ตอนที่ 2759 เส้นผมบังภูเขา

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

กลางกระแสห้วงมิตินั้นเย่หยวนถือเขาแห่งถงเทียนไว้ในมือข้างซ้ายส่วนมือข้างขวาถือศิลาสวรรค์เบญจรงค์ไว้

จากนั้นมันก็เกิดคลี่นพลังงานสีเหลืองค่อยๆ ครอบเขาทั้งสองไว้

เย่หยวนหลับตาลงสัมผัสถึงพลังจากภายในสมบัติทั้งสอง

จากนั้นด้วยสวรรค์สัมฤทธิ์ไร้คำเป็นตัวนำ เขาก็ค่อยๆ ปรับคลื่นความถี่ของเขาน้อยสองเข้าด้วยกันจนถึงขั้นที่มันเข้ากันได้

จู่ๆ มือของเขามันก็ค่อยๆ ขยับเข้าหากันจนเขาทั้งสองนั้นผสานเข้าด้วยกันในที่สุด!

ครืน…

คลื่นพลังรุนแรงนั้นมันทำให้ห้วงมิติสั่นไหว

การผสานกันของเขาทั้งสองนี้มันสร้างคลื่นพลังรุนแรงจนทำให้โลกใบน้อยที่อยู่ไม่ห่างไปหลายโลกต้องสั่นสะเทือน

นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเย่หยวนถึงต้องมาผสานสมบัตินี้ในกระแสห้วงมิติเพราะหากเขาทำมันบนมหาพิภพโรจน์เฉาแล้วพลังของมันคงทำลายโลกใบนั้นลงสิ้น

สมบัติยอดหมอกระดับสองนั้นมันมีพลังเท่าจักรพรรดิเที่ยง

และเมื่อเขาแดนอนันต์นี้ถูกหลอมกลั่นพลังงานไปถึงที่สุดแล้วพวกมันย่อมจะกลายเป็นสุดยอดสมบัติในหมู่สมบัติยอดหมอกระดับสอง

พลังของมันย่อมจะเหนือล้ำสมบัติยอดหมอกทั่วๆ ไป

“เสร็จสิ้น!”

เย่หยวนมองดูเขาทั้งสองที่กลายเป็นหนึ่งเดียวด้วยความตื่นเต้น

เขานั้นสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังรุนแรงที่ออกมาจากเขาแดนอนันต์!

เย่หยวนนั้นมั่นใจว่าหากตอนนี้เขาใช้เขาแดนอนันต์ออกมาแล้วมันคงสังหารจักรพรรดิหยกขั้นต้นลงได้ทันที!

เขาแดนอนันต์นี้มันมีพลังเหนือล้ำกว่าสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกไปด้วยซ้ำ!

เวลานี้บนเขาแห่งถงเทียนนั้นมันมีสีที่เปลี่ยนแยกเป็นห้าสีส่วนฐานนั้นเป็นสีดำสนิท

เย่หยวนลุกขึ้นมามองดูห้วงมิติตรงหน้าก่อนจะขมวดคิ้วแน่น “มันเอาลี่เอ๋อไปซ่อนไว้ที่ไหน? นี่ก็ผ่านมาตั้งสองปีแล้วคนที่หายไป ข้าก็เจอครบสิ้น มีเพียงแค่ลี่เอ๋อที่หายไป! ตอนนี้หยอกชีวาราวฝันมันคงออกฤทธิ์แล้ว แต่ว่า…จะอย่างไรมันก็คงบรรลุได้ใช่หรือไม่?”

เวลานี้มันผ่านมาแล้วถึงสองปีนับตั้งแต่เย่หยวนเจอตัวอิ้งหมัวหู่

สองปีที่ผ่านมานี้เย่หยวนได้เดินทางไปยังโลกนับไม่ถ้วนเพื่อตามหาร่องรอย

แต่สุดท้ายเขานั้นกลับไม่อาจเจอแม้แต่เงาของลี่เอ๋อ

เวลาที่ค่อยๆ ผ่านไปนี้มันยิ่งทำให้เย่หยวนรู้สึกกระวนกระวายใจนัก

เวลานี้ต่อให้จะคิดบรรลุมันก็คงสายเกินไปแล้ว มีแต่ต้องใช้การหลอมเขาแดนอนันต์เข้าด้วยกันเท่านั้นที่จะทำให้เขาพอมีปัญญาปกป้องตัวเอง

“หรือว่า… ข้าจะมองข้ามที่ไหนไป?” เย่หยวนได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่น

เจ็ดปีที่ผ่านมานี้เย่หยวนตามหาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อหาคนรักและมิตรสหาย

แต่หลังจากสองปีที่ไม่เจออะไรเลยนี้ เย่หยวนจึงได้แต่ต้องหยุดคิด

แต่จู่ๆ มันก็มีความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในสมองทำให้ร่างของเย่หยวนนั้นสั่นสะท้าน

“มหาพิภพ…ถงเทียน!”

