ลึกในป่าไร้สุดของโลกไร้สุด
เยวี่ยเมิ่งลี่นั้นกอดร่างแทบไร้ลมหายใจของเย่หยวนไว้สุดแรง
“พี่หยวน พี่…พี่เป็นอะไรมากหรือเปล่า?”
“นังเด็กโง่ เจ้าไม่เห็นสภาพมันหรือ? มันนั้นแทบจะทิ้งชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเจ้าไว้แล้วรู้หรือไม่!” หมี่เทียนนั้นได้แต่ต้องร้องลั่นขึ้นมาอย่างคับแค้นสุดใจ
เยวี่ยเมิ่งลี่นั้นผงะไปทันที่ได้ยินเสียงนี้ดังขึ้นมา “เจ้า…เจ้าเป็นใคร?”
วินาทีเดียวกันนั้นวิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวนก็ลอยออกมาจากร่างเนื้อของเขาและหันไปบอกเยวี่ยเมิ่งลี่ “ท่านผู้นี้คือผู้อาวุโสที่อาศัยในร่างของข้าตอนนี้ ลี่เอ๋อ ข้านั้นยังมีเรื่องต้องจัดการ ฟังคำของผู้อาวุโสท่านเสีย ท่านจะช่วยแก้ปัญหานี้ให้เอง”
เยวี่ยเมิ่งลี่หรี่ตาลงพยักหน้ารับ “อืม ไปเถอะ พี่หยวน!”
หมี่เทียนนั้นได้แต่ต้องร้องลั่นขึ้นมาเมื่อได้ยินคำของเย่หยวน “ไอ้เด็กเวร ทำพ่อเจ้านี้คับแค้นใจจนจะตายลงแล้ว! ข้าไม่เคยเห็นใครมันโง่ได้เท่าเจ้ามาก่อนเลย! เจ้าทำตัวเองบาดเจ็บปางตายเช่นนี้แล้วยังมีหน้าจะใช้วิญญาณดั่งเดิมไปสู้อีก! เจ้าคิดรนหาที่ตายหรือ!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะว่าข้าไม่มีทางเลือก หากข้าไม่ออกไปสู้มันแล้วมันคงลงมาทำลายมหาพิภพถงเทียนทิ้งแน่ ผู้อาวุโส ข้าคงต้องฝากเรื่องทางนี้ให้ท่านช่วยแล้ว แล้วข้าจะรีบกลับมา!”
พูดจบเย่หยวนนั้นก็พุ่งวิญญาณดั่งเดิมหายขึ้นไปจากโลกไร้สุดทันที
หมี่เทียนได้แต่ต้องร้องขึ้นมาอย่างคับแค้นหัวใจพ่นคำด่าว่าออกมาอย่างต่อเนื่องเป็นชุดใหญ่ไม่มีหยุด
เพราะเขานั้นไม่อาจจะเข้าใจการกระทำของเย่หยวนได้เลย
เด็กน้อยนางนี้ในสายตาหมี่เทียนนางย่อมจะเป็นแค่มดตัวหนึ่ง
แต่เจ้าหมอนี่กลับแทบยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยมดตัวหนึ่ง
สำหรับยอดคนที่กำลังจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้นั้น แค่ผู้หญิงคนเดียวจะหาใหม่เมื่อไหร่ก็ย่อมได้
แต่เจ้าเด็กคนนี้มันกลับช่างไร้เหตุผล!
เวลานี้เขายังมีหน้าถอดวิญญาณดั่งเดิมออกไปสู้กับเหยียนยูเจินที่อาจจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงไปแล้วอีก เพียงเพราะแค่คิดปกป้องภพเบื้องล่างอันนี้
หลังจากด่าจนเหนื่อยหมี่เทียนก็ได้แต่ต้องหันไปสั่งเยวี่ยเมิ่งลี่อย่างขุ่นเคือง “นังหนู เอาร่างของมันกลับขึ้นมหาพิภพถงเทียนไป!”
