ตอนที่ 3181

War sovereign Soaring The Heavens

ตัวตนขอบเขตราชาอมตะนั้น สามารถเปิดโลกใบเล็กไว้ที่ใดก็ได้

 

และในโลกใบเล็กดังกล่าว…จะสิ่งไม่มีชีวิตก็ดี หรือสิ่งมีชีวิตก็ดีสามารถรองรับได้ทุกสิ่ง!

 

ในอดีตตอนที่ต้วนหลิงเทียนพึ่งจะขึ้นมายังระนาบหลิงหลัวเทียน เขาก็เคยพลัดหลงเข้าไปในโลกใบเล็กของราชาอมตะจากนิกายอมตะสราญรมญ์มาแล้ว

 

และเพราะการพลัดหลงเข้าไปในโลกใบเล็กนั่น เขาก็เลยถูกสถานการณ์บีบบังคับให้มีสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกับมู่หรงปิง ศิษย์ของนิกายอมตะสือหัง

 

‘จนถึงวันนี้ เส้นทางของข้ายังนับว่าราบรื่นดีอยู่…ข้าขึ้นมาหลิงหลัวเทียนมาไม่ถึงร้อยปี ด่านพลังของข้าก็ทะลวงถึงขอบเขตราชาอมตะได้แล้ว’

 

‘นับจากวันนั้นก่อนที่จะครบกำหนด 1,000 ปี ข้ายังเหลือเวลาอีก 900 กว่าปี…แต่หลังจากนี้อีก 500 ปี ข้าต้องยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดของระนาบเทวโลกให้ได้’

 

‘มีแต่เป็นแบบนี้เท่านั้น อีก 400 ปีให้หลังข้าถึงจะมีโอกาสเพิ่มพูนพลังให้มากพอจะบุกขึ้นไปดินแดนการล่มสลายแห่งทวยเทพนั่นเพื่อช่วยเค่อเอ๋อ เสี่ยวเฟยเอ๋อ เทียนหวู่…และทุกๆคน!’

 

ต้วนหลิงเทียนที่ลองเปิดโลกใบเล็กเล่นดู เพียงห้วงคิดเดียว เขาก็ทำลายโลกใบเล็กที่เปิดนั่นทันที

 

“ราชาอมตะ…”

 

พอลุกขึ้นยืน ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น มวลพลังขุมหนึ่งปะทุควบรวมในหมัดอย่างเกรี้ยวกราด เขาเสพย์รับความรู้สึกของพลังอันกล้าแข็งอยู่สักพักค่อยคลายมือออก

 

พลังที่เขาได้รับจากอุปกรณ์อมตะจอมราชันสิ้นเปลือง กับพลังที่เป็นของตัวเอง…มันให้ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

เรียกว่ามันต่างกันคนละโลกสำหรับเขาเลย แน่นอนว่าในแง่ความรู้สึกเท่านั้น

 

“ผู้อาวุโส…”

 

ราวๆ 2 เค่อต่อมาต้วนหลิงเทียนที่ปรับด่านพลังอยู่สักพัก ก็เดินทางมายังสวนด้านหลัง จึงเห็นว่าจ้าววังผู้พิทักษ์คฤหาสน์น้อยที่นั่งตกปลาอยู่เหมือนเดิม

 

“เจ้าทะลวงด่านได้แล้วรึ?”

 

ชายชราไม่ได้หันมามองอะไร แต่ฟังจากคำถามของมัน เห็นได้ชัดว่าล่วงรู้เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนทะลวงถึงขอบเขตราชาอมตะเรียบร้อยแล้ว

 

“ใช่”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าตอบรับ

 

“ไม่เลว…เจ้าสามารถทะลวงด่านได้ในเวลาไม่ถึงครึ่งเดือน ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะผลไม้อมตะ แต่ก็นับว่ายากนักที่จะใช้เวลาไม่ถึงครึ่งเดือนเช่นนี้ หากไร้พรสวรรค์”

 

ชายชรากล่าว

 