คิดได้เช่นนั้นเย่หยวนก็พุ่งตัวออกไปด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ มุ่งหน้ากลับไปยังมหาพิภพถงเทียน

ด้วยพลังของเย่หยวนในตอนนี้แล้วจิตของเย่หยวนมันย่อมจะสามารถมองดูทั้งโลกได้ทันที

และไม่ใช่แค่มหาพิภพเท่านั้นที่เขามองหาได้ แม้แต่เหล่าโลกใบน้อยเบื้องล่างมหาพิภพไปเขาเองก็สามารถตรวจสอบได้สิ้น

ตราบเท่าที่เย่หยวนคิดทำ เขาย่อมจะสามารถส่งจิตของตัวลงไปได้ถึงโลกที่อยู่ต่ำสุด

เจ็ดปีที่ผ่านมาเขาทำอย่างนี้กับทุกมหาพิภพ

แต่ว่ามันมีที่หนึ่งที่เขาไม่ได้หา นั่นคือมหาพิภพถงเทียน!

เย่หยวนนั้นตามกลุ่มคนทั้งหลายลงมหาพิภพถงเทียนไปและส่งจิตออกไปหาทั้งมหาพิภพแต่ว่าเขาไม่ได้ส่งจิตลงไปต่ำกว่ามหาพิภพ ไม่ได้ส่งจิตลงไปในโลกใบน้อยทั้งหลายของบ้านเกิดเขา

การปรากฏตัวขึ้นของเหยียนยูเจินมันขัดจังหวะการหาของเขา

จากนั้นเย่หยวนก็ยังกลับมาเจอเหยียนยูเจินตั้งแต่หน้าปากทางกลับจากทวีปสวรรค์แตก

เมื่อคนทั้งสองเริ่มเดิมพันกันเย่หยวนก็รีบเดินทางข้ามมิติออกไปยังมหาพิภพอื่นๆ โดยลืมไปว่ามันยังมีจุดที่เขาไม่ได้หา

คิดได้ถึงตรงนี้เย่หยวนก็รู้สึกได้ทันทีว่าการปรากฏตัวของเหยียนยูเจินนั้นมันช่างเหมาะเจาะ ราวกับว่าตั้งใจจะขัดเย่หยวนอยู่แล้ว

เย่หยวนนั้นตามหามาหลายโลกหล้าแต่เขากลับลืมหาบ้านเกิดตัวเอง!

เจ้าหมอนี่มันช่างมากเล่ห์!

“ให้ตายสิ! ลี่เอ๋อต้องอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แน่ๆ ทำไมข้าไม่นึกถึงมันกัน! ข้าจะกลับไปทันหรือไม่!”

เวลานี้เย่หยวนได้ใช้พลังทั้งหมดออกมาเร่งความเร็วถึงที่สุด

เขานั้นอยู่ห่างจากมหาพิภพถงเทียนอย่างมาก ด้วยความเร็วของเขาในตอนนี้มันคงต้องใช้เวลาราวครึ่งปีกว่าจะกลับไปถึง!

ในเวลาเดียวกันที่ป่าหมึกเรืองนั้นเหยียนยูเจินก็กำลังเข้าสู่ช่วงสำคัญของการบรรลุ!

แต่ว่าหยอกชีวาราวฝันนั้นมันทำให้เหยียนยูเจินได้แต่ต้องกัดฟันอย่างคับแค้น

หลังจากเขาซึมซับพลังของหักโมฆะเซียนผงาดไปเขาก็เข้าสู่สภาวะไร้ตัวตนและหาทางบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงไป

แต่ในเวลานั้นเองที่หยอกชีวาราวฝันมันกลับปะทุขึ้นมาในร่างของเขาอย่างบ้าคลั่ง!

พิษร้ายเช่นนี้ออกฤทธิ์ในช่วงสำคัญของการบรรลุ มันย่อมจะอันตรายอย่างยิ่งยวด

เขานั้นแทบจะตายตกลงไปเพราะเรื่องนี้!

“ให้ตาย! สุดท้ายข้าก็ยังติดกับมันจนได้! แต่เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำให้ข้านี้สิ้นท่าได้ด้วยพิษแค่นี้? อ่อนหัด! อย่างมากอีกสามเดือนข้าก็คงบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงได้ ถึงเวลานั้นข้าจะสังหารคนรักของเจ้าเสีย! ถึงตอนนั้นจ้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะทำหน้าตาเช่นไร!”

เหยียนยูเจินนั้นเจ็บปวดอย่างสุดแสนสาหัสเดิมทีการบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงนั้นมันก็เป็นเรื่องอันตรายอยู่แล้ว กอปรด้วยพิษของหยอกชีวาราวฝันมันจึงทำให้เหยียนยูเจินไม่อาจละจิตไปทำอย่างอื่นได้

ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงใช้ตราประทับวิญญาณดั่งเดิมสังหารเยวี่ยเมิ่งลี่ไปแล้ว

แต่ในเวลานี้เขากลับทำได้เพียงแค่ทนความเจ็บปวดกัดกระดูกนี้และหาทางบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยง!