เยวี่ยเมิ่งลี่ตอบกลับมาด้วยความไม่แน่ใจ “ผู้อาวุโส เราจะทำยังไงต่อดี?”
หมี่เทียนตอบสวนกลับไป “จะทำยังไงได้อีก? ก็มีแต่ต้องช่วยมัน! พ่อเจ้านี้ยังต้องพึ่งให้มันพากลับไปส่งบ้าน ข้าจะยังทำร้ายมันหรือ? ด้วยสภาพของมันตอนนี้ต่อให้วิญญาณดั่งเดิมมันจะกลับมาได้แต่ข้าว่ามันก็คงไม่พ้นความตายอยู่ดี! โชคยังดีที่มหาพิภพถงเทียนนั้นมันเชื่อมกับทวีปสวรรค์แตก ไม่เช่นนั้นแล้วไอ้หนูคงได้ตายแน่!”
เมื่อเยวี่ยเมิ่งลี่ได้ยินเช่นนั้นนางก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นรีบแบกเย่หยวนขึ้นหลังพุ่งตัวหายไปทันที
…
เย่หยวนที่ถอดวิญญาณดั่งเดิมออกจากร่างมานั้นได้กลับขึ้นมาถึงสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดอย่างรวดเร็ว!
เขานั้นเดินผ่านขึ้นมาได้ยังไม่ถึงก้าวก็ต้องสัมผัสได้ว่ามีคลื่นพลังวิญญาณดั่งเดิมอันรุนแรงมุ่งหน้ามาหา
เย่หยวนหน้าเปลี่ยนสีทันทีเพราะเขานั้นรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงเป็นเหยียนยูเจินแน่แล้ว
เขานั้นได้แต่ต้องร้องขึ้นมาด้วยความโล่งอกว่าเขานั้นไปถึงได้ทันเวลาก่อนเหยียนยูเจินจะบรรลุอย่างเฉียดฉิว
เหยียนยูเจินนั้นย่อมจะสัมผัสถึงตัวเย่หยวนได้และต้องร้องลั่นขึ้นมา “เย่หยวน เจ้าทำการบ่มเพาะของข้าปั่นป่วน ข้าจะดับวิญญาณดั่งเดิมของเจ้าลงเสีย!”
แต่เมื่อเขาได้เห็นวิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวนจริงๆ เขาก็ต้องผงะไปก่อนจะหัวเราะลั่นขึ้นมา “ไอ้เด็กเวร เจ้าเองก็เหลือแค่วิญญาณดั่งเดิมไปแล้วหรือ? หืม? เจ้า… วิญญาณดั่งเดิมของเจ้ามันกลับบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้แล้ว นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน?!”
เสียงหัวเราะของเขามันต้องหยุดลงทันทีเมื่อเหยียนยูเจินได้เห็นว่าวิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวนนั้นมันแข็งแกร่งมาก พลังของมันอยู่ในระดับชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนแล้ว!
แต่ก่อนหน้านี้เขายังเป็นแค่จักรพรรดิหยกขั้นกลาง!
เย่หยวนที่ได้ยินจึงต้องหัวเราะตอบกลับไป “หรือว่าเจ้าจะวางแผนเป็นคนเดียวเล่า? เจ้าคิดว่าข้าวางแผนไม่เป็นหรือ? ก่อนจะออกมาจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นวิญญาณดั่งเดิมของข้ามันก็บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมาก่อนแล้ว! ไม่เช่นนั้นข้าจะยังกล้ามาดูดเอาหักโมฆะเซียนผงาดอาบพิษให้เจ้าดูหรือ?”
เหยียนยูเจินที่ได้ยินก็ต้องทำหน้าดำหน้าแดงร้องกลับไปทันที “เย่หยวน เจ้ามันทำให้ข้าไม่อาจบรรลุได้สมบูรณ์ แต่ต่อให้ข้าจะมีพลังแค่จักรพรรดิเที่ยงครึ่งๆ กลางๆ ข้าก็แข็งแกร่งพอสังหารเจ้าลงได้!”