“หลังจากนี้เจ้าก็แบ่งเวลาบ่มเพาะพลังทั้งตระหนักรู้ความลึกซึ้งของกฏมิติไปเถอะ…ก่อนที่เจ้าจะทะลวงถึงขอบเขตราชาอมตะ 10 ทิศ หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ก็อย่าได้ออกไปนอกเขตคฤหาสน์เฉวียนโยว เพราะตอนนี้ด้านนอกมีศัตรูของเจ้ามารอเข่นฆ่าเจ้าเต็มไปหมด…นับว่าเด็กน้อยเจ้าหาเรื่องได้เก่งเกินวัยจริงๆ”

 

ชายชรากล่าวต่อ “อ้อ มิใช่แค่นักฆ่าจากองค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดเท่านั้น…ยังมีคนของคฤหาสน์ปี้ชิงที่มาจับตาดูเจ้าด้วย พวกมันแต่ละคนตั้งหน้าตั้งตารอให้เจ้าออกนอกเขตคฤหาสน์เชียวล่ะ”

 

“ราชาอมตะ 10 ทิศหรือ!? นี่ข้าต้องอยู่ในคฤหาสน์เฉวียนโยวนานเท่าไหร่กัน?!”

 

ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนเองก็ต้องการทะลวงให้ถึงขอบเขตราชาอมตะ 10 ทิศโดยเร็วที่สุด แต่ปัญหาก็คือตอนนี้เขายังเป็นแค่ราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดเท่านั้น แล้วกว่าจะทะลวงถึงราชาอมตะ 10 ทิศ เขาต้องใช้เวลากีปีกี่เดือนกัน? แล้วจะให้เขาอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนเลย?

 

“ดูจากพรสวรรค์ของเจ้า…สัก 300 ปีเห็นจะได้”

 

ชายชรากล่าว

 

“300 ปี!”

 

มุมปากต้วนหลิงเทียนกระตุกขึ้นมาตงิดๆ เขายังอายุไม่ถึงร้อยปีเลย ต้องใช้เวลานานขนาดนั้นเพื่อทะลวงให้ถึงขอบเขตราชาอมตะ 10 ทิศเชียวหรือ?

 

เป็นธรรมดาว่าเขาเองก็รู้ดี

 

เซียนอมตะในระนาบเทวโลก ยิ่งฝึกฝนบ่มเพาะจนด่านพลังสูงขึ้นเท่าไหร่ เวลาที่ต้องใช้ในการทะลวงขั้นพลังหลังๆก็ยิ่งนานขึ้น

 

หลายคนใช้เวลาในการทะลวงจากด่านพลังราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดไปยังราชาอมตะ 2 ยศ นานกว่าทะลวงจากขุนนางอมตะ 1 ต้นกำเนิดไปยังขุนนางอมตะ 10 ทิศ มากถึง 10 เท่าด้วยซ้ำ!

 

“อย่างไรก็ตาม เจ้าไม่ต้องกังวล…การทะลวงจากด่านพลังราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดไปยังราชาอมตะ 10 ทิศของเจ้า ทางคฤหาสน์เฉวียนโยวจะสนับสนุนเจ้าเต็มกำลัง ไม่ว่าโอสถอมตะหรือผลไม้อมตะอันใด หากหามาได้พวกเราจะมอบให้เจ้าเต็มที่”

 

“300 ปีก็แค่เวลาที่ข้ากะประมาณคร่าวๆเท่านั้น…หากโชคดีเจ้าอาจใช้เวลาสั้นกว่านั้น”

 

ชายชรากล่าว “ตอนนี้ในคฤหาสน์เฉวียนโยวเรายังมีทรัพยากรที่จะช่วยให้เจ้าก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว…แต่แน่นอนว่าทรัพยากรเองก็ไม่ใช่ว่าจะมีถึงขั้นไร้จำกัด”

 

“ข้าได้ออกคำสั่งให้ลูกศิษย์ของข้าไปซื้อหาผลไม้อมตะไม่เว้นโอสถอมตะที่จะช่วยเจ้าได้เพิ่มไว้แล้ว…อยู่ที่นี่เจ้าสามารถทะลวงถึงขอบเขตราชาอมตะ 10 ทิศได้รวดเร็วกว่าอยู่ที่ตระกูลซูแน่นอน!”

