เมื่อเห็นอิโตะนานาโกะตอบตกลง เสียงของอิโตะทาเคฮิโกะจึงได้อ่อนลง แล้วถามว่า “อิโตะ กินข้าวกลางวันหรือยัง?”
อิโตะนานาโกะตอบกลับไปว่า “รายงานท่านบิดา ตั้งแต่หนูกลับมาจากยิมเนเซียมก็ฝึกซ้อมมาโดยตลอด ยังไม่ได้ทานข้าวกลางวันค่ะ”
อิโตะทาเคฮิโกะส่งเสียงอืม แล้วสั่ง “พอดีเลย พ่อเห็นเป็นช่วงเที่ยงแล้วพอดี งั้นหนูก็ให้โคบายา ชิจิโร่อยู่ทานข้าวกลางวันที่นั่นเลยก็แล้วกัน ถือเสียว่าต้อนรับแขกแทนพ่อ”
“ให้เขาอยู่ทานข้าวกลางวันด้วย?”
อิโตะนานาโกะไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่
เดิมทีเธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเย็นชา และตอนเด็กที่ตระกูลสั่งสอนเธอเรื่องมารยาท ได้ให้เธอรักษาระยะห่างกับผู้ชาย บวกกับหลายปีมานี้เธอหลงใหลในศิลปะการต่อสู้ ดังนั้นจึงไม่ได้พูดคุยกับเพศชายแต่อย่างใด
นอกจากคนในตระกูลด้วยกัน เธอโตขนาดนี้แล้ว ยังไม่เคยทานข้าวส่วนตัวกับชายวัยรุ่นมาก่อน ต่อให้เป็นผู้ช่วยของตัวเองทานากะโคอิจิ ก็ไม่มีโอกาสได้ทานข้าวกับเขา
แต่ เธอได้ยินเสียงเน้นย้ำของบิดา รู้ว่าต่อให้ตัวเองจะต่อต้านก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ จึงได้รีบกล่าว “ได้ค่ะท่านบิดา อิโตะรับทราบค่ะ……”
อิโตะทาเคฮิโกะกล่าวอย่างพอใจว่า “อิโตะ ตอนนี้ตระกูลกำลังดำเนินการด้านความร่วมมืออย่างสำคัญมากกับบริษัทผลิตยาโคบายา ดังนั้นหนูห้ามละเลยอีกฝ่ายเด็ดขาด เข้าใจมั้ย?”
อิโตะนานาโกะรีบกล่าว “เข้าใจแล้วค่ะ ท่านบิดา”
หลังจากวางสาย อิโตะนานาโกะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เธอโทรหาทานากะโคอิจิ แล้วพูดกับเขาว่า “ทานากะซัง ช่วยฉันดูแลคุณชิอิจิโร่ก่อนนะ ฉันซ้อมจนเหงื่อเต็มตัว ต้องอาบน้ำก่อน”
ทานากะโคอิจิรีบตอบรับ แล้วพูดกับโคบายา ชิจิโร่ว่า “คุณชิอิจิโร่ กรุณารอสักครู่นะครับ คุณหนูของเราจะอาบน้ำ อีกสักครู่จะมาถึงครับ”
โคบายา ชิจิโร่ได้ยินว่าอิโตะนานาโกะยอมเจอตัวเอง ก็รู้สึกตื่นเต้นสุดๆ แต่กลับพูดอย่างสบาย “”โอเค คุณทานากะซัง ผมรอคุณอิโตะ
สิบนาทีผ่านไป อิโตะนานาโกะที่อาบน้ำแล้ว เปลี่ยนชุดกิโมโนที่เรียบง่าย
เธอในขณะนี้ ดูไม่ออกถึงการเป็นนักศิลปะการต่อสู้มาหลายปี เหมือนกับหญิงสาวประเทศญี่ปุ่นดั้งเดิมที่่อ่อนโยนคนหนึ่ง
ทานากะโคอิจิพาโคบายา ชิจิโร่มาที่เพลสซิเดนท์สูทของอิโตะนานาโกะ เมื่อโคบายา ชิจิโร่เห็นอิโตะนานาโกะ ก็ตกใจอย่างมาก!
เขาอดไม่ได้ที่จะอุทานในใจ พระเจ้า! หญิงสาวคนนี้ ทำไมถึงได้สวยขนาดนี้? บริสุทธิ์ขนาดนี้กันนะ!
สายตาเธอเป็นประกาย ราวกับงานศิลปะที่แกะสลักที่ฟ้าประทานลงมา ใบหน้ารูปไข่ที่ขาวเหมือนหิมะ ปลายจมูกที่งามประณีตราวกับอัญมณีในปัจจุบัน ริมฝีปากสีชมพูเหมือนดอกซากุระ อิ่มเอิบ ทำให้คนใจเต้น
ในสายตาของโคบายา ชิจิโร่ เธอเหมือนกับยอดเทือกเขาหิมะ น้ำของแม่น้ำเทียนชื่อที่ใสจนเห็นพื้น ละออ สงบ อ่อนโยน และเย็นชา
เพียงแต่เท่านี้ โคบายา ชิจิโร่ก็รักผู้หญิงคนนี้อย่างลึกสุดใจเข้าให้แล้ว และยังให้คำมั่นสัญญาในใจอีกว่า “ไม่ว่าจะยังไงจะต้องแต่งงานกับเธอให้ได้! ต่อให้ต้องแต่งออกไปตระกูลอิโตะก็ไม่รู้สึกเสียดาย เพราะนอกจากเธอแล้ว บนโลกนี้ ไม่มีทางหาผู้หญิงที่เพียบพร้อมแบบนี้ได้อีกแล้ว!”
โคบายา ชิจิโร่พยายามกดความปรารถนาที่มีอยู่ในใจอย่างแรงกล้าต่ออิโตะนานาโกะไว้ แต่อิโตะนานาโกะก็รับรู้ได้ถึงความต้องการทางเพศที่มิอาจจะกดไว้ได้ผ่านสายตาของเขาเอง
นี่ทำให้เธอรู้สึกต่อต้าน รู้สึกว่าสายตาของโคบายา ชิจิโร่ เหมือนกับมันหมูของอาหารคาว ที่ใส่ลงไปในน้ำชาใส
แต่ เธอก็ไม่สามารถแสดงความต่อต้านของตนออกมาได้ ทำได้เพียงกล่าวอย่างเกรงใจว่า “คุณชิอิจิโร่ ขอโทษนะคะ ที่ให้รอนาน”
โคบายา ชิจิโร่รีบโบกมือแล้วกล่าว “ไม่ไม่ไม่เลยครับ คุณอิโตะไม่ต้องเกรงใจ ผมมาหาโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ผมมาอย่างกะทันหันจริงๆ ขอคุณอิโตะอย่าถือสาเลยนะครับ”
———–