เขานั้นระวังตัวอย่างมากไม่นึกฝันว่าสุดท้ายแล้วก็ยังจะเสียท่าจึงทำให้ไฟแค้นในใจของเขามันสุมขึ้นอย่างรุนแรง
เหยียนยูเจินนั้นบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงขึ้นมาได้จริงแต่ว่าด้วยพิษหยอกชีวาราวฝันมันจึงทำให้การบรรลุของเขาไม่สมบูรณ์
เวลานี้วิญญาณดั่งเดิมของเขานั้นมันอยู่กึ่งกลางระหว่างจักรพรรดิเซียนและจักรพรรดิเที่ยง ไม่ขึ้นไม่ลงไปกว่านั้นทำให้เขาแทบคลั่ง
“ดัชนีล้างเซียน!”
เหยียนยูเจินร้องขึ้นมาพร้อมปล่อยดัชนีรุนแรงจนทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี
ยอดเต๋าที่แฝงมาในการโจมตีด้วยวิญญาณดั่งเดิมนี้มันทำให้ดัชนีนี้สังหารเซียนทั้งหลายได้สิ้น
เย่หยวนที่ได้เห็นเช่นนั้นต้องหน้าถอดสีเพราะว่าพลังของดัชนีนี้มันเหนือล้ำกว่าจักรพรรดิเซียนจริง
ต่อให้จะเป็นจักรพรรดิเซียนขั้นสุดมันก็คงไม่อาจรอดจากดัชนีนี้ไปได้
แม้ว่าเหยียนยูเจินนั้นจะเสียกายเนื้อไปแล้วแต่ว่าพลังของเขาก็ยังคงมีอยู่ เขานั้นสามารถยืมพลังของฟ้าดินมาใช้วรยุทธต่อสู้ได้
เขานั้นบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงขึ้นไปทำให้สามารถเรียกใช้ยอดเต๋าของจักรพรรดิเที่ยงได้มีพลังมหาศาล
ในเวลานี้แม้เย่หยวนจะตกใจแต่เขาก็ไม่ได้ตระหนก
กำเนิดเทพนั้นมันสร้างความมั่นใจให้เย่หยวนได้มาก!
พริบตาเดียวนั้นเย่หยวนจึงได้เปลี่ยนวิญญาณดั่งเดิมของตนเป็นรูปธนู
ก่อนจะค่อยๆ ง้างมันออก!
ธนูและศรนี้มันดูหนาแน่นมาก หากมองไกลๆ อาจจะเข้าใจว่ามันเป็นวัตถุจริงมิใช่แค่พลังวิญญาณ
เมื่อเหยียนยูเจินได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น
“ธนูเทพล้าง!”
ฟุบ!
ฟุบ!
ฟุบ!
เย่หยวนนั้นปล่อยศรออกไปสามดอกด้วยคลื่นพลังแห่งกฎที่รุนแรงล้ำ
พลังงานวิญญาณที่ปลายศรนั้นมันรุนแรงไม่แพ้ดัชนีล้างเซียนของเหยียนยูเจินทีเดียว
ตูม!
ตูม!
ตูม!
สองพลังงานรุนแรงนั้นมันระเบิดขึ้นกลางอากาศ
คนทั้งสองนั้นต่างร้องขึ้นมาพร้อมถอยหลังกลับไป
วิญญาณดั่งเดิมของพวกเขานั้นมันดูเบาบางลงไปทันที
เหยียนยูเจินนั้นมองหน้าเย่หยวนอย่างคับแค้นสุดหัวใจก่อนจะร้องลั่น “ช่างเป็นวิชาลับวิญญาณดั่งเดิมที่เหนือล้ำนัก! ดูท่าไม่กี่ร้อยปีมานี้เจ้าจะมีโชคใหญ่บนทวีปพิรุณใสอีกแล้ว! แต่ว่านะไอ้หนู เจ้าคิดว่าจะใช้วิธีการแลกชีวิตเช่นนี้เอาชนะข้าได้หรือ?”
