“ดีมาก!” อิโตะทาเคฮิโกะกล่าวอย่างชื่นชม “ไม่แปลกที่เป็นลูกสาวของตระกูลอิโตะ ไม่หยิ่งผยอง แล้วยังไม่ลืมความตั้งใจเดิม!”

แม้อิโตะนานาโกะจะถือมือถือไว้ แต่ยังคงโค้งคำนับช้าๆไปทางทิศตะวันออกด้วยจิตใต้สำนึก กล่าวอย่างเคารพ “ขอบคุณคำชมของท่านบิดา อิโตะจะพยายามต่อไป!”

อิโตะทาเคฮิโกะส่งเสียงอืมออกมา แล้วกล่าวต่อว่า “อ้อ อิโตะ ประธานของบริษัทผลิตยาโคบายา โคบายา ชิจิโร่ไปหาหนูแล้วใช่มั้ย?”

“ใช่ค่ะท่านบิดา”

อิโตะทาเคฮิโกะกล่าว “หนูนะ อายุก็ไม่น้อยแล้ว อย่ามองเพศตรงข้ามเป็นอื่นไกล พ่อเคยพูดคุยกับโคบายา ชิจิโร่เด็กคนนี้มาแล้ว เขาแก่กว่าหนูแค่ปีสองปีเท่านั้น แล้วยังประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังวัยรุ่น ลองพูดคุยกับเขาดูบ้าง”

อิโตะนานาโกะรีบกล่าว “ท่านบิดา ตอนนี้หนูไม่สนใจเรื่องความรักใดๆ ภายในช่วงหลายปีต่อจากนี้ไป หนูก็ไม่เสียเวลากับเรื่องนี้ด้วย หนูยังต้องเป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่นเข้าร่วมโอลิมปิกในครั้งนี้อีกทั้งโอลิมปิกครั้งต่อไปอีกด้วย เรื่องความรักมีแต่จะกระทบต่อการฝึกซ้อมของหนู หวังว่าท่านบิดาจะเข้าใจค่ะ”

อิโตะทาเคฮิโกะกล่าว “หนูยังเด็ก หลายเรื่องที่เหมือนความสัมพันธ์ของปลาและอุ้งตีนหมีที่สำคัญเท่าๆกันแต่ไม่ได้ได้มาพร้อมกันง่ายๆ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างปลากับน้ำ ความรักการแต่งงานไม่มีทางกระทบวิถีชีวิตของหนู”

อิโตะนานาโกะกล่าวอย่างตั้งใจ “ท่านบิดา อิโตะไม่เห็นด้วยกับคำพูดนี้ของท่าน การฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ราวกับการพายเรือทวนน้ำ ไม่ก้าวหน้าก็ถอยหลัง อยากจะเป็นยอดฝีมือสูงสุดของโลก ต้องใช้เวลาของการฝึกซ้อมที่มีทั้งหมดใช้ในการฝึกซ้อมอย่างจริงจัง ถ้าตอนนี้หนูไม่ตั้งใจฝึกซ้อม แต่กลับเอาเวลาอันมีค่าไปมีความรักและแต่งงาน งั้นชาตินี้เกรงว่าหนูจะไม่มีทางเป็นปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้แล้วละค่ะ”

อิโตะทาเคฮิโกะกล่าวอย่างตำหนิว่า “ศิลปะการต่อสู้นี้ ตอนแรกให้มันเป็นงานอดิเรกของหนูเท่านั้น แค่ซ้อมๆไป ไม่คาดคิดว่าหนูจะเอาทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับสิ่งนี้ทั้งหมด”

“ต้องรู้ไว้นะว่าหนูคือคุณหนูของตระกูลอิโตะ คุณหนูก็ต้องเป็นคุณหนู ชกต่อยกับคนอื่นไปวันๆ มีความหมายอะไร?”

อิโตะนานาโกะกล่าวอย่างยืนหยัด “ท่านบิดา ศิลปะการต่อสู้คือที่เป้าหมายสูงสุดของชีวิตอิโตะ! ถ้าต้องเลือกจริงๆ อิโตะยอมทำเพื่อศิลปะการต่อสู้ แล้วละทิ้งความรักและการแต่งงาน!”

“ไร้สาระ!”

อิโตะทาเคฮิโกะเกรี้ยวกราดทันใด “แกคือลูกสาวของฉันอิโตะทาเคฮิโกะ ในตัวมีสายเลือดของตระกูลอิโตะ แกจะทำเพื่ออีแค่ศิลปะการต่อสู้ แล้วละทิ้งการสืบสกุล? แกกตัญญูต่อบรรพบุรุษของตระกูลอิโตะมั้ย?”

“หนู……” จู่ๆอิโตะนานาโกะก็พูดไม่ออก

เมื่อได้ยินคำพูดของบิดา ในใจของเธอรู้สึกผิดขึ้นมา จึงรีบกล่าวว่า “ท่านบิดา อิโตะผิดไปแล้ว หนูไม่ได้คิดเรื่องแต่งงานจริงๆ เพียงแต่ในตอนนี้ยังไม่อยากคิดเรื่องนี้ก่อน ขอท่านบิดาได้โปรดเข้าใจ!”

อิโตะทาเคฮิโกะดูแคลน “ฉันไม่เข้าใจ และไม่มีทางเข้าใจด้วย แต่ เรื่องเส้นทางชีวิตต่างๆ ฉันไม่อยากพูดกับแกผ่านโทรศัพท์ รอแกแข่งเสร็จแล้วกลับมาก่อน เราสองพ่อลูกจะได้คุยกันรู้เรื่อง”

“แต่ตอนนี้ โคบายา ชิจิโร่ได้ไปหาแกถึงที่แล้ว แกในฐานะคุณหนูของตระกูลอิโตะ เป็นตัวแทนเรื่องหน้าตาและภาพพจน์ของตระกูลอิโตะ แล้วจะหลบหน้าได้อย่างไรกัน? ถ้าเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป คนนอกจะต้องพูดว่าตระกูลอิโตะของฉันไม่มีมารยาท!”

เมื่ออิโตะนานาโกะได้ฟัง จึงทำได้เพียงกล่าวอย่างเบื่อหน่ายว่า “อิโตะไม่ได้ไตร่ตรองถี่ถ้วน ขอท่านบิดาได้โปรดให้อภัย อิโตะจะเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้ แล้วไปเจอโคบายา ชิจิโร่……”

——–