มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1664

และนี่ก็เป็นจุดประสงค์ของหลัวซิวเช่นกัน เขาเชื่อในภูมิหลังของงานประมูลอัคคีนภา หากไม่มีอะไรผิดพลาดละก็ พวกเขาต้องมาดึงตนเข้าพวกอย่างแน่นอน

การเปิดร้านวันแรก มีคนคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านหลัวซิว มีออร่าผลการฝึกตนราชาเทพขั้นสองแผ่กระจายออกมาจากตัวคนดังกล่าว

คนดังกล่าวผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง หลังจากเข้ามาภายในร้านแล้วเขาก็กวาดตามองดูรอบ ๆ พบว่ามีเพียงหลัวซิวผู้เดียวเท่านั้น

“ผู้เพื่อนยุทธ์เป็นเจ้าของร้านนี้หรือ?”ชายวัยกลางคนทำท่าคารวะพลางถาม

“ถูกต้อง ท่านต้องการอะไรหรือ?”หลัวซิวถามอย่างเรียบนิ่ง

“ข้าต้องการโอสถเทพธรรมระดับ 7 ไม่ทราบว่าอัตราการกลั่นสำเร็จอยู่ที่เท่าไหร่หรือ?”

“วัตถุดิบสามส่วนสามารถแลกกับยาหนึ่งเตา”

หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง ชายวัยกลางคนดังกล่าวก็ได้รับขวดหยกหนึ่งขวด ภายในมียาเทพระดับ 7 หกเม็ด ซึ่งเท่ากับหนึ่งเตาพอดี

นี่จึงทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นดีใจอย่างมาก วัตถุดิบสามส่วนแลกกับหนึ่งเตา นี่เป็นราคาที่ถูกมาก ๆ แล้ว บ่อยครั้งเมื่อไปหานักยาเซียนระดับ 7 โดยทั่วไปแล้วต้องใช้วัตถุดิบห้าส่วนถึงจะแลกมาได้หนึ่งเตา อีกทั้งปริมาณนักกลั่นยาระดับ 7 ก็มีน้อยมาก ๆ ด้วย ส่วนมากจะมีอุปนิสัยแปลกประหลาด อย่างมากแค่จะกลั่นยาให้คนรู้จักเท่านั้น ซึ่งจะไม่ลงมือช่วยเหลือผู้อื่นง่าย ๆ

หลังจากได้รับยามาและพบว่าไม่มีข้อบกพร่องใด ๆ แล้ว ชายวัยกลางคนจึงก้มคำนับให้หลัวซิวอย่างเคารพนอบน้อม ตำแหน่งของนักยาเซียนระดับ 7 คนหนึ่งที่อยู่ในเมืองอัคคีนภา เป็นการคงอยู่ที่หยิ่งยโสโอหังด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน

เมื่อมีลูกค้าคนแรก ไม่นานนักก็มีลูกค้าคนที่สอง และมีการบอกปากต่อปาก จากหนึ่งเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อย จากร้อยเป็นพัน ภายในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงสองสามวันเท่านั้น ร้านที่หลัวซิวเปิดก็แทบจะถูกยอดฝีมือระดับราชาเทพทุกคนในเมืองอัคคีนภารับรู้

และมีคนที่ผลการฝึกตนอยู่ในระดับเทพฟ้าได้ยินสถานที่ดังกล่าวเช่นกัน เมื่อเห็นป้ายที่บอกว่าต่ำกว่าระดับ 7 ห้ามเข้า พวกเขาจึงทำได้เพียงมองและหยุดชะงักเท้า

ในจำนวนนี้ คนจำนวนมากล้วนแสวงหายา มีราชาเทพขั้นปฐมภูมิต้องการยาเซียนระดับ 7 และมีราชาเทพช่วงกลางต้องการยาเซียนระดับ 8

ด้วยเหตุนี้หลัวซิวก็ได้รับยาเซียนจำนวนมากมาฝึกฝีมือเช่นกัน ระดับฝีมือในการกลั่นยาพุ่งพรวดอย่างรวดเร็ว

เขายังใช้เวลาว่างกลั่นราชาแห่งศัสตราวุธออกมาได้สองสามชิ้นด้วย ทุกชิ้นล้วนเป็นสมบัติคุณภาพดี อีกทั้งยังกลั่นผังค่ายได้หลายชิ้น ถึงแม้จะเป็นคนที่ไม่เข้าใจเรื่องค่ายกล ขอแค่ถ่ายทอดผลการฝึกตนลงมายังผังค่าย ก็จะสามารถอาศัยผังค่ายจัดวางค่ายเทพระดับ 8 ออกมาได้

จู่ ๆ ก็มียอดฝีมือแบบนี้คนหนึ่งปรากฏในเมือง จึงต้องได้รับความสนใจจากกองกำลังทั้งหลายในเมืองอัคคีนภาเป็นธรรมดาอยู่แล้ว หลังผ่านการตรวจสอบ พบว่าเจ้าของร้านดังกล่าว ไม่มีประวัติความเป็นมาที่น่าค้นหาเลยแม้แต่น้อย เล่ากันว่าเป็นผู้บำเพ็ญตนอิสระซ่อนเร้นคนหนึ่ง

วันนี้ มีคนคนหนึ่งเดินเข้าไปในร้านของหลัวซิว เสี้ยววินาทีที่คนดังกล่าวเดินเข้ามา สภาพจิตใจของหลัวซิวก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอย่างสังเกตเห็นได้ยาก ไม่นานนักเขาก็ทำจิตให้สงบลงไปอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากผู้ที่เดินเข้าร้านนี้ คืออิงบูเฉิง พิธีกรในงานประมูลอัคคีนภาเมื่อตอนนั้นนั่นเอง

ผลการฝึกตนของคนดังกล่าวคือราชาเทพช่วงปลาย น่าจะมีฐานะและตำแหน่งในงานประมูลอัคคีนภาอยู่บ้าง

ช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ หลัวซิวก็มีการคบค้าสมาคมกับยอดฝีมือราชาเทพจำนวนมากในเมืองอัคคีนภาเช่นกัน และเขาก็ตั้งใจเปิดเผยข้อมูลบางส่วนของตัวเองออกไปด้วย ทำให้คนนอกคิดว่าเขาเป็นผู้บำเพ็ญตนอิสระที่ซ่อนเร้นจากโลกภายนอกมานานหลายปี ผลการฝึกตนเจอจุดตีบตัน ด้วยเหตุนี้ถึงได้มาเปิดร้านกลั่นยากลั่นอาวุธให้ผู้อื่น เพื่อแสวงหาจุดหัวเลี้ยวหัวต่อในการบรรลุ

“ข้าน้อยอิงบูเฉิง เป็นผู้ดูแลของงานประมูลอัคคีนภา กราบคารวะผู้เพื่อนยุทธ์เย่”

หลังจากที่อิงบูเฉิงเดินเข้ามาแล้วเขาก็ทำท่าคารวะไปทางหลัวซิว ปัจจุบันเขาทราบมาแล้วว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้านี้ แท้จริงแล้วคือนักค่ายเทพ นักกลั่นยาและนักหลอมอาวุธระดับ 8 คนหนึ่ง

คนเดียวฝึกสามวิถีพร้อมกัน เรียกได้ว่าเป็นผู้เก่งกาจไร้เทียมทานเลย แค่ตัวตนเดียวก็เทียบเท่าราชาเทพช่วงปลายแล้ว หากรวมทั้งสามตัวตนเข้าด้วยกัน เกรงว่าแม้แต่กึ่งมกุฎเทพพบเห็นยังต้องก้มคำนับและดูแลเขาเป็นพิเศษ