 

“อย่างไรเสียการบ่มเพาะพลังในขอบเขตราชาอมตะ ไม่เว้นด่านใดๆหลังจากนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะกระทำได้ในชั่วข้ามคืน…ผลไม้อมตะที่จะทำให้ด่านพลังเจ้าพุ่งพรวดรวดเดียวเหมือนผลเทพสังเวยสวรรค์ที่เจ้าเคยใช้ ในด่านพลังราชาอมตะหามีไม่!”

 

วาจาของชายชราก็ทำให้ต้วนหลิงเทียนนิ่งเงียบไปทันที

 

“นอกจากนั้นมิใช่เจ้ากล่าวไว้เองหรือว่าเจ้าจะจัดการองค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดด้วยตัวเอง อาศัยด่านพลังของเจ้าหากไม่ขยันบ่มเพาะให้มาก มิใช่ออกไปก็เท่ากับรนหาที่ตายหรือไร?”

 

“เพราะเท่าที่ข้ารู้ นักฆ่าที่องค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดส่งมารอฆ่าเจ้ายามนี้ มีขอบเขตราชาอมตะ 10 ทิศหนึ่งคน กับขอบเขตราชาอมตะ 9 ตำหนักอีกสองคน…”

 

ชายชราเอ่ยต่อ

 

“หือ!? ราชาอมตะ 10 ทิศหนึ่ง ราชาอมตะ 9 ตำหนักสอง?”

 

ต้วนหลิงเทียนเลิกคิ้วขึ้นด้วยความทึ่งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้กังวลแม้แต่นิดเดียว เพราะตอนนี้หากเขาใช้อุปกรณ์อมตะจอมราชันสิ้นเปลืองอีกครั้ง จนบรรลุขอบเขตพลังจอมราชันอมตะ 1 ต้นกำเนิดล่ะก็ ด้วยความลึกซึ้งของกฏมิติที่เขามีให้พวกมัน 3 คนมัดรวมกันมา เขาก็ฆ่าทิ้งได้ในพริบตา!

 

อย่ากล่าวถึงเรื่องที่นักฆ่าขอบเขตราชาอมตะ 10 ทิศขององค์กรมือสังหารกะโหลกเลือดจะเข้าใจควาวลึกซึ้งได้ถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยเลย เท่าที่รู้มากระทั่งนักฆ่าขอบเขตจอมราชันอมตะของพวกมัน ยังไม่มีใครเข้าใจความลึกวึ้งถึงขั้นตอนเล็กน้อยแม้แต่คนเดียว!!

 

ด้วยความลึกซึ้งที่เขาเข้าใจอยู่ตอนนี้ พร้อมด้วยพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดและพลังวิญญาณขอบเขตจอมราชันอมตะ 1 ต้นกำเนิด อาศัยแค่ 1 ห้วงคิดก็จบชีวิตนักฆ่าทั้ง 3 นั่นได้โดยที่พวกมันไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ!

 

ตอนนี้ที่เขากำลังอื้ออึงก็คือ…

 

นี่เขาต้องนั่งๆนอนๆทั้งเดินเล่นอยู่ในคฤหาสน์เฉวียนโยว มากกว่าเวลาที่เคยใช้มาทั้ง 2 ช่วงชีวิตถึง 3 เท่าเลยหรือ? ถ้าไม่บรรลุถึงราชาอมตะ 10 ทิศคือ ต้องอุดอู้อยู่ที่นี่แล้วจริงๆ?

 

“ผู้อาวุโส…”

 

ต้วนหลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เลียบๆเคียงๆกล่าวถามชายชราว่า “หากข้าออกจากคฤหาสน์เฉวียนโยว แล้วท่องไปทั่วๆ เป็นไปได้ไหมที่ข้าจะบังเอิญพบพานการผจญภัยประสบโชควาสนาโดยบังเอิญ จนทำให้ข้าทะลวงถึงขอบเขตราชาอมตะ 10 ทิศเร็วขึ้น?”