เหยียนยูเจินนั้นจะอย่างไรก็เป็นคนที่มีจิตใจหนักแน่นหากคนอื่นมาโดยพิษเช่นนี้เข้าไประหว่างบรรลุแล้วพวกเขาคงได้ตายตกลงไปแน่

แต่เขานั้นทนทานรับมันไว้ได้

ถึงเวลานี้แล้วเหยียนยูเจินเองก็แทบจะถึงขั้นสุดท้ายของการบรรลุแล้ว

ตอนนี้มันจะพลาดไม่ได้แม้แต่น้อย

ในกระแสห้วงมิตินั้นเย่หยวนหยิบเอาโอสถสวรรค์ขึ้นมากินอย่างไม่หยุดมือ

เวลานี้จิตใจของเขานั้นมันรุ่มร้อนไปด้วยความกังวลคิดหวังจะกลับไปยังมหาพิภพถงเทียนให้ได้อย่างเร็วที่สุด

แต่เขานั้นใช้ความเร็วสูงสุดออกมาแล้ว ไม่อาจจะไปได้เร็วกว่านี้

“ไม่การ ยังช้าไป!”

เย่หยวนนั้นย่อมไม่รู้ว่าเหยียนยูเจินจะบรรลุได้เมื่อใดแต่ยิ่งช้ามันก็ยิ่งเสี่ยงที่ลี่เอ๋อจะตาย

เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องเร็วกว่านี้!

ตูม!

พริบตานั้นเองเย่หยวนก็ได้เผาปราณเทวะในร่างของตัวเองเป็นพลัง

ความเร็วของเขามันย่อมจะเพิ่มพูนขึ้นมาก!

“ยังไม่พอ! ยังเร็วไม่พอ!”

ตูม!

เย่หยวนเริ่มเผาพลังชีพตัวเองจึงทำให้ความเร็วของเขาพุ่งทะยานขึ้นอีกขั้น!

“ไอ้หนู เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ? หากยังทำเช่นนี้ต่อไปกว่าเจ้าจะถึงมหาพิภพถงเทียนเจ้าคงได้กลายเป็นคนพิการไปแน่!” หมี่เทียนกล่าวขึ้นมาด้วยความกังวลในทะเลจิตของเย่หยวน

การเผาปราณเทวะและพลังชีพลงเป็นพลังเช่นนี้มันย่อมจะเป็นอันตรายอย่างมาก

หากมันใช้เพียงแค่ชั่ววูบมันก็คงไม่เป็นปัญหา แต่เย่หยวนนั้นยังต้องเดินทางอีกเกือบครึ่งปีความเสียหายที่จะเกิดขึ้นนั้นมันย่อมจะเกินรับ

พลาดไปนิดเดียวนั้นมันคงทำให้พลังบ่มเพาะของเขาพังทลายกลายเป็นคนพิการไป

เย่หยวนไม่คิดสนใจคำเตือนของหมี่เทียนและยังคงกลืนโอสถสวรรค์ลงคอไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดมือ

แต่ว่าภายใต้ความบ้าคลั่งนี้ความเร็วของเขามันก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจริงๆ!

เวลานั้นค่อยๆ เคลื่อนผ่านไปจนทำให้โอสถสวรรค์ที่เย่หยวนพกติดตัวมาหมดลงไปอย่างรวดเร็ว

แต่เขานั้นก็ไม่หยุดเขานั้นหยิบเอาสมบัติธรรมชาติที่ได้จากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตมากินลงไปแทนที่

นั่นทำให้เขายังคงรักษาความเร็วมุ่งหน้าไปยังมหาพิภพถงเทียนได้

จนสุดท้ายเขาก็ได้เห็นกำแพงเขตแดนของมหาพิภพถงเทียนในที่สุด

แต่พร้อมๆ กันนั้นปรากฏการณ์พระจันทร์คลั่งที่เกิดขึ้นเหนือป่าหมึกเรืองมานับเดือนมันก็ค่อยๆ สงบลง

“อ้าก! ไอ้เวรเย่หยวน เจ้าทำให้ข้าไม่อาจบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงได้ ข้าจะทำให้เจ้าได้ลิ้มรสความเจ็บปวดเอง! เจ้าคงไม่ได้รู้เลยสิว่าข้านั้นซ่อนคนรักของเจ้าไว้ใต้เท้าเจ้านั้น? ฮ่าๆๆ… ตายไปเสียเถอะ!”

เหยียนยูเจินนั้นแทบคลั่งด้วยความแค้นจึงเปิดใช้งานตราประทับวิญญาณดั่งเดิมคิดสังหารเยวี่ยเมิ่งลี่ลง

“หืม? นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน? เมื่อกี้มันยังมีอยู่แท้ๆ!” เหยียนยูเจินได้แต่ต้องเบิกตากว้างด้วยความมึนงง

………………………..