้ยนเฉิน สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับเขาเมื่อเขาเห็นปราณกระบี่เป็นครั้งแรก แต่เขาล้มเหลวเนื่องจากความเข้าใจของเขายังอยู่ในระดับต่ำ ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ได้ประโยชน์ เขาเกือบจะเสียสติอย่างรุนแรง
การบ่มเพาะของทั้งสี่พี่น้องควรจะเป็นของที่ถูกทิ้งเอาไว้จากนิพพานอมตะเที่ยงแท้ พวกเขามีต้นกำเนิดเดียวกับปราณกระบี่ ข้าสงสัยว่าพวกเขาจะเข้าใจได้สำเร็จหรือไม่ เจี้ยนเฉินคิด
อย่างไรก็ตามขณะที่เขาคิดอะไรบางอย่าง พลังของทั้งสี่พี่น้องมันก็กลายเป็นปั่นป่วนทันที พวกเขาทั้งหมดกระอักเลือดและซีดเซียวอย่างมาก
เจี้ยนเฉินเข้าไปหาพวกเขาทั้งสี่คน ขณะที่ยกมือและใช้พลังเซียนธาตุแสงเพื่อรักษาพวกเขา ทั้งสี่คนได้รับผลกระทบ โชคดีที่พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บหนักเกินไป ด้วยความสามารถของเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงขั้น 9 พวกเขาจึงกลับคืนสู่สภาวะปกติในเวลาไม่นาน
เป็นปราณกระบี่ที่ทรงพลังอะไรขนาดนั้น ข้าเคยรู้สึกถึงปราณกระบี่ที่ทรงพลังแบบนี้มาก่อนเลย ข้าไม่คิดเลยว่าข้าจะไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าใจมันหลังจากที่ทะลวงมายังขอบเขตดั้งเดิม อาต้าถอนหายใจ ขณะที่เขาต้องมองปราณกระบี่ด้วยความกลัว อย่างไรก็ตามเขาละสายตาออกไปทันทีและไม่เต็มใจที่จะมองมันใหม่อีกครั้ง
เจี้ยนเฉินจ้องไปที่ปราณกระบี่ เขาบอกไม่ได้ว่าจริง ๆ แล้วปราณกระบี่นี้อ่อนแอกว่าเมื่อก่อนหลังจากที่เขาขัดเกลาหอคอยอนัตตามาเป็นเวลานาน
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสี่ก็เดินไปรอบ ๆ หอคอยสองสามรอบ สี่พี่น้องก็บินไปบนยอดหอคอย พวกเขาเห็นปราณกระบี่ทั้งสี่หายไป แต่พวกเขาก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรในตอนท้าย
เจี้ยนเฉิน เจ้าตอบคำถามของเราไปแล้ว หากมีสิ่งใดที่สี่พี่น้องเราช่วยเหลือเจ้าได้ในอนาคต โปรดแจ้งให้เราทราบด้วย เราจะทำทุกอย่างเท่าที่เราสามารถทำได้ ตอนนี้ ลาก่อน สี่พี่น้องป้องมือให้กับเจี้ยนเฉินและจากไปพร้อมกัน