 

“เลอะเทอะ!!”

 

ได้ยินคำพูดของต้วนหลิงเทียน ชายชราถึงกับวางคันเบ็ดหยุดตกปลาทันที ยังถึงกับลุกขึ้นยืนและหันมามองต้วนหลิงเทียนตาเขม็ง “ทรัพยากรทั้งหมดที่คฤหาสน์เฉวียนโยวเราจะมอบให้เจ้า เทียบได้กับการผจญภัยและวาสนาโดยบังเอิญอะไรนั่นของเจ้าเท่าที่จะพบเจอได้!”

 

“เจ้าออกไปตะลอนๆด้านนอก ให้ตายเจ้าก็ไม่มีทางหาทรัพยากรในการบ่มเพาะได้เท่ากับ ทรัพยากรบ่มเพาะที่คฤหาสน์เฉวียนโยวเราทุ่มกำลังคนสรรหามาให้เจ้าแน่นอน!”

 

“และหากเจ้าอยากออกไปข้างนอกเพราะร่างกายอยากปะทะ ก็เชิญมาประมือกับข้าได้ทุกเมื่อ ข้าจักลดพลังให้เจ้าตามร้องขอ  หลังจากนั้นเจ้าจักเอาแค่พอหอมปากหอมคอเจ็บตัวเบาะๆ หลังเดาะ หรือนอนเปลสักหลายๆเดือน ก็แล้วแต่เจ้า!”

 

พอชายชรากล่าวถึงจุดนี้ มันก็ยกยิ้มขึ้นมา ทำให้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกขนลุกอยู่บ้าง

 

“ที่นี่คือแดนสวรรค์ใต้ มิใช่ 7 ภูมิภาคเบื้องบน…หากที่นี่เป็น 7 ภูมิภาคเบื้องบนที่กว้างใหญ่สุดไพศาลพิสดารมากมี ข้าคงไม่กล้าพูดอย่างมั่นใจขนาดนี้ แต่ในแดนสวรรค์ใต้ไม่ต้องพูดถึง 10 ตระกูลใหญ่รวมถึง 5 นิกายหลัก แค่กำลังคนของคฤหาสน์อมตะ นอกจากขุดดินลึก 3 ฉื่อ พวกเราก็แทบจะค้นทุกซอกทุกมุม! แล้วเจ้ายังคิดจะไปพบพานโชควาสนาอันใดอีก? อยู่ในคฤหาสน์เฉวียนโยวเรา ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว”

 

ฟังที่ชายชราร่ายยาวมา ต้วนหลิงเทียนก็ถึงกับอึ้ง พูดอะไรไม่ออก

 

อย่างไรก็ตามเขารู้ดี ว่าความเข้าใจในแดนสวรรค์ใต้ของชายชรา มันเหนือกว่าเขาหลายขุม

 

“ผู้อาวุโส ที่ท่านบอกให้รอจนกว่าข้าจะทะลววงถึงราชาอมตะ 10 ทิศ หรือท่านคิดให้ข้าไปเข้าร่วมตระกูลซูตอนที่ด่านพลังบรรลุถึงราชาอมตะ 10 ทิศแล้ว?”

 

ต้วนหลิงเทียนเอ่ยถาม

 

“ไม่ผิด!”

 

ต้วนหลิงเทียนแค่เอ่ยถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องไปอย่างนั้น แต่ไม่คิดเลยว่าชายชราจะพยักหน้ากล่าวตอบกลับมาอย่างจริงจัง “เมื่อเจ้าทะลวงถึงราชาอมตะ 10 ทิศ เจ้าก็สามารถเข้าสู่ตระกูลซู และเข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงในนามของพวกมัน ถึงตอนนั้นจะช่วงชิงเกียรตยศก็ดี แสวงหาโชควาสนาก็ดี เจ้าสามารถทำได้เต็มที่…”

 