เย่หยวนนั้นไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อยและร้องตอบกลับไป “ลองดูเดี๋ยวก็รู้!”
พูดจบเขาก็ไม่ลังเลที่จะปล่อยศรออกมาจากธนูอีกครั้งทันที!
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
ธนูเทพล้างถูกยิงออกมาสามครั้งติดอีกครั้งหนึ่ง!
เหยียนยูเจินนั้นหน้าถอดสีทันทีเพราะว่าศรทั้งหลายนี้มันมีพลังวิญญาณรุนแรงแฝงมาด้วย ไม่มีทางจะหลบเลี่ยงได้เลย
เขาจึงได้แต่ต้องกัดฟันชี้ดัชนีออกมาอีกครั้ง
“ดัชนีล้างเซียน!”
ปัง! ปัง! ปัง!
มิติสั่นไหวไปด้วยแรงปะทะของคนทั้งสองจนทำให้เหล่ายอดฝีมือที่อยู่ไม่ไกลออกไปนั้นต้องหันมาให้ความสนใจ
“ช่างเป็นวิญญาณดั่งเดิมที่รุนแรงล้ำนัก! ใครกันที่กำลังสู้กันอยู่ในป่าหมึกเรือง?”
“มันกลับเป็นยอดฝีมือวิญญาณดั่งเดิมสองคน! ช่างเป็นพลังที่รุนแรงนัก วิชาวิญญาณดั่งเดิมมันกลับสามารถปล่อยพลังที่รุนแรงออกมาได้ถึงขั้นนี้!”
“หืม ดูเหมือนว่าฝ่ายหนึ่งนั้นจะมีพลังแค่ระดับนักบุญสูง แต่อีกฝ่าย…กลับแข็งแกร่งกว่ามาก! วิญญาณดั่งเดิมนั้นมันเหนือล้ำกว่าเหล่านักบุญสูงไปสิ้นเชิง!”
“จักรพรรดิเซียนขั้นต้นคนนั้นเองก็ช่างเก่งกาจ กลับสามารถสู้ได้สูสีกับคนที่มีพลังบ่มเพาะเหนือล้ำกว่าตนเช่นนี้! แต่หากเป็นเช่นนี้ต่อไปวิญญาณดั่งเดิมของทั้งสองมันจะไม่สาบสูญไปหรือ?”
…
ตั้งแต่เรื่องการเปิดของมิติวิเศษกรองศักดิ์สิทธิ์ป่าหมึกเรืองก็ได้กลายเป็นที่ชุมนุมของยอดคนไป
เมื่อพวกเขาเห็นเย่หยวนกระโดดข้ามขั้นสู้เช่นนี้พวกเขาทั้งหลายต่างต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
วิญญาณดั่งเดิมทั้งสองนี้มันอยู่กันคนละระดับอย่างสิ้นเชิง แต่ทั้งสองกลับสู้กันได้อย่างสูสี ศึกเช่นนี้มันย่อมจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
พริบตาเดียวนั้นเย่หยวนก็ปล่อยศรธนูออกมานับไม่ถ้วน จนทำให้ร่างวิญญาณของเขานั้นเบาบางจนแทบจางหายไป แต่ว่าตัวเหยียนยูเจินเองก็มีสภาพไม่ต่างกัน
วิชาลับของกำเนิดเทพอย่างธนูเทพล้างนี้มันเป็นวิชาที่แลกด้วยพลังชีวิต มันเป็นวิชาที่ต้องใช้พลังวิญญาณของตัวเองออกมาแลกกับพลังที่รุนแรงล้ำทำลายวิญญาณดั่งเดิมของอีกฝ่าย มันเป็นวิชาดาบสองคมโดยแท้
แต่เย่หยวนนั้นเลือกจะเดิมพัน เดิมพันว่าเหยียนยูเจินไม่อาจจะทนได้ก่อน!
เพราะจะอย่างไรเสียในวิญญาณดั่งเดิมของเหยียนยูเจินนั้นมันก็มีหยอกชีวาราวฝันคอยกัดกินอยู่!
…………………………