“ในแดนสวรรค์ใต้เรา ราชาอมตะ 10 ทิศคนหนึ่ง หากคิดทะลวงไปยังขอบเขตจอมราชันอมตะด้วยตัวเองตามปกติ นับว่าเป็นเรื่องราวอันยากเย็นนัก”

 

“แต่ถ้าเจ้าเข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงล่ะก็…ในนั้นมันเต็มไปด้วยโชควาสนามากมาย กระทั่งอาจจะพบเจอสิ่งที่ช่วยให้เจ้าทะลวงถึงขอบเขตจอมราชันอมตะได้ในเวลาสั้นๆ”

 

“หากจะกล่าวว่าแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง คือลานประลองซ้อมมือสำหรับขุนนางอมตะแต่ละคฤหาสน์อมตะแล้วล่ะก็ เช่นนั้นแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง ก็คือเวทีสำหรับเข่นฆ่าช่วงชิงโชควาสนาและทรัพ์สมบัติที่แท้จริงของแดนสวรรค์ใต้!!”

 

“ไม่ว่าจะ 10 ตระกูลใหญ่ 5 นิกายหลัก ขุมกำลังต่างๆ ไม่เว้นผู้ฝึกตนอิสระที่บรรลุถึงขอบเขตราชาอมตะแล้ว ล้วนสามารถเข้าไปแสวงหาโชควาสนาสำหรับตัวเองได้ทั้งนั้น”

 

 

หลังได้ฟังคำอธิบายจากชายชรา ต้วนหลิงเทียนก็ได้รู้ว่าแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงเป็นอย่างไร และนั่นเป็นเวทีสำหรับตัวตนสุดยอดขอบเขตราชาอมตะทั้งหมดของแดนสวรรค์ใต้

 

“หากเจ้าจะไถ่ถามว่ามีที่ใดในแดนสวรรค์ใต้ที่ทำให้เจ้าทะลวงถึงราชาอมตะ 10 ทิศได้รวดเร็วกว่าคฤหาสน์เฉวียนโยวล่ะก็…ข้าสามารถตอบเจ้าได้ทันที ว่าสถานที่แห่งนั้นเห็นจะมีแต่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงเท่านั้น…”

 

“อย่างไรก็ตาม แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงอันตรายกว่าแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางมาก ให้เจ้าหาทางออกจากคฤหาสน์เฉวียนโยวโดยรอดพ้นเงื้อมมือนักฆ่าที่ดักรอด้านนอกตอนนี้ ยังมีอันตรายน้อยกว่าปล่อยเจ้าเข้าไปในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงเสียอีก…เช่นนั้นข้าไม่คิดจะปล่อยให้เจ้าเข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงจนกว่าพลังฝีมือของเจ้าจักสูงพอเด็ดขาด!”

 

“แต่แน่นอนว่าหากสติปัญญาเจ้าเลิศล้ำถึงขั้นเข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติได้ถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยอีกสักประการ 2 ประการ เช่นนั้นขอแค่ด่านพลังเจ้าบรรลุถึงราชาอมตะ 7 ดารา หรือราชาอมตะ 8 ชะตา ข้าก็สามารถวางใจให้เจาเข้าไปในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง….”

 

กล่าวถึงจุดนี้ ชายชราก็มองจ้องต้วนหลิงเทียนตาเขม็งกล่าวออกเสียงเข้ม “สำหรับเจ้าในตอนนี้ จงอยู่ในคฤหาสน์เฉวียนโยวเรียบๆร้อยๆเสีย อย่าได้คิดไปซุกซนด้านนอก”

 

“ฟังจากที่ผู้อาวุโสกล่าว…ดูเหมือนในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูง ก็ไม่ขาดแคลนราชาอมตะที่เข้าใจความลึกซึ้งถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยสินะ?”

 

ต้วนหลิงเทียนหยีตาเอ่ยถาม

 

ชายชรารู้แล้วว่าเขาเข้าใจความลึกซึ้งผ่ามิติถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อย

 

กล่าวได้ว่าตอนนี้ถึงเขาจะเป็นแค่ราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิด แต่ต่อให้เป็นราชาอมตะ 3 ศักดิ์ กระทั่งราชาอมตะ 4 รูปทั่วๆไป พวกมันก็ไม่ใช่คู่มือเขา

 

ทว่าหากพวกมันสามารถเข้าใจความลึกซึ้งบางประการได้ถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อย เขาก็จะสู้พวกมันไม่ได้ทันที

 

ด่านพลังและพลังจากความลึกซึ้งมันมีส่วนเกี่ยวข้องทุกอย่าง

 

หากท่านมีในสิ่งที่ผู้อื่นไม่มีท่านย่อมได้เปรียบเป็นธรรมดา…แต่หากท่านมีในสิ่งที่ผู้อื่นก็มี เช่นนั้นท่านก็จะสูญเสียความได้เปรียบทันที

 

“นั่นเป็นเรื่องปกติ ขอเพียงเป็นศิษย์สาวกจาก 10 ตระกูลใหญ่และ 5 นิกายหลัก ย่อมมีหลายคนที่ตระหนักรู้ความลึกซึ้งถึงขั้นตอนเล็กน้อยแล้ว”

 

“ด้วยความเข้าใจในกฏมิติของเจ้าเวลานี้ ต่อให้ด่านพลังของเจ้าจะทะลวงถึงราชาอมตะ 10 ทิศ แต่อย่างดีพลังฝีมือระดับเจ้า ก็คงหาคะแนนได้พอเข้าแค่แดนลับขั้น 2 อย่างเฉียดฉิวเท่านั้น…”

 

ต้องกล่าวเลยว่าหลังได้ยินคำพูดประโยคนี้ของชายชรา ต้วนหลิงเทียนรู้สึกเสมือนถูกมีดจ้วงพุงอยู่บ้าง

 

รู้ไหมว่า ก่อนหน้านี้เขายังมั่นใจมาก…ว่าหากเขาบ่มเพาะจนด่านพลังบรรลุถึงราชาอมตะ 10 ทิศแล้ว ถึงตอนนั้นคงยากที่จะมีตัวตนใต้ขอบเขตจอมราชันอมตะที่สู้เขาได้…

 

แต่พอมาฟังสิ่งที่ชายชรากล่าวเมื่อครู่

 

ต่อให้ตอนนี้ด่านพลังเขาจะเป็นราชาอมตะ 10 ทิศ ด้วยความลึกซึ้งของกฏมิติที่เขามี ถึงจะเข้าไปในแดนสวรรค์ใต้ระดับสูง แต่อย่างดีก็คงทำได้แค่ทำผลงานจนสามารถผ่านเข้าสู่แดนลับระดับ 2 เท่านั้น?

 

‘บางทีในสายตาของผู้อาวุโส ต่อให้ข้าทะลวงถึงราชาอมตะ 7 ดารา หรือราชาอมตะ 8 ชะตา แต่เต็มที่ข้าก็คงเข้าใจความลึกซึ้งของกฏมิติถึงขั้นตอนเล็กน้อยได้เพิ่มแค่ 1-2 ประการเท่านั้นสินะ…’

 

ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ

 

‘ก็แค่ผู้อาวุโสคงไม่มีวันรู้…ว่าข้ามีผลึกสำนึกของผู้แข็งแกร่งที่สุด และเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดที่ถ่องแท้ในกฏมิติ!’

 

‘ความเร็วในการเข้าใจกฏมิติของข้า สุดที่อาวุโสจะจินตนาการได้ออก’

 

‘เอาเถอะ ข้าจะอยู่บ่มเพาะพลังงในคฤหาสน์เฉวียนโยวเงียบๆ…รอให้เข้าใจความลึกซึ้งถึงขั้นตอนเล็กน้อยอีกสัก 1-2 ประการ ถ้าตอนนั้นด่านพลังทะลวงถึงราชาอมตะ 7 ดาราหรือราชาอมตะ 8 ชะตาแล้ว ค่อยลองเข้าไปชิมลางในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับสูงดู…’

 

ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็ตัดสินใจได้